กระแสบริโภครถจักรยานยนต์ เพิ่มความสนใจ"คอมบาย เบรก"

กลุ่มผู้บริโภครถจักรยานยนต์ มุ่งให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการอย่างหลากหลาย โดยเน้นในด้านเทคโนโลยีล้ำสมัย ซึ่งล่าสุดให้ความสนใจเพิ่มมากขึ้นในเทคโนโลยีระบบความปลอดภัย ส่งผลให้รถจักรยานยนต์ฮอนด้าที่ติดตั้งเทคโนโลยี"คอมบาย เบรก" ได้รับการตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดี และผลักดันให้ปริมาณการจำหน่ายขยายตัวต่อเนื่องด้วยสัดส่วนมากถึง 42%

นายณัฐชัย ศรีโสวรรณา ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายส่งเสริมการจำหน่าย ส่วนงานการตลาด บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด กล่าวว่า จากพฤติกรรมการบริโภคของกลุ่มผู้ใช้รถจักรยานยนต์ในปัจจุบันที่มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่อันมีความล้ำสมัยในด้านเทคโนโลยี ทำให้ผู้บริโภคมีความสนใจและหันมานิยมใช้ผลิตภัณฑ์รถจักรยานยนต์ที่มีความก้าวล้ำ ในขณะเดียวกันสามารถสนองตอบความต้องการได้อย่างหลากหลาย ซึ่งนอกเหนือจากเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของเครื่องยนต์ที่เป็นระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด PGM-FI (Programmed Fuel Injection) อันก่อให้เกิดความประหยัดแล้ว ในขณะนี้แนวโน้มความต้องการของกลุ่มผู้ใช้ยังให้ความสนใจเพิ่มมากขึ้นในเทคโนโลยีเกี่ยวกับความปลอดภัย ทั้งนี้เนื่องจากเป็นการสร้างความมั่นใจในการขับขี่

ทั้งนี้เทคโนโลยีระบบคอมบาย เบรก ได้รับการติดตั้งเฉพาะในรถฮอนด้าแบบ เอ.ที. (Automatic Transmission) หรือแบบเกียร์อัตโนมัติ ได้แก่ รุ่น Icon , Click-i และ Air Blade ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบสัดส่วนการจำหน่ายของรถที่ติดตั้งระบบคอมบาย เบรก จากปริมาณจำหน่ายรถฮอนด้าแบบ เอ.ที. ทั้งหมดแล้ว มีอัตราการเติบโตเพิ่มสูงขึ้นมาโดยตลอดนับตั้งแต่เริ่มต้นวางจำหน่าย คือ ปี 2549 มีสัดส่วนเพียง 19% เท่านั้น และเพิ่มขึ้นเป็น 39% ในปี 2550 ส่วนล่าสุดตั้งแต่เดือน ม.ค. - ก.ย. 2551 มีสัดส่วนสูงขึ้นถึง 42% โดยมียอดจำหน่าย 57,317 คัน , 137,550 คัน และ 110,315 คัน ตามลำดับ ในขณะที่ปริมาณจำหน่ายรถฮอนด้าแบบ เอ.ที. ทั้งหมดมีจำนวน 300,833 คัน , 353,561 คัน และ 264,589 คัน ตามลำดับ

สำหรับระบบคอมบาย เบรก คือ ระบบเบรกนิรนัยที่เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีเฉพาะของฮอนด้า โดยเทคโนโลยีนี้เป็นระบบการกระจายแรงเบรก ซึ่งเมื่อใช้เพียงเบรกหลังเท่านั้น ระบบจะทำงานด้วยการกระจายแรงเบรกไปยังทั้งล้อหน้าและล้อหลังอย่างสมดุล ส่งผลให้มีระยะเบรกสั้นและหยุดรถได้อย่างปลอดภัย ล่าสุดนี้ทางฮอนด้าได้ติดตั้งเทคโนโลยีนี้ในรถรุ่น Click-i เวอร์ชั่น Tune Up ใหม่ รวมทั้งมีแผนงานขยายการติดตั้งเทคโนโลยีนี้ในรถจักรยานยนต์ฮอนด้าให้ครอบคลุมรุ่นต่างๆ มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างคุณค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ รวมทั้งสนองตอบต่อความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย

Credit: www.aphonda.co.th คับ

เราว่าเรื่องระบบนี้ก็ดีนะ มีส่วนในการซื้อรถใหม่เหมือนกัน แบบว่า อุ่นใจดี เผื่อ แม่ หรือ แฟนขับ เงี้ย ง่ายคนทั่วไปหน่อย (แต่งแต่สวย ไม่แต่งเครื่องอ่ะ อย่างผม

 

อื้ม คอมบายเบรก เทคโนโลยีเจ๋งๆ แต่ไม่ซับซ้อน แค่มีเหล็กยาวๆ ไว้ดึงก้านเบรกขวา เวลากดเบรกซ้าย และไม่มีไฟฟ้าเข้ามาเกี่ยวข้องเลย

 

เล่นง่าย แต่ได้ใจผู้ขับขี่

จนผมต้องเปลี่ยนแบรน์เลยทีเดียวครับ

เดี๋ยวเล่นพี่ยามาฮ่า แต่ตอนนี้ ขอมาคลิ๊กกับเค้าม่างแล้ว

ในส่วนตัวผมน่ะ คลิ๊กตัวใหม่ที่ผมซื้มาขัยเนี้ย ผมกลับสนใจระบบหัวฉีดมากก่าที่ระบบเบรกอีกครับ เพราะว่าของเดิมๆเหนียวดีอยู่แล้ว อันนี้ส่วนตัวจริงๆ หัวฉีด

แต่ข้อเสียที่คลิ๊กชัดๆเลย ตัวผมเองว่าถังจุน้ำมันเครื่องมันเล็กขนาดดดดดด วิ่งได้ไม่เท่าไหร่หมดซ่ะแล้ว เลยต้องเติมกันถี่ขึ้น (เดิมเล่นนูโว่ เลยไม่คุ้นมั่ง)

อิอิ ทั้งสิ้นทั้งปวก ก็บอกได้คำเดียวว่า คลิ๊กแล้วครับ

 

ในโบชัวเหมือนมันจะบอกว่าถังจุได้ 3.9 ลิตร
แต่ที่ไหนได้ เติม 2 ลิตรกว่า ก็เต็มละ ผมเติม 50.- อยู่ได้ 3 วัน

 

อีกหนึ่งเทคโนดลยี ที่ทำให้ผมเลือกคลิกมาขี่ครับ

 

เขียนซะยาวเลยแต่มีประโยชนครับ

 

รถบบนี้น่าสนคับ โดนใจคนใช้เยอะ

ส่วนกระแสหัวฉีด มาแรง เลย คนสนใจมากกว่า คำนี้คับ แต่คนใช้มอไซค์ คงรู้ๆกันอยู่ว่าเป็นไง

ส่วนเรื่องเติมน้ำมัน ผมเติม ราวๆ 70 -80 ตลอดอ่ะคับ ??? เพราะเวลาเข็มตกสุด มันจะ เหลือ อีกประมาณ ลิตร นึง
เพื่อความปลอดภัย ให้มีน้ำมันขับหาปั้มได้ไงคับ

 

ที่ซื้อ คลิ๊ก ตอนออกใหม่ สมัยนั้น
นูโว เป็นทางเลือกแต่ผมลองเปรียบที่ราคา กับความคุ้ม
คลิ๊กมีอะไรมากกว่าคู่แข่ง เช่น
ราคาถูกกว่า
ระบบคอมบายเบรค
เหล็กกันกระแทกใต้ท้องเครื่อง
ระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำ
Prakingbake
sidestand switch
ท่อไอเสียเสียงเบาป็นมิตรสิ่งแวดล้อม
เสียงสตาร์ฟ้าฝ่า สตาร์ทมือ
ไฟท้ายไฟเบรค 3 ดวง
ไฟหน้าสว่างโคตร โคตร
ที่พักเท้าคนซ้อนนั่งสบาย แฮนด์แคบ
ที่เก็บของใต้เบาะ พอเก็บของได้
เสีย พรบ ถูกเพราะไม่เกิน 110 cc

 

ที่ซื้อคลิ๊กครั้งแรก เพราะ ชอบตรงทีมันสะดวก ใช้งานง่าย มีสตาร์ทมือ เซฟตี้เพียบเหมือนรถสกูตเตอร์นอก ประหยัดน้ำมัน ชอบระบบรองรับน้ำหนัก ส่วนตัวคิดว่าเท่ห์ดี โปรอาร์ม แบบรถใหญ่ (จริงๆไม่เกี่ยวกันเลย) และคิดว่าอุปกรณ์สำหรับเพิ่มประสิทธิภาพมีให้เลือกซื้อเยอะ (เบรค โช๊ค แมกซ์ ฯลฯ ) และที่ซื้อคลิ๊กเพล์ เพราะไม่ชอบรถลายเยอะ
มีปริมาตรความจุน้อย และยังพบปัญหาที่เป็นจุดอ่อนอยู่บางแห่ง (ตรงฝาสูบ)
ที่ซื้อคลิ๊กใหม่ เพราะประหยัดน้ำมันกว่า เทคโนโลยีเยอะดี รูปทรงโอเคพอรับได้ และคันเดิมเริ่มเก่าแล้ว (ใช้งานมาดุเดือด)
ที่ไม่ซื้อคลิ๊กตั้งแต่ครั้งแรกอีกครั้ง (ที่เริ่มออกจำหน่าย) เพราะไม่ชอบที่เครื่องยนต์ยังซีซีน้อยเหมือนเดิม

....... และหวังว่า เอพีออนด้า คงมาอ่านกระทู้ผม ที่เป็นเสียงเล็กๆ ที่ผมจะบอกว่า ผมอยากได้ Click i 125 CC น่ะ ไว้เป็นเจเนเรชั่นต่อไปนะ ยาวไป.....

 

ไม่รู้น่ะครับ เพราะว่า หัวฉีดเนี้ย ไม่น่ามีปัญหาเลยครับ

เพราะว่าญาติเคยซื้อ เวฟ ไอ หัวฉีดมาขับ ตอนนี้ก็สามปีกว่าๆแล้ว ปัญหายังไม่มีไรเลยอ่ะครัย

ต้องดูกันไปครับ แต่งานออกมาได้ดีน่ะครับ สำหรับฮอนด้า(อีกข้อนึงที่ฮอนด้ายังเวิกคือเรื่องการดังจากชุดสี)เพราะว่าเนื่องด้วยตัวยึดจากน็อตกับชุดสีน้อยไปเลย เลยทำให้เวลาขับขี่ไม่เสียงดังจากชุดสีบ้าง

ซึ่งเมื่อก่อนผมเล่น นูโว ไม่เคยมีเสียงจากชุดสีเลย ขนาดไม่ใส่บ้างในบ้างจุดก็ตาม

คงต้องรอดูต่อไปครับ สำหรับการพัฒนาในจุดเล็กๆน้อยนี้(ฮอนด้าเป็นอย่างงี้มานานแล้ว เวฟนี่ดังสุดๆ)

รักคลิ๊ก ก็เลย คลิ๊กแล้ว อิอิ

 

หัวฉีดของมอไซ มันจะฉีดลงไปในท่อไอดีครับ ฉีดก่อนวาว์ลไอดีเปิดนิดนึง
แต่ของรถยนต์ จะฉีดเข้าห้องเผาไหม้โดยตรงเลย ซึ่งจะเป็นฝอยละอองดีกว่า
ก็งงๆ อยู่ว่าทำไมฮอนด้า เขาถึงไม่ย้ายหัวฉีดไปไว้ที่ฝาสูบ แล้วฉีดเข้าไปเลย
ส่วนท่อไอดี ก็ดูดแต่อากาศก็พอ เหมือนรถยนต์อ่ะ แถมติดเทอร์โบได้ด้วย...

 

ที่ทำออกมาเพื่อ ความกระทัดรัด + การดูแลที่ง่ายขึ้นละมั้งคับ

ชอบคอมบายเบรค ด้วย ดีคับ นี่ออกมาเป็นหัวฉีดรุ่นที่ 3 แล้ว ด้วยความเสถียร์ เรื่องคุณภาพ คงดีแน่นอน

ดูอย่างประกันออกมาได้ 5 ปี เห็นแล้วอิจฉารถใหม่ๆเลยเหมือนกันนะเนี่ย..... หิหิหิ

 

หัวฉีดติดตำแหน่งนั้นเขามีเหตุผล ส่วนเวฟไอ เคยเอาไปวิ่งกับเวฟธรรมดามั้ย เดิมๆน่ะ จะรู้ว่ามันไม่แรง