​

ด้วยทิศทางการเจริญเติบโตที่ดีเยี่ยมต่อเนื่องตลอดปี 2017 ส่งผลให้ Porsche AG สามารถทำยอดส่งมอบรถยนต์ใหม่ถึงมือลูกค้าผู้หลงใหลในยนตรกรรมสปอร์ตพลังแรงทั่วทุกมุมโลกได้สูงสุดถึงกว่า 246,000 คันในปีที่ผ่านมาจากตัวเลขดังกล่าวถือเป็นการจารึกสถิติใหม่ในด้านยอดจำหน่ายของบริษัทผู้ผลิตรถสปอร์ตจากสตุ๊ทการ์ท ทำลายสถิติที่ได้รับการบันทึกไว้เมื่อปี 2016 โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 4 เปอร์เซ็นต์ ผลประกอบการที่กระเตื้องขึ้นอย่างชัดเจน มีปัจจัยสำคัญที่เกิดจากยอดส่งมอบปอร์เช่ พานาเมร่า ใหม่ (The new Porsche Panamera) จำนวนกว่า 28,000 คัน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นถึง 83 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า

"สำหรับรุ่นไฮบริด (Hybrid) ของปอร์เช่ พานาเมร่า ใหม่ (The new Porsche Panamera) ได้รับผลตอบรับที่ดีเยี่ยมจากกลุ่มลูกค้าเป็นไปตามแผนกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ของเรา พานาเมร่า เทอร์โบ เอส อี-ไฮบริด (Panamera Turbo S E-Hybrid) ซึ่งเป็นรุ่นเรือธงสูงสุดของตระกูล คือสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงสมรรถนะและประสิทธิภาพอันโดดเด่นเหนือชั้น ชัดเจนว่านี่คือการกำหนดบรรทัดฐานใหม่ในแง่ของคุณภาพให้แก่วงการรถยนต์ในระดับเดียวกัน" ข้างต้นคือคำกล่าวของ Detlev von Platen สมาชิกคณะกรรมการบริหาร ผู้ดูแลส่วนงานขายและการตลาดของ Porsche AG นอกจากนี้ von Platen หน้ายังได้แสดงทรรศนะเกี่ยวกับอนาคตในปี 2018 ที่กำลังจะมาถึงไว้ว่า "ด้วยความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ยานยนต์จากปอร์เช่ รวมทั้งสถานการณ์ยอดจำหน่ายที่เปี่ยมไปด้วยความแข็งแกร่งของเราทั้งในภูมิภาคยุโรป เอเชีย และอเมริกา ปอร์เช่จะยังคงยืนอยู่บนจุดสูงสุดเช่นนี้ต่อไปอย่างแน่นอน"

​

นอกเหนือจากผลงานอันยอดเยี่ยมของ พานาเมร่า (Panamera) รถสปอร์ตตระกูล 718 เป็นอีกรุ่นหนึ่งที่มีตัวเลขยอดจำหน่ายสูงขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ยนตรกรรมสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลางดังกล่าวสามารถพิสูจน์ศักยภาพของตัวเองด้วยยอดส่งมอบถึงมือลูกค้าทั่วโลกมากกว่า 25,000 คัน ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นสัดส่วนถึง 6 เปอร์เซ็นต์ สำหรับปอร์เช่ 911 (Porsche 911) เองก็ไม่น้อยหน้า ในปี 2017 รถสปอร์ตระดับตำนานรุ่นนี้ยังคงได้รับการส่งมอบถึงมือผู้หลงใหลในประติมากรรมความแรงเป็นจำนวนว่า 32,000 คัน ในส่วนของ มาคันน์ (Macan) นับเป็นรุ่นที่มียอดจำหน่ายสูงสุดของปอร์เช่เช่นเดียวกันกับปีที่ผ่านมา ด้วยตัวเลขจำนวนการส่งมอบถึงกว่า 97,000 คัน (เพิ่มขึ้น 2 เปอร์เซ็นต์)

ประเทศจีนยังคงเป็นตลาดที่มีความสำคัญและมีขนาดใหญ่ที่สุดสำหรับปอร์เช่ ด้วยยอดส่งมอบรถยนต์ใหม่รวมทั้งสิ้นกว่า 71,000 คัน ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาในอัตราส่วนสูงถึง 10 เปอร์เซ็นต์ ตามาด้วยยอดจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา (เพิ่มขึ้น 2 เปอร์เซ็นต์) และยุโรป (เพิ่มขึ้น 2 เปอร์เซ็นต์) ล้วนแล้วแต่ส่งผลต่อความสำเร็จที่ปอร์เช่ได้รับในปีที่ผ่านมาในส่วนของยอดจำหน่ายในประเทศเยอรมนีอยู่ที่ประมาณ 28,400 คัน เป็นการปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากปี 2016 "ในปี 2018 นี้ คาเยนน์ รุ่นใหม่ (The new Cayenne) หน้าที่ได้รับการเปิดตัวไปเป็นที่เรียบน้อย จะเป็นหัวใจหลักในการสร้างยอดจำหน่ายให้สูงขึ้น โดยเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศจีน มั่นใจได้ว่าเราจะเติบโตขึ้นอย่างแน่นอน" von Platen หน้ากล่าวเสริมต่อไปอีกว่า "หน้าไม่ต้องสงสัยเลยว่าด้วยความพิเศษเหนือระดับของแบรนด์ปอร์เช่เราจะดำรงสถานะสูงสุดเอาไว้ได้ต่อไปในอนาคต" เป้าหมายสำหรับปี 2018 คือการรักษาระดับผลงานที่ดีเยี่ยมต่อเนื่องจากปี 2017 ที่ผ่านมา

​