เรื่องของเรื่องคือ ไม่ได้ล้างรถมา2เดือน ทอดทิ้งลูกชายไปซะงั้นๆ เนื่องจากไม่ได้ใช้รถมานาน จอดอย่างเดียว นึกครึ้มๆ + กับมีเวลาว่าง เลยจัดการซะ ทั้งล้างสี 2รอบเลยครับ ทุกเม็ดๆทุกคราบ เปิดห้องเครื่องมา ลมแทบใส่ โสโครกเรียกพี่อ่ะ ทั้งคราบฝุ่น น้ำมัน โห๋หนาปึ๊ก เลยไปซื้อน้ำยาล้างเครื่องภายนอกมา ยี่ห้อ PCV น้ำสีชมพูน่ากิน....อิอิ กะแปลงทาสีถูกๆ เล็กใหญ่ จัดการตัดแกลอนเก่าๆมาใส่น้ำยา (น้ำยา70บาทเอง) แล้วก็บรรเลง ............กินเวลาไปเกือบวัน ถอดปลั๊กหัวเทียน จานจ่าย หัวฉีด ออกหมด ปัดๆ ขัดๆ ถูๆ ลาดน้ำโครม!!! คราบได้หายไปแล้ว ทีนี้ใส่ของกลับที่เดิม แน่ๆเลยคือเครื่องต้องสะดุดแน่เพราะน้ำ แต่พอมันร้อนก็หายแล้ว พอน้ำแห้ง มันคนละสภาพกะก่อนล้างไปโดยสิ้นเชิง ปิ๊งสุดๆ คิดดู ล้างแม้กะทั่ง ใต้คอไอดี ถอดลิ้นปีกผีเสื้อมาล้างด้วย เพื่อความเนียน ของ ไอเดิ้ล วาล์ว ถ่ายน้ำหม้อน้ำออกเติมน้ำยากัดสนิม เดินเครื่อง15นาที วาล์วเปิด แล้วดับเครื่อง ถ่ายออก เติมcoolant เข้าไป เดินเครื่อง ไล่อากาศออกจากระบบน้ำ เสร็จในห้องเครื่อง ทีนี้เหลือ ขัดสีภายนอก ท่านใดที่เคยเจอปัญหาเกษรดอกไม้(ละออง)ปลิวมาโดนชิ้นส่วนโครเมี่ยม รับรองหมองแน่ๆ ลูบไปงี้ สากสุดๆ โดนยเฉพาะกันชน กาน่า ลงเลย แล้วเอาแปลงทองเหลืองเนื้อนิ่ม มาขัด ไม่เป้นรอยด้วย คราบออกง่าย ขัดเสร็จ ส่องกะแดด ตาแทบบอด!!! ไล่ไปตั้งแต่หัวรถไปถึงท้าย เห็นท้ายรถบริเวณทะเบียนที่เติมน้ำมัน คราบมันสะสมนานมาก เลยตั้งใจ ถอดฐานยึดทะเบียนออกมาล้าง ก็เลยถอดกันชนหลังออกมาด้วย ..และแล้ว ความหดหู่ก็บังเกิด...... บริเวณใกล้ๆกับรูยึดกันชนข้างซ้าย รูเบ้อเร่อเลย !!!! แทบร้องไห้ (พ่อปล่อยให้ลูกเป้นอย่างงี้ได้ไง..พ่อขอโทษ) มิน่าเวลาล้างรถ น้ำมันเข้าท้ายรถได้ไง พื้นท้ายรถพานจะผุไปด้วย จัดการพ่นสีดำด้านไปพลางๆก่อนแก้ขัด หลังกันชนเป็นส่วนที่เรามองไม่เห็น ยังไงก็ว่างๆ ถอดมาเช็ค กันมั่งนะครับ มันทำให้รู้ว่ารถเราตรงไหนเป้นจุดอ่อนมั่ง จะได้ระวัง หลังจากถอดกันชนก็เลยดูไฟส่องทะเบียน โอววแม่จ้าว ผุแทบไม่เหลือ แถม ถอดหลอดไฟไม่ออกด้วย เวนจิงๆ งัดสถานเดียว!!! ได้ซื้อหลอดใหม่2หลอด 30W12V (ว่าจะดรอปไฟลง มันสว่างเกินไป) ล้าง พ่นสี ยิงกาวดำ กันน้ำ ใส่กลับที่เดิม ต่อไฟเสร็จ ลองเปิดดู เสียงดังเปรี๊ยะ!!! เวน..มันไปช๊อตที่ไหนวะ ลองใหม่ อ้าวไม่ติด เอ๋า...ฟิวขาดอีกปัดโธ่......นั่งรถไปซื้ออีก ฟิวหลอด30W12V ทีนี้ซื้อทั้งหมดไฟและฟิวส์ มาตุนไว้เลย ก่อนอื่นหาที่มันช๊อตก่อน และแล้วก็ เจอ ไฟส่องทะเบียนมันจะลงกราวน์ที่หลอดเลย แต่เบ้าบางอันมันจะหลวม ทำให้หลอดขยับตัวได้ และเป้นสาเหตุอีกอันที่ทำให้ ฟิวส์ หลอดไฟ ขาดง่าย เพราะไฟสปารค์ จึงต้องใช้ลวดทองแดงในสายไฟมายัดไว้ข้างๆเพื่อให้มันแน่น และลงกราวน์ง่ายขึ้น สาเหตุที่มันช๊อตเพราะ สายทองแดงนี่แหละมันไปแตะ กับตูดหลอดไฟซึ่งเป้นคั่ว+ ตัดมายาวเกิน ต้องตัดใส่ให้พอดีๆ ทีนี้ประกอบใส่เหมือนเดิม อ่า......เนียนเลย แล้ว สี ห้องเครื่อง ภายในก็ ปิ๊งเลยครับ ลงทุนค่าของไม่กี่ร้อยบาท แต่ลงแรง ไปกะมัน คุ้มครับ ถ้าไปให้ร้านมันทำ สงสัยบานแน่ ได้ความภูมิใจด้วย ซ่อมเองทำเอง
นี่ขนาด 2 เดือนไม่ได้ล้างนะเนี่ย ต้องดูแล รักษามันบ้างครับ ถึงแม้ว่าฝนจะตก ขอให้รถเราสะอาดเอี่ยมอ่องไว้ก่อน จะทำให้รถเราดูดี มีสง่าราศีขึ้นมาทันทีแลยแหล่ะ
ล้างเกือบทุกวันครับบางวันยังนอนลงไปล้างท่อไอ้เสียทั้งเส้นเลยครับ ห้องเครื่องก็สอาดดีครับรักรถมากครับคันอื่นไม่ขับเลยครับ
ล้างเครื่องทีไรมีปัญหาทุกทีเลยอะครับ ไม่รู้เป็นอะไร เลยไม่กล้าล้างเครื่อง ล้างแต่ข้างนอก ทุกอาทิตย์ครับ ล้างข้างนอกเสร็จแล้วต้องเช็ดในกระโปงหลังทุกทีเลย (น้ำเข้าไปขัง) อิอิ
ดีเลยครับพี่โอ๋ วันหลังผมจะได้ล้างห้องเครื่องเองบ้าง จะล้างหลายทีล่ะกลัวเครื่องมันรวน อิอิ ... เลยได้แต่เช็ดตรงส่วนที่มือเข้าได้ ปล.ถ่ายรูปห้องเครื่องมาให้ชมบ้างดีพี่ แบบว่า ก่อน - หลัง ทำนองเนี้ย
เลิกล้างแล้วครับ.......พอเห็นฟ้าแจ้งนะ.......เดินไปหยิบฟองน้ำกะน้ำยาปุ๊บ.......ฟ้นหม่นเลย.......ก็เลยไม่ล้าง.....แล้วแม่งก็ไม่ตกมา4วันแล้ว ก็เลยเอาว่ะล้างแล้วไม่ไหวๆล้างเส็ดอีกวันมันก็ตกเลยครับ................แถมน้ำท่วยด้วยล้างแว๊กที่ลงใว้ออกหมดเลย........แสดดดดดดดดดด
ล้างแล้วอย่าลืมดูดฝุ่นในรถด้วยนะครับ จะได้แจ่มทั้งข้างนอกและข้างในครับเพื่อนๆ และที่สำคัญแวกซ์ให้ลื่นปืดเลยนะครับ อิอิ
เตรียมเอารถไปปะผุตอนหมดฝนนี่แหล่ะ เพราะว่าตอนนี้เริ่มผุบ้างแล้วแหล่ะบางจุด โดยเฉพาะขอบกระจกหน้า-หลัง เนี่ย เดี่ญวพอหมดฝนประมาณสักปลายปีก็จะเอาไปปะผุ-ทำสีทั้งคันแล้วแหล่ะ รอโบนัสปลายปีนี้ก่อน
งานเข้า อืม..ก็ว่าจะถ่ายมาลงเหมือนกันแหละ แต่ล้างไปถ่ายไป เมื่อไหร่มันจะเสร็จว้า...... คราวหน้าจะพยายามแล้วกันนะก๊อฟ อ่า....เดี๋ยวรอwebเค้าเปิดให้แนบไฟล์ได้ก่อน แล้วจะเอารูป "รถงานเข้า" มาให้ดู ใบ้นิดๆ เกี่ยวกับกระจก...................................:cry:
เรื่องที่รถชอบผุตรงขอบกระจกหน้า - หลัง เคยได้รับความรู้จากพี่กวงมาว่า เค้าจะไม่ซีนยางขอบกระจกบานใหญ่เลยครับ เพราะว่าเค้าทดสอบโดยการที่ข้างหน้าซีนยางขอบไว้ แต่ข้างหลังปล่อยโล่ง ไม่มียางขอบกระจกเลย สรุปว่าตอนนี้ข้างหน้าผุไปแล้ว แต่ข้างหลังไม่มีผุให้เห็น เค้าอธิบายว่าน้ำมันเข้าไปขังแล้วออกไม่ได้เลยผุ แต่ถ้าไม่มียางกั้นไว้มันก็ไหลออกได้หมด ลมเป่า ๆ ก็หายเปียกล่ะ ลองเอาวีธีนี้ไปใช้ดูก็ได้นะคับ แต่ผมก็ยังหวั่นๆ ว่าถ้าไม่มีการซีนขอบกระจกแล้วเวลาฝนตกมันจะเข้าไปในห้องโดยสารมั้ยอ่ะ สงสัยต้องอัดการติดกระจกให้แน่นๆ ไม่ให้มีรูเลยล่ะ ถึงจะได้ผล
งานเข้า ผิดคาดครับน้องๆ ไม่ใช่กะจกแก้มหน้า แต่เป็น... กระจกบานหน้าทั้งบาน ........................................................แตก!!!!! เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อพฤที่4ตค. ณ.เวลา 5ทุ่นเห้นจะได้ ขับรถไปรับสาวกลับบ้าน ด้วยเส้นทางบางกรวยมาออก เส้นสิรินธร มุ่งหน้าสะพานกรุงธน ผ่านหน้าตั้งฮั่วเส็ง ด้วยความเร็ว70กม./ชม. เพราช่วงล่างไม่สำพันธ์กับความเร็ว 60-70 ไปเรื่อยๆ และกำลังจะขึ้นสะพานข้ามแยกบางพลัด วิ่งมาเลนซ้ายอย่าช้าๆเพราะถนนก็แย่ พอขึ้นสะพาน ก็มีรถ nissan NEO สีทอง แซงขวาไปด้วยความเร็วประมาณ100กม. เสี้ยววินาทีนั้น...รู้สึกว่าจะมีวัตถุลึกลับลักษณะคล้ายก้อนหินขนาดเล็ก ลอยผ่านกะจกฝั่งขวา ไปซ้าย แล้วจากนั้น ก็มีเสียงเกืดขึ้น ........... โผ๊ะ!!!!! ดังมากๆ แล้วก็มีเสียงเปรี๊ยะๆๆๆ ลั่นไปทั่วกระจก..............แตกครับ ร้าวทั้งบาน มองทางแทบไม่เห็น ต้องเปิดกะจกมาดูถนนเวลาขับ แล้วต้องค่อยๆขับนะครับ ไม่งั้นร่วงกรูลงมาเลย รับรองหน้าตา มือ แขน ได้เลือดสาดแน่ ค่อยๆขับกลับบ้าน 40กม/ชม. กัวกะจกล่วง ............พอเลิกงานก็ไปถามร้านกะจก(อัลฟ่าเซ็นเตอร์)ตงร้านYATT เก่า ตอนแรกเค้าบอกมีของ+ค่าแรง เอา1800 โห๋ถูกอย่างขี้ เห็นเค้ายกของKE มาเทียบ ปรากฏว่า กระจกKEด้านบนมันยาวกว่ามาก ยัดไม่ได้ เฮียเค้าก็เลยบอกว่า ถ้างั้นก็ต้องสั่ง ราคาอยู่ที่2200 เอามั๊ย ถ้าเอาพรุ่งนี้ก็ได้ของแต่เช้าเลย บ่ายๆก็ใส่เสร็จแล้ว เอาครับ !!!!! ตอบแบบไม่ต่อเลย ที่ไม่ต่อเพราะว่า ก่อนหน้านี้ให้น้าข้างบ้านเช็คให้ เค้าบอก4200 ...ห๋า กะจกบ้าไรตั้ง4200 เวอร์แล้ว เลยไม่ไปยุ่งกะเค้าอีกเลย เพราะเหตุนี้ ต่อให้2300ก็ยอมจ่าย วันที่เอารถไปทิ้งไว้ที่ ร้านกระจก ระหว่างขับไปช้าๆ ก็ลุ้นไม่ให้มันร่วง แต่ ห้ามไมได้ครับ ร่วงมาเม็ดแรก ปุ๊บ มันก็ตามมาเป็นแผงเลย กะจกร่วงเต็มตัวเลย สรุปคือจอดรถทิ้งไว้1คืน ให้น้าออดมารับ แล้วก็เลยไปคลองถมเลย ........................วันต่อมาตื่น10โมง โทรไปหาที่ร้าน เค้าบอก ใส่จะเสร็จแล้ว ห๋า....... ไมมันเร็วอย่างงี้ ก็เลยรีบออกไปดู(แหมม กะว่าจะไป เก็บภาพซักหน่อย)เลยได้มา4รูปเอง แต่พ่อของพี่ สันนิฐานว่าเกิดจาก กระจกหมดสภาพมากกว่าเพราะมันก็30กว่าปีแล้ว แล้วจะเอารูปมาลงให้ ตอนนี้ลงไม่ได้ ไม่รุ้เป็นไร
ทายผิดครับ อิอิ .... ตกรอบ............................... 55+ ปล. ของผมก็เคยแตกครับ เมื่อหลายปีก่อน สงสัยมันหมดสภาพจริงๆ อ่ะพี่โอ๋ ตอนนี้ติดฟิมล์บานหน้าใสเลย กันไว้ก่อน
พอดีพรมที่ผมเอามาปูนั้นมันเป็นสิ่งที่ผม DIY ขึ้นมาครับ โดยไปซื้อพรมผืนใหญ่ ๆ ประมาณว่าพรมญี่ปุ่นนิ่มๆ สีขาวมาตัดให้เข้ารูป แล้วก็ปูทับพรมเดิมที่มีอยู่ชั้นนึงอ่ะครับ เอาสวย และสะอาด ซื้อมาจากห้างแมคโครอ่ะครับ งบประมาณไม่เกิน 300 - ปูได้ทั้งคัน เดี๋ยวถ้าว่างจะถ่ายรูปมาให้ดูนะครับ รู้สึกพี่เต้ยจะเห็นในรถผมแล้วครั้งนึง แต่มันดำง่ายชิบเลยอ่ะ ก่อนขึ้นรถต้องถอดรองเท้าแล้วหาที่วางก่อนอ่ะ เดี๋ยวเปื้อนพรม ลำบากหน่อย แต่ว่าเพื่อความสะอาดภายใน ยอมทน อิอิ
ของ RT 100 ก็แพงเหมือนกันนะเนี่ย เพราะว่าราคาตั้ง 4,800 บาทแน่ะ แต่ว่าเป็นกระจก 2 ชั้นนะ แล้วก็เคยโดนสะเดหินกระเด็นใส่เหมือนกันแต่ว่าไม่แตก เพราะว่า 2 ชั้น และเป็นรอยกระเทาะเท่านั้นเองตรงระดับสายตาพอดีเลย
ผมเคยถามร้านที่เค้ารับปูพรม+แผ่นกันความร้อน เค้าคิด2,800อ่ะครับไม่ทราบว่าแพงไปรึเปล่าอ่ะครับ หรือว่าราคานี้แหละถูกต้องแล้วครับ