D.I.Y. ทำเองได้ง่ายนิดเดียว

การสนทนาใน 'Civic ES Group' เริ่มโดย BASLER, 4 มกราคม 2007

< Previous Thread | Next Thread >
  1. BASLER

    BASLER Member Member

    132
    9
    18
    ลอง DIY ดูเองก็ได้ครับ ลองดู

    [​IMG]
     
  2. BASLER

    BASLER Member Member

    132
    9
    18
    คู่มือการถอดชิ้นส่วนรถและรูปถอดชิ้นส่วนต่างๆ

    รูปถอดชิ้นส่วน นี่มีหลายเวบนะ แต่ตัวนอกครับ พวงซ้าย ต้องมองกลับๆ
    แต่ผมเอามาทำในPhotoshop ให้มองง่ายนิดนึงน่ะครับ
    แต่ยังยากอยู่ดีเพราะต้องบีบอัดไฟล์ให้มันเล็ก รูปเลยเล็ก ต้องเพ่งๆครับ

    ลองนี่ครับ
    http://www.handa-accessories.com/civic01.html
    http://www.collegehillshonda.com/instructions/01_02civic4dr/

    อยากได้คู่มือทำอะไร ก้อดาวน์โหลด installation instruction นะครับ
     
    แก้ไขล่าสุดโดยผู้ดูแล: 13 มกราคม 2007
  3. BASLER

    BASLER Member Member

    132
    9
    18
    เวปไซด์ เกี่ยวกับการ D.I.Y. ครับ แต่ของ Jazz นะครับ ของ JP ( ญี่ปุ่น )
    ใครอ่านออกลอง แปลงเอามาปรับเปลี่ยนใช้ได้ครับ ^^"

    ลองดูครับ
    http://tycoons-den.com/Mobiles-den/fit_diy.htm
     
  4. BASLER

    BASLER Member Member

    132
    9
    18
    ผลของD.I.Y.ฟิลเตอร์แอร์ ใครจะลองทำดูก็ได้นะครับ ง่ายๆ ผมลองแล้ว จาก คุณ biki

    หลังจากที่เคยมีกระทู้DIYฟิลเตอร์แอร์มาหั้ยลองทำกัน

    ผมก้อได้ลองทำดูตามที่ได้รับคำแนะนำจากในบอร์ดESนี่

    วันนี้ลองแกะออกมาเลยเอามาหั้ยดูกันเล่นๆ เผื่อใครทำแล้วจะลืมตรวจสอบมันไป

    หรือใครเพิ่งมาใหม่จะได้เอาไปลองทำดูมั่ง

    เอาเป็นว่าเริ่มตั้งแต่ตอนถอดเลยละกัน

    ตอนถอดก้อแสนจะง่ายดาย ชวนดริ้งซะหน่อยพอเคลิ้มๆ หรี่ไฟเเล้วก้อลงมืออย่างช้าๆ นุ่มนวลๆ

    เฮ้ย!!!ไม่ใช่ละ

    ถอดลิ้นชักตะหาก - -" หั้ยดันด้านข้างของลิ้นชักแล้วดึงออกมาตามรูปเลยคับ


    [​IMG]

    พอดึงออกมาและจะเห็นที่ปิดสีขาวๆ ก้อเอามันออกมาจะเจอที่ใส่แผ่นฟิลเตอร์แอร์ ก้อนำมันออกมาด้วยเลย

    [​IMG]

    โอ้ววววว เเม่เจ้าทำไมมันดำปี๋ขนาดนี้เนี่ย :)

    [​IMG]

    จิงๆเเล้วพี่ๆเค้าบอกหั้ยใช้หนามเตยยึดไว้ก้ออยู่ แต่ผมกลัวมันจะหลุดเข้าไป

    เลยใช้ตะแกรงพลาสติกมาวางรองไว้อีกชั้นนึง

    ( ขโมยตะกร้าพลาสติกแม่มาตัด เรียก DIY หรือจะเรียกว่าไม่ลงทุนดีวะเนี่ย )
    **หมายเหตุ ใครที่ถอดออกมาใหม่ๆนะครับ โดยที่ยังไม่ทำอะไร บริเวณที่มี
    เหมือนตระแกรงอยู่หรือตาข่ายอ่ะครับจะไม่มีนะครับ จะกลวงโบ๋ไปเลยครับ
    ตามรูปนี้ ซึ่งคุณ biki( บิค ) เค้าได้ D.I.Y. มาก่อนแล้วครับ
    ใครจะทำตามแบบนี้ก็ได้นะครับ
    ง่ายดี ใช้คีมตัดลวด ค่อยตัดเอา โดยวัดก่อน ^^" ซึ่งผมก็ทำตามคุณ biki ครับ สะดวกดี ( ไม่มีความคิด )**


    ว่าเเล้วก้อเปลี่ยนเอาแผ่นใหม่สะอาดเอี่ยมเข้าไปประจำที่แทนซะ เป็นอันจบเพียงเท่านี้


    [​IMG]
    [​IMG]

    แผ่นมีหลายยี่ห้อหลายราคาคับ
    ตามโฮมโปร ห้างทั่วไป หรือร้านไดโดโซ่ก้อยังมัคับ
    ฟิลเตอร์เเอร์ของ 3M ซื้อได้ตามโฮมโปรครับ มี 2 ราคา
    80 กว่าบาท กับ ร้อยกว่าบาท

    ผมใช้อันนี้คับ

    [​IMG]

    มีแบบสำเร็จด้วยนะครับ ลองติดต่อสอบถามดูได้นะครับ ^^"
    [​IMG]

    จาก http://www.tarad.com/filterguide/

    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ปล. เดรดิต ยกให้คุณ biki ( บิค ) ครับ ที่มา http://rcweb.net/forums/showthread.php?t=237408
     
  5. BASLER

    BASLER Member Member

    132
    9
    18
    ++ D.I.Y ตะแกรงหิน+ H แดง(หน้า) ของ FD นะครับ แปลงลง ES ได้ครับ ลองดูแล้ว ++

    เริ่มเตรียมอุปกรณ์นะครับ
    - สติ๊กเกอร์สีแดง (3M) เทปกาว 2 หน้า(3M) มีดคัตเตอร์ กรรไกร
    คีมปากจิ้งจก แผ่นอลูมิเนียม(รุ่นบางที่สุด)


    [​IMG]

    - สายเคเบิล ไทร์ สำหรับการทำตะแกรง

    [​IMG]

    - ตะแกรง หาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์เกี่ยวกับบ้านทั่วไป

    [​IMG]

    โอเช มาเริ่มถอดพุกใต้กันชน และขันสกรู ออกตามรูป

    [​IMG]

    - นี่คือ พุกที่ถูกถอดออกมาแล้ว ด้วยเครื่องมือ 2 อย่างนี้

    [​IMG]

    - แล้วก็ถอดพุกที่อยู่ข้างบนด้วย อีก 3 ตัว
    - หลังจากนั้นก็ถอดกันชนหน้าออกมา


    [​IMG]

    - ทำการวัดแล้วก็ตัดตะแกรงซะ
    - ใช้เคเบิล ไทร์ รัดอย่างแน่นเหนียว


    [​IMG]

    - มาถึงการทำ H แดงบ้าง
    - ถอด H ออกมานะครับ


    [​IMG]

    - นำแผ่นอลูมิเนียม มาทาบวัด แล้วก็ตัด ตามรูป

    [​IMG]

    - แล้วก็เอา สติ๊กเกอร์ สีแดง(3M) มาติด ต้องระวังเรื่องฟองอากาศ

    [​IMG]

    - แล้วก็ติดด้วยเทปกาว 2 หน้า(3M)
    - แล้วก็ประกอบเข้าไป ใส่คลิปล๊อคไว้ที่เดิม
    - เสร็จ คราวนี้ก็ประกอบกันชนหน้าเข้าไปที่เดิม
    - จบ...........อิอิ


    [​IMG]

    ลองดูกันได้นะครับ พี่ๆ
    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ปล. เดรดิตยกให้ คุณ ธนพล นะครับ แหล่งที่มา http://www.pantown.com/board.php?id=15060&area=1&name=board3&topic=67&action=view
     
  6. BASLER

    BASLER Member Member

    132
    9
    18
    ติดตั้งไฟส่องเท้า สำหรับคนที่ต้องการ หามาให้

    เริ่มโดยหาซื้อหลอดไฟ LED สีฟ้า ราคาประมาณอันละ 100 บาท, สายไฟยาวประมาณ 1 เมตร, เทปพันสายไฟ จากร้านประดับยนต์ทั่วไป

    [​IMG]

    จากนั้นจัดการถอดเสาบนคอนโซลด้านขวาของคนขับออกโดยการใช้นิ้วงัดจากด้านบนเบาๆก็จะเจอสายไฟสีดำ นำสายไฟที่ซื้อมาตัดแบ่งครึ่ง 2 เส้นเท่าๆกัน สอดสายไฟทั้ง 2 เส้นลงในช่องเสาคอนโซลหน้า

    [​IMG]

    ถอดแผ่นปิดใต้พวงมาลัยออก จากนั้นก้มลงไปใต้คอนโซล (โอย! ปวดหลัง ) และดึงสายไฟ 2 เส้นที่ซื้อออกมาทางช่องด้านขวาของสายไฟที่ต่อจากเปิดฝากระโปรงหลัง

    [​IMG]

    และจัดการต่อสายไฟอย่างละสีเข้ากับหลอดไฟเข้าด้วยกันทั้ง 2 เส้น

    [​IMG]

    จัดการลอกเอาเทปพันสายไฟสีดำของของเสาด้านหน้าออกมาก็จะเห็นสายไฟ 3 เส้น ใช้คัตเตอร์ปอกสายไฟเส้นเล็กสองเส้นออกออก และนำปลายของสายไฟสองเส้นจากหลอดไฟมาต่อด้วยกันและพันด้วยเทปพันสายไฟ

    สาย ขาว/ฟ้า เป็นไฟบวก
    สาย เขียว/แดง เป็นไฟลบ


    [​IMG]

    จะได้ไฟสีฟ้าดังในรูป จัดการเก็บสายไฟให้เรียบร้อยและประกอบแผงใต้พวงมาลัย จากนั้นใช้นำหลอดไฟติดตั้งที่ตำแหน่งของแผงใต้คอนโซลรถโดยใช้กาวสองหน้าเป็นตัวยึด เสร็จแล้วประกอบแผงใต้พวงมาลัยกลับเหมือนเดิม


    [​IMG]

    งานเสร็จแล้วดีใจจัง แต่ปวดหลังมากๆ

    [​IMG]

    ไฟจะติดเวลาที่เราเปิดประตูครับ ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยทำให้รถดูสวยไปอีกแบบ ขอบคุณครับ


    [​IMG]

    ***หมายเหตุ ไฟส่องเท้าจะติดตามไฟในห้องโดยสารนะครับ เวลาเปิดประตู***

    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ปล.เครดิตยกให้กับ คุณ NB5721 แหล่งที่มาhttp://www.welovecivic.com/civic/forum_posts.asp?TID=2506&PN=1
     
    แก้ไขล่าสุดโดยผู้ดูแล: 29 มกราคม 2007
  7. BASLER

    BASLER Member Member

    132
    9
    18
    ??? Vtec ??????? 10 ?ҷ

    ??ʴ?-?ػ?ó??????
    1. ??ʹ? LED (???͡?յ???ͺ) ??ë???Ẻ????յ?ǵ?ҹ?ҹ????????? ????????ͧ?ҵ???ͧ (???????????????ҵ?? ? 12 v ???????????) ???????Ҩҡ?Ǻ?ҹ???͵???? 10 ?ҷ ?յ?ǵ?ҹ?ҹ????????Ǵ???
    2. ???俷?????ͨҡ???ͧ ECU
    3. ෻?ѹ????
    4. ????Ѵ?Ѵ???? (?????????????????º????)
    5. ???????Ѻ?ִ??ʹ LED

    [​IMG]
    [​IMG]

    ??????ѹ??¤?Ѻ
    ???ҡѹ??͹??ҡ??ͧ ECU ???????˹
    ?????ҹ??ѧ???ͧ???ͧ??ҹ????????Ф?Ѻ ?Դ?͡?ҡ??????

    [​IMG]

    ?????Ǩе??????˹??????غ?Ѻ????
    ??? ECU ?? Connector ?????????Ѻ????ѹ?????? 4 ??ǻ?Сͺ仴???
    Connector A (31 Pins)
    Connector B (24 Pins)
    Connector C (22 Pins)? ö???????????ҹ??
    Connector E (31 pins) ??ٻ?????Դ?? Connector D
    ???§?ҡ??ŧ??ҧ??Ѻ
    ???????ʹ?੾?? Connector B ???????·????ҵ?ͧ??????ҧ???Ǿ?

    Connector B (24 Pins)
    2-yel-Fuel injector 4
    3-blu-Injector 3
    4-red-Injector 2
    5-brn-Injector 1
    6-grn-Radiator fan control
    7-red/blk-A/T Pressure control solenoid valve A
    8-red/wht-Engine Coolant sensor
    9-blu/blk-VTEC Oil pressure switch VTEC ONLY
    10-wht/blu-Alternator L Signal
    13-wht/red-Alternator FR Signal
    14-blu/red-EGR Valve VTEC ONLY
    15-grn/yel-VTEC Solenoid valve
    16-blk/red-A/T Pressure control solenoid valve B
    17-red/yel-Intake air temp sensor
    18-wht/grn-Alternator control
    21-yel/blu-EVAP Canistor purge valve
    ?٢ҷ?? 15 ??Ѻ ??鹹??????? VTEC ????????ǤҴ????ͧ
    ?ԸչѺ?????Ѻ ??ѡɳе?? Z ??͹Ѻ?ҡ????仢?? ???Ǻ?ŧ??ҧ

    [​IMG]

    ??͡??? 15 ?ç??ҧ???????Ѻ?????? + ?????ʹ (??͡???ѧ˹??¤?Ѻ ?????????¢Ҵ)
    ?????´?ҹ? + ???е???????ʹ ?ҵ?͡Ѻ?????鹹??
    ??ǹ?ա??????ŧ???Ǵ? ?????͡??ǹ?͵???? ???????

    [​IMG]

    ?Ըմ??????¨ҡ LED ??Ң??? + ???? ? ???ٷ?? LED ??¤?Ѻ ?ҷ?????????繢??? +

    [​IMG]

    ?????????? ?ҷ??ͧ?ѹ??¤?Ѻ ??ͧ???ͺ???ö???? ??ԧ??¹?俶֧?еԴ
    ?͹?á????????? ???ͧ????º?Ѵ???????Ѻ??? ???Ƿ???????Դ??? 5 ?ѹ?????ͺ???ǹ? ?Դ??ҵ????¼Դ??????
    ????ͧ?Ѻ?? ?ͺ????ͧ?????ҳ 2500 信?Դ???Ǥ?Ѻ
    ?ͧ???稡?Ѵ??????????????º?????ҵ??˹??ִ??ʹ LED ????????ͧ?ͺ???
    ?ͧ??????????Ѻ?Դ?͹⫹?? ??????????????ѹ??????͹?ҧ ????ö?͡?͡???????????????ͧ??º??͹⫹

    [​IMG]
    [​IMG]

    ??ǹФ?Ѻ

    [​IMG]

    [​IMG]

    ???????????¤?? LED ? 10 ?ҷ ??ǹ?ͧ???ҧ????????????ҹ???????Ǥ?Ѻ


    ????͹ ??ѧ?ҡ?Դ?????????????????俨?????ٶ??????͹?????

    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ??.?ôԵ¡??? ?س chai_dst ???觷???? http://www.welovecivic.com/forum/index.php?topic=67.0
     
  8. BASLER

    BASLER Member Member

    132
    9
    18
    เปลี่ยนไฟส่องฝาท้าย ของ CIVIC ES เป็นแบบ Switch NO/OFF

    เรื่องมันมีอยู่ว่า เดิมๆ รถเราๆ ท่านๆ ที่เป็น Civic ES เวลาเปิดฝากระโปรงหลัง
    ออกมาจะมีไฟส่องสว่างติดตลอด แต่บางทีมันไม่จำเป็นแล้วก็ตอนนี้เราต้องประหยัดพลังงานให้มาก ก็เลย
    ติดว่าจะทำไงดีให้มันดับไฟได้ ก็พอดีกับมีพี่ คนหนึ่งฝากให้ผมช่วยดู Part และสั่งของ Steam มาเพื่อ
    ใส่กับ Civic 3D พอได้ของมาประกอบกับที่อยากจะรู้อยู่แล้วว่าทำได้หรือเปล่าก็เลยลองสลับเลย สรุปว่า
    สามารถใช้งานได้ปกติ แถมยังสามารถเปิดปิดได้ด้วยสิ งานนี้ สมใจผมล่ะ ได้อย่างที่ต้องการเสีย ที มาดูกัน
    ดีกว่าครับว่าเป็นไง พูดไปก็ไม่เห็นภาพอยู่ดี

    โคมใหม่นี้จะมี Switch ทำให้เปิด/ปิดได้ครับ

    อุปกรณ์ที่ต้องสั่งคือ
    1. 34260-SH3-004 จำนวน 1 ตัว ราคาประมาณ 270 บาท ยังไม่รวม Vat 7%

    [​IMG]

    มาดูความแตกต่างระหว่างของเดิมกับของใหม่ กันนะครับ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    มาลองต่อใช้งานกันว่าสามารถใช้งานได้จริงๆ เปล่า ก่อนที่จะติดตั้งใช้งานจริง

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    หลังจากที่ต่อทดสอบแล้วใช้งานได้แล้วก็มาติดตั้งเข้าตำแหน่งเดิม เลย มาดูกัน

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ของเก่า ก็เอามาเก็บไว้ อีกตามเคย :cry:


    [​IMG]

    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ปล.เครดิตยกให้ คุณ Yakumo แหล่งมา http://www.welovecivic.com/civic/forum_posts.asp?TID=1205&PN=1
     
    แก้ไขล่าสุดโดยผู้ดูแล: 13 มกราคม 2007
  9. BASLER

    BASLER Member Member

    132
    9
    18
    วิธีติดตั้งไฟที่เก็บของท้ายรถเป็นสีต่างๆตามที่ชอบใจ

    อันดับแรกจะต้องไปซื้อไฟที่แถวคลองถม ตัวไฟ และสีไฟแล้วแต่ที่เพื่อนๆชอบของ
    ผมไม่ได้ให้ที่ร้านต่อให้นะ ผมเลือกแบบที่เป็นประกอบสำเร็จรูป ราคา 50 บาทแถวแบน (1 แถว 6 ดวงสี
    ฟ้าผมซื้อให้เพื่อนด้วย 10 อัน)ถ้าซื้อตัวเดียวเขาจะบอกว่าราคา 80 บาท ต่อจากนั้นให้ไปซื้อสายไฟเอา
    แบบดีหน่อยนะครับ ตามด้วยท่อขดเอาแบบใส่สายไฟได้ 2 เส้นเส้นละ 10 บาท 1เส็นก็พอ(วิธีใช้เมื่อทำ
    การเชื่อมสายไฟด้วยที่บัดกีใส่ท่อขนเข้าไปแล้วเอาไฟเผาท่อจะหดคุมส่วนที่เชื่อมไว้)***หมายเหตุ ถ้า
    เพื่อนๆไปซื้อให้ไปจอนรถที่ดิโอนะครับ ของผมไปจอดข้าง 0 รด มันจะมีเวลาจอดผมกลับมาที่รถไม่ทัน
    โดน LOCK ล้อ เสียไป 400 บาท ***

    [​IMG]

    จากนั้นให้ทำการถอดไฟที่เก็บของท้ายรถโดยทำการเอานิ้วมือขวาใส่ในช่องข้างๆไฟแล้วกดลงไฟจะหลุด
    ลงมา หรืออ่านในคู่มือหน้า247จากนั้นถอดที่ใส่ไฟออกจากสายไฟจะเหลือดังรูป

    [​IMG]

    ทำการต่อสายไฟให้ยาวตามที่ต้องการโดยดูจากจุดที่จะติดตั้งไฟ (ของผมติดตั้งไฟ 2 ที่ ความยาวของ
    สายไฟต่ออันประมาณ 30 CM)จากนั้นทำการต่อสายไฟทั้ง2 จุดเข้าด้วยกันจะต้องต่อให้ไฟติดทั้ง 2
    หลอด
    โดยทดสอบจากนำสายไฟสองเส้นที่ออกจากไฟที่ซื้อมาทำการติดที่แผ่นทองแดงซ้าย -ขวาถ้าต่อถูกไฟจะ
    ติด ถ้าไฟไม่ติดให้สลับสายไฟจากนั้นให้ทำการบัดกีสายไฟให้ติดกัน 2 เส้นและทำการบัดกีให้ติดกับแผนทองแดงดังรูป
    *** ถ้าต่อแล้วไฟไม่ติดให้สลับสายไฟอีกครั้ง กรณีไฟไม่ติดห้ามต่อทิ้งไว้เพราะ
    จะทำให้สายไฟร้อน และอาจไฟได้***


    [​IMG]

    จากนั้นให้ทำการนำเทปพันสายไฟติดที่จุดบัดกี เป็นอันเสร็จสิ้น
    ถ้าเพื้อนๆต้องการให้ไฟสว่างก็ติดไฟเพิ่มอีกแถว หรือนำไฟขาวที่ถอดออกมาใส่กลับเข้าไปก็ได้ดังรูป


    [​IMG][​IMG]

    **หมายเหตุ ถ้าดูจากรูปไฟสีฟ้าไม่สว่างมากเกิดจากตอนถ่ายรูปไม่ได้ปิดไฟถ่ายหลัง
    จากลองปิดไฟพบว่าสว่างชัดเจนดังนั้นติด 2 แถวก็น่าจะพอแล้วครับ**
    ลืมบอกเพื่อนๆไปถ้าวันอาทิตย์ว่างทำไฟส่องเท้าเสร็จจะมาลงให้อีกครั้งนะครับ
    ***สรุปค่าใช้จ่ายติดตั้งไฟส่องที่เก็บของประมาณ 110 บาทครับ ***

    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ปล.เครดิตยกให้ คุณ cool แหล่งที่มาhttp://www.welovecivic.com/forum/index.php?topic=1093.0
     
    แก้ไขล่าสุดโดยผู้ดูแล: 13 มกราคม 2007
  10. BASLER

    BASLER Member Member

    132
    9
    18
    สำหรับคนที่ติดตั้งแล้ว ช็อคจนไฟส่องแผนที่,ไฟหลังคา,ไฟกระโปรงท้ายไม่ติดนะครับ

    สำหรับคนที่ติดตั้งแล้ว ช็อคจนไฟส่องแผนที่,ไฟหลังคา,ไฟกระโปรงท้ายไม่ติดนะครับ
    ฟิวส์ตัวที่ขาดอยู่ในห้องเครื่องครับ
    ฟิวส์เบอร์ 3 เปิดฝาแล้วหงายดูรูปหลังฝาก็ได้ครับตัวนี้ 7.5 แอมป์

    มันมีฟิวส์สำลอง 7.5 แอมป์เหมือนกันอยู่ 1 ตัว เอาตัวนั้นไปใส่ได้เลย
    แล้วค่อยไปหาซื้อมาสำลองไว้ที่หลังก็ได้

    ยังไงระวังช๊อตนิดนึงก็ดีครับ จะได้ไม่เสียเวลาอีก


    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ปล.เครดิยกให้ คุณ chai_dst แหล่งที่มาhttp://www.welovecivic.com/forum/index.php?topic=1567.0
     
  11. BASLER

    BASLER Member Member

    132
    9
    18
    เพิ่มไฟหรี่หน้าให้กับไฟเลี้ยวของ es แบบ stay US

    เริ่มต้นเกิดจากความต้องการที่จะให้ไฟหรี่กับไฟเลี้ยวหน้าติดพร้อมๆกัน เหมือนกะรถตะวันตกโน้นนนน
    ก็เลยทำการแปลงเล่นๆดูครับ ปรากฎว่ามันเป็นไปได้แฮะ:D
    ผลออกมาตรงตามที่ใจคิดไว้ทุกอย่างเลยครับ:)
    งั้นเรามาเริ่มวิธีการแปลงแบบง่ายๆ ขั้นตอนแรกกันเลย
    อุปกรณ์ที่ต้องใช้ก็ประมาณในภาพแรกเลยครับ


    [​IMG]

    มาดู part ของขั้วไฟหรี่ที่จะเอามาแปลงกัน เป็นของ City ปี 96 ไม่ใช่ตัว type Z นะครับ สั่งมา 1 คู่ราคาคู่ละไม่เกิน 300 บ

    [​IMG]

    ขั้วทองแดงตัวเมีย 6 ตัว ซื้อมาเผื่อไว้มากกว่านี้ก็ได้ครับกันเสีย

    [​IMG]

    แล้วก็ซื้อปลั๊กตัวผู้แบบ สามขา มาอีกสองตัว เอาตัวอย่างขั้วไฟที่เราไปสั่งมาไปเทียบที่ร้านก็ได้ครับ กันพลาดอีก

    [​IMG]

    ได้ของมาครบแล้วเราก็มาเริ่มต่อสายไฟที่เราซื้อมากับขั้วทองแดงเลยครับ ทั้งหมดจะได้
    สายไฟหรี่ 2 เส้น ไฟเลี้ยว 2 เส้น และสายกราวน์ อีก 2 เส้นเหมือนกันครับ

    [​IMG]

    สังเกตุที่ขั้วไฟของ city จะมีสายไฟติดมา 3 เส้นด้วยกันครับ แดง,เขียว,ดำ
    เส้นสีแดงคือ ไฟเลี้ยว, เขียว คือหรี่, และดำคือกราวน์ ครับ

    [​IMG]

    ขั้นตอนต่อไปก็คือการถอดขั้วไฟเดิมจากตัวรถออกมา จากใต้ซุ้มล้อหน้าเลยครับ
    เพียงถอดคริปล๊อคที่บังโคลนซุ้มล้อหน้าเพียงตัวเดียวก็พอครับ

    [​IMG]

    จะเห็นในภาพว่าหลอดเดิมที่ติดรถมาจะมีไส้เดียว ส่วนหลอดที่เราต้องซื้อมาเพิ่มจะ
    เป็นแบบสองไส้ครับ หาของสเต็ดเล่ย์ได้จะดีมาก :)

    [​IMG]

    เปรียบเทียบระหว่างของเดิมกับของใหม่ ครับ

    [​IMG]

    มาถึงขั้นตอนการตัดแต่ง ตัวล็อคขั้วไฟให้เหมือนกับของเดิมครับ มาดูตามรูปเลยครับ
    เทียบกันก่อนตัดแต่งจะเห็นว่าของ City เคี้ยวจะเยื้องๆไปมากกว่าของเดิมครับ

    [​IMG]

    ทำการเจียรด้วยคัดเตอร์เลยครับ ตามรูป (ต้องเจียรทั้งสามคั้วเลยนะครับ เอาอันเดิมมาทาบดูก็ได้) :D

    [​IMG]

    ภาพเมื่อทำการเจียรตัดแต่งเสร็จแล้ว จะเห็นว่าเคี้ยวจะเหลือเล็กลงกว่าเดิมพอประมาณ
    แต่ไม่เป็นปัญหาตอนใส่แน่นอนครับ :) :)

    [​IMG]

    เสร็จแล้วเราก็กลับมาที่งานสายไฟเลยครับ ปลอกสายจากชุดสายไฟที่เราเอาออกมาจากซุ้มล้อ
    ประมาณ 1 ซม. สายที่เราต้องปลอกก็จะมี สายสีเขียวและสีดำของไฟเลี้ยว และก็สายสีแดงของไฟหรี่
    จากนั้นนำสายไฟที่เราทำขึ้น (ที่เป็นปลั๊กตัวผู้) นำไปเสียบไว้กับปลั๊คของขั้วไฟ
    city แล้วนำเอาสายสีเขียวและดำ บัดกรี่ กับสายที่เราปลอกไว้ ตามด้วยสายสีแดงต่อ
    (ตามรูป) ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยครับ:)

    [​IMG]
    [​IMG]

    เก็บสายเข้าที่เดิม อย่าลืมเอาเทปพันสายไฟพันปลั๊กเดิมไว้นะครับกันช๊อด

    [​IMG]

    ผลงานที่ได้ชื่นชมครับ:D


    [​IMG]


    <<<<<<<<<<<<<<<<< หรี่ >>>>>>>>>>>>>>>>>>>


    [​IMG]

    <<<<<<<<<<<<<<<<< เลี้ยว >>>>>>>>>>>>>>>>>>>

    [​IMG]

    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ปล. เครดิตยกให้ คุณ Baracuda_es02 แหล่งที่มาhttp://www.welovecivic.com/civic/forum_posts.asp?TID=4705&PN=1
     
  12. BASLER

    BASLER Member Member

    132
    9
    18
    ไฟหรี่ตรงไฟเลี้ยวแก้ม ซ้าย+ขวา แบบเจาะฝัง Led นะครับ ไฟหรี่จะติดพร้อมไฟเลี้ยว

    อุปกรณ์มีดังนี้
    1.หลอด LED 8mm.
    2.ตัวต้านทานขนาด 1 kohm
    3.สายไฟ 3 เมตร
    4.หัวแร้ง+ตะกั่วบัดกรี
    5.ปืนกาวหรือกาวยางซิลิโคนก็ได้ครับ

    เริ่มแรกก็ถอดไฟเลี่ยว ออกมาทั้งสองข้าง
    แล้วก็ทำการต่อสายไฟเข้ากับหลอด LED

    [​IMG]

    ทำการใช้สว่าเจาะรูที่โคมไฟที่ถอดออกมา ดังรูป

    [​IMG]

    เมื่อเจาะลูเรียบร้อยแล้วก็จัดการยัดหลอด LED เข้าไป
    และก็จัดการยิงกาวร้อนเข้าไปเพื่อป้องกันน้ำเข้า ตามรูป

    [​IMG]

    จากนั้นก็นำไปติดตั้งไว้ที่เดิมและก็เดินสายไฟหรี่จากตรงหลอดไฟหรี่ด้านหน้ามาต่อเข้าด้วยกันก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยครับ

    โดย: Teera_FD1

    ***หมายเหตุ วิธีการต่อสายไฟเข้าไฟหรี่หน้า ดูได้จาก กระทู้ แรกนะครับ***

    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ปล.เครดิตยกให้
    คุณ Teera_FD1 แหล่งที่มาhttp://www.pantown.com/board.php?id=15060&area=1&name=board3&topic=41&action=view
     
  13. BASLER

    BASLER Member Member

    132
    9
    18
    MIRROR CONTROL LED LIGHT - ES

    [​IMG]

    พอดีหลอด ไฟเก่าในรถผมขาดทำให้ ไฟ Mirror Control ไม่สว่าง ผมก็เลยจัดการ แกะมาเปลี่ยน ซะ และเปลี่ยนเป็นแบบ LED เลยหมดเรื่อง จะได้ไม่ขาดอีก แถม สีสวยกว่า แบบ เก่า ลองมาดูวิธีทำกันครับ และ อุปกาณ์ ก้ไม่มีอะไรมากมาย ครับ
    1 . บักกรี
    2. ตะกั่ว
    3. หลอด LED แล้วแต่สีครับ
    4. Resistor 680 Ohm
    5. ไขควง สี่แฉก
    6. ฝีมือเล็กน้อย


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ปล. เครดิตยกให้
    คุณ tton แหล่งที่มาhttp://www.welovecivic.com/forum/index.php?topic=13.0
     
  14. BASLER

    BASLER Member Member

    132
    9
    18
    LED Room Light Ver.ES

    ใครที่ชื่นชอบอยากให้ห้องโดยสาร สว่างหรูมีระดับ กว่าแต่ก่อน ลอง มาทำ diy อันนี้ดูนะครับ รับรองได้เลยครับว่า สว่างกว่าไฟที่เป็นอยู่

    [​IMG][​IMG]

    ลองเปรียบเทียบดูนะครับ ระหว่างซ้ายและขวาว่าความสว่างจะแตกต่างกัน

    อุปกรณ์ ที่ใช้มีดังนี้นะครับ

    1.SUPER BRIGHT LED 3 MM, 4500 MCD, ULTRA WHITE, WATER CLEAR LENS หลอด ละ 15 บาท
    2. แผ่น PCB เอนกประสงค์ ราคาประมาณ 20 บาท
    3. ตะกั่ว
    4. บักกรี
    5. หลอดไฟที่แถมมากะรถ หรือว่า จะไปซื้อใหม่ก็ได้นะ แต่ผมว่าซื้อใหม่ดีกว่า ที่แถมมาเก็บไว้เหอะ อย่างแพง เพราะว่า ต้องเอามาทุบ เอาแค่ ขั่วไฟมานอย่างเดียว
    6. ตะใบ หรือ กระดาษทราย ก็ได้ เอาแต่งแผ่น pcb
    7. คัดเตอร์
    8. กาวร้อน

    [​IMG]

    จากรูปวงจร

    ผมไม่ใช้ตัวต้านทานนะครับ หลักการ หรือ หลอด led จะกินไฟ อยู่ที่ 3.6 V 20 mA เพราะฉะนั้นผมเลยเอา หลอด led มาต่อกันเป็นแบบ อนุกรม สี่หลอด เท่ากับ 1 ชุด เพราะฉะนั้น จะได้ เป็นค่าดังนี้ 3.6+3.6+3.6+3.6 = 14.4 V ไฟในรถเรา จะมีค่าอยู่ที่ 12 V ที่ที่ผมใช้ 4 หลอด led เผื่อ ไฟในรถมานเกิน เพราะฉะนั้น เตือนนะครับ ว่า 1 ชุด จะต้อง ต่อ led อนุกรมทั้ง 4 หลอด นะครับ ห้าม ต่อ น้อยกว่านี้เด็ดขาด หลอดขาดนะครับ ถ้าจะต่อหลอด น้อยกว่านี้ต้องใส่ตัวต้านทาน เพื่อจำกัดกระแส คุณจะใช้หลอดไฟกี่หลอดก็ได้ ตามรูปวงจร แต่ 1 ชุด จะมีทั้งหมด 4 หลอด

    แอลอีดี (Light Emitting Diode)

    [​IMG]

    แอลอีดี คือ ไดโอดชนิดหนึ่งซึ่งถ้าต่อ Forward Bias ให้แล้วประจุ Majority Carriers จากฝั่งด้านสาร P จะไหลทะลุ Depletion Region ไปรวมกับ Hole ทางด้านสาร N และปล่อยพลังงานออกมาในรูปของแสง โดยกระแส Forward นี้จะมีค่าประมาณ 10-50 mA และโวลเตจเท่ากับ 1.4 - 4 V ทั้งนี้แล้วแต่สเปคของแต่ละบริษัทผู้ผลิต

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    Super Bright Led Specicications

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    การต่อวงจรแบบที่สองโดย ใช้ Resistor เป็นตัวจำกัดกระแส

    [​IMG]

    1. ต่อตามรูปวงจร ที่ผมให้ไปคับ โดย ใช้ led 4 ดวง อนุกรมกัน แล้วต่อไฟ 12 V
    2. ในกรณีจะกำจัดกระแส ต่อ led 3 ดวง อนุกรมกัน กับ r (ตัวต้านทาน) โดยค่า R จะ เท่ากับ 220 Ohm ต่อ led อนุกรม 3 ดวง
    พอเค้าใจไหมคับ คงไม่ต้อง ให้ผมทำการเขียนสูตรคำนวน ให้ดูนะคับ เพราะว่าจะ งงไปกันใหญ่ เอาแบบ ชาวบ้านดีกว่า ผมคำนวนให้เสร็จแล้ว ค่า r จะให้สว่าง ก็ลดค่า r ลงไปหน่อยก็ได้แต่อาจจะทำให้ led ขาดได้ถ้าลดเยอะเกินไป ไม่ควรต่ำกว่า 180 ohm


    แนวคิดจากการคำนวน

    R = (VS - VL) / I
    VS = supply voltage
    VL = LED voltage (usually 2V, but 4V for blue and white LEDs)
    I = LED current (e.g. 20mA), this must be less than the maximum permitted


    For example

    If the supply voltage VS = 9V, and you have a red LED (VL = 2V), requiring a current I = 20mA = 0.020A,
    R = (9V - 2V) / 0.02A = 350, so choose 390 (the nearest standard value which is greater).

    [​IMG]

    [​IMG]

    มาดูวิธีทำกัน

    [​IMG][​IMG][​IMG]

    [​IMG]

    ขนาดแผ่นวงจรไฟเก๋งชุดกลาง ตัดตามนี้เลยครับ
    B = 0.8 Cm
    C = 1.2 Cm
    A = 0.9 Cm
    D = 1.2 Cm
    E = 0.8 Cm
    F = 0.8 Cm
    G = 0.8 Cm
    1 = 0.6 Cm
    2 = 0.5 Cm
    3 = 0.4 Cm
    4 = 0.5 Cm
    5 = 0.8 Cm
    6 = 2.8 Cm

    แกะฝาหลอดไฟ เก๋งในรถ ออกมาก่อน โดย ใช้คัดเตอร์ ค่อยๆๆ แงะนะครับ ย้ำ ก่อน แงะ คุณจะต้อง แงะ ตรงข้าม ที่เปิดปิด on off จะมีร่อง อยู่นิด ค่อยๆๆ แงะ อย่า ทำรุนแรงนะครับ เดี๋ยวเป็นรอย แล้วจะไม่สวย
    พอแกะฝาพาสติกออกมาแล้ว ก็ทำการ ถอดหลอดไฟออกมา แล้วทำการวัดขนาดของ ฐานที่ใส่หลอดไฟว่า เท่าไร แล้ว มาวัดที่ผ่าน pcb ทำการตัด โดยใช้คัดเตอร์ กีดตามรู้ ดังในรูปข้างบนจะเห็นรอย กีด ระวังโดน บาดนะครับ พอกีดได้แล้ว จะเห็นเป็นรอย ทำการหัก โดย เอาแผ่น pcb เลื่อนไปที่มุมโต๊ะ แล้ว ค่อยๆๆ หัก อย่าแรงนะ
    พอตัดได้แล้วจะได้รูปเหมือน ด้านบน ตรงรูที่เจาะเอาไว้ใส่ขั้วหลอดไฟ ส่วนใครจะใส่กี่หลอด led ตามสบายนะครับ แต่ผม ขอ ย้ำอีกที ว่า 1 ชุดจะต้องมีสี่หลอด ต่อ อนุกรมกัน
    เวลาบักกรี ดูขั่วหลอดไฟ led ด้วยนะครับ มานจะมีขา a แอนโนด กับ ขา k คาโถด สังเกตุได้ง่ายๆๆ ขา a จะเป็นขาที่ยาว ซึ่งเป็นขั่วบวก ส่วน ขา k เป็นขาลบ ซึ่งจะเป็นขาที่สั้นกว่า แล้ว อย่า จี้บักกรีนานๆๆ นะครับ เดี่ยว led จะเสีย หรือ สว่างไม่เท่ากัน

    วิธีทำแผ่นวงจรไฟ Led Light ชุดกลาง

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    วิธีทำแผ่นวงจรไฟ Led Light ไฟส่องแผนที่

    [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]

    วิธีทำแผ่นวงจรไฟ Led Light ฝาท้ายกระโปง

    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]

    รูปแสดงของ Led Light แต่ละจุดต่างๆๆ

    [​IMG][​IMG]

    แสดงไฟชุดกลาง

    [​IMG]

    แสดงไฟส่องแผ่นที่ ชุดหน้า
    [​IMG]

    แสดงไฟท้ายรถ

    วิธีการแกะไฟเก๋งชุดกลาง
    มองหาจุดแกะสังเกตุดีๆๆ จากที่วงกลมจะมีที่แกะโดยการเอา คัตเตอร์ ค่อยๆๆงัดออกมา โดยการงัดที่ละนิดที่ละน้อย อย่างัดที่เดียวออกมา ขาอาจหักได้ พองัดออกมาแล้ว จะได้ตามรูปข้างล่าง สังเกตุรูปข้างล่างดีๆๆ จะเห็นได้ชัดว่ามานจะมีที่ให้สำหรับเรางัดได้วงกลมไว้

    [​IMG] [​IMG]

    วิธีการแกะไฟส่องแผนที่
    เหมือนกัน กับการแกะไฟเก๋งอะคับ ดูตามรูป น่าจะแกะ ได้ ครับ แต่ การแกะ ระวังนิดหนึงครับ ว่าค่อยๆๆ งัดออกมา ตามจุดที่ผม วงกลมไว้ แล้ว งัดที่ละ ข้าง แล้วใส่ข้างนั้นให้เสร็จไปเลย แล้วค่อยงัดอีกข้าง อย่างัดที่เดียว สองข้าง เพราะจะทำให้จำสับสน ว่าฝาที่งัดออกมามานเป็นซ้ายหรือขวา

    [​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG]

    ขอเตือนนิดหนึ่งคือชุดไฟส่องแผ่นที่เวลาแกะขาจะหักง่าย ถ้าใครทำหักก็ไปเบิกที่ศูนย์ได้นะครับจดเบอร์รหัสสิงค้าได้ อันละหกสิบบาท

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ถ่ายภาพหลังจากติดตั้ง Led Room Light เรียบร้อยแล้วครับ

    ไฟดวงกลางเก๋ง

    [​IMG]

    ไฟส่องแผนที่ และสภาพห้องโดยสารโดยรวม

    [​IMG]

    เอาแจ่มๆ อีกสักภาพครับ อันนี้เปิดพร้อมๆ กันหมดทุดดวง ทั้งหมดถ่ายโดยไม่เปิด Flash และไม่มีการชดเชยแสงนะครับ เพื่อให้เห็นความสว่างจริงๆ ของ LED Room Light

    [​IMG]

    [​IMG]

    เอารูปมาลงให้ดู ตอนทำเสร็จครับ อาจจะดู เสร่อๆ หน่อยครับ
    ที่วาวๆ นั่นผมเอาแผ่นสะท้อนแสงไปแปะครับ
    อนุมานเอาว่ามันจะช่วยสะท้อนซัก 10 % (พอติดจริงๆไม่ช่วยเลย แต่ขี้เกียจเอาออกมาแล้ว)
    แล้วจะเอาตอนถ่ายมืดมาลงครับ ยังหากล้องไม่ได้เลย

    [​IMG]

    [​IMG][​IMG][​IMG]

    ใครอยากออกแบบวงจรเองเอาเวปคำนวนมาให้
    http://led.linear1.org/1led.wiz สำหรับหลอดเดียว
    http://led.linear1.org/led.wiz สำหรับหลายหลอด


    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ปล.เครดิตยุกให้
    คุณ tton แหล่งที่มาhttp://www.welovecivic.com/forum/index.php?topic=11.0
    http://www.welovecivic.com/civic/forum_posts.asp?TID=3403&PN=1
     
    แก้ไขล่าสุดโดยผู้ดูแล: 13 มกราคม 2007
    NAMTAWHOO ถูกใจสิ่งนี้
  15. BASLER

    BASLER Member Member

    132
    9
    18
    +++ผัง ติดสปอร์ทไลต์(ไฟตัดหมอก)+++

    [​IMG]

    [​IMG]

    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ปล.เคดิตยกให้
    คุณ tom3027 แหล่งที่มาhttp://www.welovecivic.com/forum/index.php?topic=2598.msg20147#msg20147
     
  16. DumDum

    DumDum New Member Member

    132
    1
    0
  17. psYchosis

    psYchosis New Member Member

    449
    47
    0
    01-04 Honda Civic LED Install Guides
    http://www.ledautomotive.com/HowToGuides/01-04Civic/index.asp

    เป็นเวปของผู้ขายหลอด LED แต่ก็มีวิธีเปลี่ยนหลอดให้พอได้เอาไปดู
    ตัวอย่าง
    01-04 Civic Climate Control Kit Install Guide

    01-04 Civic Climate Indicator LED Kit Install Guide

    01-04 Civic Sunroof Button Kit Install Guide

    01-04 Civic Cruise Control Button Kit Install Guide

    01-04 Civic Rear Defrost Button Kit Install Guide

    01-04 Civic Mirror Control Button Kit Install Guide

    01-04 Civic Window Switch Kit (2-Door) Install Guide

    01-04 Civic Window Switch Kit (4-Door) Coming Soon

    01-04 Civic Automatic Shifter (2003-2004) Install Guide

    01-04 Civic Automatic Shifter (2001-2002) Install Guide
     
  18. psYchosis

    psYchosis New Member Member

    449
    47
    0
    DIY: แก้ปัญหาพรมในรถเลื่อน

    อุปกรณ์ที่ใช้ได้แก่
    ตีนตุ๊กแกส่วนที่เป็นเส้นแข็งๆ,
    ด้าย,
    เข็ม (ใหญ่หน่อยจะได้ไม่หักง่าย),
    คีมปากจิ้งจก (เอาไว้คีบเข็มตอนแทงทะลุพรม)
    และ ศิลปะการเย็บปักถักร้อยของท่าน :D

    วิธีทำ
    ก็ง่ายๆ ก็แค่เย็บ ตามแนวในรูป เท่านี้พรมของเราก็จะไม่เลื่อนแล้วหละครับ :D :D :D
    อย่าลืมทำทั้งสองผืนนะครับ
     
  19. BASLER

    BASLER Member Member

    132
    9
    18
    D.I.Y. แอร์รถยนต์ด้วยตนเองคับ (ใครรถติดไฟแดงนานๆแล้วแอร์ไม่เย็น เข้ามาคับ)

    ช่วงนี้อากาศร้อนมากๆๆ รถเพื่อนๆ บางคันผมว่าต้องเจออาการนี้บ้างแน่ๆเลย

    1. บางทีรถติดไฟแดงนานๆ แอร์จะไม่ค่อยเย็น มีแต่ลมร้อนๆ ออกมา แต่พอได้วิ่งหน่อย แอร์ก็จะมีลมเย็นๆ ออกมาบ้าง แต่ถ้าติดอีกเมื่อไร แอร์จะไม่มีความเย็นเลย จะมีลมร้อนออกมาจากช่องแอร์ใช่ไหมฮะ

    สาเหตุแรกเลยไปมองดูที่ คอยล์ร้อนแอร์ ว่าสกปรกมากหรือเปล่า เนื่องจากแผงคอล์ยร้อนนี้ มีหน้าที่ระบายความร้อนของตัวน้ำยาแอร์ที่ ออกมาจากคอมเพรส์เซอร์แอร์ เนื่องจากคอมแอร์จะสร้างแรงผลักดันเพื่อให้น้ำยาแอร์วิ่งหมุนเวียนอยู่ภายในระบบแอร์รถยนต์ ซึ่งน้ำยาแอร์ที่ออกมาจากคอมเพรส์เซอร์จะมีความร้อนสูงมากๆๆ จากนั้นน้ำยาแอร์จะวิ่งเข้าสู่แผงคอล์ยร้อน เพื่อระบายความร้อนของตัวน้ำยาแอร์ให้มันเย็นขึ้น
    (ลองสังเกตุดูเองก็ได้นะครับ ทำไมตอนฝนตกแอร์รถทำไมเย็นขึ้น รถติดก็ยังเย็นอยู่ เนื่องจากน้ำฝนนั้นได้ไปโดนแผงคอล์ยร้อนหน้ารถไงคับ คอล์ยร้อนมันเลยระบายความร้อนได้เร็วขึ้น หรือจอดรถอยู่บ้าน ลองเอาน้ำฉีดที่แผงคอล์ยร้อนดูแล้ว ลองนั่งในรถดูว่าความเย็นแตกต่างกับไม่ได้ฉีดน้ำหรือเปล่าคับ )

    ถ้าแผงคอล์ยร้อนสกปรกให้ใช้ น้ำฉีดที่แผงให้เปียกแล้ว ใช้เสปร์ย (วีม,เป็ด ที่ใช้ขัดคราบมันในครัวอะ ซื้อได้ตามห้างอะคับ ) ใช้ฉีดให้ทั่วแผงคอล์ยร้อนทิ้งไว้ซัก 5-10 นาทีแล้วใช้น้ำสะอาดล้างออก หรือใช้แปลงสีฟันเก่าๆ รูดลงตามแนวตั้ง พยายามอย่าให้แผงมันล้มนะคับ เท่านี้แผงคอล์ยร้อนก็สะอาดแล้วคับ ลองทำดูจัสังเกตุได้เลยว่าแอร์เย็นขึ้น เพราะ แผงคอล์ยร้อนนั้นมันจะมีพวกคราบน้ำมันต่างๆตามท้องถนน พวกคราบน้ำมันนี้มันติดที่แผงแล้วใช้น้ำสะอาดล้างอย่างเดียวมันไม่ค่อยออก มันจะฝั่งแน่นทำให้แผงระบายความร้อนไม่ค่อยออก

    คอยล์ร้อน ( CONDENSER)

    คอยล์ร้อนจะมีลักษณะเป็นแผงรับอากาศขนาดพอๆ กับหม้อน้ำรถยนต์ มีทางเข้าและทางออก
    ของน้ำยาแอร์ ซึ่งถูก ออกแบบมาให้มีท่อน้ำยาแอร์ขดไปขดมาบนแผง โดยผ่านครีบระบายความร้อน
    ซึ่งมีลักษณะคล้ายครีบระบายความร้อนของหม้อน้ำ คอยล์ร้อนจะถูกติดตั้งอยู่บริเวณด้านหน้ารถยนต์
    คู่กับหม้อน้ำ

    วงจรของระบบแอร์รถยนต์ครับ สีน้ำเงินคือความเย็นนะครับ สีแดงคือความร้อนคับ
    [​IMG]

    เป็ดกับวิมนั้นไม่กัดแผงอลูมิเนียมมากเท่าโซดาไฟคับ แนะนำ ให้ฉีดทิ้งไว้ไม่ควรเกิน 10 นาทีคับ ใครฉีดแล้วจะทิ้งไว้นานกว่านั้นก็ได้ฮะ แต่ก็ไม่มีผลอะไรมากกว่าเดิมคับ เพราะที่เราฉีดทิ้งเอาไว้ตอนแรกนั้น สารเป็ด,วิม มันก็ไปชะล้างคราบสกปรก คราบน้ำมันออกหมดแล้วคับ เพราะฉะนั้น ฉีดทิ้งไว้นานกว่านั้นก็ไม่มีผลอะไรคับ

    เรื่องการดูน้ำยาแอร์ว่าขาดหรือเปล่า ขอเป็นคืนนี้นะครับ ตอนนี้ผมหาภาพใน com ผมอยู่อะคับ เป็นภาพที่เคยลงเอาไว้ใน rcweb อันเก่ากระทู้ DIY ชุด service แอร์ด้วยตนเอง ไม่ทราบว่าเพื่อนๆ จำกันได้รึเปล่าฮะ

    ภาพก่อนล้างและ
    หลังล้างคับ


    [​IMG]
    [​IMG]

    ดูว่าน้ำยาแอร์รถเราขาดหรือเปล่า ให้มองหาตัวไดเออร์ ซึ่งจะเป็นทรงท่อสีดำบ้างสีเงินบ้าง ดูที่หัวของมันจะมีกระจก (ภาษาช่างจะเรียกว่า ตาแมว) ถ้าน้ำยาแอร์ในระบบรถยนต์ขาดหรือไม่เต็ม ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้แอร์ไม่เย็น 100%
    ตามรูป สังเกตุในกระจก จะเห็นเป็นฟองอากาศขาวๆ วิ่งเยอะๆ อย่างนี้แสดงว่าน้ำยาแอร์ในระบบไม่เพียงพอคับ
    [​IMG]
    และถ้าน้ำยาแอร์ในระบบไม่ขาด จะมองเห็นเป็นน้ำใสๆมีฟองอากาศอยู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น (จะเป็นฟองอากาศแบบอ้วนๆ ) ตามภาพนะคับ

    ภาพที่ 2 จะเห็นว่าฟองขาวๆนั้นจางลงเริ่มเป็น
    ภาพที่ 3 จะเห็นได้เลยว่าเป็นลักษณะน้ำใสๆ มีฟองเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ตามภาพนี้แสดงว่าน้ำยาในระบบแอร์ไม่ขาดคับ


    และก็จะมีคำถามอีกว่า น้ำยาแอร์นั้นต้องเติมบ่อยไหม ?
    ระบบแอร์ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น แอร์บ้าน,แอร์รถยนต์, ถ้าเกิดระบบแอร์นั้น ไม่มีที่รั่ว ก็ไม่จำเป็นต้องเติมน้ำยาแอร์ครับ จะเติมน้ำยาแอร์ก็ต่อเมื่อ ตอนแอร์ฟังตามอายุของมัน กับ เคลื่อนย้ายตัวแอร์ติดตั้งที่อื่น,เปลี่ยนอะไหล่บางชิ้น

    เพื่อนๆลองมองที่รอบๆกระจกของตัวไดเออร์ เห็นคราบน้ำมันสีดำนั้นไหมครับ คราบน้ำมัน มันมาจากไหน มันค่อยๆออกมาตามขอบของกระจกคับ เหตุนี้แหละครับคือที่รั่วของระบบแอร์ เติมน้ำยาแอร์มาเดือนหนึ่ง น้ำยาแอร์ก็หายหมดครับ บางทีมันไม่ได้รั่วแค่ตรงนี้
    เพื่อนๆ ที่ต้องเติมน้ำยาแอร์เป็นประจำ ลองสังเกตุท่อแอร์ โดยเฉพาะพวกข้อต่อต่างๆ ดูว่ามีคราบน้ำมันดำๆ เกาะหรือเปล่า ถ้าหาไม่เจอ หาฟองน้ำฉุบน้ำยาล้างจานที่มันมีฟองเยอะๆ แล้วค่อยถูตามท่อแอร์ ตรงไหนที่มีฟองอากาศขึ้นมา แสดงว่าตรงนั้นคือจุดรั่วครับ

    งงไหมฮะ ถ้าไม่เข้าใจก็ถามได้นะครับ ถ้าผมรู้และเคยเจอมาก่อนคับ ผมจะตอบให้ได้
    [​IMG]
    [​IMG]


    ผมเคยได้ยินมาจากเพื่อนๆ ที่เคยไปซ่อมแอร์ตามร้านทั่วไป,กระทู้ทั่วไปที่ถามเกี่ยวกับ เว็คคัม ? คืออะไร
    ทำไมเติมน้ำยาเพิ่มอย่างเดียวราคาจะอยู่ที่ 200 - 300 บาท
    ทำไม เว็คคัม เติมน้ำยาแอร์ ราคาอยู่ที่ 500 - 1000 บาท (ขนาดรถทั่วไปน่าจะไม่เกินราคานี้ แต่ถ้าเป็นรถขนาดใหญ่ก็จะแพงกว่านี้)

    ขออธิบายข้อดีแต่ละตัวว่าแตกต่างยังไงนะครับ (เผื่อเพื่อนๆบางคนอาจยังไม่ทราบ)

    - เติมน้ำยาเพิ่ม คือในระบบแอร์รถเรานั้น น้ำยาแอร์อาจจะ ขาดเพียงเล็กน้อย หรือขาดมากก็แล้วแต่ ช่างแอร์เขาจะใช้วิธีต่อสายแล้วดูที่เกร์ + ดูที่ตาแมว(กระจกบนตัวไดเออร์) ปล่อยน้ำยาจากถังเข้าสู่ระบบแอร์รถ แล้วช่างแอร์เขาจะมองที่ตาแมว ถ้าเริ่มใสแล้วก็จะปิดวาวร์ที่ตัวถังน้ำยาแอร์ แล้วเขาจะสังเกตุว่าเติมน้ำยาแอร์เข้าไปเยอะหรือน้อย ช่างแอร์เขาจะคิดเงินตาม ปริมาณน้ำยาแอร์ที่เติมให้เราครับ
    (ผมบอกไว้เป็นความรู้นะครับ ถ้าเติมเพิ่มให้กับ รถยนต์ที่มีขนาดกลาง น้ำยาแอร์ไม่น่าจะเกิน 1 กิโลกรัมคับ)

    - ข้อเสียคือ
    1.การเติมลักษณะนี้ จะมีอากาศเข้าไปปะปนอยู่ภายในระบบแอร์ด้วย อากาศที่เข้าไปนั้นจะมากหรือน้อย อันนี้ขึ้นอยู่วิธีการเติมของช่างแต่ละคนคับ
    (วิธีที่จะให้อากาศเข้าสู่ระบบแอร์น้อยที่สุด ตอนที่ช่างแอร์ต่อสายเข้ากับถังน้ำยาแอร์นั้น ช่วงสายนั้นจะมีอากาศอยู่ ตอนเปิดวาวร์น้ำยานั้น ให้ช่างแอร์ คายเกรียวที่ติดกับตัวเกร์น้ำยา (สายเส้นเดียวกับที่ต่อเข้าถังน้ำยาแอร์นะคับ) เพื่อให้น้ำยาแอร์ที่ออกมาตอนแรกนั้น ทำการไล่อากาศที่ค้างอยู่ตามสายออกให้หมด
    2.น้ำยาแอร์แต่ละที่ แต่ละร้าน ที่อยู่ในถังนั้นส่วนมาก คุณภาพจะไม่เหมือนกัน บางทีน้ำยาแอร์ในระบบรถเราเป็นของมีคุณภาพดี แต่พอไปเติมเพิ่มแล้ว น้ำยาแอร์ที่เติมเพิ่มเข้าไปใหม่นั้น อาจจะเป็นน้ำยาที่ไม่มีคุณภาพก็เป็นไปได้ (แล้วแต่ดวงละฮะ) แต่ถ้าคุณภาพดีก็ ok ครับ (น้ำยาคุณภาพดี หรือไม่ดี เดี๋ยวผมอธิบายแบบละเอียดให้ฟังอีกทีคับ)

    - การเว็คคัม คือ การปล่อยน้ำยาแอร์ที่อยู่ในระบบแอร์ในรถออกให้หมด (สังเกตุดูนะคับ มีน้ำยาแอร์+น้ำมันคอม ออกมาตามสายชาชร์น้ำยา เจ้าของรถโปรดสังเกตุด้วยว่าน้ำมันออกมาเยอะปล่าว ถ้าเยอะ ต้องให้ช่างเขาเติมน้ำมันคอมเพิ่มให้ด้วยนะครับ ไม่งั้นใช้ไปซักพัก คอมเพรส์เซอร์แอร์จะฟังเอานะฮะ (ส่วนมากจะเป็นเส้นสีเหลือง) แล้วช่างแอร์ก็จะเอาเครื่องเว็คคัมมา แล้วต่อสายเส้นเหลืองเข้ากับเครื่อง เว็คคัม เพื่อดูดอากาศที่ค้างอยู่ภายในระบบแอร์ออกให้หมด ถ้าให้ดีที่สุดใช้เวลา 10 - 20 นาที อันนี้คงเป็นไปได้ยาก เพราะส่วนมาก ช่างเขาจะเว็คคัมไม่เกิน 5 นาที + ดูเกร์ว่าติด -15 ก็ ok แล้ว จากนั้นก็จะถอดสายออกจากเครื่องเว็คคัม ถ้าน้ำมันคอมขาด ช่างแอร์เขาจะเติมเพิ่มก่อน แล้วค่อยเติมน้ำยาแอร์ตามเข้าไปคับ

    (เครื่องเว็คคัมจะมีราคา 1,500 - 35,000 บาท ถ้าราคาถูกหน่อย จะมีปั้มเพียงตัวเดียวอันนี้ต้องใช้เวลานาน10 - 20 นาทีในการเว็คคัม แต่ถ้าราคาเกิน 15,000 บาทขั้นไป จะเป็น 2 ปั้มอันนี้เว็คคัม 3 - 5 นาทีเก็บเสร็จครับ )
    [​IMG]

    โฟมที่ไว้ล้างแอร์บ้านนั้น ผมไม่แนะนำให้เอามาทำความสะอาดแผงคอล์ยร้อน เพราะว่าถ้าเอาโฟมกระป๋องมาฉีดที่แผงคอล์ยร้อนนั้น 5 กระป๋องมันก็ยังไม่สะอาดเลยคับ

    เพราะว่าส่วนผสมของสารเคมีในกระป๋องนั้นๆ อาจจะมีประสิทธิภาพไม่เพียงพอในการขจัดคราบน้ำมันและ คราบที่ฝังแน่นขนาดนั้นคับ เนื่องจากเขาให้ฉีดที่ตัวคอล์ยเย็น(ตัวแฝงแอร์ในบ้าน) ทางเจ้าของสินค้าเขาคงได้ทำการทดสอบมาแล้วว่า ฉีดไปแล้วไม่ต้องไปล้างมัน มันจะสลายตัวได้เองในตอนที่เปิดแอร์ สารเคมีในกระป๋องนี้จึงไม่ อันตรายต่อผู้บริโภคไงคับ

    ที่ถ้าว่าเอา Sonex ใช้แทนนั้น ใช้แทนอะไรครับ ผมงง รบกวนถามอีกทีนะฮะ
    Sonex ที่เป็นน้ำยาหล่อลื่น และ ไล่ความชื้นด้วยใช่หรือเปล่าฮะ กระป๋องสีส้ม สารเคมีที่ออกมาจากกระป๋องนั้น จะคล้ายๆ กับ น้ำมันก๊าซ,น้ำมันซักแห้ง ถ้าจะเอาฉีดล้างแผงคอล์ยร้อนนั้น ไม่ได้คับ ใช้งานกันคนละอย่างอะคับ

    ใช้ผงซักฟอกก็ได้คับ แต่ตั้งขยันหน่อย ใช้แปลงเล็กๆ ถูตามที่แผงมันด้วยอะคับ อันนี้สะอาด sure

    ไดเออล์ (ทำหน้าที่กรองความชื้นของตัวน้ำยาแอร์)

    - ถ้ามีการซ่อมเปลี่ยนอะไหล่บางส่วนของระบบแอร์นั้น รวมถึงแอร์บ้านด้วยนะคับ สิ่งที่จะต้องทำการเปลี่ยนของใหม่ไปด้วยในทุกครั้ง คือ ตัวไดเออล์ (ประมาณ 300 บาทแล้วแต่บางรุ่นด้วยนะครับ)

    - ทำไมต้องเปลี่ยนทุกครั้งด้วย? (เปลื่องตังค์..เพราะบางคนอาจเพิ่งเปลี่ยนมาเองเพราะบางคนซ่อมแอร์ไม่จบ ต้องถอดระบบออกมาหลายรอบ เลยอาจจะยังไม่ค่อยเข้าใจ ) การถอดระบบแอร์ออกมานั้น ระหว่างที่ถอดนั้น จะทำให้ความชื้น (อากาศ) เข้าไปแทนที่ ซึ่งภายในตัวไดเออล์นั้น จะมีสารเป็น เม็ดเล็กๆ กลม เรียกว่า ซิลิก้าเจล (silica gel) เมื่อมีการดูดความชื้นเข้าไปถึงระยะเวลาหนึ่ง จะทำให้ประสิทธิภาพในการดูดความชื้นนั้นลดลง เพราะอย่างนี้แหละ ผมถึงให้ความสำคัญในการ เวคคัม ภายในระบบให้ดีที่สุด ก่อนจะเติมน้ำยาแอร์เข้าไปใหม่

    - เคยสังเกตุไหมครับ ว่าพวกขนมกรอบๆ ที่บรรจุในถุงทั้งหลาย ภายในถุงขนามนั้น จะมีซองเล็กๆ ข้างในจะมีเม็ดกลมเล็กๆ ใสๆ อยู่ เขียนระบุไว้ว่า ห้ามรับประทาน ซึ่งทำหน้าที่คอยดูดความชื้นของตัวขนมกรอบๆ ภายในถุง ลองสังเกตุดู ถ้าเราเปิดขนมกรอบถุงนั้นไว้แล้วทานไม่หมด ทิ้งไว้ซัก 2 ชม. แล้วมากินใหม่ ขนมมันจะไม่ค่อยกรอบเมื่อตอนเปิดถุงแรกๆ คับเนื่องจากความชื้นเขาไปสะสมในตัวขนมไงคับ

    เนี่ยแหละครับ คือหน้าที่หลักของตัวไดเออล์แอร์
    [​IMG][​IMG]

    สารทำความเย็นหลักๆ ที่ใช้มากภายในประเทศนะคับ (อ่านกันหน่อยนะคับ..ความรู้จิงๆ )
    น้ำยาแอร์ R12 ใช้กับรถที่ผลิตก่อนปี 1995 ,ตู้เย็นรุ่นเก่าๆ เป็นสารทำลายชั้นบรรยากาศโลกทำให้โลกร้อน

    อันนี้สำคัญมากๆ ต้องอ่านนะคับ โดยสารนี้เป็นส่วนประกอบของยาสลบที่ใช้ทางการแพทย์ เคยสังเกตุไหมครับว่าขับรถไปนานๆแล้ว รู้สึกง่วงนอน แต่พอเปิดกระจกให้อากาศภายนอนเข้ามาถ่ายเทแล้วปิดกระจกขับรถต่อ ก็ไม่รู้สึกง่วง เพราะอะไรถึงง่วง เนื่องจากระบบแอร์ในห้องโดยสารมีที่รั่วอยู่ เมื่อดมเข้าไปมากๆ แล้วจะทำให้ง่วงเหมือนยาสลบคับ ถึงต้องให้เปิดกระจกให้อากาศถ่ายเทแทน พวกที่เปิดแอร์นอนในรถแล้ว ตายคารถก็เพราะดมเข้าไปเยอะ ในการผ่าตัดรักษานั้น ทางหมดเขาจะให้ยาสลบในจำที่น้อยที่สุด ยาสลบให้มากไปก็ทำให้ตายเหมือนกัน หลับไม่ตื่นอะคับ
    สังเกตุรถยุโรปดูคับ แถวปุ่มควบคุมแอร์นั้นจะมีอยู่ปุ่มหนึ่ง ทำหน้าที่เปิดปิดให้อากาศภายนอกเข้ามาปะปนกับช่องแอร์ เป็นรูป วงกลม อะคับ โดยถ้ากดปิดไม่ให้อากาศเข้าแล้ว 10 นาที ปุ่มมีจะเปิดให้อากาศเข้ามาโดย auto (ใครเคยใช้รถ benz จะรู้คับต้องกดให้มันปิดเรื่อยๆ เพราะเหม็นกลิ่นควันท่อไอเสียที่มันเข้ามาในห้องโดยสาร) อันนี้ทางผู้ผลิตรถยนต์เข้าป้องกันคนขับหลับใน

    R134a ใช้กับรถที่ผลิตหลังปี 1995 ,ตู้เย็นรุ่นใหม่ๆๆ สารตัวนี้ทำให้พื้นโลกร้อน ( แรกๆที่อเมริกา ผู้ผลิต R134a นี้ ได้มีข้อควรระวังในการใช้ บริเวณข้างกล่องใส่ถังน้ำยา เขียนตัวหนังสือเล็กๆ ระบุไว้ว่า ผู้ชายถ้าสูดดมสารนี้เป็นจำนวนมาก อาจมีสิทธิเป็นหมันได้

    R22 ใช้กับแอร์บ้าน (ไม่สามารถใช้กับระบบแอร์รถได้ มันจะไปกัดกร่อนโอริง,สายยางท่อแอร์ทำให้รั่วได้ และแอร์เย็นไม่ดี) ,เครื่องอุตสหกรรมขนาดใหญ่

    เวลาเพื่อนไปเติมน้ำยาแอร์นั้น ก็สังเกตุ สีของถังน้ำยาด้วยละกันว่า เป็นถังน้ำยาสีเดียวกับระบบของแอร์รถเราหรือเปล่านะคับ

    ช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้ น้ำยาแอร์ที่เราใช้กันไม่ว่าจะเป็น แอร์บ้าน,แอร์รถนั้น จะนำเข้ามาหลากหลายประเทศ อเมริกา,ญี่ปุ่น,อังกฤษ,อินเดีย และอีกหลายๆประเทศ สังเกตุไหมครับว่า ช่วงหลัง 2-3 ปีนี้ บางทีไปเติมน้ำยาแอร์ร้านนี้แล้วเย็น เติมอีกร้านหนึ่งทำไมไม่ค่อยเย็น ทั้งที่ขั้นตอนในการเติมน้ำยานั้นเหมือนกันทุกอย่าง เนื่องจากว่า มีน้ำยาแอร์จากประเทศจีนนั้นเข้ามาขายปะปนอยู่ภายในประเทศ ซึ่งราคามันถูกกว่าของประเทศผู้ผลิตจริง

    ถามว่าน้ำยาแอร์นั้นก็เหมือนกันนิ แล้วจากจีนไม่ดียังไง? ก็ขอตอบว่าดีครับ ดีที่สามารถเติมในระบบแอร์รถได้เหมือนกัน แต่คุณภาพนี้สิสำคัญ เนื่องจากกระบวกการผลิตน้ำยาแอร์นั้น มันมีหลายขั้นตอนของประเทศจีนนั้น ขั้นตอนการผลิตนั้นยังไม่ได้มาตาฐานพอ เพราะส่วนผสมของสารอื่นปะปนมา จึงทำให้ทำความเย็นได้ไม่ดีเท่าที่ควร

    มีลูกค้าที่บริษัทฯ นำถังน้ำยาแอร์ R12 มาให้ผมใช้เครื่องเช็คดูว่าเป็น น้ำยาแอร์ R12 แท้หรือเปล่าซึ่งมีคนมาขายให้ที่ร้าน ราคาถูกกว่าท้องตลาดนิดหน่อย

    (ผมใช้เครื่องตรวจน้ำยาแอร์ เพื่อแยกส่วนประกอบของน้ำยาตัวนั้นๆ ว่ามีอะไรปะปนมั่ง )ปรากฎว่ามี
    R12 - 74%
    R22 - 12%
    R134 - 3%
    Air - 9%
    Hc - 2%
    ก็ว่าทำไมมันน้ำยาแอร์ ของประเทศจีน มันถูกจังวะ
    อย่างที่ผมบอกไว้ในกระทู้แรกๆ ไงครับว่า ถ้าจะเติมน้ำยาแอร์นั้น พยายามหาร้านที่ดูแล้ว น่าเชื่อถือได้ จะได้ไม่ต้องมาเสียตังค์เติมน้ำยาอยู่บ่อยๆ
    ตอนนี้น้ำยาแอร์ R12 ที่ได้คุณภาพที่สุด และผลิตได้เป็นที่สุดท้ายของโลกนี้ คืออินเดียคับ ไม่เกิน 5 ปีก็ต้องเลิกผลิตแล้วครับ เพราะสาร CFC ทำลายชั้นบรรยากาศโลก ดูไม่ออกหลอกครับว่าร้านไหน,ถังน้ำยาถังไหนเป็นน้ำยาแอร์ของอินเดีย ช่างซ่อมแอร์เขาก็ไม่ทราบเช่นกัน คือ.....อันนี้แล้วแต่ดวงท่านแล้วอะคับ

    รูปของคอยล์ร้อน ของ ES นะครับ

    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ปล. เครดิต K.enforce ครับ แหล่งที่มา http://rcweb.net/forums/showthread.php?t=88171
     
    แก้ไขล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 มกราคม 2007
  20. Hondata

    Hondata Active Member Member

    348
    57
    28
    รูป-ขนาดเอาไว้ตัดสติกเกอร์แปะพวงมาลัย กุญแจและกุญแจสำรองหั้ยเป็น H แดงครับ

    เอามาจากไหนจำไม่ได้แล้วครับ เอาเป็นว่าขออณุญาติเจ้าของนำมาลงเเล้วกันนะครับ



    ปล.ถึงเพื่อนๆที่โพสdiyไว้ด้านบนถ้ารูปใหญ่มากๆ แนะนำหั้ยโพสกระทู้ละรูปหรือ2รูปดีกว่านะครับ

    อันนี้ได้รับการวิจัยจากพี่นัท-vti แห่งกระทู้ระบายเเล้วว่าสามารถเปิดได้เร็วกว่า:D
     
    แก้ไขล่าสุดโดยผู้ดูแล: 23 มกราคม 2007
  21. BASLER

    BASLER Member Member

    132
    9
    18
    Upgrade ยางปัดน้ำฝนเป็นแบบ "ซิลิโคน"

    นำเสนอโดย : เก่ง CAR HI-END

    เนื่องจากช่วงนี้ฝนตกบ่อยมาก และที่ปัดน้ำฝนจึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มทัศน วิสัยในการขับขี่

    เพราะถ้าที่ปัดน้ำฝนที่ยางเสื่อมสภาพนั้น นอกจากจะปัดน้ำฝนไม่หมดแล้ว ยังเกิดเสียงดังน่ารำคาญ หรือในบางกรณีอาจทำให้กระจกหน้าเป็นรอยได้ครับ ตลอดจนมองไม่เห็นทางในยามฝนตกหนักด้วยครับ

    ในปัจจุบันมีของแต่งรถทะลักเข้ามาขายในบ้านเรามากมาย และที่สำคัญราคาถูกกระเป๋าของพวกเรายิ่งนัก

    ดังนั้นการ DIY upgrade ยางที่ปัดน้ำฝนเป็นแบบซิลิโคนนั้น มีค่าใช้จ่ายแค่ชุดละ 80 บาทเองครับ เป็นของยี่ห้อ Carlife มีขนาดความยาว 22 นิ้ว ใน 1 กล่องจะมีมา 2 เส้น สำหรับใส่ก้านปัดน้ำฝน 1 คู่ และเท่าที่ทราบมาบางร้านหรือบางห้างขายชุดละ 300-500 บาทเลยนะครับ นี่เราจ่ายแค่ 80 บาทเอง ไม่ขำก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว

    การ Upgrade ยางปัดน้ำฝนเป็นแบบ "ซิลิโคน" ทำได้ดังนี้

    เริ่มจากก้านปัดน้ำฝนตัวอย่างที่ต้องการนำมาเปลี่ยนย างใหม่

    ลองสังเกตให้ดีนะครับว่าจะมีอยู่ฝั่งหนึ่งที่ยางปัดน้ำฝนจะมีร่องเอาไว้รับกับขาล๊อกของก้านปัดน้ำฝนครับ

    ส่วนยางอีกฝั่งหนึ่งจะไม่มีร่องอะไรล๊อกไว้เลย สามารถเลื่อนไปมาได้ด้วยซ้ำ

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]

    จากนั้นก็ใช้ไขควงปากแบน งัดขาล๊อกให้อ้าขึ้น เพื่อเราต้องการจะเลื่อนยางปัดน้ำฝนออกมาจากก้านปัดน ้ำฝน

    เมื่อเลื่อนยางปัดน้ำฝนออกมาแล้ว จะพบว่าที่ยางปัดน้ำฝนนั้นจะมีเหล็กล๊อกอยู่ 2 เส้น

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]

    ให้นำเหล็กล๊อกทั้งสองเส้นมาประกบเข้ากับยางปัดน้ำฝน ตัวใหม่ที่ต้องการใส่เข้าไป

    ส่วนยางที่เหลือหรือเลยออกมาก็ให้ใช้คัทเตอร์ตัดทิ้ง ให้เรียบร้อยสวยงาม

    แล้วจึงร้อยยางปัดน้ำฝนเส้นใหม่เข้าไปในก้านปัดน้ำฝน ให้เรียบร้อยพร้อมใช้งาน

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]

    เก็บความเรียบร้อยด้วยการใช้คีมบีบขาล๊อกให้เข้าที่ก ับร่องยางให้เรียบร้อย

    เพื่อป้องกันมิให้ยางปัดน้ำฝนหลุดออกจากก้านปัดน้ำฝน

    เพียงเท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อยพร้อมใช้งาน

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]


    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ปล.เครดิตยกให้
    คุณเก่ง CAR HI-END แหล่งที่มาhttp://www.hondaloverclub.com/forums/showthread.php?t=243
     
  22. BASLER

    BASLER Member Member

    132
    9
    18
    Upgrade กระจกมองข้างด้วยฟิล์มกันน้ำ

    นำเสนอโดย : เก่ง CAR HI-END

    ในช่วงหน้าฝนบ่อยครั้งที่เราขับรถแล้วต้องใช้กระจกมอ งข้างในการขับขี่

    แต่ในกรณีที่ฝนตกนั้น กระจกมองข้างของเราอาจจะใช้ประโยชน์ได้ไม่เต็มที่ และในบางครั้งอาจจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ด้วยเช่นก ัน

    เหตุเพราะกระจกมองข้างของเราเต็มไปด้วยหยดน้ำที่เกาะ อยู่เต็มไปหมด จนทำให้ขาดทัศนวิสัยที่ดีในการขับขี่

    งานนี้ผมก็เลยไปซื้อฟิล์มกันน้ำเกาะ (เรียกกันตามภาษาชาวบ้าน) 1 กล่อง ถ้าซื้อเยอะหน่อย ราคาอยู่ที่กล่องละ 70 บาท

    และใน 1 กล่องจะมีฟิล์ม 2 แผ่น สำหรับกระจกมองข้างทั้งซ้ายและขวา

    เหมาะสำหรับท่านที่ไม่ต้องการใช้สเปร์ยเคลือบกระจก เพราะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากกว่านี้ และเหมาะสำหรับท่านที่ใช้รถทุกวันหรือขับรถเป็นระยะท างไกลๆ ซึ่งอาจจะต้องเจอกับสภาวะอากาศหลายหลากรูปแบบ

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]

    การ Upgrade กระจกมองข้างด้วยฟิล์มกันน้ำ ทำได้ดังนี้

    เริ่มต้นด้วยการทำความสะอาดกระจกมองข้างของเราก่อน

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]

    หยิบแผ่นฟิล์มกันน้ำขึ้นมา โดยเอาด้านที่มีตัวอักษร F ที่อยู่ในวงกลมเป็นด้านหน้า

    [​IMG]

    ลอกแผ่นฟิล์มออกมา

    [​IMG]

    หลังจากลอกแผ่นฟิล์มออกมาแล้ว จะสังเกตเห็นว่าด้านหลังแผ่นฟิล์มนั้นเป็นเนื้อกาว

    [​IMG]

    ให้ใช้น้ำยาเช็ดกระจกฉีดเข้าไปที่ด้านหลังแผ่นฟิล์มน ี้ และให้ใช้น้ำยาเช็ดกระจกฉีดที่กระจกข้างของเราด้วย

    [​IMG]

    จากนั้นก็นำแผ่นฟิล์มกันน้ำไปแปะเข้ากับกระจกข้าง แล้วก็ปรับตำแหน่งที่ต้องการ

    [​IMG]

    หลังจากได้ตำแหน่งที่ต้องการเรียบร้อยแล้ว ให้ใช้แผ่นพลาสติกของ TOTO ที่มีมาในกล่องด้วย ช่วยรีดและไล่น้ำยาเช็ดกระจกออกจากใต้แผ่นฟิล์มให้หม ดเกลี้ยง

    [​IMG]

    หลังจากนั้นก็ทำความสะอาด โดยใช้ผ้าสะอาดเช็ดอีกครั้ง

    [​IMG]

    หาซื้อได้ที่ร้าน Auto Shop อยู่แถวคลองถมพลาซ่า แต่เป็นร้านที่เปิดใหม่แถวๆ แฟลตที่เพิ่งทุบทิ้งอะคร้าบพ้ม


    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ปล.เครดิตยกให้
    คุณเก่ง CAR HI-END แหล่งที่มา http://www.hondaloverclub.com/forums/showthread.php?t=194
     
  23. Aop_ES

    Aop_ES New Member Member

    48
    0
    0
    ขั้วต่อสาย front 2 din ของ civic 2001 ครับ เผื่อใครจะเปลี่ยนฟร้อนท์เอง
    ไม่แน่ใจว่าเหมือน 2003 ด้วยหรือเปล่า แต่คิดว่าไม่น่าต่างกัน :p
     
  24. Aop_ES

    Aop_ES New Member Member

    48
    0
    0
    ตั้งไฟหน้าให้กับ civic es กันเถอะ

    ภาพที่ใช้ เอามาจาก http://www.7thgencivic.com/forums/showthread.php?t=152358 เป็นกระทู้ตั้งไฟของ civic es ของต่างประเทศ ที่ผมเซพไว้นานแล้ว (และกระทู้นั้นก็อันตรธานไปแล้วด้วย) และได้ทำการแก้ไขเล็กน้อย เพื่อให้เข้าใจง่ายยิ่งขึ้น

    อุปกรณ์ที่ต้องใช้
    1. ไขควงแฉก (ด้ามกลมยิ่งดี เหลี่ยมก็ได้)
    2. ผ้าห่ม ผ้าเช็ดตัว ไว้ใช้คลุมโคมไฟหน้า เพื่อตั้งไฟทีละข้าง มองงายกว่า
    3. ตลับเมตร ยาว ๆ 5 เมตร+
    4. รถของท่าน
    5. คนทำ :D
    6. ลานจอดรถ หรือกำแพง อะไรก็ได้ ที่มีที่กว้าง ๆ + มืด (ระวังโดนตีหัวด้วยล่ะ)
    7. เกือบลืม กระดาษกาว


    เริ่มกันเลย อู้นานละ ดูจากภาพประกอบนะครับ
    เริ่มแรก จอดห่างกำแพงประมาณ 10 เมตร (หรือ 5 เมตรก็ได้ ถ้าตลับเมตรหรือที่ไม่พอ) ตามรูปที่ 1 หันหน้าตรงเข้าหากำแพง อย่าจอดเอียง

    รูปที่ 2 วัดความสูง จากพื้นถึงกึ่งกลางโคม (ระดับหลอดไฟนั่นแหละ) และจากกลางตัวรถ ถึงกลางโคม จด ๆ ๆไ ว้

    จากนั้น ก็ไปวัด ๆ ที่กำแพง ตามรูป 3 โดยให้เส้นแนวนอนสูงจากพื้นเท่ากับระดับโคมไฟหน้า ลบด้วย 13 เซนฯ (หรือ 6.5 เซนฯ ถ้าจอดห่างกำแพง 5 เมตร) เอากระดาษกาวแปะไว้เป็นเส้นอ้างอิง
    ... จากนั้นลากเส้นจากกึ่งกลางรถไปยังกำแพง แล้ววัดซ้ายขวาให้เท่ากับระยะห่างของโคมไฟหน้าถึงจุดกลางรถ แล้วแปะเส้นตั้งฉาก .. ทีนี้เราก็ได้จุดกึ่งกลางโคมมาแล้ว 2 จุด (รูป 3 มุมยกของแสงฝรั่ง เส้นสีส้ม ตรงข้ามกับบ้านเรานะจ๊ะ)

    รูป 4 ตั้งความสูงของไฟหน้าแต่ละข้าง เอาไขควงแฉกแหย่ไปที่เฟืองข้างล่าง แล้วหมุน ๆ ๆ เอาตามลูกศรที่วงแดง ๆ ไว้ (อันนี้ไม่แน่ใจหมุนด้านไหน เพราะฝรั่งเขาบอกหมุนคนละทิศกับรถผม) เอาเป็นว่า ถ้าหมุนด้านไหนแล้วมันขึ้น หมุนอีกทางก็คือลงนั่นเอง 555

    รูป 5 ก็เช่นกัน เอาไขควงแยง ๆ ไปที่รู (รูป 6) ปรับมุมซ้าย ขวา

    ปรับ ๆ ๆ ๆ จนได้แสงตามรูปที่ 7 ก็เป็นอันเรียบร้อย (มุมยกของแสง ตรงข้ามกับบ้านเรานะจ๊ะ)

    ก็จะได้แสงดังรูปที่ 8 รถผมเอง 555 (ไม่รู้ผมจอดเอียง / ถ่ายเอียง/ กำแพงทาสีเอียง / ตึกเอียง หรือผมตั้งไฟไม่เท่ากัน 555)

    ปล. รถสีขาว ไฟซีนอน เป็นรถของฝรั่งเขานะครับ มุมยกของแสงไฟจะตรงข้ามกับบ้านเรา
    ปล.2 รูปที่ 8 แอบเทียบความสว่างของ Osram SilverStar กับ Philips VisionPlus ที่โฆษณาว่าแสง +50% ทั้งคู่ ผลเป็นไงดูเอาเอง อิอิ
    ปล.3 วิธีนี้ใช้กับรถเก๋งรุ่นอื่นได้ด้วยครับ แต่ต้องหาที่ปรับไฟเอาเองเน้อ สำหรับรถที่สูงกว่าปกติทั้งหลาย เช่นรถกระบะ อาจต้องปรับให้แสงกดลงมากกว่าปกติหน่อย เพื่อไม่ให้ไปแยงตาชาวบ้านเขา
     
  25. Plaruko

    Plaruko New Member Moderator

    558
    50
    0
    DIY : ค้ำฝากระโปรงหลังสำหรับคนที่ติดหางแล้วฝากระโปงมันหนัก

    ดูรูปของฝรั่งไปก่อนแล้วกันครับ
    เดี๋ยวถ้ารถผมซ่อมเสร็จจะทำบ้าง
    เพราะติดหางกับบุเก็บเสียงมา ทำให้มันหนัก เวลาเปิดฝาท้ายค้างไว้มันชอบร่วง
     
  26. BASLER

    BASLER Member Member

    132
    9
    18
    D.I.Y. H แดง บนพวงมาลัย

    ปกติ บนพวงมาลัยเราจะเป็น H ดำ แบบนี้นะครับ

    [​IMG]

    แต่ผมเคยเห็น พี่ๆในคลับ เปลี่ยนมาใช่ พวงมาลัยของ DC5 แล้วมี H แดงติดมาอยู่ ซึ่งเห็นแร้ว สวยดี ผมจึงคิด ที่จะลองทำมันขึ้นมา จะได้สวยๆเหมือนพี่ๆเค้ามั่ง (ไม่มีตังเปลี่ยน DC5)

    ขั้นตอนแรกเลยนะครับ

    1. นำกระดาษ A4 สีขาว หรือใครไม่สะดวก ก็เอากระดาษอะไรก็ได้ครับ ขาวๆ มา วางบน H ดำ ที่พวงมาลัย แล้วเอา ดินสอ แรเงา ตามรูปเลยครับ

    [​IMG]

    2.หลังจากได้ รูปตัวอย่าง H ดำมาเป็นแบบบนพวงมาลัยแร้ว ก็ถึงคราวเตรียมอุปกรณ์ครับ ตามรูปเลย

    [​IMG]

    วัสดุ ตามรูปนะครับ
    - กระดาษ A4 ที่เราได้แรเงาตัวต้นแบบมาแร้ว หาซื้อได้ทั่วไป
    - sticker สะท้อนแสง สีแดง ของ 3M หาซื้อได้ตามร้านขาย สติกเกอร์ใหญ่ๆครับ หรือแบ่งซื้อเศษเอา ตามร้านตัด sticker ได้ครับ
    - sticker สีเงิน ของหาโทนสีที่ใกล้เคียงกับของเก่ามากที่สุด ที่เดียวกันกับข้างบนครับ
    - sticker ใส เอาไว้แปะทับด้านบน เพื่อความเนียน
    - กรรไกร ,คัตเตอร์ ,กาว ,กระดาษลอกลาย ,กระดาษแข็ง ,ไม้บรรทัด

    3. ตัว H ที่เรา ได้แรเงามา ซึ่งมาถึงในตอนนี้ ให้เรา ใช้ไม้บรรทัด ขีดลงไปเป็นเส้นๆ เหมือนกับว่า เพิ่มความคมชัดในการทำงานได้สะดวก ทั้งทั้งตัว H แร้วก็ กรอบมันด้วยนะครับ ( ซึ่ง ตัว H มันจะมีด้าน ตรง กับด้าน โค้ง ลองทำดูครับ ตามรูป )

    [​IMG]
    [​IMG]

    4. นำกระดาษลอกลายมาวางทับลงบนแบบแล้วทำงานวากตามลงไปให้เหมือนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้นะครับ ตามรูป. ทำทั้ง 2 แบบตัว H และ ตัวพื้นที่จะทำสีแดง

    [​IMG]

    5. หลังจากนั้นก็ทำการ ตัดแบบออกมาจากกระดาษลอกลาย แล้วนำกาวมาแปะลงบนกระดาษแข็ง ( ซึ่งในขั้นตอนดังกล่าวนี้ ผมกะจะทำเป็นต้นแบบเผื่อเสีย จะได้ไม่ต้องมานั่งทำการลอกลายใหม่ ) สำหรับใครที่ไม่ต้องการทำแบบผม ข้ามขั้นตอนนี้ไปได้เลยครับ ตัดแปะลงบน Sticker เลยก็ได้นะครับ ตามสะดวกเลยครับ จะได้ภาพ ดังรูป.

    [​IMG]
    [​IMG]

    6.รอสักพักให้ตัวกาวมันแห้ง หลังจากนั้นให้ทำการ ตัดออกมาจะได้เป็นแบบดังนี้ครับ รูป.

    [​IMG]

    7. วางแบบที่เราได้นำมาตัดนั้นบน sticker เลยครับ H ก็ สีเงิน พื้นแดงก็สีแดงเลยครับ วาดตามลงไปเลย ตามรูปครับ

    [​IMG]
    [​IMG]

    8. หลังจากนั้นทำการตัดออกมา แล้วก็เอาตัว H ที่เป็ฯสีเงินนั้นมา ทาบลงบน พื้นที่สีแดงที่เราได้ตัดมาด้วยกัน ว่าพอดีกันมั้ย ตรงไหนไม่เนียน ไม่เนี๊ยบก็ทำการตัดแต่งตาม สะดวกเลยครับ พอได้ที่แร้วก็เอา น้ำยาเช็ดกระจกฉีกลงบน sticker สีแดงที่เราได้ตัดมา จากนั้น ลอก ตัว H ที่เราได้ตัดมาแปะลงไปเลยครับ เลื่อนให้ตรงใจตามที่เราต้องการ และเอานามบัตรแข็งๆ กรีดเพื่อไล่น้ำออกเลยครับ เอาไดร์ทเป่าให้พอแห่งหรือ ทิ้งไว้สักพักก็ได้ครับ จะได้ตามรูป

    [​IMG]

    9. หลังจากนั้น พอแห้ง ให้หาหนังสือหนาๆ หรือ หนังสือ พจนานุกรมก็ได้ครับ สอดแล้วทับไว้เลย ทิ้งไว้สักพักเพื่อให้มันเรียบๆหน่อย แร้วค่อยเอาออกมา จากนั้น นำSticker ใบ ตัดแปะไปเลยครับ ขั้นตอนการแปะลงไป เหมือนกันกับตอนแปะ ตัว H เลยครับ หลังจากนั้น รอจนแห้ง แร้วตัดแต่งขอบให้ เหมาะสม แร้วก็เอาไปสอดไว้ในหนังสืออีกเช่นเคย

    10. จากนั้นมาถึงการติดแร้วครับ ตื่นเต้น ^^'ให้เรานำ ตัว H แดงที่เราทำเสร็จแร้วนั้น ลองมาเทียบดูว่า ตรงไหน ใหญ่ไปรึป่าว ตัดแต่งให้เหมาะสม แต่สมควรครับ จากนั้นทำความสะอาด ตัว H ดำที่พวงมาลัยของเราซะก่อน จากนั้นให้ใช้น้ำยาเช็ดกระจกฉีดลงไปเลยครับ แล้วแปะทับเลยไปเลย เคลื่อนให้ตรงตามใจต้องการ เอานามบัตรกรีด พร้อมกับเอาผ้าเช็ดทำความสะอาดน้ำยาที่มันไหลออกมาเลยครับ เอาไดร์ ค่อยๆเป่าเพื่อให้มันแห้ง ดังรูปครับ

    [​IMG]

    เสร็จสมบูรณ์พร้อมความ อิ่มเอิบใจครับ ^^"


    [​IMG]
    [​IMG]

    ปล. ทำเพื่อความสวยงาม โดยส่วนตัวครับ ทำแร้วรู้สึกสบายใจครับ ไม่ได้ดีเด่น ดูโอ้อวดใครครับ ^^"
     
    แก้ไขล่าสุดโดยผู้ดูแล: 13 กุมภาพันธ์ 2007
  27. BASLER

    BASLER Member Member

    132
    9
    18
    ป้ายทะเบียนหน้า-หลัง

    อุปกรณ์

    1. แผ่นอคิลิก 1 แผ่น
    2. กาว 2 หน้า 3M
    3. กาวตราช้าง
    4. สว่าน เจาะรู
    5. คัดเตอร์
    6. ไขควง คีมหนีบ..
    7. ไม้บรรทัดเหล็ก
    8. ดินสอ ปากกา

    ได้อุปกรณ์ครบแล้วก็เริ่มเลยครับ เอาหนังสือ Tuned by มาดูเป็นแบบด้วย

    [​IMG]

    ป้ายทะเบียนหน้า


    1. ถอดป้ายทะเบียนเดิมออกของ civic 2005 มี 1 รู

    [​IMG]

    2. นำกาว 2 หน้า ติดป้านทะเบียนครึ่งป้าย (ติดส่วนที่นูนอย่าติดตรงตัวอักษร)

    [​IMG]

    3. ดัดป้ายทะเบียนให้โค้งตามด้วยนะ แล้วติดป้ายทะเบียนเข้าไป กะให้ตรงกลางละ

    ป้ายทะเบียนหน้าเสร็จละ

    [​IMG]

    ป้ายทะเบียนหลัง

    1. ถอดป้ายทะเบียนเดิมออก

    [​IMG]

    2. ตัดแผ่นอคิลิก ใช้คัดเตอร์ตัดย้ำๆ ประมาณ 35.4 ครั้ง(ประมาณนั้นเลย..ทีเดียว) แล้วหักนะครับ

    [​IMG]

    3. ใช้สว่านเจาะรูให้สามารคใส่น๊อตยึดได้ (ใช้หัวสว่านเล็กก่อนนะเดี๋ยวแผ่นร้าว)

    [​IMG]

    4. เอาแผ่นไปติดกับหลังรถ ขันน๊อตพอประมาณ (ขูดแผ่นตรงกลางด้วยนะ)

    [​IMG]

    5. ตัดแผ่นอคิลิดเล็กๆอีกอัน เอาไขควงขูดให้เป็นลอย

    [​IMG]

    6. นำไปติดกับแผ่นใหญ่ โดยใช้กาวตราช้าง

    [​IMG]

    7. ติดกาว 2 หน้า แล้วแต่ชอบ ชอบลายไหนติดลายนั้น...

    [​IMG]

    8. นำป้ายทะเบียนมาติด เป็นอันเสร็จใช้เวลา หน้า - หลัง 2 ชั่วโมงครึ่งก็ OK ละ

    [​IMG]

    เสร็จเรียบร้อยอันนี้เหนื่อยหน่อยเพราะใช้หัวคิดด้วย...เหอะๆ

    [​IMG] [​IMG]


    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ปล. เครดิต คุณ tae_civic
     
  28. tae_civic

    tae_civic New Member Member

    43
    2
    0
    วิธีใส่ไฟเลี้ยวส้ม LAMP UNIT 34301-S5A-013

    อุปกรณ์
    Lamp Unit 2 ข้าง

    1. เบิกไฟเลี้ยวจากศูนย์ Honda รุ่น Odasy ประมาณ 200 กว่าบาท

    [​IMG]

    2. วิธีถอดดันไปด้านหน้า แล้วยกด้านหลังขึ้น

    [​IMG]

    3. ถอดของเดิมออก เปลี่ยนไฟเลี้ยวส้ม

    [​IMG]

    4. ใส่กลับที่เดิม ดันหน้าเข้าแล้วกดหลัง


    [​IMG]
     
    แก้ไขล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 กุมภาพันธ์ 2007
  29. TAWEEC

    TAWEEC New Member Member

    6
    0
    0
    วิธีเปลี่ยนกระจัง ถอดกันชน

    วิธีเปลี่ยนกระจัง ถอดกันชน ภาษาไทยดูง่ายครับ
     
  30. TAWEEC

    TAWEEC New Member Member

    6
    0
    0
    วิธีถอดคอนโซน

    วิธีถอดคอนโซน ภาษาไทยดูง่ายเหมือนเดิม แต่ทำจริงง่ายหรือเปล่าไม่รู้นะ:D :D
     
< Previous Thread | Next Thread >

แบ่งปันหน้านี้