ไม่ได้เข้ามานานเลย มาอีกทีก้อมีปัญหามาให้ซะแระ ขอเล่าอาการก่อนเลยนะคับ คือผมใช้สตราด้าปี96อยู่คับ เครื่อง4d56ไม่โบ แล้วก้อไปเอาโบเดิมโรงงานมายัดใส่ เข้าไปคับ ปั๊มเดิมnaไม่ได้ทำอะไรเลยคับ ใช้มาได้3ปีคับเริ่มมีอาการคือเครื่องเย็นจะ สตาร์ทติดยากคับ บางครั้งเล่นเอาแบตเกือบหมดคับ ลองเปลี่ยนกรองดีเซลแล้วก้อไม่หาย หัวเผาก้อเปลี่ยนยังไม่หายคับ เลยลองไปเทสต์ปั๊มดูคับ แต่ยังไม่ใส่ฝาสูง(ผมอยากลอง ที่ละสเต็ปคับ)อาการก้อดีขึ้นมาบ้างคับ แต่มันยังไม่เหมือนตอนแรกที่ใช้รถคับ ตอนแรก บิดกุญแจสตาร์ทจะติดเลยคับ แต่ตอนนี้ยังมีแบบว่า งื๊ดงื๊ด3ทีถึงจะติดคับ แล้วตอนเทสต์เสร็จ ช่างประกอบปั๊มเข้าไปก้อยังไม่ติดคับ ช่างเลยบิดเอียงปั๊มแก่สุดถึงจะติดคับ ทุกวันนี้ก้อยัง เอียงปั๊มอยู่แบบเดิมคับ เสียงดุ เดินเบาแบบหอบนิดๆยังกับเครื่องแต่งเลยคับอิอิ เริ่มคำถาม เลยแล้วกันคับ 1.การตั้งปั๊มแก่แบบนี้จะมีผลทำให้เครื่องโทรมเร็วขึ้นหรือป่าวคับ(เดินเบามีเสียงเหมือน เขกคับ) 2.จากอาการที่เล่ามาตอนต้น ที่ติดยากอาจจะไม่ใช่จากปั๊ม เป็นไปได้มั้ยคับว่าวาล์วมันปิดไม่สนิท ทำให้กำลังไม่ดี ทำให้ติดยาก ถ้าตั้งวาล์วจะช่วยได้มั้ยคับ แล้วเราจะเช็คได้อย่างไรว่าวาล์วรั่ว อ่ะคับ อยากลองเช็คกำลังอัดเหมือนกันคับ ราคาค่าเช็คกำลังอัดและตั้งวาล์วแพงมั้ยคับ 3.ถ้าผมขับแบแช่ๆบูสต์(เกือบ1บาร์)ยาวๆที่4200รอบสัก3-5นาทีหรือประมาณสัก10กิโล จะเป็นอะไรมั้ยคับ ตอนนี้ไม่กล้าเล่นยาวๆเลยคับขึ้น170ได้สัก1นาทีก้อยกแล้วคับกลัวพัง 4.เรื่องความร้อนคับถ้าขับแบบชิวๆสัก100-120ความร้อนจะขึ้นประมาณที่8นาฬิกาคับ แต่ถ้าแช่140ยาวๆจะอยู่ที่เกือบๆกลางของเกจ์วัดความร้อน ตอนนี้ยังใช้ท่อเดิมอยู่แต่ตัด พักออกคับ ถ้าขยายท่อสัก2นิ้ว2จะช่วยลดการอั้นได้มั้ยคับ(ความร้อนน่าจะมาจากโข่งหลัง เดิมมันเล็กหรือป่าวคับ) 5.คือที่บ้านมีกระบะ2คันคือL200กับสตราด้าคับ เท่าที่ขับดูความเร็วมันขึ้นไม่เท่ากันคับ คือL200ขับ3000รอบได้ความเร็ว100คับส่วนสตราด้าขับ3000รอบได้120ขนาดล้อเท่า กันคือ205/65/15(ล้อเหมือนกันเด๊ะ)อย่างนี้มันเป็นที่เกียร์หรือเฟืองท้ายคับL200รู้สึกต้น จะมาดีกว่าแต่ปลายไม่มีคับแล้วรอบก้อยังเหลือด้วยคับ ถ้าเปลี่ยนเฟืองท้ายความเร็วปลาย จะดีขึ้นมั้ยคับ ขับทางไกลมันเปลืองน้ำมันอ่ะคับ ขอรบกวนเท่านี้ก่อนละกันคับ ขอบคุณสำหรับคำตอบนะคับ ไปทำปั๊มมาวิ่งดีกว่าเดิมมาก คับลูกปั๊มยังเดิมอยู่คับ รู้งี้ไปทำซะตั้งนานแระอิอิ
ที่ สตาท ติด ยาก เป็น ที่ หัวเผา ครับ ลองเปลียนดูครับ เครื่อง 4D ต้อง เผาหัวก่อนสตาท อาจจะเสียแล้วครับ เปลียนไหม่เลยครับ
แล้วตัวคุมtimerหัวเผาล่ะครับพี่ แล้วถามต่ออีกหน่อย เวลาเครื่องเย็นๆติดแล้วมันสะดุดเหมือนติดไม่ครบสูบควันที่ออกมาเป็นสีขาวอมเทาหรือป่าวครับ ลองดมดูกลิ่นจะเหม็นเขียว ถ้าใช่ลองถอดหัวฉีดไปปรับแรงดันดูครับแล้วก็ตั้งวาวล์ใหม่ถ้าไม่ดีขึ้น ไทม์มิ่ง-PRE-Strokeในปั๊มผิดแน่นอนครับ ไงก็โทรมาหาผมก็ได้ครับพี่
Up... ลองเช็คหัวเผาดูก่อนรถพี่ผมก็เคยเป็นครับ..... ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
น่าคิดนะครับเห็นบอกว่าถอดปั๊มด้วย ส่วนเรื่องหัวเผาบอกว่าเปลี่ยนมาแล้วแต่ถ้าตัวTimerหัวเผาพัง หัวเผาก็ขาดสตาร์ทยากอยู่ดีครับ
ขอบคุณทุกท่านมากมายคับ เล่าอาการเพิ่มนิดนึงคับ คือมันเป็นตั้งแต่ก่อนทำปั๊มคับ มันสตาร์ทยาก ผมก้อเลยไปเทสต์ปั๊มคับที่ดาวลอยคับ(ขออนุญาตเอ่ยนามคับ)อาการดีขึ้นมาคับ แต่ก้อติดยากกว่า4d56 ในแอล200คับ แอล200บิดกุญแจติดเลยคับ แต่สตราด้าต้องมีงื๊ด...งื๊ด...งื๊ดคับถึงจะติด หัวฉีด ถอดเช็คที่ดาวลอย ไม่มีปัญหาอะไรคับ ทุกวันนี้ขับใช้งานไม่มีปัญหาอะไรคับ 180นอนไมล์ได้เลยคับ ล้อ205/65/15 ส่วนหัวเผาเปลี่ยนแล้วคับ ไม่ได้เข้ามานานถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นคุณโอห์มถ้าไม่ใช่ขออภัยคับ สงสัยเรื่อง"ไทม์เมอร์ของหัวเผา"คับ เราจะรู้ได้อย่างไรคับว่า"ไทม์เมอร์หัวเผา"มันเสียอ่ะคับ บิดกุญแจ เสียงการตัดต่อของการทำงานของหัวเผายังทำงานคับเพราะยังมีเสียงดังเป๊ะอยู่คับ แต่มีความรู้สึกว่ามันเผา นานกว่าแต่ก่อนคับ บวกกับน้องชายไม่ชอบรอให้หัวเผาทำงานเสร็จก่อนชอบสตาร์ทเลยคับ แต่หัวเผาได้ เปลี่ยนไปแล้วคับ ส่วนเรื่องหลวมเช็คคร่าวๆโดยการดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องดูยังไม่มีไอน้ำมันเครื่องหรือน้ำมัน เครื่องกระเด็นขึ้นมาคับ แต่ยังไม่ได้วัดกำลังอัด ซึ่งผมกลัวเรื่องวาล์วยัน วาล์วปิดไม่สนิท ทำให้เสียกำลังอัด เหมือนกันคับ ส่วนเรื่องเครื่องยังเดินเต็ม4สูบคับ ควันขาวไม่มี มีแต่ควันดำคับ คือดีหมดคับยกเว้นว่าติดยาก กว่าตอนก่อนคับ ตอนก่อนบิดกุญแจติดเลยคับ
พี่ครับแล้วทำไม4d56ในสตาด้าna นำมาเซทโบเดิม ถึงวิ่งดีกว่า4d56ในl200 na นำมาเซทโบเดิม เหมือนกันละครับ เพราะสาด้าของเพื่อนผมวิ่งอยู่ 180 แต่ของผมl200 วิ่ง 140 เองครับ ล้อเท่ากัน ทำปั๊มก็ร้านเดียวกัน แถทของผมเฟืองท้าย 3.7 อีกต่างหาก ขอบคุณครับ
รถลุงผมก็เคยเป็นครับ สตาร์ทตอนเช้าติดยากโคตรๆ ลองดูง่ายๆก่อนครับ ลองดูที่ปั้มแย็กน้ำมันดูก่อนนะครับ เพราะบางทีมันอาจจะเสีย เพราะข้างในมันจะมีลิ้นบางๆปิดไว้ไม่ให้น้ำมันไหลกลับถัง ถ้าลิ้นตัวนี้เสียน้ำมันเชื้อเพลิงจะไม่เต็มระบบ ทำให้สตาร์ทติดยากครับ ลองดูครับ ถ้าสตาร์ทติดยากลองแย็กน้ำมันดูก่อนแล้วสตาร์ท ถ้าทีเดียวติดเลย ก็หาปั้มแย็กใหม่ครับ + อ้างถึง ตอบกลับ