สวัสดีครับ ผมขับอีโว 2 ขับสี่ครับ เครื่องก็เดิมๆ แต่มี e-manage กะเปลี่ยนปั๊มติ๊กเป็น 2J ทำไว้ปรับบูสต์ขึ้น เล่นๆ นิดหน่อยครับ หลังจากที่ลองขับดู มันรู้สึกแปลกๆ เลยจะลองถามว่ามันแปลกรึป่าวครับ 1.ผมลองเพิ่มบูสต์ขึ้นมาเรื่อยๆ จาก 1.0-1.1-1.2 รู้สึกว่าช่วง 1.1-1.2 มันดึงดีมาก แต่พอช่วง1.2-1.3 ทำไมรู้สึกว่ามันดึงเอื่อยๆ เป็นเพราะผมชินกะอาการดึงหรือว่า เทอร์โบของอีโวสองมันมีจุด peak อยู่แถวๆ นั้นครับ เกี่ยวกันไหมครับ 2.ผมขับมาเรื่อยๆ ที่รอบสักสองพันห้า จากนั้นก็กดคันเร่งเต็มที่ มันก็รู้สึกดึงแบบเอื่อยๆ อีกแล้ว ลากไปสักหกพันรอบ ลองสับเข้าสี่ มันถึงดึงแบบที่ควรจะเป็น ซึ่งปกติแล้ว เกียร์สูงกว่ามันไม่น่าจะรู้สึกว่าดึงกว่าเกียร์ต่ำกว่านะครับ แปลก 3.ก็เลยลองอีกที คราวนี้ขับแช่ที่เกียร์สาม แต่ขยับมาที่สี่พันรอบ พอกดคันเร่งลงไปมิดทันที คราวนี้รู้สึกดีกว่า เริ่มแบบข้อสอง มันพุ่งกว่าเห็นๆ วัดกันที่รอบเท่าๆ กัน เช่น ห้าพันรอบ ทำแบบข้อ 2 กะ ข้อ 3 ทำไมมันดึงต่างกันครับ 4.ตอนนี้ผมใช้ล้อ 17 นิ้วครับ อยากรู้ว่า ถ้าเปลี่ยนเป็น 15 นิ้ว อัตราเร่งมันจะดีกว่ามากน้อยขนาดไหนครับ เท่าที่กล่าวมา มันมาจากความรู้สึกครับ เพราะผมไม่สามารถเอารถไปแข่งหรือขึ้นไดโนได้ เลยใช้วิธีมาถามเอาจากพี่ๆ ที่มีประสบการณ์มากดีกว่าครับ แค่อยากรู้ว่ามันแปลกรึป่าวครับ ขอบคุณครับ
E-MANAGEจูนไว้ทีบูสเท่าไหร่ครับ ไม่ควรเพิ่มจากที่จูนไว้มาก เพิ่มแค่0.2 ก็น่ากลัวแล้วนะ อาจจะทำให้เครื่องพังได้เลยนะ เทอร์โบ EVO1-3 จุดดีที่สุดในการทำลมน่าจะประมาณ1.2บาร์(จากPROFILE ของเทอร์โบ) ถ้าขยายท่อOUTLET อาจจะทำให้จุดที่ดีที่สุดบูสอาจจะขยับขึ้นไปอีกหน่อย แต่ที่เค้าบูสกันมากกว่านั้น คืออาศัยแรงถีบในช่วงบูสฟาด ทำให้รถเวลาดีขึ้นในการแข่ง แต่ถ้าไล่รอบบนถนนผมว่ามันไม่มีประโยชน์ที่จะทำ ทำลายเทอร์โบ ทำลายเครื่องเปล่าๆ แต่จะบูสเพิ่ม อากาศเพิ่ม น้ำมันก็ต้องเพิ่มนะครับ ดังนั้นต้องจูนใหม่นะครับ
ก้องตอบไว้ชัดเจนดีมากครับ เท่าที่อ่าน รถคุณน่าจะปกติครับ เพียงแต่ยังไม่เข้าใจคาแร็คเตอร์ของรถเรา และขับไม่ถูกจังหวะเท่านั้นเอง 1. คำถามข้อนี้ ถือว่าปกติมากครับ ถ้าท่อไอดี-ไอเสีย เดิม ไม่ได้ออกแบบใหม่ TD05L จะหมดที่ 1.2 บาร์ครับ 2-3. เกียร์สี่ เป็นเกียร์ที่มี Ratio Gear เหมาะสมกับรอบเครื่องยนต์ ที่ปกติจะสับเข้าเกียร์ 4 รอบต้องมี 3500 รอบขึ้น ฉะนั้น จึงเป็นเรื่องปกติที่บูสท์จะติดไวกว่า ใช้รอบเครื่องได้กว้างกว่า กวาดยาวกว่า สำหรับ 63T ทำให้สามารถเรียกแรงบิดที่เกียร์ 4 ออกมาใช้งานได้ดีกว่า เกียร์3 ครับ เรียกว่าเกียร์4 เป็นเกียร์ที่ถ้าขับเป็น จะเดินได้ดีที่สุดครับ ยิ่งสับ3 เข้า 4 ที่ 6000-6500 ถือว่าเป็นการใช้งานช่วงพีคของเทอร์โบ ถ้าต่อเกียร์ไวและดี จะดึงสนุกแบบนี้แหละครับ 4. ใส่ขอบ 15 รถจะกวาดเร็วกว่าขอบ 17 แบบคนละเรื่องครับ แต่ความเร็วปลายอาจจะตกลงซักหน่อย แต่ไม่ใช่ปัญหา จากประสบการณ์ผม จุดทำงานและการตอบสนองของเทอร์โบ จะสัมพันธ์กับ รอบเครื่อง+รอบเกียร์ โดยตรงเลยครับ ผมหมายถึง เราต้องรู้ คาแร็คเตอร์ ของรถเราก่อน ว่าใช้ปากเทอร์โบเท่าไร โข่งหลังขนาดเท่าไร ชนิดใบ และชนิดเทอร์โบ จุดทำลมได้เท่าไร จุดพีคสูงสุดเท่าไร และบูสท์ติดเมื่อไร เต็มเมื่อไร Power Band เป็นอย่างไร แล้วจะพอทราบคาแร็คเตอร์ของรถเราได้คราวๆ จากนั้น เราจะมามองถึงรอบเครื่องและรอบเกียร์ ว่าจะขับรถเราอย่างไร ให้เทอร์โบทำงานสัมพันธ์กับเครื่องยนต์ ยิ่งรถที่หวังเอาเวลาลงซัก 1 วินาที ต้องมองละเอียด ถึงเรื่อง Ratio Gear ด้วย ว่าเรียงเกียร์ 1-2-3-4 เท่าไร Final Ratio เท่าไร มี Limited Slip หรือไม่ อีก และต้องมองขนาดความจุ ซี.ซี ของเครื่อง และองศาจุดระเบิด และระยะยกของแคมอีก พื้นฐานเครื่องเหล่านี้ จะทำให้คาแร็คเตอร์ และวิธีการขับของรถเปลี่ยนไปเลยทีเดียวครับ อย่าง Colt Kiity ของเสี่ยช้าง ตอนทำเป็น 2.4 เทอร์โบโคตรโต อาจจะมองวิ่งบนถนนคงลำบากมาก แต่เมื่อมีการเซ็ทพื้นฐานเครื่องยนต์เหมาะสม มันขับบนถนนง่ายมากเลยครับ แถมแรงระดับ 10 วิต้นๆ
ขอบคุณพี่ๆ ทั้งสองท่านด้วยนะครับ ที่ให้ความกระจ่างกับผม ผมจะลองไปปรับปรุงการขับดูครับ ผมขออนุญาตถามอีกข้อนะครับ เพื่อเป็นประโยชน์ในการปรับปรุง ปกติผมจะขับรถ NA เครื่อง 2000 มากกว่าอีโวครับ เวลาขับเกียร์สี่มาเรื่อยๆ สัก 60-70 km/h แล้วเจอไฟกำลังจะแดง ผมก็มักจะเร่งไปเลย ไม่ได้เชนเกียร์ลง พอไปขับอีโว เจอเหตุการณ์เดียวกันนี้ ไม่เชนเกียร์เหมือนกัน เทอร์โบมันก็บูสต์ แต่รู้สึกว่า อัตราเร่งมันไม่ดีอย่างที่คิด เมื่อเทียบกับเจ้า NA แสดงว่าความจริงผมควรจะต้องเชนเกียร์ลงก่อนใช่ไหมครับ สำหรับการขับเครื่องเทอร์โบ คือจะคิดว่ายังไงก็บูสต์เท่ากัน เชนเกียร์กับไม่เชนเกียร์ ก็บูสต์ 1.2 เท่ากันไม่ได้ใช่ไหมครับ ขอบคุณครับ
ใช่แล้วครับ รถ N/A จะแรงแรงบิดที่รอบต่ำ ได้เร็วกว่า เนื่องจากระบบทางเดินอากาศสั้นกว่ามาก และเป็นระบบดูด ฉะนั้นรถเทอร์โบ ยิ่งเป็น AWD ต้องสับเกียร์ เรียกรอบให้สัมพันธ์กับเทอร์โบ จึงจะได้แรงบิดมาใช้งานครับ แต่ทำบ่อยๆ มักจะพัง ครับ 555.. ถ้าไม่รีบมาก ก็ขับๆแบบรอรอบไปนั้นแหละครับ พังน้อยที่สุด