อย่างนี้ไหวเปล่าครับ Defi มันร้องเตือนว่า 105 องศาC แล้ว

นานๆขึ้นที แต่ช่วงนี้ขึ้นบ่อยจัง

ปกติก็ประมาณ 90ต้นๆถึงเกือบร้อยองศา

บางวันอัดยาวๆ ก็ไม่เห็นขึ้น (ไม่ว่าจะเป็นทั้งกลางวันกลางคืนเปิดแอร์ปิดแอร์ทั้งแก๊สทั้งน้ำมัน)

แต่บางวันงง แค่ 80, 100, 120. . .แม่มขึ้นตลอด แต่ผ่อนก็ลง

อยากรู้ว่าจริงๆแล้ว ตัวเลขสวยๆควรจะเริ่มตั้งแต่เท่าไหร่ จนไม่เกินเท่าไหร่

หรือรบกวนขอวิธีตรวจสอบเบื้องต้น ว่าแบบนี้ปกติเปล่า

ปล : เครื่อง sr20det และ ตอนDefiมันร้อง แอบดูเข็มความร้อนติดรถก็ยังปกติดี

 

ช่วงนี้อากาศร้อนมากครับ ความร้อนไม่รู้ระบายไปไหน เครื่องก็ร้อน อากาศก็ร้อน มันก็งี้แหละพี่....

 

ขออนุญาตตอบครับ อันนี้ก็ฟังเขามาครับ และก็เจอเข้ากับตัวเองด้วยหนหนึ่ง

จริงๆแล้วใช้งาน อุณหภูมิหม้อน้ำมันน่าจะอยู่ช่วง 60-80นะครับ 90นี่ก็ถือว่าเริ่มร้อนแล้วนะครับแต่ถ้า 105 นี่ ผมว่าต้องเช็คหน่อยก็ดีนะครับ
เหมือนของผมเคยขึ้นครั้งหนึ่ง 100 เป๊ะๆ เหลือบดูมาตรวัดความร้อนของรถ เข็มชี้ H พอดี จอดเลยครับ หนนั้นสายไฟพัดลมหม้อน้ำขาด หวิดพังไปเหมือนกัน

ส่วนวิธีตรวจสอบว่าเกจจ์เพี้ยนหรือไม่ ก็เอาหม้อใส่น้ำตั้งไฟให้เดือด ต่อไฟเข้าเกจจ์ให้เรียบร้อย เอาเซนเซอร์จุ่มน้ำ พร้อมเทอร์โมมิเตอร์ ผลที่ได้ต้องตรงกัน บวกลบไม่เกิน 5-7 สำหรับยี่ห้อทั่วๆไป แต่พี่ใช้ Defi ไม่น่ามีปัญหา ยี่ห้อเขาก็บอกว่าแม่นสุด ผมว่าลองเช็คเรื่องหม้อน้ำ พัดลม ดีกว่าครับ

เรื่องความร้อนนี่สำคัญนะครับ ฝาโก่งล่ะยุ่งเลยนะครับ ลองๆไล่ดูครับ สู้ๆ

 

อิอิ ขออนุญาตตอบนะครับ......
อุณหภูมิทำงานของเครื่อง SR20DET ขับ 4 ที่คุณๆ ชอบเอามาชนเกียร์ขับหน้ากัน
มี spec ระบุว่าอุณหภูมิทำงานของเครื่องยนต์ที่วัดผ่านระบบน้ำหล่อเย็นในเครื่อง จะ
อยู่ที่ 87-98 องศา C ครับ......... โดยพัดลมไฟฟ้าจะเริ่มทำงานพัดระบายความร้อนของน้ำ
ในหม้อน้ำเพื่อให้น้ำเย็นเข้าเครื่องที่อุณหภูมิน้ำในเครื่องอยู่ที่ 92-98 องศา............

ถ้าอุณหภูมิน้ำที่ออกจากเครื่องสูงเกิน 105 องศา ถึงจะเริ่มผิดปกติ
น่าจะต้องเริ่มตรวจสอบตั้งแต่.........
- ฝาหม้อน้ำเสื่อมหรือเปล่า ระดับน้ำในหม้อน้ำเป็นอย่างไร
- พัดลมไฟฟ้าเริ่มอ่อนแรง หรือไม่หมุน ณ.ขณะร้อนจัดๆ ไหม
- Relay พัดลมไฟฟ้า ทำงานดีไหม ไหม้ หรือ ไม่ตัดต่อหรือเปล่า
- สาย Plug ต่างๆ ของระบบพัดลมไฟฟ้าเป็นอย่างไร
- หม้อน้ำมีการอุดตัน ทำให้ระบายความร้อนได้ไม่ดีหรือไม่

คร่าวๆ มีเท่านี้ครับ...........

เครื่องยนต์แต่ละตระกูล หรือแม้แต่การจำหน่ายไปในแต่ละที่ของภูมิภาคในญี่ปุ่น
จะมี Spec ข้อกำหนดปลีกย่อยไม่เหมือนกันอีกนะครับ FYI

 

ความรู้ที่ไม่เคยรู้มาก่อน

 

อากาศมันร้อนช่วงนี้

 

สอบถามนิดนึงครับ ของความร้อนหม้อนํ้า ประมาณ 105-110 C แล้วพัดลมทำงาน ปกติมั้ยครับ เครื่อง 20 DE ครับ

 

คนอย่าใจร้อนตามอากาศนะครับ

 

จัดเต็มอีกแล้วครับ ข้อมูลเชิงลึก

พี่ชายคนนี้

อิอิ

 

ใช่มิฉะนั้นต้องหาที่อาบนํ้าให้คลายร้อน

 

ร้อนขนาดนี้ชวนเสี่ยแอร์ซิเฮีย หุหุ

 

ขึ้นตอนไหนพี่ วิ่งยยาวๆไม่ขึ้น รถติดๆขึ้น

พัดลมแน่ๆ

 

อ้าว...เกี่ยวไรกะผมหล่ะคับพี่ ผมอยู่บ้านตอนนี้อากาศเย็นมากมายคร๊าบ...

ปล..พี่อาร์ทครับ ผมเห็นพี่เคยเล่าให้ฟังว่า อาการนี้เป็นมานานแล้วหนิคับพี่ ผมก็นึกว่าหายไปแล้วซะอีก

 

ขอบคุณมากครับ ข้อมูลแน่นจริงๆ รบกวนสอบถามเพิ่มเติมหน่อยนะครับ

ฝาหม้อน้ำ ปั้มน้ำ วาล์วน้ำ เปลี่ยนตอนวางเครื่อง น่าจะยังดีอยู่

น้ำไม่หายครับ หม้อน้ำทำฝามิเนียมมาแล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าตันหรือเปล่า(รบกวนขอทราบวิธีเช็คเบื้องต้นหน่อยนะครับ)

หรือว่าอินเตอร์มันบังลม ทำให้ระบายไม่ทัน ระบายไม่สะดวกหรือเปล่าครับ

รถติดๆไม่มีปัญหา พัดลม 2 จังหวะ ไม่เกิน 100องศาครับ

คือแบบว่ามันขึ้นมั่ง ไม่ขึ้นบ้าง เดาไม่ออก ถึงงงอยู่นี่งัย

 

ผู้ชาย คนนี้เร่าร้อน หุหุ

 

เช็คหม้อตัน ก็ สตาร์ทเครื่องทิ้งไว้ รอพัดลมทำงานซักสองรอบ วาล์วน้ำเปิดแล้ว เอามือไปจับท่อน้ำบนกับท่อน้ำล่างว่ามันร้อนเท่ากันมั้ย

ถ้าร้อนเท่ากัน ไม่ตัน ถ้าบนร้อน ล่างอุ่นๆเย็นกว่าแบบรู้สึกได้ น่าจะตัน

 

ของผมตอนนี้ เครื่องE13 อาการแบบว่าน้ำไปอยู่ที่หม้อพักจนล้นเลยครับ เปิดแอร์ขับถึงจะเป็นครับ เพิ่งไปล้างหม้อน้ำมาได้ซักพัก สตาร์ชเครื่องเปิดฝาหม้อน้ำก็ไม่มีฟองอากาศครับ น้ำวนปกติ แต่เคยได้ยินเสียงฟิ๊ดดดดดดดดดด แถวๆฝาหม้อน้ำครับ ฝาหม้อน้ำก็เพิ่งเปลี่ยน
ตอนนี้เลยไม่รู้ว่าปัญหาเกิดจากจุดไหนแล้วครับ

 

อิอิ
ตอบข้อถามของคุณ Art เป็นข้อๆ นะครับ.......
- วิธี Check เรื่องหม้อน้ำตันหรือเปล่า ที่ดีที่สุดคือเปิดฝาบนฝาล่างออก แล้วส่องดูช่องน้ำทุกช่องว่า
มีตะกอน ตะกรันขวางทางน้ำหรือเปล่า แต่ก็มีวิธีตรวจสอบคร่าวๆ ได้โดยไม่ต้องเปิดฝาหม้อน้ำ
แต่วิธีนี้ ไม่ค่อย Sure เพราะมันมีปัจจัยอื่นเยอะ......... Start เครื่องให้เครื่องเดินเบาไว้จนอุณหภูมิน้ำในหม้อน้ำ
สูงพอควร 80-90 องศา หรือพัดลมไฟฟ้าเริ่มทำงาน หา Foggy ฉีดน้ำเป็นฝอยๆ ฉีดน้ำเข้าไปที่รังผึ้งหม้อน้ำ
ให้ทั่วทั้งหน้า ฉีดให้เปียกหมาดๆ อย่าถึงกับให้น้ำขัง....... สังเกตุดูว่า มีรังผึ้งหม้อน้ำแถวหรือแนวไหนที่น้ำจาก
Foggy ระเหยแห้งช้า(เพราะหม้อน้ำจะร้อนทำให้น้ำที่ฉีดระเหย)ผิดปกติเมื่อเทียบกับแนวอื่นหรือเปล่า
ถ้ามี ก็ตั้งข้อสงสัยได้ว่ามีกรณีที่ครีบหม้อน้ำแนวๆ นั้นจะตัน ทำให้น้ำร้อนจากเครื่องไหลผ่านไม่ได้
ก็จะกลายเป็นเรื่องหม้อน้ำไม่พอ ครับ
- เป็นได้เรื่อง Intercoller จะบังลมที่จะวิ่งไปปะทะหม้อน้ำได้เหมือนกันครับ เพราะถ้าลมเข้ามหม้อน้ำน้อย
หม้อน้ำก็ระบายได้ไม่ดี ความร้อนก็จะขึ้น ยิ่งวิ่งเร็ว ความร้อนก็จะยิ่งขึ้นครับ
- อีกอย่างที่น่าจะตรวจสอบเพิ่มนะครับ คือ Valve น้ำ ว่าเปิดดี เปิดสุด เป็นสนิมบ้างหรือเปล่า เพราะมีอาการ
ที่บอกว่าเป็นบ้างไม่เป็นบ้าง ซึ่งถ้าเป็นเหตุจาก Valve น้ำ ที่กล่าว จะมีปัญหานี้อยู่บ้าง เพราะความไม่แน่นอน
ของ Mechanic ครับ ซึ่งผมเองยังไม่อยากก้าวล่องไปถึงเรื่อง Sensor ทาง Electronic ที่ตรวจสอบ
reliability ได้ยากกว่าครับ..

 

ชัดเจนครับน้าโต้ง temp ใช้งานปกติๆไม่เกิน100 แน่นอนครับ

 

เจ้าพ่อDefi มาเองเลย

 

เข้า มา อ่าน ครับ

ลูก สาว ก็ ตัวร้อน

เหมือน กัน

 

ผมใช้ตัว temp hks เป้น แมคคานิก นะคับ

พัดลมมันเดิน ตอน 100-105องศา จนมาเหลือ 90 กว่าองศา แล้ว ก้หยุดทำงาน

ปกติปะคับพี่ๆ เอสอาร์โบคับ

นี่คือปิดแอร์นะครับ ,,, แต่ถ้าเปิดแอร์ อยู่ 80-90 ตลอดเว ^^

 

ลูกสาว ??? จากภรรยาคนไหนครับ......... แล้วกินยาหรือยังครับ เช็ดตัว ก็ช่วยได้เยอะนะครับ
แล้วอย่าให้เป็นไข้สูงตัวร้อนมากๆ นะ เด็กจะสมองไม่ดี........ Cool Fever ก็ใช้ดีนะครับ......

 

อ่ะๆๆ คนมีลูกเค้าคุยกัน

 

ขอบคุณอีกครั้งสำหรับความกระจ่าง และเทคนิคขั้นสูงครับ

ช่วงนี้ผมเลยตั้งใจสังเกต ดูอาการรถตลอดเวลา (ขับไปแบบไม่มีความสุขเลยครับ)

สรุปได้ว่าความร้อนจะขึ้นก็ต่อเมื่อต้องเกิด 2 อย่างนี้พร้อมกัน

1) ความเร็วเกิน 80-90 ขึ้นไป

2) เปิดแอร์

กรณีอัดเร็วๆซัดยาวๆ ถ้าปิดแอร์ ความร้อนไม่ขึ้น (ไม่เกิน 100)

และกรณีเปิดแอร์แต่ขับไม่เกิน 60-70 ความร้อนอยู่แถวๆ 95 เองครับ

รบกวนขอความเห็นเพิ่มเติมอีกหน่อยนะครับ

 

อิอิ
จากอาการที่บอก.......... Scope เริ่มจะเล็กลงครับ
1. หม้อน้ำไม่พอ อันนี้เป็นได้ทั้งหม้อน้ำตัน หรือ Intercooler บังครับ
2. ลมเย็นผ่านเข้าไปหาหม้อน้ำยาก และลมร้อนผ่านออกจากหม้อน้ำยาก
คนทั่วไปคิดว่า ยิ่งรถวิ่งเร็ว ลมจะผ่านเข้ามาหาหม้อน้ำเยอะ แต่ไม่ถูกซะทีเดียวนะครับ
เพราะหลังหม้อน้ำในห้องเครื่องยิ่งร้อนมาก มวลอากาศร้อนก็จะยิ่งขยายตัวดันไม่ให้มวลอากาศเย็นเข้ามา
ลมเย็นหน้ารถก็จะยิ่งวิ่งผ่านเข้ามายาก ลมเย็นก็จะมุดลงล่างลอดกันชน หรือเลยขึ้นฝากระโปรงไป

ข้อ 1 Check ตามที่ผมหรือ First กล่าว แต่แบบของ First ระวังเรื่องมือพองนิดนึง
ส่วนข้อ 2 check โดย ลองถอดกระจังหน้าวิ่ง หรือ ถอดฝากระโปรงหน้าวิ่งดูว่า ความร้อนตอนวิ่งความเร็ว
สูงที่บอกนั้น ลดลงหรือเปล่า ครับ......

ลองดูนะครับ...............

อ้อ......... Sensor Water Temp. ของ Defi ติดตั้งอยู่บริเวณไหนอ่ะครับ.......

 

ฟามรู้ล้วนๆ ขอบคุณครับสำหรับอาหารสมอง ^ ^

 

ได้ความรู้เรื่องไข้ขึ้นเยอะเลยครับ

 

นี่ละ ... พี่โต้ง ของเรา

 

ความรู้ทั้งนั้นเลยครับ ขออนุญาติจำไปใช้นะคับพี่ๆ ขอบคุณคับ