สวัสดีค่ะพี่อ๊อด และพี่ๆทุกคน...จำกันได้เป่าเนี่ย มะเหมี่ยวไม่ได้เข้ามานานเลย......เหอๆ งานยุ่งๆ ความจริงเหมี่ยวก็ว่าจะขายลูกรักเหมือนกันนะคะเนี่ย อยากจะได้รถ 4 ประตู จะได้อัดกันไปได้เยอะๆ แต่พอจะไปดูรถใหม่ทีไร ลูกก็งอแงทุ๊กที... ครั้งแรก...ไปโชว์รูมTOYOTA จอดไว้ลืมใส่เบรคมือ ลูกน้อยใจไหลไปชนกำแพง !! สีถลอกนิดหน่อย หลังจากนั้น 1 วัน ขับเอง ไหลไปชนตุ๊กๆ หน้ายุบไปนิดนึงเลย ตอนนี้ยังไม่ได้ทำเลย เหอๆ อีกวัน...จะไปโชว์รูมอีก หม้อน้ำระเบิดซะงั้น ยังไม่ทันได้ไปไหน...ซ่อมไป 5000 ="=a อีกวัน...จะไปดูโปรตอน มันก็สตาร์ทไม่ติดเอาดื้อๆ และล่าสุด กำลังจะไปทำงานก็กะเวลาออกจากบ้านก่อนจะแวะไปโปรตอนให้ได้(เพราะยังไม่ได้ไปซะที) แวะเติมน้ำมัน..ดับเครื่อง..สตาร์ทไม่ติดแบบไม่ติดจริงๆ สรุป แบตเสื่อมคับ เสียอีก 2พันก่าๆ ตอนนี้ทำทุกอย่างหมดแล้วค่ะ... ช่วงล่าง,แอร์,ผ้าเบรค,หม้อน้ำ,ยางใหม่,ฟิล์มใหม่,ท่อพาวเวอร์,ท่อเบรค,ท่อยางหลังเครื่อง,แบตใหม่ เหลือก็ โช๊คหลัง กะ ไฟหน้าที่มีรูมานานและ ต้องขอบคุณการออกแบบไฟหน้า ลุยฝนน้ำไม่มีเข้าเลยค่ะ เอิ้กๆ ขายตอนนี้ก็คงขาดทุนย่อยยับ เพราะทำไปเกือบจะได้ราคารถแล้ว แต่เวลาเข้าไปนั่งในรถทีไร ก็จะมีความทรงจำดีๆเต็มไปหมด สรุปแล้ว...ยังทำใจ(ตัดใจ)ขายไม่ได้ค่ะ ก็คงต้องใช้ต่อไปก่อน แล้วจะมาสิงบอร์ดเรื่อยๆนะคะ...อิ๊ อิ๊ อย่าลืมนู๋นะ ปล.บอร์ดนี้มันโหลดช้ามากเลยอ่า....เข้ามาแล้วเซ็ง งุงุ
"เวลาเข้าไปนั่งในรถทีไร ก็จะมีความทรงจำดีๆเต็มไปหมด" นี่และครับน้องมะเหมี่ยว คำพูดนี้มันบอกถึงความผูกพันที่เกิดขึ้นระหว่างคนกับรถ พี่เองก็รู้สึกแบบนั้น มีหลายครั้งเลยที่มีเรื่องบังเอิญเกิดขึ้นจนเราเผลอรู้สึกเหมือนว่ารถเราอยากสื่อสารกับเรา
เมื่อเดือนก่อนทะเลาะกะแฟนค่ะพี่อ๊อด ปรากฏว่า ไปนั่งร้องไห้อยู่ในรถยิ่งเจ็บกว่าเดิม แต่ก็รู้สึกอบอุ่นมากๆ รู้เลยว่าเวลาเราไม่มีใคร เราก็ยังมีรถ ที่จะขับหนีไปไกลที่ไหนก็ได้.....แล้วจะขายได้ยังไงเนี่ย งุงุ
มาถึงจุดตัดสินใจแล้ว ต้องคิดให้หนักว่าจะเก็บเค้าไว้ แล้วทำให้สุดไปเลย หรือว่าหยุดทำ แล้วขายตอนนี้ก่อนที่เค้าจะงอแงอีก บางครั้งมันก็ต้องมีตัดใจครับ ถ้าเราไม่สามารถทำตัวเป็นพวก "อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคัน"ได้ แต่ต้องดูเหตุผลประกอบครับว่ามีน้ำหนักมากน้อยเพียงใด บางทีแค่ความอยากอย่างเดียวไม่สามารถใช้เป็นเหตุผลได้ดีพอ ผมเพิ่งขายรถไปคันนึง (เบนซ์ 124) คันนี้อยู่กับบ้านผมมา 19ปีแล้ว และความทรงจำตั้งแต่ ป.3จนกระทั่งวันแรกที่เข้าทำงาน มันก็อยู่ในรถคันนั้น เป็นรถคันแรกในชีวิตที่ขับ ใช้เป็นรถตอนหัดขับ ใช้เป็นรถไปสอบใบขับขี่ ใช้เป็นพาหนะไปทำภารกิจ ต่างๆของมหาลัย พาเดินทางไปต่างจังหวัดกับเพื่อนรวมถึงออกสำรวจเส้นทางสำหรับนักเรียนในคลับโฟโต้ ที่ผมไม่มีความทรงจำในรถคันนี้คือเรื่องรักๆใคร่ๆ จริงอยู่ว่าผมอาจจะเคยพยายามพาเด็กสาวคนนึงไปเรียกค่าไถ่ด้วยรถคันนี้ แต่นั่นก็คงไม่นับ จนอยู่มาวันนึงผมสังเกตได้ว่าผมเริ่มใช้รถคันนี้น้อยลงทุกที บางทีจอดไม่ได้สตาร์ทเลยนานกว่า1เดือน เพราะเอาทุกอย่างมาลงที่ NXหมด เพราะมันเปลืองค่าบำรุงรักษาน้อยกว่า เปลืองค่าน้ำมันน้อยกว่า และขับสนุกกว่ากันมาก ประกอบกับอายุที่ใกล้จะครบสองทศวรรษ ทำให้ทุกคนในบ้านไม่มีใครกล้าแตะมัน ถึงแม้ผมจะเอาวิ่งไปพัทยาได้หลายครั้งโดยไม่เป็นไร และโดยตามสถิติจริงๆ 7ปีหลังนี้มันตายกลางทางแค่2ครั้ง ชิ้นส่วนต่างๆเริ่มสึกหรอ บางครั้งรู้สึกบ้าๆ เหมือนกับว่าเอามือไปจับโดนอะไรตรงนั้นก็พัง เสียงลมเริ่มเข้า หน้าปัดเริ่มติงต๊อง แอร์เริ่มจะทำงานแค่สองโหมดคือหนาวโคตรพ่อกับร้อนโคตรแม่ ดังนั้นผมถึงเริ่มมีความคิดที่จะขายมัน แต่ก็ขายไม่ลง เพราะคิดว่าแก้ปัญหาได้ เรื่องค่าน้ำมันก็แก้โดยการติดแก๊สเอา ปรากฏว่าลองประมาณงบค่าบูรณะแล้วเกินหลักแสนไปมาก ค่าติดแก๊สอีกหลายหมื่น และท้ายสุดจบตรงที่พ่อผมไม่ยอมให้ติดแก๊ส ชีวิตประจำวันในช่วงหลังมานี้ผมต้องการรถเกียร์อัตโนมัติที่ขับง่าย สบาย มีเกียร์แสนรู้หน่อย วิ่งทางไกลต้องได้เกิน13โลลิตร และต้องไว้ใจได้ เพราะปีหลังๆมานี้ผมชอบขับรถเที่ยวทางไกลๆประจำ ไกลระดับ 400โลขึ้นไป และดันโรคจิตชอบขับกลางคืนเสียด้วย ส่วนเจ้าเบนซ์แก่นั่น ตอบโจทย์ไม่ได้สักข้อ มีดีก็คือนั่งสบายมาก ขับแล้วผ่อนคลายมาก และช่วงล่างตรงใจมาก แต่อย่างอื่นที่เหลือสอบตก เมื่อคิดอยู่สิบสองตลบ พ่อยื่นคำขาดให้ผมว่า One must go. ขึ้นอยู่ว่าจะเป็น NX หรือเบนซ์ สุดท้ายผมเลือกให้เบนซ์เป็นฝ่ายออกไปเพราะดูเหตุผลในการเก็บไว้มันน้อย คนในบ้านไม่มีใครยอมขับ แม้เราขับเอง ก็ยังเป็นภาระค่าซ่อมกับค่าน้ำมัน ไอ้ครั้นจะแต่งให้สวยมันก็ไม่ใช่ว่าถูก อย่าง NXนี่หาล้อ หาพาร์ทในงบไม่กี่หมื่นได้ แต่เบนซ์กว่าจะสวยและจบจริงต้องมีเรือนแสน เงินเดือนผมหมื่นเศษๆควรจะอยู่กับรถที่เล่นได้ถูกสตางค์ น่าจะดีกว่า วันที่ขายเบนซ์ไป ผมเดาไว้ล่วงหน้าว่าผมต้องร้องไห้แน่ แต่ปรากฏว่าไม่ร้อง กลับดีใจซะอีก ยิ่งดีใจมากตอนเห็นเจ้าของใหม่ตอนเค้ารับรถ เค้าตื่นเต้นมาก พอรับรถเสร็จ เค้าเข้าไปสวดมนต์ในรถอย่างนาน ลูบคลำรถทั่วทั้งคัน เปิดโน่นนี่เล่น แล้วพอส่งเงินเสร็จ วันนั้น เค้าก็ถูกหวยงวดที่ออก 69 ความเสียใจของเราเพราะของที่เรารักจะจากเราไป ยังไม่หนักใจเท่า"คน"ที่เรารัก ของที่เรารักถ้ามันจากเราไปได้ที่ใหม่ที่ที่มันจะไม่ถูกจอดตากฝุ่นแบบเปล่าประโยชน์ เรารู้สึกดี แต่ "คนที่เรารัก" มันไปได้เจ้าของคนใหม่ เราจะรู้สึกอยากฆ่าตัวตาย ของที่เรารักถ้ามันจากเราไปแล้วเราได้ของใหม่มาแทน มันอาจจะเป็นประสบการณ์ใหม่ แต่ "คนที่เรารัก" ต่อให้เรามีคนใหม่ทดแทน บางสิ่งบางอย่างจะยังตามกวนใจเราอยู่เสมอ รถกับคนไม่เหมือนกันในโลกแห่งความจริง ถ้าเป็นไปด้วยความจำเป็นแก่ตัวเองและคนรอบข้าง ให้รีบตัดใจให้ขาด แต่มันยากนะ..อิอิ เพราะผมเองก็ยังตัดใจขาย NX ไม่ลง อาจจะขายอีก5ปีข้างหน้านี้ แต่ตอนนี้ขอเก็บตังลงโบก่อนอ่ะ
เวลาทะเลาะกันแล้วขับหนี อย่าขับเร็วมากนะ เดี๋ยวมาเฉี่ยวรถพี่เอา เพิ่งทำสีมาใหม่.... ที่จริงเป็นห่วงน้อง
เรื่องนอนในรถผมนอนประจำเลย ตอนเรียนอยู่ผมไปอ่านหนังสือที่ ม.ตอนดึกๆขับรถกลับบ้านไม่ไหว(ง่วงไม่ขับ)ก็นอนในรถ และผมต้องขับรถออกต่างจังหวัดไปเก็บตังลูกค้าให้พ่อทุกอาทิตย์เวลาดึกๆก็จะนอนในรถ บางทีก็กินในรถ (ถ้ามีห้องน้ำในรถคงถ่ายในรถไปแล้ว)วันๆนึงผมใช้ชีวิตในรถเยอะมากๆมาตลอด5-6ปี ทั้งขับไปเรียนทั้งขับไปทำงานผูกพันธ์มากๆมีเรื่องราวต่างๆเกิดขึ้นมากมายในรถ ทั้งสุขทั้งเศร้า ทั้งดีใจทั้งเสียใจแต่แล้วก็มาถึงช่วงเวลาที่เป็นจุดตัดสินใจ เหตุเกิดจากรถมีอาการแปลกๆอยู่ดีๆความร้อนก็ขึ้นขับๆไปมันก็ ลงเองเดี๋ยวความร้อนขึ้นเดี๋ยวลงเป็นกิจวัตผมก็เลยพารถผมไปหาหมอโรงบาล(อู่)ก็เป็นของเพื่อนกันให้เช็คดูให้หมดเลยว่าเป็นอะไรบ้างสุด ท้ายรายการซ่อมเพียบถึงแม้ว่าจะซ้อมและดูแลอย่างดีมาตลอดซ่อมมาเดี๋ยวก็พังอีกจุกจิกมากๆผมลืมบอกไปว่าผมใช้รถ neon เป็นของพ่อ คันเก่าที่ตอนแรกเค้าจะขายตั้งนานแล้วผมเลยขอมาใช้หลังจากที่ใช้มา5-6ปีหมดค่าซ่อมไปบานเงินไม่เหลือเก็บเลยหาเงินได้เท่าไรก็ซ่อม รถหมดแต่ก็มีความสุขทุกทีที่ได้ขับมันและเวลาที่มีคนชมว่ารถยี่ห้ออะไรสวยจังผมจะรู้สึกภูมิใจมากๆแต่แล้วก็ถึงเวลาที่ทุกคนในบ้าน พร้อมใจกันบอกผมว่า ขายเถอะลูกมันถึงเวลาแล้วเก็บไว้ก็ซ่อมอีกเยอะเงินไม่มีเก็บซักทีให้คนที่เค้าเอาไปแล้วเค้ารักมันอาจจะดีกว่าอยู่กับเรา ก็ได้ ถึงแม้ว่าอยากจะเถียงใจจะขาดว่ามันยังซ่อมได้ค่อยๆทำไปอยากเก็บมันไว้แต่แล้วก็ต้องขายจนได้แต่โชคยังดีที่ผมขายให้กับผู้ใหญ่ที่ นับถือกันคนนึงเค้ารักรถผมมากผมก็ค่อยอุ่นใจแต่หลังจากขายไปแล้วนั่งซึมอยู่หลายวันเห็นเค้าขับรถผ่านหน้าบ้านไปใจหายทุกทีแล้วก็นึก โทษตัวเองว่าถ้ามีตังก็คงไม่ต้องขาย
ขอบคุณทุกๆความคิดเห็นมากๆเลยนะคะ เหมี่ยวว่า...สุดท้ายเหมี่ยวก็คงต้องขายอยู่ดี เพราะครอบครัวเราก็(คัว)ใหญ่ขึ้นทุกวัน เมื่อวานนี้อัด 5 คนไปตลาดนัด รถก็เริ่มขับไม่ออกแล้ว ต้องปิดแอร์ มีพี่ๆแถวนี้สนใจจะนำไปดูแลต่อมั่งป่ะคะ.......T^T
เข้ามาอ่านแล้วก็ซึ้งในความผูกพันธ์ระหว่างคนกะเครื่องจักร เรามีความรู้สึกให้มัน เหมือนกับว่ามันเป็นเพื่อนที่มีความรู้สึกคนนึง ผมเชื่อว่ามันก็คงจะได้รับความรู้สึกนั้นบ้างแหละครับ เพราะน้องนา(รถผมเองค้าบ) ก็น่าจะป่วยไปตั้งนานแล้ว แต่ก็ยังฝืนวิ่งเพื่อผมได้อยู่จนถึงทุกวันนี้ ก็คงเหมือนกับการตอบแทนที่มันอดทนเพื่อผม ทำงานได้ก็จะเอามาซ่อมมันเนี่ยแหละคับ ขายไม่ลงเหมือนกันครับ อย่างที่ทุกคนว่าเลย มันมีอดีตอยู่กับรถของเราอย่างไม่น่าเชื่อ นี่ยังไม่นับความผูกพันธ์อีก ที่ทำให้เราไม่อยากจะจากมันไปไม่ว่าอย่างไรก็ตาม(พูดซะเว่อร์อย่างกะคนร้าก 5555) ผมลองนึกเล่นๆดู ว่าถ้าจะต้องขายมันหรือจากมันไปจิงๆ น้ำตาเหมือนจะไหล 555 (ซึ้งจิงๆ) ผมอยากจะปั้นมันให้เป็นรถที่สุดของผม เพราะมันเป็นคันแรก เหมือนคนแรกเรามักจะไม่ลืมใช่มั้ยครับพี่วี อิอิอิอิ ยังไงก็คงเก็บไว้จนกว่าจะพังเป็นชิ้นกันไปข้างละค้าบ อิอิอิ (ถ้าซ่อมอยู่ตลอดแล้วมันจะเป็นหยั่งงั้นได้ยังไง ช่ายป่ะ อิอิอิ)
สนใจคร๊าบ รถอยู่แถวไหนเหรอ ถ้ามีรูป รบกวนส่งมาที่ [email protected] ขอบคุณครับ ต๊ะ 08-6026-5566 + อ้างถึง ตอบกลับ