Taxi เสียบนสะพาน รถติดยาว ในวันอาทิตย์ที่อากาศดีวันนึง นัดกับสุดที่รักจะไปเลี้ยงปลาที่พุทธมณฑลครับ ใช้เส้นทางสายราชดำเนิน ก็ขับไปเรื่อยๆจนถึงสะพานปิ่นเกล้า รถเริ่มติด ติดหนัก และสาหัสมากๆ หากท่านใดจำเส้นทางก่อนขึ้นสะพานปิ่นเกล้ามุ่งหน้าพุทธมณฑลได้ คงนึกออกว่า เมื่อผ่านไฟแดงไปจะมีอีก 1 เลนที่ให้รถที่มาทางสนามหลวงเข้ามารวมได้ เท่ากับว่าจาก 4 เลนจะถูกบีบเหลือแค่ 3 เลน แล้วบริเวณกลางสะพานเลนขวาสุด มีพี่แท๊กซี่จอดเสียอยู่ 1 คัน ทำให้ในขณะนั้นรถวิ่งได้แค่ 2 เลน ผมเห็นตั้งแต่ไฟแดงแล้วครับ เลยเปลี่ยนเข้าเลนกลาง เพื่อให้ไปได้เร็วกว่าเลนอื่น เมื่อรถเคลื่อนไปใกล้พี่แท๊กซี่คันนั้น ผมเห็นรถคันอื่นที่กำลังจะแซงไปเปิดกระจกชี้โบ้ชี้เบ้ นึกกว่าจะช่วยกันเข็นรถคันนั้นเพื่อให้หารจราจรคล่องตัวขึ้น แต่เปล่าเลย ด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ทั้งๆที่ผู้โดยสารของเค้าเพิ่งจะขอตัวลงจากรถไป ค่ารถก็ไม่น่าได้เพราะผมไม่เห็น ยังมาโดนด่าอีก ... มากรูเอง ทันทีที่แซงพี่แท๊กซี่คันนั้นได้ ผมเลี้ยวเข้าเลนขวาหน้ารถเค้า แล้วถอยกลับมา เมื่อผมลงจากรถ สิ่งแรกที่ผมเห็นคือ “น้ำตา” ครับ พร้อมกริยาที่ยกมือไหว้ขอบคุณผม ตอนนั้นขนลุกทั้งตัว (เหมือนข้อ 2 ในกฎของมัวร์) แล้วก็ลากพี่แท๊กซี่คันนั้นลงสะพานไป เมื่อแยกย้ายกัน ก็ไม่ได้ร่ำลาอะไรมากมาย ไม่ได้กอดกันกลมเหมือนบ้าน AF เวลาโดนโหวตออก แต่ภาพของพี่แท๊กซี่คนนั้น ยังอยู่ในใจผม ซึ่งตอนนี้ผมจำแกไม่ได้แล้ว และผมก็เชื่อว่า ภาพของผมก็ยังคงอยู่ในใจเค้าเช่นกัน มิตรภาพและความรู้สึกแบบนี้หาซื้อได้ครับ ที่ Big C, Lotus ศรีวรจักรก็มี ราคาอันละร้อยกว่าบาท ซื้อสายลากใส่หลังรถไว้คงไม่ทำให้บูสต์ไหลหรอกครับ ส่วนโอกาสนั้นหาได้ตามถนนทุกสาย ไม่ต้องเสียตังค์
วันนี้ก็เพิ่งลากรถรุ่นพี่ไปครับ ลากได้ไม่นาน สายลากขาด พอจะสตาร์ท รถตัวเองพังต่ออีก รถที่มาลากรถตัวเอง น้ำมันก็หมดกลางทางอีก ซวยซ้ำซวยซ้อนจริงๆ