พอดีวันนี้เบี้ยประกันรถที่บ้าน ต่อครั้ง ที่ 3 มา ปีแรก 21*** ปี 2 20*** ประวัติดี ปี 1 ราคานี้ ตามหน้ากรมธรรม์ไม่รวมส่วนลดเซลล์นะคับ(ผมขายโตโยต้าคับ) พอมาปีนี้ ล่าสุด มีเคลม ไป 8 พันกว่าบาท เบี้ยมา 26*** ไม่รวมพ ร บ เทียบกับ ปีที่แล้ว เท่ากับแพงขึ้น 6พันกว่าบาท เคลม ไป 8 พันกว่า เท่ากับ ประกัน ออก 2 พันบาท แล้วผม จาเคลมไปทำไมคับ ออกตังเอง ได้ลดประวัติดีด้วย ที่บ้าน รถ 3 คัน ทำกับ วิริยะหมด ไม่เคยเป็นแบบนี้ ใครจะทำหรือจะต่อระกันวิริยะ ระวังไว้นิดแล้วกันคับ เด๋วพรุ่งนี้จาโทรไปเม้ง ที่ประกัน ได้เรื่องอย่างไร จาเอามาเล่าให้ฟังนะคับ
โดนเหมือนกันครับ ทำชั้น1 มา 5 ปี ไม่เคยเคลม เคยชนครั้งนึง พอประกันจะหมดปีนี้ เลย เคลมไป 7 ชิ้น แม่งจะขึ้นเบี้ย เกือบหมื่น จากปีที่ 5 * 20800 กำลังจะต่อปีที่ 6 * ขึ้นเป็น 37000 ( ถ้าไม่เคลมจะขึ้นเป็น 27500 ) พอเลยจบ เลิกทำ ทำมา 5 ปี เคลม ครั้งเดียวยังแพงซะขนาดนี้ ไปทำชั้น 1 ของยี่ห้ออื่น ราคาถูกกว่า คุ้มครองพอๆกัน ดีกว่า ** แต่เห็นว่า ปีนี้เบี้ยชั้น1 ของ วิริยะ มันจะขึ้นอยุ่แล้ว ถึงจะเคยเคลมหรือไม่เคลมก็ตาม ตัวแทนบอกมาอย่างงี้ ไม่รุ้มันเอาไปแดกเองรึป่าว ขึ้นประมาน 6000-7000 บาทเนี่ยละ
ปกติประกันชั้น 1 จะเป็นแบบนี้แทบจะทุกบริษัทอยู่แล้ว ส่วนลดแต่ละปี เอาเข้าจริงๆที่ลดให้ก็ลดมาจากวงเกินประกันของรถมันลดลงตามราคารถที่ลดลง ลองสังเกตุดูดีๆ ที่บอกว่าลดให้เพราะประวัติดีหน่ะลดให้เยอะแค่ไหน ถ้าลดเบี้ยประกันแล้ววงเงินประกันลดลงนี่ถือว่าแทบไม่ได้ลดเบี้ยจากประวัติดีให้เลย ถ้าคิดดูดีๆมันมีดีแค่จ่ายค่าซ่อมให้เราก่อนสุดท้ายก็มาเก็บเราอยู่ดี ส่วนเรื่องเพิ่มเบี้ย ก็ตามที่หลายๆคนเจอนั่นแหละ เครมมา 8 พัน เบี้ยเพิ่ม 6 พัน กลายเป็นประกันออกกี่บาทกันเชียว แล้วถ้าปีต่อไปไม่เคลม เบี้ยจะลงไปเท่าเดิมหรือเปล่า เพิ่มมา 6 พัน ตลอดปีไม่เคลมก็ทำเป็นใจดีลดเบี้ยให้ 4 พัน ก็ยังกินเราเพิ่มจากเดิมอีก 2 พัน สรุปประกันเท่าทุนในส่วนต่าง แต่ไอ้เบี้ยทั้งหมดที่เหลือก็กินไปนิ่มๆเป็นหมื่นทุกๆปี จากประสบการณ์จากที่บ้านทุกคันตอนนี้ทำชั้น 3 หมดแล้ว .... ใช่แล้วครับ งกเงินนั่นเอง เพราะประกันรถยนต์เมื่อก่อนเสียไปฟรีๆโดยไม่ได้เคลม พอเคลมทีก็มาเก็บเราเพิ่มเกือบจะเท่ากับที่มันจ่ายซ่อมให้เรา ประกันชั้น 1 เหมาะจริงๆกับพวกขับรถเร็วๆ มีโอกาสเสี่ยงในอุบัติเหตุที่เราเป็นฝ่ายผิดได้สูง ถ้าเมื่อไหร่คุณขับรถเรียบร้อย ปลอดภัย โอกาสที่จะชนก็น้อย และโอกาสที่ชนแล้วคุณเป็นฝ่ายผิดยิ่งน้อยกว่า รวมถึงการที่ชนแล้วคุณเป็นฝ่ายผิดโดยที่การชนนั้นทำให้รถคุณเสียหายมากๆนั้นยิ่งน้อยเข้าไปใหญ่ ถ้าขับดี ไม่เร็วจนเกินไป ถ้าโชคร้ายชนแล้วเราเป็นฝ่ายผิด ประกันก็ดูแลคู่กรณีไป ส่วนเราซ่อมเองก็คงไม่มากถ้าเราไม่ได้ขับเร็วความเสียหายก็จะน้อย ดังนั้นคำนวนแล้วรถทุกคันที่บ้านจึงใช้ชั้น 3 ปีละ 2 พันกว่าบาท ทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้เคลมจากการที่เราเป็นฝ่ายผิดกันมาหลายปีแล้ว ย้ำนะครับว่า คุณต้องขับรถได้ดี ไม่เสี่ยง ปลอดภัยเท่านั้น ถ้าคุณขับเร็วและอยู่ในกลุ่มเสี่ยง ก็ดูรูปรถข้างล่างในลายเซ็นต์ผม นั่นคือสมัยขับเร็ว ห้าวๆ ช่วงนั้นพ่อทำประกันชั้น 1 ให้รถลูกทุกคันเพราะเค้าไม่ไว้ใจ และก็ได้ใช้ซะคุ้มเลย คันข้างล่าง จ่ายเบี้ยชั้น 1 ปีละเกือบ 8 พันได้แค่ 2 ปีเอง วงเงินประกัน 2 แสนกดซะเต็มแม็ก 2 แสนเลย กรณีนี้ประกันหน้ามืดไปเลย ทั้งจ่ายซ่อมให้คู่กรณีแถวๆ 2 แสน และคืนทุนประกันให้ทางผมอีก 2 แสน ก็เลือกเอาตามความเหมาะสมครับ
เคยทำเหมือนกัน แล้วมีอยู่ครั้งนึง รถชนเอาไปซ่อม ที่อู่เค้าถามทำประกันของอะไร ก็บอกไปว่าเป็นของ วิริยะ เท่านั้นแหละเค้าก็เอารถเราไปเก็บหลังร้านเลย พอเราถามว่าทำไม เคาก็บอกว่าวิริยะเรื่องมาก จ่ายยาก กว่าจะได้ รอกันจนเหงือกแห้ง เราก็เลยตัดสินใจบอกเค้าจ่ายเงินสด เท่านั้นแหละ เค้าก็ทำให้เลย แล้วบอกอีกสองอาทิตย์เข้ามาดูรถ ได้เลย
วิริยะ เหมือนกัน น่าเบื่อออออ โดนชนแล้วหนี ดันหาว่าเราเปนคนชนแล้วหนี ประกันห่าไรก็ไม่รู้ บอกจะเพิ่มเบี้ยอีก 7000 เปนค่าชนแล้วหนี จะบ้าตาย + อ้างถึง ตอบกลับ