:: รู้จักกับ เวสเกต และหน้าที่การทำงาน เวสเกต ( WASTE GATE ) หรือแบบเต็มยศ คือ WASTE GATE CONTROL BY INTAKE MANIFOLD PRESSURE ชื่อมันยาวไปหน่อยแต่ความหมายของสั้นๆคือประตูระบายของ ไอเสีย เจ้าเวสเกตมีหน้าที่ควบคุมบูช ( แรงดันอากาศ ) ของเทอร์โบให้คงที่ตามที่เรากำหนด โดยอาศัยการระบายไอเสีย ที่จะมาปั่นกันหันเทอร์โบด้านฝั่งไอเสีย ให้หมุนคงที่ ถ้ายัง ไม่เข้าใจจะขออธิบาย การทำงานของเทอร์โบในการ สร้างแรงบูช นั้นเกิดจากการนำไอเสียที่ปล่อยทิ้งมาผ่านกังหัน เทอร์ไบน์ด้านไอเสียทำให้กังหันด้านไอดีหมุนตามด้วย ความเร็วสูงจนเกิดแรงอัดอากาศหรือบูช ( แรงดันอากาศ ) เช่นที่รอบเครื่องยนต์ 4,000 รอบ / นาที เทอร์โบหมุนที่ 60,000 รอบ สามารถสร้างแรงดันอากาศได้ 1.0 bar แล้วถ้าที่รอบเครื่องยนต์ที่ 8,000 รอบ / นาทีล่ะ เทอร์โบก็จะ คงหมุนที่ 120,000 รอบที่บูช 2.0 bar ดังนั้นเครื่องยนต์คงทน ไม่ไหวพังแน่ เพื่อให้แรงดันอากาศยังคงไว้ที่ 1.0 bar เวสเกตจะต้องทำหน้าที่ระบายไอเสียที่จะมาปั่นกังหันไอเสีย ทิ้งออกทางประตูระบายเพื่อยังรักษารอบหมุนของเทอร์โบ ให้คงที่รอบเครื่องยนต์ 8,000 รอบ / นาที และเทอร์โบก็ยัง คงหมุนเท่าเดิมที่ 60,000 รอบ บูชก็จะคงที่ 1.0 bar ตามที่เราตั้งเอาไว้ ชนิดของเวสเกต เวสเกตมี 2 ชนิด ชนิดที่ 1. เวสเกตในตัว ลักษณะรูปร่างจะเป็นกระเปาะกลมๆ มีขายื่นยาวๆเพื่อที่จะมาดันประตูระบายไอเสียที่ติดอยู่กับ โข่งไอเสียของเทอร์โบ เวสเกตแบบนี้ต้องอาศัยเทอร์โบที่มี ช่องทำประตูระบายไอเสียมีลักษณะเหมือนลิ้นปิด - เปิด ภายใน เวสเกตประกอบด้วยแกนดันลิ้นประกอบติดกับแผ่นไดอะแฟรม และ ถูกกดทับด้วยสปริงที่กำหนดค่า มาแล้วจากโรงงาน ด้านบนจะมีท่ออากาศเล็กเพื่อ เอาไปต่อที่ท่อไอดี เมื่อถึง แรงดันอากาศที่กำหนด แรงดันภายในท่ออากาศ จะไปดัน แผ่นไดอะแฟรม ให้ชนะแรงกดของสปริงแกนดลิ้นก็จะขยับ ออกมาเพื่อไปดันประตูระบายไอเสียให้เปิดออก เวสเกตแบบนี้มักจะติดตั้งมากับเทอร์โบโรงงาน ที่ตั้งค่ามาแล้วการจะปรับบูชทำได้เช่นการตัดแกนดันลิ้นให้สั้นลง เพื่อให้ลิ้นเปิดได้น้อยลง หรือ ทำตัวปรับให้ไขสั้น - ยาวได้ หรือใส่ตัวปรับบูชมาลดแรงดันที่ไดอะแฟรม และ การเปลี่ยนเป็นของแต่ง จากสำนักต่างๆที่มีการเพิ่มค่าสปริงในตัวมาเลย ชนิดที่ 2. เวสเกตแยก หรือ ( WAST GATE VALVE CONTROLLED BY FLOW SENSER ) พวกนี้จะมีประตูระบายไอเสียในตัว ลักษณะเป็นกระเปาะสองชั้น ด้านล่างเป็นประตูระบายไอเสีย มีวาล์ว ปิด - เปิด มีลักษณะเป็นเหล็กหล่อทนความร้อนมีครีบระบายความร้อนเพื่อไม่ให้สูงจนเกินไป ด้านบนเป็นชุด ไดอะแฟรม ประกอบด้วยแผ่นไดอะแฟรมที่ไปกดทับวาวล์ ซึ่งถูกกดด้วยสปริง ด้านบนมีแผ่นเพลท กดสปริงที่มีสกรูมาปรับขึ้น ลง เพื่อเพิ่ม ลดแรงกดของสปริงได้ ประกอบอยู่ใน ห้องสูญญากาศจะมีท่ออากาศ มาต่อยังท่อไอดี เมื่อถึงแรงบูชที่กำหนด ท่ออากาศจะมีแรงดันมายังเวสเกต ห้องสูญญากาศ จนแรงดันชนะแรงกดของสปริง วาวล์ก็จะยกตัวระบายไอเสียออกมาทางประตูไอเสีย พวกนี้ด้านบนจะมีสกรูที่สามารถปรับตั้งบูชมาให้ในตัวเลย สะดวกในการปรับตั้งบูชให้สูงขึ้น :: การเลือกซื้อและการติดตั้ง ถ้าเป็นแบบเวสเกตในตัวอาจเลือกซื้อจากสำนักแต่งที่ออกแบบ มาตรงรุ่นของเทอร์โบนั้นๆ เพราะถูกจำกัดที่ขายึดเวสเกต และ ความยาวของแกนดันลิ้นที่ต้องกำหนดมาให้พอดีที่ จะทำให้บูชสูงขึ้น แรงกดสปริงมีมากขึ้นลดการขยับเปิดเอง ของแกนก่อนถึงบูชที่กำหนด ส่วนแบบเวสเกตแยก เป็นที่นิยมเพราะปรับตั้งได้ง่าย และลดการขยับของลิ้นได้ ทำให้ควบคุมบูชได้อย่างแม่นยำ และบูชมาไวขึ้น ( บูชมาช้า เกิดจากการที่เวสเกตเปิดก่อนบูชที่กำหนดคือจะค่อยๆเริ่มดัน ขึ้นเรื่อยๆเมื่อเริ่มเกิดแรงดัน ไอเสียจะถูกระบายทิ้งไม่ผ่าน กังหันเทอร์โบแบบเต็มๆ ) ในสมัยนี้มีทำกันมากมายหลายยี่ห้อ ทั้งในและต่างประเทศ มีราคาแพงมาก การเลือกซื้อต้องเลือก ให้ตรงกับขนาด และความต้องการในการโมดิฟายเครื่อง มีหลายขนาด ในเครื่องที่มีซีซีน้อย สามารถใช้ที่มีขนาดเล็กได ้แต่ในเครื่องที่มีขนาดใหญ่ๆซี.ซี สูงๆต้องเลือกที่มีขนาดใหญ่ขึ้น การติดตั้งเทอร์โบบางรุ่นมีช่องติดตั้งมาให้เลย แต่ถ้าไม่มีต้องทำ ช่องระบายเช่นการเจาะโข่งไอเสีย การทำหน้าแปลนเสริม และ การตีเขาเทอร์โบขึ้นมาใหม่ :: ข้อควรระวัง ในการเปลี่ยนเวสเกตควรจะหาเกจ์วัดแรงดันเทอร์โบ มาคอยดู แรงอัดอากาศเพื่อไม่ให้สูงเกินไป และดูการผิดปกติในการทำงาน ของเวสเกต ท่ออากาศต้องต่อในท่อไอดีก่อนเข้าลิ้น เพราะ จะเป็นแรงดันที่แน่นอนของแรงดันเทอร์โบ แบบเวสเกตแยกควรใช้ขนาดให้เหมาะสมกับซีซีเครื่อง เพราะ ถ้าเล็กเกินไปจะไม่สามารถควบคุมบูชได้ ถ้ามีการต่อร่วมกับ ปรับบูชไฟฟ้า ต้องต่อท่ออากาศให้ถูกต้อง และคอยสังเกตเกจ์วัด เพราะเวสเกตุอาจเกิดการเสียหายได้เช่นผ้าไดแฟรมขาด ประเก็นท่อไอเสียแตก หรือเขาเทอร์โบแตก บูชจะขึ้นช้า ควบคุมบูชไม่ได้ บูชไม่นิ่ง ขอยืมขอมูลมาจาก RaMa III Racing Club นะครับ