ผมเพิ่งเปลี่ยนยางมาใหม่ขนาด 195/55/15 ร้านเติมให้ 35ปอนด์(ในคู่มือยางให้เติม 36ปอนด์) แต่เห็นเพื่อนๆ เติมกัน 32ปอนด์ อย่างนี้ต้องเติมที่เท่าไหรดีครับ ขอบคุณครับ
ผมก้อเพิ่งเปลี่ยนมาเบอร์เดียวกันเลย ร้านเพาเวอร์แมก ตรงกม.8 เค้าให้เติม 30 ปอนด์ก้อพอ มันจะไม่กระด้าง แล้วจาเชื่อใครดี เห็นคนอื่นเค้าเติมเกินจากนี้กันทั้งนั้นเลย
- ส่วนมากผมใช้งานจริงก็หน้ายางลงพื้นเต็มที่ก็เติมประมาณ 30 ที่ล้อหน้า ล้อหลัง30 เนื่องจากว่ารถเราก็มีน้ำหนักไม่มากและรถผมมีคนนั้งไม่เกิน2คนลมยางแค่นี้พอที่รับหนักไหวแล้วครับ แต่ถ้ามีการบรรทุกของหรือมีคนนั้งเพิ่มมากกว่า2คนขึ้นไป ผมจะเติม ล้อหลัง32 ครับเนื่องจากเพื่อคนนั่งและการบรรทุกของเพิ่มครับ แต่หากเติ่มมากกว่านี้จะทำให้เวลาเราวิ่งทางไกลๆๆจะเสี่ยงกับยางอาจจะระเบิดได้ครับ ไม่ข้อเอ่ยต่อนะครับว่าเพราะอะไรเนื่องเคยมีกระทู้ที่เปรียบเทียบกันระหว่างไนโตรเจนกับลมธรรมดานะครับไปค้นดูแล้วจะเข้าใจครับ ปล. เป็นความคิดเห็นที่ผมค้นคว้ามาและจากประสบการณ์ ความเห็นส่วนตัวด้วยนะครับ
......โดยส่วนมากแล้วค่าเฉลี่ยของความดันลมยางของ....รถเก๋งเล็ก-กลาง.....จะอยู่ที่ประมาณ 28-30 ปอนด์/ตารางนิ้ว ...... และประมาณ 35-40 ปอนด์/ตารางนิ้ว สำหรับรถกระบะ......ในสภาวะการขับขี่ทั่วไปที่ไม่บรรทุกหนักยก...... ....อยากรู้อะไร.....เกี่ยวกับยาง......ลองเข้าไปอ่านดูสิ......http://www.bridgestone.co.th/th/tire_safety/tire_safety_usage.aspx ....คงจะได้ความรู้บ้าง.....ไม่มากก็น้อย....
ผมขอบ14 เติม 40ครับ จิงนะคับ ผมว่ามันวิ่งดีเเต่ก็กระด้างเยอะครับ เคยดูรายการรถ เค้าสัมภาษณ์ อ.พัฒนเดช ท่านบอกว่ารถที่วิ่งทดสอบเรื่องประหยัดน้ำมันที่บอกว่าที่เค้าทดสอบวิ่งทางไกล ใช้น้ำมันถังเดียวอ่ะเค้าเติมลม 60ครับ ขนาดเติม40ยางยังกินข้างเลย ไม่กินกลางเหมือนในรูปที่ลงนะครับ
เท่าที่ทราบมาเวลาเปลี่ยนยางใหม่ ควรเติมลมยางให้แข็งไว้ก่อนแล้ววิ่ง ไปประมาณ1อาทิตย์ หลังจากนั้นก็ ปล่อยลมยางให้อยู่ในระดับพอดีๆคับ 29-30ปอนด์
ผม 32-34 วิ่งทางไกลบ่อยเหมือนกัน รู้สึกเหมือนกันว่ามันประหยัดขึ้น งะ เท่าที่รู้มาลมอ่อนระเบิดง่ายกว่า สรุป อะไรถูกล่ะเนี่ยยยย ที่เคยได้ยินมาคือความร้อนที่เกิดขึ้นจากการใช้งานจะไปลงกับลมยาง กลายเป็นว่า ถ้าลมน้อย ก็จะรับความร้อนเข้าไปเต็มๆ ทำให้ลมร้อนมาก ขยายตัวมาก ระเบิดตู้ม .... แต่ถ้าลมเหมาะสม ความร้อนก็กระจายๆกันไป อะไรอย่างงี้ ถูกผิดไม่รู้แล้วแฮะ อย่างไรก็ดี ผมว่า ลมยาง เติมได้หลากหลาย ขอให้อยู่ในช่วงที่พอดีๆไม่มากไปน้อยไป (29-32 อันนี้ผมก็เดาเอาเองอ่านะ) ก็โอเคแล้วล่ะครับ
อย่าซีเรียสครับ เครืองวัดแต่ละอันยังไม่เท่ากันเลย เอาว่าประมาณ 30 +- นิดหน่อยก็ไม่มีปัญหาครับ ขอให้เท่ากันทั้งข้างซ้ายและขวา
เห็นด้วยครับ อย่าไปเชื่อเกจ์ตามปั๊มนักเลย ใช้มาตั้งแต่ปั๊มเปิด วันละไม่รู้กี่ร้อยคันไม่เคย Calibrate เลย วัดต่างปั๊ม ค่าก็ต่างกัน ทางที่ดีแนะนำให้ซื้อเกจ์วัดยี่ห้อดี ๆ ติดรถไว้สักอันดีกว่าครับ เมื่อก่อนใช้ของ Michellin อยู่ อันละ 800 กว่าบาท แต่ตอนนี้ เพื่อนยืมหายไปไหนไม่รู้ ใครเจอขายที่ไหน ช่วยบอกกันด้วยนะครับ
แรงดันลมยาง ต้องเชื่อคู่มือประจำรถยนต์เหรอ? คนส่วนใหญ่เชื่อว่า ค่าแรงดันลมยางที่แนะนำนั้น น่าเชื่อถือและต้องปฏิบัติตามอย่าง เคร่งครัด โดยไม่สามารถประยุกต์ไปใช้แรงดันต่างออกไปได้ ถ้าเติมลมตามสเปกนั้นก็ไม่อันตราย แต่อาจไม่ใช่แรงดันลมที่เหมาะสมที่สุดสำหรับยางรุ่นนั้นๆ ก็เป็นได้ เพราะผู้ผลิตรถยนต์ไม่ทราบเลยว่าหลังจากยางที่ให้มาจากโรงงานประกอบถูกใช้หมดสภาพ จะถูกเปลี่ยนเป็นยาง รุ่นใด มีโครงสร้างอย่างไร แต่ก็ต้องแนะนำไว้ล่วงหน้าให้เป็นค่าเฉลี่ย ซึ่งอาจไม่ใช่ดีที่สุด แต่สามารถใช้งานได้อย่างไม่มีปัญหา ตามหลักวิชาการที่ลึกกว่านั้น อาจมีค่า แรงดันลมยางซึ่งเหมาะสมกว่าและต่างจากคำแนะนำในคู่มือฯ เพราะยางแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อ แม้เป็นขนาดเดียวกัน แต่ก็มีโครงสร้างภายใน และเนื้อยางแตกต่างกัน หรืออีกในกรณี ถ้าเปลี่ยนขนาดยาง ทั้งความกว้างหรือแก้มยางต่างออกไป ก็ยิ่งมีแนวโน้มว่า อาจไม่ต้องเติมลมยางตามกำหนดนั้นเสมอไป ในการใช้งานจริง เราสามารถเลือกเติมลม ยางได้แรงดันที่ต่างจากการแนะนำนั้นได้ โดยเริ่มจากทำตามการแนะนำก่อน ขับใช้งานเพื่อจับอาการต่างๆ สักวันสองวัน แล้วก็ลองลดแรงดันลมยางลงสัก 2 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว ขับไปวันสองวันเปรียบเทียบอาการกัน ต่อมาก็เพิ่มแรงดันขึ้นจากการแนะนำ 2 ปอนด์ต่อ ตารางนิ้ว ทำซ้ำต่อมาถ้ายังมีเวลาก็เพิ่มหรือลด จากจากการแนะนำสัก 4-5 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว แล้วจับอาการดูว่าอัตราเร่งอืดไหม กระเด้งกระด้างไปไหม ลื่นไปไหม แล้วค่อยตัดสินใจว่ายางชุดนั้นควรเติมลมด้วยแรงดันเท่าไร เหมาะสำหรับลักษณะการขับของตนเองไหม รถ ยนต์รุ่นเดียวกันยางรุ่นเดียวกันขนาดเดียวกัน แต่ต่างคนขับกัน ก็อาจจะใช้แรงดันลมยางที่ชอบต่างกันก็เป็นได้ โดยทั่วไปหากมีการเติมลมต่างจากการแนะนำ ก็พบว่าไม่น่าต่างเกิน + หรือ - 5 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว หากแรงดันลมยางอ่อนเกินไป เร่งแล้วจะหนืด อัตราเร่งไม่ดี เพราะยางจะย้วยจึงหมุน ยาก แต่รู้สึกว่าเกาะถนน เพราะมีหน้าสัมผัสเต็มที่ ถ้าแข็งมาก ยางจะหมุนง่าย เพราะหน้ายางและแก้มยางมีความตึง แต่จะลดการเกาะถนนลงไป เพราะหน้าสัมผัสมีแรงกดเต็มที่แนวกลางเท่านั้น และกระด้าง เมื่อตัดสินใจใช้แรงดันใดๆ ไปสักเดือน ให้ดูการสึกหรอของหน้ายางด้วย หากสึกหรอแถบกลางมากว่า แสดงว่าแรงดันลมยางสูงไป แต่ถ้าริมทั้ง 2 ข้างสึกหรอมากกว่าแถบกลาง แสดงว่าแรงดันต่ำไป (ศูนย์ล้อและระบบช่วงล่างต้องปกติ) หากไม่ใช่เป็นคนที่จับอาการของรถยนต์ในการขับได้ดี หรือความรู้สึกช้า ไม่สามารถแยกความแตกต่างได้ ก็ควรปฏิบัติตามคู่มือประจำรถยนต์
ที่ Autobac สาธรมีครับ ของ Michellin เลย เห็นอยู่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่ราคาไม่ใช่ 800 อะครับ แพงกว่านี้อีก จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่
ผมเคยซื้อที่ตึกวรจักรนานแล้วนะ 500 บาท แต่พังไปแล้ว ล่าสุดไปเจอที่เดิม ราคา 950 บาท ซื้อไม่ลงเลย ตัดใจซื้อแบบธรรมดามา 100 บาท พังก็ชั่งมัน