ซีวิคตัวใหม่ minor Change

เอามาให้เพือนๆชมคับ แต่เป็นตัวญี่ปุ่นแต่คงไม่ต่างกับบ้านเรามากคับ ( ในความคิดของผนน่ะคับ )

เปรียกเทียบว่าต่างกับตัวเก่าไงบ้าง











ต่อด้วยรูปเดียวดูกันชัด
ภานใน




ภายนอกบ้าง





เบาะหลังเปิดได้ด้วย


อันนี้ข้อมูลเพิ่มเติม เป็นการเพิ่มความมั่นใจ ต้องอ่านให้หมดน่ะครับ แล้วจะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลง ข้อมูลทุกอย่างอยู่ด้านล่างหมดแล้วครับ ..
ซีวิค ไมเนอร์เชนจ์ ญี่ปุ่นคือ โฉมไทย
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 5 กันยายน 2551 16:42 น.
ตามการปรับโฉมของเวอร์ชันอเมริกันมาแบบติดๆ เพราะในตอนนี้ ฮอนด้า มอเตอร์แห่งญี่ปุ่นจัดการเผยโฉมรุ่นไมเนอร์เชนจ์ของซีวิคออกมาแล้ว พร้อมกับการปรับโฉมที่ดูสวยสะดุดตาด้วยการใช้กันชนหน้าในสไตล์สปอร์ต ที่มีรูปร่างคล้ายกับรหัสแรงอย่างไทป์-อาร์

ซี วิค เจนเนอเรชันที่ 8 เปิดตัวในปี 2005 และมี 3 เวอร์ชันหลักในการทำตลาด คือ อเมริกาเหนือและตลาดพวงมาลัยซ้ายอย่างจีน ตามด้วยยุโรปที่มีเฉพาะตัวถังแฮทช์แบ็ก 3 และ 5 ประตู และเปิดท้ายกับเวอร์ชันญี่ปุ่น และตลาดพวงมาลัยขวาอย่างไทย สิงคโปร์ และออสเตรเลีย

การ ปรับโฉมครั้งนี้มาพร้อมกับการเพิ่มความสวยแบบสปอร์ตด้วยกันชนหน้าลายใหม่ คล้ายกับที่ใช้อยู่ในซีวิค ไทป์-อาร์ และเสริมด้วยตะแรงกันหินกระเด็นที่ตรงบริเวณช่องรับอากาศ ขณะที่ไฟหน้าเปลี่ยนบุคลิกของโคมข้างในด้วยการรวมพื้นผิวภายในให้เข้มขึ้น จากเดิมที่เป็นสีเงินสะท้อนแสง และกระจังหน้าลายใหม่คล้ายกับที่ใช้อยู่ในสตรีมใหม่

สำหรับด้านท้ายยังใช้ไฟท้ายทรงเดิม แต่ไฟท้าย 2 ดวงที่แต่เดิมเป็นทรงกลมเปลี่ยนเป็นแบบเหลี่ยม และติดตั้งสปอยเลอร์แบบ DuckTail มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในบางรุ่น ส่วนล้อแม็กยังเหมือนเดิม ในรุ่น 1.8 มีทั้งแบบ 15 นิ้วที่เป็นคนละลายกับบ้านเรา และ 16 นิ้วแบบ 5 ก้านลายเดียวกัน ส่วนรุ่น 2.0 มีเฉพาะลาย 5 ก้าน 16 นิ้วเหมือนกับรุ่น 2.0 เวอร์ชันแรกในบ้านเรา

แต่ ฮอนด้ายังเพิ่มอีกทางเลือกด้วยเวอร์ขัน S-Package ให้กับรุ่น 1.8 และ 2.0 ซึ่งถ้าเป็นรุ่น 1.8 จะมากับล้อ 16 นิ้วลายใหม่ และในรุ่น 2.0 นิ้วเป็นล้อ 17 นิ้วลายใหม่ พร้อมเพิ่มความดุดันด้วยเบาะนั่งและการตกแต่งภายในเป็นสีดำล้วน

ภายในห้องโดยสารไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง อุปกรณ์หลักๆ ยังเหมือนกับรุ่นก่อนปรับโฉม แต่มีการเพิ่มระบบสตาร์ทแบบไม่ต้องใช้กุญแจ หรือ Keyless เข้ามา

เครื่องยนต์ยังเหมือนเดิม เริ่มกับ R18A 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว i-VTEC 1,800 ซีซี 140 แรงม้า ที่ 6,300 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 17.7 กก.-ม. ที่ 4,500 รอบ/นาที ตามด้วยรุ่น K20A 4 สูบ ทวินแคม 16 วาล์ว 2,000 ซีซี 155 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 19.2 กก.-ม. ที่ 4,500 รอบ/นาที

และรุ่นไฮบริด เครื่องยนต์รหัส LDA-MF5 1,300 ซีซีจับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า มีกำลังสูงสุดรวมกัน 110 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 16.9 กก.-ม. ที่ 1,000-2,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ CVT ส่วนรุ่นธรรมดามีทั้งเกียร์ธรรมดา และอัตโนมัติ 5 จังหวะให้เลือกใช้เหมือนเดิม

ใน ญี่ปุ่นเริ่มทำตลาดแล้วตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน ส่วนบ้านเราน่าจะเปิดตัวในช่วงเดือนตุลาคมหรือไม่ก็พฤศจิกายน ก่อนงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป พร้อมกับหน้าตาที่น่าจะเหมือนกับเวอร์ชันญี่ปุ่น เพราะแต่ไหนแต่ไรมา ซีวิคที่ขายในบ้านเราก็อิงรายละเอียดและรูปลักษณ์จากแดนปลาดิบอยู่แล้ว ส่วนราคาขายในญี่ปุ่นอยู่ที่ 1,937,250-2,856,000 เยน หรือ 581,000-856,000 บาท


เคดิต Thakeshi และ chocolatemousse ขออนุญาติมา ณ นี้ด้วยน่ะคับ

 

หูย ๆ ๆ ดูหรูก่าเยอะเลยคับ แต่แม็ก แบบ เดิมสวยก่าคับ

 

ตอบ

หล่อจัดชักจะอยากได้ซะแล้ว

 

ข้อมูล แหล่ม เลย สวยๆๆ อ่ะ

 

แล้วไง ES สวยกว่า เยอะ....(ส่วนตัวนะ)

จริงไหมน้องโอ๊ต.....

 

ซี๊ด...............สุดติ่ง

 

ดูแล้ว น่าจะเอาตัวเก่า มาแปลงเป็น Minor Change ได้ไม่ยากนะครับ

 

ถูกต้องครับพี่เจษ

 

จ ริ ง คั บ เ พ่ เ จ ต อิ อิ

 

ผ ม ว่ า เ ป ลื่ ย น ไ ม่ กี่ ชิ้ น เ อ ง คั บ ถ้ า ภ า พ น อ ก น่ า จ ะ สั บ กั น ไ ด้ โ ด ย ไ ม่ ย า ก

 

ก็สวยไปอีกแบบ แต่ตอนนี้รัก ES มากกว่า(แบบว่าคล้ายๆเพ่น้องในคลับ)

 

ว๊าว

 

esจงเจริญ

 

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับพี่น้อง

ว่าแต่ล้อ 17 ลายใหม่ของFDนี่ น่าจับมาใส่ ES สีดำแล้วแต่งแนว VIP จัง

 

เสียดาย กระจกมองข้างยังอยู่ที่เดิม นะ

 

สวยมากครับ


แต่ผมก็ยังขับ ES อิอิ

 

ES จงเจริญ

 

เห็นด้วยอย่างแรง

 

ถ้าออกมาตามนี้จริง คงแปลงไม่กี่ตังแฮะ