คือว่าตอนนี้แบตของผมใกล้หมดแล้วอยากจะเปลี่ยนใหม่ พอจะช่วยแนะนำได้บ้างไหมครับว่าควรจะใส่ขนาดไหน แบตเตอร์รี่แบบแห้งหรือแบบน้ำดีครับ มันแตกต่างกันหรือมีข้อดีข้อเสียอย่างไร ราคาประมาณเท่าไหร่ครับ
45 แอมป์เท่าเดิมนั่นแหละคับ...ส่วนจะเล่นแบบแห้ง (Maintenance Free) หรือแบบน้ำก็ขึ้นอยู่กับการดูแลเอาใจใส่อ่ะ เพราะถึงจะเป็นแบบแห้งก็ใช่ว่าจะปล่อยปละละเลยได้ทีเดียวซะเมื่อไหร่ มันก็ยังต้องตรวจดูระดับน้ำกลั่นอยู่ดี เพียงแต่ความถี่มันจะน้อยกว่าแบบน้ำคับ พูดง่ายๆ ว่า... -แบบน้ำ ถูกกว่า (ตอนนี้ถูกสุดก็น่าจะประมาณ 1,5xx บาท) แต่ต้องหมั่นเช็คระดับน้ำกลั่นบ่อยๆ -แบบแห้ง (จริงๆ ก็ไม่ได้แห้งสมชื่อหรอก) แพงกว่า แต่การระเหยตัวของน้ำกลั่นต่ำกว่า ทำให้ไม่ต้องคอยเต็มบ่อยๆ เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยได้ตรวจเช็ครถบ่อยๆ อ่ะ...แต่ถ้าเป็นแบบแห้งจริงๆ ที่พวกรถติดเครื่องเสียงชอบใช้นี่ว่ากันที่ 6,xxx อ่ะ คร่าวๆ ก็ประมาณนี้อ่ะคับ ยังไงรอฟังความเห็นพี่ๆ ท่านอื่นอีกทีละกัน
ตามนั้นเลยครับ..แต่เท่าที่รู้ตอนนี้แบตเตอรี่ราคาขึ้นเรื่อยๆล่าสุดจะขึ้นอีกประมาณ 30% ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ขึ้นไปแล้วและข่าวมาว่าจะปล่อยราคาลอยตัวเพราะเนื่องจากเราไม่นำเข้าตะกั่วแล้วจึงต้องใช้ของในประเทศซึ่งมีจำนวนจำกัดและค่อนข้างราคาสูง....อันนี้ทราบมาจากข่าวและจากร้านค้าแบตเตอรี่ที่เคยไปเปลี่ยนมาครับ....เล่าสู่กันฟัง...
เพิ่มเติมให้หน่อยครับ เวลาขายแบตขาว (ภาษาร้านรับซื้อของเก่า) คือแบตน้ำ ราคาที่เขารับซื้อจะแพงกว่า แบตดำ (maintenance free) แล้วแบตแบบน้ำ จะมีอายุการใช้งานนานกว่า หน่อยนึงครับ
ตามนั้นครับ รุ่นเราเพิ่มขนาดไม่ได้ ถ้าเพิ่มต้องเอาไว้ข้างหลัง ยุ่งยากครับ ราคาที่ผมเปลี่ยนล่าสุด ม.ค. 51 แบตน้ำ 1,600 รวมเทริ์นของเก่า บางร้าน 1,900 - 2,000.- แล้วแต่ร้านนะครับ ลองถามๆ ดู ส่วนแบตแห้งถ้าไม่ใช่แบบแห้งแท้ๆ อายุการใช้งาน ประมาณ 1 ปีครึ่ง ไปแล้วครับ ผมติดเครื่องเสียงไม่เยอะนะ แอมป์ 4 ch ขับลำโพงหน้าหลังเท่านั้นเอง แต่ยอมรับราคาแบตสูงกว่าเดิมเยอะมากๆ
ตอนนี้พวกผมซื้อแบตที่ติดหัวรถยี่ปุ่นใช่กันเพราะมันลูกเล็กดีเบาด้วย มีทั้งแบบแห้งและน้ำ ถูกกว่าซื้อแบตบ้านเราอิอิ หรือใครสนใจโทรมาถามได้ 089-5319829 เก่ง + อ้างถึง ตอบกลับ