คือว่าเครื่องผม 4g63โบ ไปซัดแล้วไม้วัด นมค.มันหลุดออกมาก็เสียบกลับเข้าไปก็ไม่มีอะไร พอดีเมื่อวานอยากรู้ว่ากำลังอัดมันเท่ากันรึป่าวก็ลองวัดดูปรากฏว่า สูบ1-4กำลังอัดประมาณ11.5-12ซึ่งผมจำได้ว่า evoหรือเครื่องโบเนี่ย กำลังอัดมันน่าจะซัก8.5ใช่มะครับ แล้วไมของผมมันเยอะอย่างกะNA แล้วเขี้ยวหัวเทียนขาวมาก มันไม่ปกติใช่มะครับ
วัดยังไงครับ วิธีวัดจะต้องทำการคำนวนปริมาตรห้องเผาไหม้ แต่ถ้าวัดโดนใช้ที่วัดแรงอัด มันไม่สามารถเอามาคำนวนเป็นค่ากำลังอัดได้ มันเพียงบอกได้คร่าวๆว่าแรงอัดในแต่ละสูบเท่ากันหรือ ไม่เท่านั้นครับ หน่วยที่ออกมาก็ไม่ใช่8.5:1 หรือ12:1ด้วยยครับ
ถ้าวัดด้วย การเอาแรงดัดอัดอากาศวัดที่เบ้าหัวเทียน จะบอกกำลังอัดได้หยาบๆครับ เท่านั้นครับ ของจริงต้องหยดน้ำวัดปริมาตร และ คำนวณหาอัตราส่วนการอัดเท่านั้นถึงจะถูกต้อง แต่รถเดิมๆ ที่เคยวัดด้วยวิธีวัดที่เบ้าหัวเทียน จะอยู่ที่ 9กว่า ถึง 10ต้น อย่างของคุณพงษ์ไปที่ 11-12 ให้ดูสีกระเบื้องหัวเทียนครับ ถ้ากระเบื้องมีสีความร้อนแสดงว่ากำลังอัดสูงมาก อาจจะมาจากปะเก็นโรงงานที่มีขนาดบาง เมื่อใช้ซ้ำ1-2 ครั้ง จะบางมากจนกำลังอัดเพิ่มขึ้น ถ้าสีหัวเทียนขาวมาก เป็นไปได้ว่าน้ำมันบาง อาจจะต้องวัด A/F และ แรงดันเบนซินเพื่อหาสาเหตุ ถ้ารถเดิมๆปั๊มไม่ถอย ก็ลองเช็คกรองเบนชินดูครับ
ถ้าวัดด้วย การเอาแรงดัดอัดอากาศวัดที่เบ้าหัวเทียน จะบอกกำลังอัดได้หยาบๆครับ เท่านั้นครับ ของจริงต้องหยดน้ำวัดปริมาตร และ คำนวณหาอัตราส่วนการอัดเท่านั้นถึงจะถูกต้อง แต่รถเดิมๆ ที่เคยวัดด้วยวิธีวัดที่เบ้าหัวเทียน จะอยู่ที่ 9กว่า ถึง 10ต้น อย่างของคุณพงษ์ไปที่ 11-12 ให้ดูสีกระเบื้องหัวเทียนครับ ถ้ากระเบื้องมีสีความร้อนแสดงว่ากำลังอัดสูงมาก อาจจะมาจากปะเก็นโรงงานที่มีขนาดบาง เมื่อใช้ซ้ำ1-2 ครั้ง จะบางมากจนกำลังอัดเพิ่มขึ้น ถ้าสีหัวเทียนขาวมาก เป็นไปได้ว่าน้ำมันบาง อาจจะต้องวัด A/F และ แรงดันเบนซินเพื่อหาสาเหตุ ถ้ารถเดิมๆปั๊มไม่ถอย ก็ลองเช็คกรองเบนชินดูครับ
ขอบคุณครับ ใช้วัดจากเบ้าหัวเทียนครับ กำลังอัดสูบ4หายไปหน่อยนึง อย่างงี้ผมควรทำไงดีครับ ใส่เรกกูเรตจะช่วยได้ไหมครับ เดี๋ยวจะลองไปเปลี่ยนกรองเบนซินดูไม่ได้เปลี่ยนมาหลายปีแล้ว หัวเทียนขาว3หัว แต่รถผมboostแค่0.8เองอะ บางครั้งก็มีbackปังออกมาเวลาสับเกียร์ด้วย เสียวพังจริงๆครับ
วิธีการที่แน่นอนที่สุด ที่ผมตัดสินใจทำทุกครั้งคือ เปิดฝาสูบออกเช็คครับ ว่ากำลังอัดผิดปกติตรงไหน และประกอบเครื่องใหม่ แก้ปัญหากลับเข้าไปครับ ส่วนมากที่เจอ 1. หัวลูกสูบ กร่อน 2. ร่องแหวนแตก 3. บ่าวาวล์สึก 4. ฝาสูบกร่อน 5. ปะเก็นหมดสภาพและไม่ได้ขนาด(ผ่านการใช้งานจนบางมากเกิน หรือ กำลังอัดแล๊ปต้องดูจากรอยที่ปะเก็นครับ) ถ้าจะให้ชัวร์ ต้องแก้ที่ Hard Ware ให้สมบูรณ์ก่อนครับ เรกูเลเตอร์ยังไม่ได้วิธีแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ต้องหาสาเหตุที่Hard Ware ให้เจอก่อนครับ
ขอบคุณมากๆเลยครับพี่โอ๋ นี่เพิ่งไปเปลี่ยนเกียร์ เปลีียนคลัตช์ ใส่เต็ด ดันเครื่องไม่สมบูรณือีก ซิ่งไม่ออกเลยเซ็งจริงๆครับ
ผม เคยเป็น แบบ คุณพงษ์ นะคับ อัดแล้ว ก้าน น้ำมันเครื่องเด้งขึ้น น้ำมันกระจายเต็มห้องเครื่องเลย ก็เลยไปรู้ ดู ปรากด ว่า ร่องแหวนแตกคับ แต่ก็คับได้อยู่นาน แต่ อาทิดเติม นมค เป็น ลิตรๆเลยคับ
อาการกำลังอัดเริ่มต้น ของ การรั่วลงแคร๊งค์พวกนี้ ถ้าขับแบบไม่ซัดทุกวัน ขับเรื่อยๆ บูสท์น้อยๆ นมค. เติมอย่าให้ขาด ก็อยู่ได้เป็นปีครับ กว่าจะพัง แต่มันจะไม่กล้าซัดเท่านั้นเอง ไว้มีเงินค่อยๆรื้อออกมาเปลี่ยนแหวนใหม่ แนะนำตอนนี้ คือ 1. อย่าซัดบ่อย 2. สังเกตุ นมค. บ่อยๆ 3. ดูน้ำ ว่าดันออกหรือไม่บ่อยๆ แต่ถ้าซัดบ่อยๆ ส่วนมากที่เจอคือ กระโปรงลูกสูบร้อนจนละลายติด ครับ เพราะกำลังอัดรั่วลงแคร๊งค์ ผ่านกระโปรงลูกสูบนั้นเอง หรือ ตัวท่อนล่างด้านบนของเสื้อสูบโก่ง หรือเสื้อสูบเป็นรอยไหม้ เพราะความร้อน เคสนี้ต้องเปลี่ยนเสื้อใหม่ครับ แต่ถ้าไม่ซัดส่วนมากอาการไม่ค่อยหนัก ยกเว้นปะเก็นจะแตกไปซะก่อน + อ้างถึง ตอบกลับ