ระวังห้องน้ำปั๊ม!! ระวังห้องน้ำในปั้มและรถที่ขับตามมา ด้วยความปรารถนาดีและห่วงใย เขาเคยคิดว่าภาพข่าวอาชญากรรมที่มีให้เห็นบนน.ส.พ.ทุกวันเป็นเรื่องไกลตัว จนกระทั่งกลางดึกคืนหนึ่ง ในห้องน้ำของปั๊มน้ำมันที่เปิดไฟฟ้าสว่างไสว วิชชุ เศรษฐกนก ศิลปินฝึกหัดของบริษัท Aratist ในเครือแกรมมี่กรุ๊ป จึงตระหนักว่า ไม่ว่าใครก็มีโอกาสตกเป็นเหยื่อของอาชญากรได้พอๆกัน วันที่เกิดเหตุผมไปคุยเรื่องงานดนตรีกับพวกเพื่อน ๆ และพี่ ๆ ที่พรีเมียร์พระราม 9 คุยเสร็จเกือบตีสาม ปกติก็ไม่ได้กลับดึกขนาดนั้น แต่วันนั้นคุยกันค่อนข้างซีเรียสเลยใช้เวลานาน คุยเสร็จต่างคนต่างแยกย้ายกลับบ้าน ผมขับรถเกือบจะถึงบ้านแล้ว ผ่านปั๊มแห่งหนึ่งก็เลยแวะเข้าไป จริง ๆ แล้วไม่ถึงกับอยากเข้าห้องน้ำขนาดทนไม่ได้ แต่อยากซื้อขนมกับ ไอศกรีมไปกินที่บ้านมากกว่า ตอนนั้นไม่มีรถคันอื่นเข้ามาเติมน้ำมันเลย ผมขับไปจอดหน้ามินิมาร์ทเข้าไปซื้อของเสร็จ คิดว่าเข้าห้องน้ำล้างหน้าหน่อยดีกว่า ก่อนจะเข้าห้องน้ำ ก็เดินไปล็อครถก่อน ห้องน้ำของปั๊มอยู่ข้างหลังมินิมาร์ท ไม่มีใครในห้องน้ำเลย แต่ไฟสว่างมากเพราะเป็นไฟนีออน กำลังจะรูดซิปกางเกงก็ได้ยินเสียงตึง... เป็นเสียงคนเดินเข้ามา พอเอี้ยวตัวไปมองก็เห็นปืนจ่ออยู่ตรงหน้า ความรู้สึกแรกคือไม่อยากเชื่อว่าถูกปล้น แต่พอได้สติก็รู้ว่านี่ของจริง... จังหวะนั้นมันเร็วมาก พอผมเอี้ยวตัวไป เห็นคนเดินตามหลังมาอีกสองคน คนถือปืนก็ขึ้นลำปืน แล้วพูดด้วยเสียงดุ ๆ ว่า... ถ้ามึงไม่อยากตายหันหลังไป พอผมหันกลับ เขาก็ผลักผมกระเด็นไปติดกำแพงห้องน้ำ แล้วเอาด้ามปืนตบที่ท้ายทอยซ้อนกันหลายครั้ง ผมบอกเขาว่า....พี่อยากได้อะไร..เอาไปเลยหวังว่าเขาคงจะไม่ทำอะไรร้ายแรง แต่ปรากฎว่าเขาไม่สนทุบเอาอีก... แล้วอีกคนก็เข้ามาจับมือผมไปไพล่หลัง ได้ยินเสียงแกะเทปกาวดังแควกก่อนจะเอาเทปนั้นมัดมือผมไว้พอมัดเสร็จ ก็จับตัวผมหันมา จากนั้นก็ต่อยที่ท้องผมอย่างแรง หมัดเดียวแต่จุกมาก จนผมทรุดลงไปนอนตัวงออยู่กับพื้น ต่อจากนั้นเขาก็จับขาผมรวบให้นั่งบนพื้น แล้วทำท่า เหมือนจะเอาเทปมามัดที่เท้า แต่เปลี่ยนใจเป็นมาพันที่หน้าก่อน เริ่มจากปิดตา ปิดปาก ตอนปิดปากเขาปิดจมูกไปด้วย ผมพยายามร้องว่าหายใจไม่ออก แต่เสียงมันดังออกมาแค่อือๆ เท่านั้น โชคดีว่าพันไม่แน่นมากยังมีช่องเหลือให้หายใจได้ หลังจากนั้นมันก็เอาเทปมามัดเท้าต่อ ก่อนค้นตัวเอากุญแจรถไป แล้วทุกอย่างก็เงียบ ตอนแรกผมคิดว่าพวกเขาคงทิ้งผมไว้ เอาแต่รถไปอย่างเดียวรออีกเดี๋ยวค่อย ๆ กลิ้งออกไปหาคนช่วยก็ได้ แต่ยังไม่ทันจะโล่งใจเลย ก็รู้สึกว่าตัวเองถูกยกลอยขึ้น ตอนนั้นตกใจสุดขีดเลย ตกใจกว่าตอนเห็นปืนอีก เพราะคิดว่าคราวนี้คงต้องถูกเอาไปยิงทิ้งแน่ ผมดิ้นสุดชีวิตเลยโดนอัดหรือเตะไม่รู้แน่เข้า หลังจากนั้นมันไม่เชิงว่ามีสติตลอด มันกึ่งรู้สึกตัวกับไม่รู้สึกตัว เนื่องจากถูกมัดตาเอาไว้ ทำให้ไม่รู้ว่าเค้าอุ้มไปไหน รู้สึกว่าหลังแตะอะไรสักอย่าง คิดว่าน่าจะเป็นรถเพราะพอวางเสร็จรถก็ออกตัวตอนนั้นนึกถึงพ่อแม่.... ท่านจะอยู่อย่างไร เพราะผมเป็นลูกคนเดียว แล้วก็นึกถึงพระปลงว่าท่าจะไม่รอดรถวิ่งไปได้ซักพักก็หยุด รู้สึกตัวว่าถูกยกลอยขึ้น ก่อนจะถูกโยนโครมลงไปที่หญ้าคาดว่าคงเป็นข้างทางที่ไหนซักแห่ง กลั้นใจว่าจะโดนอะไรอีกไหม รู้สึกว่าจะถูกเตะเข้าที่กลางลำตัวอีกสองครั้ง จากนั้นก็ได้ยินเสียงรถขับออกไป.. เขาคอยจนแน่ใจว่าพวกนั้นไปแล้ว แล้วก็พยายามแกะเทปแล้วตะกายไปขอความช่วยเหลือ มีคนขับรถผ่านมา ช่วยเขาพาไปส่ง ร.พ. ไปนอนไอ.ซี.ยู 1 คืน เค้าบอกว่าพ่อแม่เคยเตือนแล้วว่าการขับรถกลับบ้านดึก ให้ระวังคนขับรถมาชนอาจเป็นโจร............. คนๆนี้โชคดีกว่าหลายคนที่เค้ายังกลับไปหาพ่อแม่ของเค้าได้...โลกนี้มันมีทั้ง เรื่องที่ดีงาม แล้วก็เรื่องที่ไม่ดี มันเป็นโลกแห่งความจริง ขอให้ระวังตัวอย่าชะล่า หลาย ๆ คนคิดว่า... ไม่เป็นไรแค่นี้เอง แต่แค่นี้เองนั้น มันเท่ากับเราได้เอาตัวของเราทั้งชีวิตเข้าไปเสี่ยงซะแล้วถึงแม้จะไม่ ห่วงตัว ก็ขอให้คิดถึงคนที่บ้านคนที่เป็นห่วงเราด้วยละกัน. ป.ล. ถ้าเป็น ญ.ก็อาจจะเสีย ทั้งกายทั้งใจ
ขอบคุณที่มาเตือนกันคับพี่แฟง ชอบออกดึกอยู่ด้วย ปล.ควรพกอาวุธไว้ในรถเผื่อฉุกเฉิน (มีไว้แต่ไม่ใช้ ดีก่าเวลาจะใช้แต่ไม่มี)