ความเข้าใจผิดเรื่องยาง

การสนทนาใน 'Mazda 323&626 Club' เริ่มโดย ao_323, 10 กันยายน 2008

< Previous Thread | Next Thread >
  1. ao_323

    ao_323 New Member Moderator

    1,346
    16
    0
    Trick ทั่วไป ::

    ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ ยาง


    หลาย เรื่องราวเกี่ยวกับรถยนต์ ยังมีความเข้า ใจผิดในวงกว้าง จนบางคนฝังความคิดว่าเป็นหลักการที่ถูกต้องจริงๆ ไปแล้ว ในโลกการสื่อสารที่ฉับไว ในโลกแห่งเทคโนโลยี ไม่มีคำว่าสายเกินไปหากต้องการลบความเข้าใจผิดเหล่านั้น อ่านบทความ รวมความเข้าใจผิดเรื่อง...ยาง

    ความกว้างของยาง/ความกว้างของหน้ายาง

    ความเข้าใจผิด : บนแก้มยางจะมีการระบุขนาด ต่างๆ ของยางเส้นนั้นไว้อยู่เสมอ สำหรับยางทั่วไปจะมีการระบุรายละเอียดที่คุ้นเคยกันตามตัวอย่าง เช่น 205/60R15

    ตัวเลข 3 หลักแรกนี้เองที่หลายคนเข้าใจผิด โดยเข้าใจว่าเป็นความกว้างของหน้ายางที่สัมผัสถนน มีหน่วยเป็นมิลลิเมตร ในกรณีตัวอย่างนี้ คิดว่ายางเส้นนี้มีหน้ากว้าง 205 มิลลิเมตร

    ความเป็นจริง : ตัวเลข 3 หลักแรกนี้ เป็นความกว้างของยาง ไม่ใช่ความกว้างของหน้ายางที่สัมผัสพื้น วิธีการตรวจสอบง่ายๆ ตัวเลข 3 หลักนี้ ก็คือ นำยางเส้นนั้นใส่กับกระทะล้อที่มีขนาดเหมาะ สมกันตามมาตรฐานที่วงการยางกำหนดและสูบลม วัดความกว้างของยางจากส่วนที่กว้างที่สุด ซึ่งมักจะ เป็นส่วนโค้งของแก้มยางที่ป่องออกมา จากแก้มข้างหนึ่งมายังอีกข้างหนึ่ง โดยวัดรวมทุกอย่างที่กว้าง ที่สุด ถ้าบังเอิญมีตัวอักษรตัวเลขหล่อนูนออกมา ก็ ต้องวัดรวมด้วย แล้วก็จะได้ค่าความกว้างนั้นออกมา

    ตัว เลข 3 หลักแรกที่ระบุไว้ เช่น 205 จะเป็นความกว้างของยางในส่วนที่ป่องที่สุด ซึ่งเป็นแก้มยาง ส่วนความกว้างของหน้ายางจริง จะไม่มีการกำหนดไว้ และเท่าที่ทลองวัดดู ก็จะแคบว่าตัวเลขความกว้างของยางที่ระบุไว้ 10-30 มิลลิเมตร

    นั่น หมายความว่า สมมุตติยางที่ระบุความกว้าง ไว้เท่ากัน แต่ต่างรุ่นต่างยี่ห้อกัน ความกว้างของยาง บริเวณแก้มจะต้องเท่ากัน แต่ไม่แน่ว่าความกว้างของยางจะต้องเท่ากัน เพราะพบว่ายางรุ่นสปอร์ตหรือเน้นสมรรถนะสูง จะมีความกว้างของหน้ายางใก้ลเคียงกับตัวเลขความกว้างของยางมากกว่ายางรุ่น พื้นๆ สำหรับใช้งานทั่วไป

    หากไม่เชื่อบทความนี้ ให้เอาไม้บรรทัดหรือตลับเมตรไปวัดรอยฝุ่นบนหน้ายางได้เลย แล้วจะพบว่า แคบกว่าตัวเลขที่ระบุไว้มาก วัดยังไงก็ไม่เท่ากัน แต่พอเล็งๆ แถวแก้มยาง ก็พบว่ากว้างพอกับตัวเลข 3 หลักแรกที่ระบุไว้จริงๆ
    ตัวเลขซีรีส์ ต้องคำนวนก่อน

    ความเข้าใจผิด : จากตัวอย่าง 205/60R15 ตัวเลข 2 หลักชุดที่ 2 คือ 60 หมายถึงซีรีส์ของยาง หลายคนเข้าใจผิดว่า ยางที่มีตัวเลขซีรีส์มาก จะต้องมีแก้มสูงกว่ายางที่มีซีรีส์น้อยกว่าเสมอ

    ความเป็นจริง : ตัวเลขซีรีส์ หมายถึง ความสูงของแก้มยางคิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของความกว้างของยาง หากต้องการทราบความสูงจริงของแก้มยาง ก็ต้องมีการคำนวณก่อน

    จาก ตัวอย่าง ยางเส้นนี้ มีความสูงของแก้มยาง เป็น 60 เปอร์เซ็นต์จากความกว้าง 205 มิลลิเมตร คำนวนโดยนำ 205 X (60/100) = 123 มิลลิเมตร

    ถ้าไม่ผ่านการคำนวณ จะสรุปลอยๆ ไม่ได้ว่า ยางซีรีส์ 65 จะมีแก้มยางจริงสุงกว่ายางซีรีส์ 60 หากมีความกว้างของยางต่างกัน

    เช่น ยาง 205/60R13 มีแก้มสูง 205 X (60/100) = 123 มิลลิเมตร ส่วนยาง 185/65R13 มีแก้ม สูง 185 X (65/100) = 120.25 มิลลิเมตร มีแก้มจริงเตี้ยกว่าทั้งที่มีตัวเลขซีรีส์เป็น 65 มากกว่าเส้นแรกอยู่ 5 ซีรีส์

    ถ้าจะเดาความสูงของแก้มยาง ก็ต้องดูตัวเลข 3 หลักแรกความกว้างของยางด้วย แต่ถ้าจะให้แม่นยำก็ต้องนำไปคำนวณก่อน
    ยางที่ใช้กับกระทะล้อขอบใหญ่กว่า ยางต้องใหญ่กว่า

    ความเข้าใจผิด : ในกรณีที่จะเปลี่ยนล้อแม็กให้มีขาดเส้นผ่าศูนย์กลางใหญ่ขึ้น ตามสไตล์ล้อแม็กวงโต+ยางแก้มเตี้ย เช่น ล้อเดิมขอบ 14 นิ้ว จะเปลี่ยนเปลี่ยนเป็นขอบ 16 นิ้ว หลายคนเข้าใจผิด โดยรีบสรุปว่ายางที่ใช้กับกระทะล้อขอบ 16 นิ้ว ต้องมีขนาดใหญ่กว่ายาง 14 นิ้ว ไปมองไปอิงกับตัวเลขขอบกระทะล้อทั้งที่นั่นคือ วงในของยาง ไม่ใช่วงนอก

    ความเป็นจริง : ยางจะมีเส้นรอบวงมากหรือมีความสูงโดยรวมเท่าไร ไม่เกี่ยวกับขนาดของกระ ทะล้อหรือเรียกกันว่าขอบกี่นิ้วนัก เพราะต้องขึ้นอยู่กับความสูงของแก้มยาง ซึ่งก็ขึ้นกับความกว้างและซีรีส์นั่นเอง

    ยางขอบ 17 นิ้ว ซีรีส์น้อยแก้มเตี้ยบางเฉียบ อาจจะมีเส้นรอบวงน้อยและมีความสูงโดยรวมน้อย กว่ายางขอบ 14 นิ้ว ซึ่งมีซีรีส์มากและแก้มสูงก็เป็นได้
    ยางเปอร์เซ็นต์ เมินได้เลย

    ความเข้าใจผิด : เป็นที่เข้าใจว่า ยางเปอร์เซ็นต์ คือ ยางมือสอง คนส่วนใหญ่มองว่าเมินยางเปอร์ เซ็นต์ไปได้เลย เพราะคิดว่าล้วนเป็นยางมือสองที่ได้มาจากเจ้าของเดิมถอดทิ้งหรือถอดขายให้ ร้านในราคาถูกๆ เพื่อเป็นส่วนลดในการซื้อยางใหม่ ยางจึงน่าจะหมดสภาพแล้ว หากฝืนซื้อมาใช้งานต่อก็จะเสี่ยงต่ออันตราย

    ความเป็นจริง : ยางเปอร์เซ็นต์หลายสิบเปอร์เซ็นต์ที่ขายอยู่ทั่วไป เกือบหมดสภาพแล้วจริงๆ หากใครซื้อมาใช้ก็เสี่ยงอันตราย แต่ไม่ใช่ว่าทุกเส้นจะไม่น่าสนใจ

    เพราะในกรณีที่ เป็นยางซึ่งถูกเปลี่ยน เพราะเจ้าของอยากเปลี่ยนขนาดยางหรือล้อแม็ก ทั้งที่ยังไม่หมดสภาพ ยางเปอร์เซ็นต์เส้นนั้นก็ยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ บางครั้งรถป้ายแดงขับออกมาจากโชว์รูมได้ไม่กี่วัน ก็เปลี่ยนยางเดิมออกแล้ว หรือใช้ยางเดิมได้ไม่กี่เดือน ก็อยากเปลี่ยนล้อแม็กวงโต+ยางแก้มเตี้ยตามแฟชั่น ก็อาจจะถอดยางชุดเดิมขายลดราคากับทางร้านหรือประกาศขายเองเป็นยาง เปอร์เซ็นต์

    บางครั้งยางก็ถูกเปลี่ยนออก เพราะความหวาดกลัวเกินไป ทั้งจากตัวเองหรือคำแนะนำที่ผิดๆ ว่ายางรถยนต์ใช้ได้แค่ 2 ปี หรือไม่เกิน 40,000 กิโลเมตร ทั้งที่ความจริงใช้ได้นานกว่านั้น ยางชุดนั้นจึงยังไม่หมดสภาพแต่กลับถูกเปลี่ยนออก ซึ่งเมื่อนำออกขายเป็นยางเปอร์เซ็นต์ ภสพาจึงยังดีอยู่ และสามารถใช้ต่อได้อีก

    การเลือกใช้ยาง เปอร์เซ็นต์ หากดูอย่างละเอียด รอบคอบ และเลือกยางที่ไม่ได้ถูกเปลี่ยนเพราะหมด สภาพ โดยเฉพาะยางที่ถูกเปลี่ยนเพราะเจ้าของเดิม อยากเปลี่ยนขนาด บางครั้งก็น่าสนใจ
    เปลี่ยนยางทิ้งเร็วเกินไป

    ความเข้าใจผิด : คนส่วนใหญ่เชื่อและได้รับ คำแนะนำที่ผิดๆ ว่ายางรถยนต์ต้องเปลี่ยนตามระยะทางเท่านั้นเท่านี้ หรือไม่เกินกี่ปีต้องเปลี่ยนออก แม้ว่าดอกยังไม่หมด หรือยังดูดีอยู่ก็ต้องเปลี่ยนออก หลายคนเชื่อปักใจ เพราะหวาดระแวงกลัวยางระเบิดแล้วอันตราย

    ความเป็นจริง: จริงอยู่หากยางระเบิดแล้วจะเสี่ยงต่ออุบัติเหตุหรือความยุ่งยาก ต้องเปลี่ยนยางกลางทาง แต่การใช้อะไรแล้วเปลี่ยนทิ้งทั้งที่ยังไม่หมดสภาพ เสียดายทั้งเงินทั้งทรัพยากรของโลกที่ต้องเสียไปด้วยความหวาดระแวง

    ผู้ ผลิตยางรถยนต์ส่วนใหญ่ แม้ว่าอยากจะขายยางเส้นใหม่เร็วๆ ก็ยังไม่เคยมีคำแนะนำให้เปลี่ยนยางเมื่อครบ 3 ปี หรือเมื่อเกิน 50,000 กิโลเมตรหรือต่ำกว่านั้นเลย มีแต่การแนะนำว่า สามารถใช้งานได้จนดอกจะสึกถึงสัญลักษณ์ที่จุดลึกสุดของร่องยาง และถ้าดอกยังไม่หมด หากดูแล้วไม่มีการแตกร้าวปริบวม ก็สามารถใช้ต่อได้จนดอกสึกถึงระยะข้างต้น โดยไม่จำกัดปีที่ใช้

    ค้น หาทั้งจากเอกสารหรือถามจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคของผู้ผลิตยางโดยตรง ก็บอกอย่างนี้ทั้งนั้น พอถามแบบกลางๆ ว่า งั้นของคำตอบที่คนทั่วไปอยากทราบได้ไหม เขาก็บอกว่า 3 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร หากดอกยังไม่หมด ยางส่วนใหญ่ (หากยางเส้นนั้นไม่ได้ใช้งานหนักบนทางวิบาก หรือได้รับการกระแทกบ่อย) น่าจะยังไม่หมดสภาพ และน่าจะใช้ได้อีกไม่น้อยกว่า 1-2 ปีขึ้นไป หรืออีกหลาย หมื่นกิโลเมตร และพอถามย้ำอีก เขาก็บอกว่า ประ มาณว่าถ้าดอกไม่หมดยางน่าจะใช้ได้เกิน 60,000 กิโลเมตรหรือแถวๆ 5 ปีได้สบาย และก็บอกทิ้งท้ายว่า ถ้าดอกไม่หมด และดูสภาพแล้วยังปกติ ก็ยังใช้ต่อได้อีก

    ขนาดฝ่ายผู้ผลิตที่อยากขายยาง ใหม่ให้ได้มากๆ ยังมีคำแนะนำให้ใช้งานได้นานกว่าความเชื่อของคนทั่วไป ดังนั้นก่อนที่จะเปลี่ยนยางใหม่ ก็ควรแน่ใจว่ายางเส้นเดิมหมดสภาพและไม่น่าเสี่ยงใช้งานต่อแล้ว ไม่ใช่เปลี่ยนเพราะความหวาดระแวง ทั้งที่เพิ่งผ่านการใช้งานเกินครึ่งมาไม่เท่าไร
    ยางเก่าเก็บไม่น่าสน

    ความเข้าใจผิด : เป็นที่ทราบกันทั่วไปว่า ยางรถยนต์ที่ถูกเก็บสต็อกไว้ สามารถหมดสภาพได้ แม้จะยังไม่เคยใช้งานก็ตาม แต่ตัวเลขจำนวนเดือนปีที่จะถือว่าไม่น่าซื้อใช้ของแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนตั้งใจว่า ผลิตเกิน 3 เดือนจะไม่ซื้อ บางคน 6 เดือน หรือบางคน 1 ปีกว่าๆ ยังรับได้ ความเข้าใจผิดก็คือ คนที่หวาดระแวงเกินเหตุ เก็บเกิน 3-6 เดือนไม่เอาแล้ว ทำเป็นว่ายางรถยนต์จะเน่าง่ายๆ แบบขนมเค้กหรือต้องรอของที่อบเสร็จกันหน้าเตาเลย

    ความเป็นจริง : ข้อมูลจากผู้ผลิตยางรถยนต์ หากเก็บโดยไม่โดนความร้อนจัดเย็นจัด ไม่ถูกสารเคมี และจัดวางอย่างเหมาะสม จะสามารถเก็บ สต็อกได้นานถึงกว่า 5 ปีก็ยังมี โดยไม่เสื่อมสภาพ สามารถนำมาใช้งานได้

    ส่วน ที่ตั้งแง่ว่าเกิน 3-6 เดือนจะไม่ซื้อ สงสัยต้องตระเวนหากันเหนื่อย ถ้ามีคนเข้าใจผิดกันมากๆ สงสัยอีกหน่อยต้องเหนื่อยไปดักซื้อหน้าโรงงานกันเลย ผลิตมาเก็บไว้ หากขายไม่ดี เกิน 6 เดือนแล้วจะขายไม่ออก

    ถ้าคิด ว่าคำแนะนำนั้นเป็นเพราะกลัวขายยางเก่าเก็บไม่ได้ ก็ย้อนไปอ่านกรณีที่แนะนำอายุการใช้งานของยาง ก็ยาวนานเช่นเดียวกัน ในฐานะของผู้บริโภคลดลงมาเหลือ 3 ปีก็คงรับได้ จึงสรุปว่า ยางรถยนต์ที่ถูกเก็บไว้ไม่เกิน 3 ปี ยังสามารถซื้อมาใช้งานได้ตามปกติโดยไม่ต้องกังวลอะไร หรือถ้ายังกลัว ก็สักไม่เกิน 2 ปียังรับได้ แต่ถ้าวิตกจริต เก็บมาแถวๆ ไม่เกิน 1 ปี หรือเกินเล็กน้อย ก็คงสบายใจได้
    ยางดอกหมดลื่น

    ความเข้าใจผิด : ยางดอกหมดหรือยางหัวโล้น จะลื่น นึกไปถึงหัวคนว่าโล้นแล้วต้องลื่น ถ้าจะให้ถูกต้อง ต้องบอกว่าลื่นบนถนนเปียก แต่บนถนนแห้งจะเกาะถนนดีกว่าบางมีดอกลึก

    ความเป็นจริง : ยางรถยนต์เกาะถนนได้โดยหน้าสัมผัสซึ่งทำหน้าที่เป็นเฟืองยางขนาดจิ๋วถี่ๆ ผังลงไปบนพื้นถนน ยิ่งมีหน้าสัมผัสมากก็ยิ่งมีเฟืองมาก เกาะถนนได้ดี ส่วนร่องยางที่มีนั้นเตรียมไว้ให้รีดน้ำออกจากหน้าสัมผัสของยาง หรือให้น้ำแทรกตัวเข้าไปอยู่ชั่วคราวได้

    ร่องยาง ส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นทรงตัว U แต่เป็น กึ่งตัว V ปากร่องกว้างกว่า ยอดของแท่งดอกยางจึงแคบกว่า เมื่อยางสึกลงไปร่องตื้นหรือเกือบหมด หน้าสัมผัสยางจึงมีมากที่สุด เพราะฐานของแท่งดอกยางกว้างกว่าตอนที่ยังไม่สึกมาก หากเนื้อยางยังไม่แข็งมาก ยางที่ดอกเกือบหมดหรือหมด แต่ยัง ไม่ทะลุ จะเกาะถนนแห้งได้ดีกว่ายางมีดอกมีร่องลึก เพราะเรื่องพื้นที่ของหน้าสัมผัสที่แตกต่างกัน แต่จะลื่นกว่าเมื่อเจอถนนเปียก เพราะไม่มีร่องยางช่วยรีดน้ำ หน้ายางจะมีชั้นฟิล์มของน้ำคั่นอยู่ จะสัมผัสถนนไม่เต็มที่

    ดังนั้นถ้าจะบอกว่ายางหัวโล้นขับแล้วลื่น ต้องระบุด้วยว่าบนถนนแห้งหรือเปียก
    ยางนอกดีกว่า

    ความเข้าใจผิด : หลายคนยังเข้าใจว่ายางที่ผลิตจากนอกหรือต่างประเทศจะมีคุณภาพดีกว่ายางไทย

    ความเป็นจริง : ไม่ว่าจะผลิตจากประเทศใด หากมองถึงคุณภาพ ก็ต้องว่ากันเป็นรุ่นๆไป จะบอก ไม่ได้ว่ายางญี่ปุ่นดีกว่าไทย ยางไทยดีกว่ายางมาเล-เซีย โลกเทคโนโลยีเชื่อมกันแล้ว การถ่ายทอดการพัฒนาการผลิตล้วนทำได้ถ้าตั้งใจจะทำ
    ยางนอกเก่าเก็บ

    ความเข้าใจผิด : คิดว่าต้องขนส่งทางเรือมา ข้ามน้ำข้ามทะเลมา กว่าจะเอามาจากโรงงาน ขนขึ้นและเดินทางในเรือ ออกจากไทย คงเก่าเก็บมาก

    ความเป็นจริง : หากมีการจัดการที่ดี รวมเวลา ทุกขั้นตอน ไม่ว่านำยางมาจากประเทศใด รวมขน ส่งถึงร้านยางทั่วไปในไทย ไม่น่าใช้เวลาเกิน 1 เดือน บางยี่ห้อคุยว่าครึ่งเดือนก็ถึงแล้วในกรณีที่นำเข้าจากญี่ปุ่น ซึ่งก็จริงเพราะใช้เวลาเดินเรือไม่กี่วันเท่านั้น ส่วนการขาขึ้นเรือหรือขนออกจากท่าเรือ ก็ใช้เวลาขั้นตอนละ 1-2 วันเท่านั้น
    ยางยี่ห้อไม่ดัง คุณภาพต่ำ

    ความเข้าใจผิด: ถ้าไม่ใช่ยี่ห้อดังติดหัวแถว คุณภาพจะต่ำ อีกทั้งยังเปรียบเทียบจากราคาที่ถูกกว่าของยี่ห้องดังๆ ก็เดาไปว่าของถูกแต่ดีไม่มีในโลก

    ความเป็นจริง : ยางรถยนต์ไม่ได้มีแค่ 2 ยี่ห้อ และยี่ห้อที่ไม่ดัง ก็อาจมีคุณภาพดีใช้ได้ เพียงแต่ไม่ติดกระแสหรือไม่โหมโฆษณามาก ทั้งที่คุณภาพดี แต่แพ้กระแสความเชื่อ และไม่ต้องเสียค่าโฆษณามาก ก็เลยตั้งราคาได้ต่ำ หากเลือกอย่างรอบคอบ ก็อาจจะได้ยางคุณภาพดีราคาถูกก็เป็นได้
    ซื้อยางในศูนย์บริการเร่งด่วนถูกกว่า

    ความเข้าใจผิด : มีการเปิดศูนย์บิการซ่อมรถยนต์แบบเร่งด่วนหลายสาขาหลายที่ และมักจะเน้นการขายยางรถยนต์ด้วย ซึ่งส่วนใหญ่มีการแข่งขันมากมาย มียางให้เลือกหลายยี่ห้อและจัดข้อเสนอพิเศษมากมาย ทั้งลดราคาทั้งแถม ซื้อ 3 แถม 1 หรืออะไรอีกสารพัด หลายคนจึงคิดว่า จะมีราคาถูกกว่าร้านยางห้องแถวทั่วไป

    ความเป็นจริง : เท่าที่เคยตรวจสอบราคา พบว่ามีน้อยครั้งมากที่จะมีราคาจริงในการซื้อยางถูกกว่าการซื้อยางตามร้าน ทั่วไป น่าแปลกทั้งที่สั่งซื้อยางในจำนวนมากกว่า แต่ทำไมขายถูกกว่าไม่ได้ คงเป็นเพราะค่าลงทุนด้านสถานที่และเครื่องมือมากกว่านั่นเอง
    ปะยาง แบบยิงยางเส้นอุด รั่วง่าย

    ความเข้าใจผิด : ทั้งคำแนะนำจากร้านปะยางหรือดูด้วยสายตา ก็ชวนให้คิดว่าการปะยางแบบยิงยางเส้นเข้าไปเบ่งตัวในรูรั่วน่าจะมีโอกาสรั่ว แบบซึมๆ ได้ในบางครั้ง หรือเมื่อใช้ไปนานๆ เพราะไม่มีการปะแบบอุดกาวหรืออัดแน่นให้เป็นชิ้นเดียวกันแต่อย่างไร

    ความเป็นจริง : น่าแปลกที่ผู้ผลิตยางแนะนำการปะยางแบบนี้เป็นมาตรฐาน และไม่แนะนำการปะยางแบบสตีมอัดทับรูรั่วด้วยยางแผ่นและความร้อน เพราะจะทำให้ยางแข็งหรือบวมได้ สวนทางกับร้านปะยางที่พยายามจะให้ปะแบบสตีม ที่ทำเงินได้มากกว่า และดูแน่นหนากว่า

    หลายเรื่องในโลกรถยนต์ มีความเข้าใจผิดกันอยู่ และไม่ใช่เรื่องน่าอายถ้าจะทำความเข้าใจให้ถูกต้อง

    ข้อมูลจาก
    http://www.topspeedtv.info/topspeed_trick/trick_detail.php?type_id=1&trick_id=23&active=4
     
  2. elmo

    elmo New Member Moderator VIP

    2,174
    3
    0
    โอ้ว ความรู้ สูบๆ
     
  3. buzz_ae

    buzz_ae New Member Member

    380
    67
    0
    ซู้ดดดดดดดดยอด..
     
  4. Suntipop

    Suntipop New Member Moderator

    509
    11
    0
    โอเคนะ....
     
  5. numodlove

    numodlove New Member VIP

    1,408
    44
    0
    ขอบคุณมากพี่ เดียวกับมาอ่าน
     
  6. aradene

    aradene New Member Member

    51
    2
    0
    ตาลายยยเล้ยย

    คราวนี้ไม่พลาดแระ อิอิ
     
  7. RollriderS

    RollriderS New Member Moderator

    2,318
    9
    0
    แหร่มมมมมมม
     
  8. noikong _7555

    noikong _7555 New Member Member

    103
    0
    0
    ขอบคุงคับ
     
  9. ozmozizz

    ozmozizz New Member Member

    300
    3
    0
    เยี่ยมครับ
     
< Previous Thread | Next Thread >

แบ่งปันหน้านี้