โช้คพร้อมสปริงปรับเกลียวแบบรถแดรกทําทีใหน

การสนทนาใน 'Drag Racing' เริ่มโดย gowest, 17 พฤศจิกายน 2008

< Previous Thread | Next Thread >
  1. gowest

    gowest New Member Member

    89
    2
    0
    โช้คพร้อมสปริงปรับเกลียวแบบรถแดรกทําทีใหน กันครับ
    พวกทีไส่ 4 link ....ladder bar กันหนะครับ
    บ้านเราทําได้รืเปล่า รืว่าสั่งนอกสถานเดียว
    [​IMG]
     
  2. dome2dome

    dome2dome New Member Member

    105
    2
    0
    จริงๆแล้วมันก็เป็นช็อคที่สวมเสื้อเกลียวด้านนอกธรรมดาครับพี่ โรงกลึงที่เคยทำเขาจะทราบดี ส่วนวัสดุก็มีทั้งเหล็กและอลูมินั่ม เรื่องที่ต้องให้ความสำคัญคือตัวช็อคและสปริงมากกว่าครับ
    ๑. ช็อคโดยทั่วไปมีสองแบบคือ ปรับได้เฉพาะขาลงหรือขึ้นเท่านั้น(single adjustable) และอีกแบบปรับได้ทั้งขาลงและขึ้น(double adjustable) ส่วนที่ซิ่งมากๆก็จะเป็นพวก 3-way, 4-way คือมีวาล์วแยกในช่วงhi-speed low-speed ปรับละเอียดทั้งจังหวะขึ้นและลงอีกที ซึ่งการเซ็ตอัพต้องใช้chassis data log โดยวัดจากเซ็นเซอร์ที่ติดไว้ที่ข้างช็อค(linear sensor/shock sensor) ส่วนใหญ่ใช้ในรถทางเรียบ(รถแข่งบ้านเราก็ใช้กันหลายคัน กระบอกสีส้มๆ)

    ๒. สปริง มีข้อควรคำนึงสองอย่างในการเลือกคือ
    ๒.๑ ความสูงของสปริง(spring height) ต้องใช้ให้ตรงตามที่โรงงานช็อคระบุมาซึ่งมันสัมพันธ์กับสโตรคของช็อคนั้นๆ เช่น Koni drag 8212 stroke 7" ต้องใช้กับสปริง 14" เท่านั้น
    ๒.๒ Spring rate คือค่าความแข็งของสปริง โดยในกรณีของรถแดรกจะมีสูตรคร่าวๆตามด้านล่างนี้ครับ

    FRONT REAR
    Rate lbs. Total Weight on Front Wheels Rate lbs. Total Weight on Rear Wheels
    200 600–800 lbs. 65 Under 800 lbs.
    250 800–1000 lbs. 80 800–1000 lbs.
    275 1000–1100 lbs. 95 1000-1100 lbs.
    300 1100–1200 lbs. 110 1100–1200 lbs.
    350 1200–1500 lbs. 125 1200–1300 lbs.
    400 1500–1800 lbs. 150 1300–1400 lbs.
    450 1800–2000 lbs. 175 1500–1700 lbs.
    500 2000–2300 lbs. 200 1700–2300 lbs.
    550 2300–2500 lbs.
    650 2600 lbs. & up

    อย่างในรูปก็ถือว่าไม่ซิ่งมาก อาจเป็นพวกรถแบร็คเก็ต เพราะเฮ้าซิ่งยังเป็นของโรงงานอยู่และstabilizer bar ก็ยังดูขนาดไม่ใหญ่นัก ส่วนช็อคเป็นของ competition engineering บ้านๆครับ

    ไม่ทราบว่าตอบเกินที่ถามรึปล่าวนะครับ
     
  3. Fluid

    Fluid New Member VIP

    1,214
    57
    0
    อย่างที่ข้างบนว่าอ่ะครับ มันปรับได้ทั้ง Bump and Rebound ทำให้ตั้งค่าตัวรถได้ ออกตัวได้ง่าย ล่อนน้อยเวลาลอยตัวไปแล้ว แต่อาจไม่เหมาะกับการเข้าโค้ง

    ตัวที่เป้ฯ Aluminium จะเบาช่วงลด Unsprunged weight ไปในตัว ทำให้การทรงตัวนิ่งขึ้น

    ผมเคยมีของ Koni Drag ขายไปและให้รถกระบะสีเขียว ที่เล่น OPen ตอนนี้อ่ะครับ

    เบามากๆ ปรับละเอียด แต่ต้องเลือกสปริงให้เหมาะด้วยอ่ะครับ โชคดีที่เมืองไทยมีร้านที่สั่งค่าสปริงได้เป็นของ Hipercoil อยู่แถว ถ.เพชรบุรี ร้านอึ้งกิมกี่ (ร้านเก่าแก่เลย) ลองไปดูครับ ช่วยได้เยอะ
     
  4. LADDER 49

    LADDER 49 New Member Member

    58
    7
    0
    หากเมืองไทย มีโรงงานที่สามารถ สร้างโช๊ค และสปริงตามสั่งได้ งานนี้ไม่ยากครับ
    - คำนวณน้ำหนักบรรทุกของรถ ที่กระจายไปยังล้อทั้ง 4
    - เมื่อได้น้ำหนักที่แต่ละล้อต้องแบกรับแล้ว ก็เอาข้อมูล ไปให้ร้านทำโช๊ค และกำหนดค่า K ของสปริงได้เลย
    - การคำนวณน้ำหนัก การกระจายแต่ละล้อ ไม่ยากครับ หากไม่สามารถชั่งได้โดยตรง ก็พอจะเดาๆได้ อย่างเช่นหากเราทราบเบื้องต้นว่ารถเราหนัก 1,200 กก. ปกติหากเป็นรถบ้านขับหน้าทั่วๆไป นน. จะกระจาย หน้า / หลัง = 60 / 40 นั่นคือ นน. ลงล้อคู่หน้า = 720 กก. หรือข้างละ 360 กก.

    ส่วนคู่หลัง ก็จะเป็น 1200 x (0.4) = 480 กก. หรือ ข้างละ 240 กก.

    เมื่อได้ข้อมูลเคร่าๆแบบนี้ ทางร้านคงจะสามารถ สร้างโช๊ค หรือสปริง ตามที่เราต้องการได้

    แต่อย่าลืมเผื่อค่า ความปลอดภัย FS / Factors of Safety ไว้ด้วยครับ
     
  5. เคยเห็นมีบริษัทรับทำโช๊คทุกชนิด ตามสั่งอะคับ
    มาเปิดร้านโชว์อยุ่ใต้บันไดเลื่อนโลตัส ซีค่อน
     

    โช๊คสั่งนอก ราคาไม่แพงเท่าไหร่ครับ ชัวร์กว่าด้วย

    ส่วนลิงค์ช่วงล่าง เมืองไทยทำได้ แบบสวย ๆ เนียน ๆ
    เลย ทำใส่รถแข่งมาหลายคันแล้ว มีหลายอู่ครับ แล้วแต่
    จะเอาแบบไหน

    แต่ทำเสร็จแล้ว ต้องมานั่งปรับ นั่งเซ็ทกันอีกพอสมควรเลย
    กว่าจะวิ่งได้ตรง ลองดูนะครับ
     
< Previous Thread | Next Thread >

แบ่งปันหน้านี้