รถที่แต่งมาเยอะๆจะตั้งราคาขายมือ2กันยังไงครับ

พวกของแต่งจะคิดราคายังไงครับถ้าเราขายรวมกับรถไปด้วยเลย
ไม่ถอด

 

บวกราคาของไปด้วยคับ ตามความเหมาะสมคับผม

 

อืมคงคิดราคาของแต่งไปบ้างพอสมควรคับ แต่ถ้าขายแล้วไม่ได้ตามที่ตั้งไว้ก้อถอดออกตามความเหมาะสม แล้วขายราคาถูกลงมาคับ

 

ถอดของแต่งออกแล้วถูกกว่าราคาตลาดนิดนึงรับรองไปเร็วแน่

 

บวกราคาของ ตามของแต่งจิงได้ประมาณ 30-50 %
เช่น รถคุณตั้งขายในราคา 4 แสน แต่งมาอีก 1 แสน
รวมเป็น 5 แสน ก้อให้ตั้งราคา 430,000 - 450,000 คับ

 

ตามข้างบนเลยครับ

 

บ้างทีของแบบนี้มันความพอใจของผู้ซื้อกับผู้ขายครับ ทำมามากมาย

ตอนขายก็ตีราคารถเป็นหลัก ถ้าไม่รีบก็ลองตั้งราคาที่ในใจอยากได้ ลดได้นิดหน่อย

แต่ถ้ารึบดึงออกมาขาย น่าจะเร็วกว่าไปทั้งคันแบบแต่งครบ

 

ตั้งราคา รถ+บวกของแต่ง (แต่อย่าลืมว่าของแต่งทุกอย่างที่ใส่ไปมันก็เป็นมือ2แล้วนะคับจึงอย่าบวกราคาเต็มของของแต่ง)สุดท้ายใครจะตั้งราคาเท่าไรอันนี้มันก็สิทธของเค้า ใครจะซื้อเท่าไรมันก็สิทธของเค้า อยู่ที่คน2คนคับ รับราคาใด้ก็ซื้อ

 

ถ้าเป็นผม ผมขายบวก 10-20% ของราคารถอ่ะครับ
ผมไม่นับของแต่งเป็นชิ้น ๆ แล้วมาบวกพร้อมราคารถอ่ะครับ ถ้าไม่นั้น คงขายยากพอสมควร
ถือว่าเราพลาดไปแล้วด้วย บอกตรง ๆ ครับ รถเดิม ๆ นี่ล่ะ ขายได้ราคาดีที่สุด

สู้ถอดใส่อะใหล่เดิมแล้ว แยกขายของแต่งจะดีกว่าครับ

ยกตัวอย่างครับ ราคารถผม มือ 2 ตอนนี้อยู่ประมาณ 120,000 - 180,000
ผมทำสีไป 30,000 เปลี่ยนล้อมา 25,000 แต่ผมก้อต้องขาย อยู่ไม่เกิน 180,000 อยู่ดีอ่ะครับ
เพราะเราดันไปทำมันเอง

ทั้งนี้ทั้งนั้นก้อขึ้นอยู่กับความใจเย็น และคน 2 คน ครับ ขายบวกมากมายก้ออาจขายได้ครับ
อยู่ที่ดวงของคน 2 คนมาเจอกัน

 

แล้วแต่ความพอใจ ของผู้ซื้อ และผู้ขายครับ

 

ถ้าขายกันเอง ขายกันในหมู่เพื่อน หรือคนที่รู้จักรถ ก็สามารถบวกราคาของแต่งได้ตามความเหมาะสม อยู่ที่ความพอใจของผู้ซื้อและผู้ขายอย่างแท้จริงๆ ไม่มีราคากลางใดๆทั้งสิ้น

แต่ถ้าขายเต้นท์ หมดสิทธิ์ ตีตามปีลูกเดียว อาทิ รถแต่งสุดๆ ปี 90 มีซันรูฟ เบรกเบรมโบ้ โช๊คเทอิน เบาะซิ่ง ฝาเคฟล่า เครื่องเสียงแสนกว่า ฯลฯ แต่ขายได้ราคาต่ำว่า D-max ขนผลไม้ สภาพเยินทั้งคัน แต่ปี 2006

อะไรทำนองนี้..................:sad::sad::sad:

 

สนับสนุนความคิดนี้ครับ

 

ขอบคุณครับ ข้อมูลดีๆครับ

 

ของแต่งบางชิ้นไม่สามารถซื้อมาได้ด้วยเงิน ต้องใช้ความพยายามหาการหาด้วย
และของแต่งบางชิ้นก้อไม่ได้ถูกตามตัวรถ พูดลำบากครับ
ในความจริงคนซื้อกะคนขาย พูดไปในทางตรงข้ามกนอยู่แล้ว

ราคา เป็นความพอใจของผู้ซื้อและผู้ขายครับ ไม่จำเป็นต้องเป็นไปตามกลไกลตลาดทุกครั้งนะครับ

 

คิดจะใหญ่ใจต้องนิ่งน้อง ก๊ากๆๆๆ

 

ต้องดูว่าขายใคร ถ้าคนเล่นรถ ก็น่าจะรู้ๆกันอยู่ ราคาก็ตามสมควรเลย...

ถ้าขายคนทั่วไป...ก็ถ้ามีของเดิมก็สับแล้วแยกขาย จะทำให้รถขายได้ง่ายกว่าด้วย

และเราไม่เสียความรู้สึกมาก..ด้วย

แต่ทำใจไว้ก่อนเลย ไม่ว่าเราจะประเคนของใส่เข้ามากแค่ไหน....

เวลาขายคงไม่ได้ คืนเท่าเดิมหรอกคับ...

 

มันหลายปัจจัยจิงๆนะ.....
- ของทุกอย่างมันมีค่าเสื่อมราคาทั้งนั้น (เมื่อถูกการใช้งาน มันต้องมีค่าเสื่อมเสมอ ขึ้นอยู่กับสภาพ)
- ชิ้นนี้ของแท้ ชิ้นนี้หายาก (ก็ต้องดูตลาดปัจจุบันว่าเค้ามีความต้องการมากแค่ไหน)
คนที่รักรถและแต่งรถมากับมือ ย่อมเสียดายที่จะขายรถสุดที่รักในราคาที่ต้องตัดใจขาย
การที่ทำรถเดิมๆมาสักคันให้มาถึงจุดที่เราพึงพอใจ มันต้องใช้ระยะเวลาและโอกาส
ของแต่ละชิ้นมันก็ไม่ได้หากันง่ายๆและราคาสูง แต่เราต้องทำใจครับปัจจุบัน มันอาจ
ไม่ได้ราคาอย่างที่เราคาดไว้ แต่บางอย่างที่ไม่สามารถตีเป็นเงินได้ คือ ความภูมิใจ
ที่เราได้เคยครอบครองของชิ้นนั้น จากรถธรรมดากลายเป็นรถที่ดึงดูดสายตาไม่ว่าแง่ใดก็ตาม
....... เอาเป็นว่า ถ้าตั้งราคาขาย แล้วไม่ค้านสายตาของคนที่สนใจจิงๆก็โอเคแล้วครับ........

 

เป็นราคาทางใจของผู้ซื้อและผู้ขาย บางทีรถที่คนไม่ค่อยนิยม แต่ถ้าผู้ซื้อชอบราคาก็สูงได้ โดยไม่ต้องมีของแต่งเยอะๆ

 

ถ้าตอนนั้นมีคนต้องการพอดี ก็คงขายได้ราคา แต่ถ้าทั่วๆไปก็คงต้องเข้าเนื้อบ้างแหล่ะครับ

 

เหมาะสม หวานอม ขมก็กลืนได้ ตามสบาย แต่ต้องเหมาะสม