เห็นโปรโมตกันจังเรื่องแรงบนไดโนฯ

เป็นคนที่ชอบมอเตอร์สปอร์ตแต่ที่ไม่ค่อยชอบเลยก็คือแดรก โดยเฉพาะรถแดรกที่เป็นบันไดติดล้อมากกว่าจะเรียกได้เต็มปากว่ารถ วิ่งกันจึ๊กเดียว..จบ เลยอยากทราบว่าแรงบนไดโนมันมีประโยชน์ยังไงนอกจากจะเป็นการแข่งมือจูนว่าใครจูนได้แรงกว่ากัน เพราะเห็นมาบ่อยไปที่รถที่มีแรงม้าบนไดโนฯแยะๆแต่พอลงพื้นแล้ววิ่งไม่ได้เรื่องหรือวิ่งสู้รถที่มีม้าน้อยกว่าไม่ได้ หลังจากวิ่งบนไดโนฯเสร็จแล้วลงวิ่งจริงบนแทรคมั้ยครับ ถามเป็นความรู้หน่อย อย่าเคืองเลย

 

ถ้าเมืงชอบมอเตอร์สปอร์ตจริง แล้วเมืงมาบ่น มาดูถูกไมว่ะ แสรดดด

กีฬาแข่งรถมันก็แบ่งแยกกันไปตามประเภทซิว่ะ

มืงจะเอาของมืงมาเทียบได้ไง

ทางตรงก็เอาไว้วิ่งในส่วนของทางตรง

เซอร์กิตก็เอาไว้วิ่งในส่วนของเซอร์กิต

ทางฝุ่นก็เอาวิ่งในส่วนของทางฝุ่น

มืงก็เอาเซอร์กิตที่ว่ามาวิ่ง ควอเตอร์ไมล์ซิแสรด

ไดโน เค้าเอาไว้จูน เพื่อเค้นหาแรงม้าสูงสุด และแรงบิดสูงสุด จุดต่างๆของพาวเวอร์แบน เพื่อที่ไดร์เวอร์จะได้ดูด้วยว่า ส่วนไหนช่วงไหนใช้งานได้ดีที่สุด และช่วงไหน ที่สามารถเอากำลังเครื่องมาได้มากที่สุดเพื่อเอาไปเป็นข้อมูลในการขับ
เค้าพัฒนาเพื่อทำเวลาให้ดีที่สุด

คิดสร้างสรรค์มากกว่านี้หน่อยนะ

ปล.เคืองจูนเนอร์ไหนมารึป่าว และขออภัยในบางคำที่ไม่สุภาพ

 

เเต่ผมชอบ....

มันอยู่ที่เซ็ทรถ!!!

 

แดรก มันก็ต้อง set รถ เหมือนกัน และมีการ set ที่แน่นหนาเพื่อให้การขับขี่ปลอดภัยทั้งคนและรถ เรียกม้าสูงสุดในเวลาไม่กี่วิ
เอารถเซอกิตมาแข่งทางตรงกับแดรก หรือเอาแดรกไปวิ่งในเซอกิจ ผลก็อย่างที่รู้ๆคับ ฉะนั้นทำรถแดรก ก็มีความละเอียด แม่นยำเหมือนกับทำรถในเซอกิต เหมือนกัน เอารถ F1 มาแข่งแดรก เข้าเส้นไปแล้ว ไม่รู้จะเบรคอยู่ปล่าว อิๆๆ "ถ้าเราเข้าใจจุดประสงค์ของกีฬาแต่ละประเภทเราจะชอบและสนุกกับมันคับ"

---------- เพิ่มกระทู้เมื่อ 09:53:13 ---------- กระทู้ก่อนหน้านี้ เมื่อ 09:52:58 ----------

แดรก มันก็ต้อง set รถ เหมือนกัน และมีการ set ที่แน่นหนาเพื่อให้การขับขี่ปลอดภัยทั้งคนและรถ เรียกม้าสูงสุดในเวลาไม่กี่วิ
เอารถเซอกิตมาแข่งทางตรงกับแดรก หรือเอาแดรกไปวิ่งในเซอกิจ ผลก็อย่างที่รู้ๆคับ ฉะนั้นทำรถแดรก ก็มีความละเอียด แม่นยำเหมือนกับทำรถในเซอกิต เหมือนกัน เอารถ F1 มาแข่งแดรก เข้าเส้นไปแล้ว ไม่รู้จะเบรคอยู่ปล่าว อิๆๆ "ถ้าเราเข้าใจจุดประสงค์ของกีฬาแต่ละประเภทเราจะชอบและสนุกกับมันคับ"

 

บางคนเขาก็ชอบที่จะได้ชื่อว่ามีแรงม้าตุนในรถ เยอะๆ แค่นี้ก็พอใจแล้ว

การแต่งรถไม่ได้อยู่แค่ กำลังเครื่องยนต์ แต่มันต้องขึ้นอยู่กับ สมดุลของรถ ระบบช่วงล่าง ระบบส่งกำลัง และคนขับ ถ้าทุกอย่างสามารถเข้ากันได้นี้ นี้แหละสุดยอดรถ ครับ

มันต้องมีวิ่งแน่นอนอยู่แล้วครับ ไม่งั้นเขาจะทำรถขึ้นมาทำไม แต่วิ่งแล้วดีไม่ดีนี้อีกเรื่อง

ความคิดคล้ายๆไอ้พวกเด็กขับรถกระบะส่งหนังสือพิมพ์ แถวบ้านผมเขาว่า พวกแข่งในสนามมีแต่พวกกระจอก เก่งจริงต้องแข่งบนถนน ฟังแล้วไม่เข้าหูอย่างแรง

 

ตามนั้น อิ อิ

 

แรงม้าบนไดโน่มันก็คือการซีมูเลเตอร์ หรือการจำลองวัดเปรียบเทียบนะคับ

ไดโน่แต่ละรุ่นก็มีการคำนวนที่ไม่เหมือนกัน การคำนวนเปลี่ยน ตัวแปรเปลี่ยน ผลที่ออกมาก็เปลี่ยนคับ

ถ้าถามเรื่องแรงม้ากับการวิ่ง ผมว่ามันเกือบจะคนละเรื่องเดียวกันนะ ทั้งโหลดที่ไม่เหมือนกัน น้ำหนักรถ การเซตรถ รวมไปถึงคนขับ

เอาง่ายๆเช่น เอาcefซัก 400ม้า มาวัดกับ Evo9 400ม้า ม้าไม่หนีกัน แต่detailมันต่างกันเยอะ

อย่าไปยึดติดกับม้าบนไดโน่มากเลยคับ มันเปนการคำนวน ใช้อ้างอิงได้

เพียงแต่ไดโน่ตัวเดียวกันมันก็สามารถแสดงได้บนมาตราฐานเดียวกันเท่านั้นเอง

 

การแข่งขันแต่ละประเภทมีจุดเด่น มุมมองที่ต่างกันอย่างแน่นอนครับ ไม่มีประเภทใดดีกว่ากันไปได้หรอกครับ มองให้กว้าง...

เหมือนนักฟุตบอลระดับโลก คงไม่มีใครมองว่าโง่กว่าหมอหรอกครับ

ผมว่าการจูนบนไดโนนี่เป็นพื้นฐานของรถแข่งทุกประเภทเลยนะ มันไม่ได้มองเพียงแค่แรงม้า/แรงบิดสูงสุดเท่านั้น เพราะการทำรถที่ดี หรือนักขับที่ดีควรต้องรู้นิสัยของเครื่องยนต์ด้วย การวัดบนไดโนทำให้เรารู้ว่า เราควรต้องใช้รอบในเครื่องยนต์ตัวนี้ที่เท่าไร เพื่อให้มันสามารถนำแรงออกมาได้มากที่สุด หรือมองไปจนถึงว่า ถ้าเราต้องการขับให้ประหยัดที่สุดเราควรต้องใช้รอบเท่าใดด้วยซ้ำ

ไม่มีใครบอกนี่ครับว่าได้แรงม้าสูงสุดแล้วชนะ! มันเป็นเพียงส่วนประกอบในการทำรถคันนั้นให้ดีที่สุด ตามจุดประสงค์ที่เราต้องการครับ!!!

เมื่อเราได้แรงม้าตามที่ต้องการแล้วจากการวัดบนไดโน แล้วจุดประสงค์ที่ต้องการคืออะไร เราก็เซ็ทรถคันนั้นให้สำเร็จต่อไปตามจุดประสงค์ที่เราต้องการไงครับ

ลองดูกราฟนี้ซิครับ มันบอกอะไรเราได้บ้าง...

 

เห็นด้วยครับ

 

ผมคนนึงนะที่ขับแดรกอยู่

และขอถามกลับละกันนะคับ (ชอบมอร์เตอร์สปอร์ตเหมือนกัน)

พยายามจะสื่ออะไรอ่ะคับ.....

ผมว่ามอร์เตอร์สปอร์มันกว้างนะ..

ใช้ศาสตร์หลายอย่าง(รวมทั้งตังด้วย อิอิ)

และแต่ละอย่างมันก้อมีเอกลักษณ์แตกต่างกัน.....คุณก็เลือกในสิ่งที่คุณชอบแค่นั้นเอง

ไม่ค่อยชอบก็อย่าไปรู้มันคับ......จะฝืนทามมายล่ะ

ผมว่าคุณคิดแคบไปนะเปิดใจกว้างหน่อยดีกว่าคับ

 

ตั้งกระทู้ ทำไมครับ มีจุดประสงค์อะไร ต้องการแสดงอะไรออกมา กลับมาตอบหน่อยครับ

 

ไป แดก นม อยู่ เด๋วคงมาตอบ 555+ พิลึกคนว่ะ

 

มอเตอร์สปอร์ต มีหลายรูปแบบ แต่ละอย่างก็ไม่เหมือนกัน ความละเอียดก็ไม่เหมือนกัน

การทำรถรวมถึงวิธีการขับก็ไม่เหมือนกัน การขับแดร็กใช่ว่าจะขับกันง่ายๆๆ

และมันก็ไม่ได้ขับกันทุกคน ลองไปขับดูก่อน ให้เวลามันนิ่ง ให้ออกตัวให้ได้รอบเหมือนกัน

ทุกรอบ มันยาก ถ้ามันไม่ดีหมือนที่คุณบอก เมืองนอกคงไม่มี NHRA หรอก

แล้วพวกของแต่งทั้งหลาย ส่วนใหญ่ก็มากจากแดร็กทั้งนั้น ลองไปค้นประวัติเค้าดู

นะ อีกอย่าง จูนเนอร์ก็เหมือนกัน คนเป็นจูนเนอร์ต้องมีความเชียวชาญ

ในหลายๆๆด้าน ทั้งคอมพิวเตอร์และเครื่องยนต์ มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆๆ

เดโนมันเปนกราฟ สามารถบอกนิสัยของเครื่อง จุดด้อยของเครื่องได้

ให้เรากลับไปแก้ไขในส่วนของข้อบกพร่อง ก่อนที่จะไปวิ่งบนถนนจริง

ถ้ามีเวลาว่างลองไปศึกษาดูก่อน ว่าแต่ละอย่างมันต่างกันยังไงนะ

 

แล้วที่เค้าจูนบนdynoเนี่ยถ้ารถพันม้าไม่จูนdynoจะไปจูนที่ใหนละคับ บนถนนเหรอครับได้ตายทั้งคนจูนคนขับละคับ
แล้วถ้ารถจูนdynoคนขับดูกราฟเป็นก็จะรู้ว่า torqueสูงสุดมาที่เท่าไร ม้าเบ่งเต็มที่รอบเท่าไร เวลาไปวิ่งแข่งจริงก็จะรู้ว่าควรเปลี่ยนเกียร์ที่รอบเท่าไรถึงจะได้เค้นแรงม้า แรงบิดสูงสุด ของเครื่องตัวนี้ให้เต็มประสิทธิภาพที่สุดเพื่อเวลาดีที่สุด เพราะการแข่งdragลงเงินกันเป็นแสนเป็นล้าน ก็ไอ้จิ๊กเดียวจบเนี่ยแหละถึงต้องไม่มีคำว่าผิดพลาด

 

อยากรู้ว่าโพสแบบนี้ต้องการอะไรเหมือนกันครับ เกรียนจัง !!

อีกกระทู้นึงก็ไปโพส สมน้ำหน้า คนที่โดนตำรวจรังแกที่ปั๊มเจทเลียบด่วนทีนึงแล้ว

การขึ้นไดโน เพื่อจูนและเทส โดยผลที่ได้จากกราฟเป็นรูปธรรมที่เห็นได้ชัดเจน

หากเราสามารถนำกราำฟที่ได้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดจะดีที่สุดแล้วครับ

 

ผมว่าอย่าไปซีเรียสว่าแข่งวัดแรงม้าแล้วจะได้อะไรเลย...แต่มองว่ามันเป็นเกมส์เกมส์นึงที่ผู้จัดเค้าจัดมาให้เล่นกันหนุกๆในกฎ-กติกาเดียวกัน ผมว่ามันก็ไม่ได้มีอะไรหรือใครเสียหายหนิครับ จูนเนอร์มือใหม่ๆเจ๋งๆที่เคยอยู่แต่เบื้องหลังก็จะได้มีเวทีเกิดกะเค้ามั่งอะครับแล้วก็จะได้มาเป็นตัวเลือกใหม่ๆของพวกเราที่ชอบทำรถแข่งทั้ง แดรก, ดริฟท์, เซอร์กิต หรือทางฝุ่น ได้ลองของแปลกๆใหม่ๆกันมั่งไงครับ
ปล. อย่าซีเรียสครับ...คิดซะว่ามันเป็นแค่เกมส์

 

จขกท.คิดไรอยู่เนี้ย แต่ละคนก็ชอบไม่เหมือนกัน

 

ส่วนตัวนะ ผมว่าแล้วแต่คนจะชอบแต่ละแนวมากกว่า

 

เขาเป็นได้แค่ คน ที่มีรถขับ แต่เขา จะไม่มี ความเข้าในเสน่ห์กีฬาของ การแข่งขันรถยนต์ หรอก อิอิ

 

นึกว่ากระทู้อะไร ที่แท้ ก็พวกมองโลกในแง่ลบนี่เอง

 

ตั้งกระทู้อย่างเกรียน เก็บกดไรปะคะ

 

กระทู้เช็คชื่อ




มาครับ!!!!!

 

555555+ ฮาไปครับ

ผมว่าของพวกนี้ สงสัยนะ สงสัยได้นะ แต่วิธีการพิมสื่อสารของคุณ มันดูไม่ดีอะครับ

 

ยาวไปคับ

 

รถยนต์ทุกประเภทผมว่าเค้าก้อทดสอบคล้ายๆกันแหละคับ ไม่ใช่ว่าแค่รถแดร็กเท่านั้นที่เทสต์บนไดโน
1.เครื่องยนต์ก้อเทสต์บนไดโนทั้งแบบเคื่องเพียวๆและติดตั้งบนรถ
2.ช่วงล่างและบอดี้ก้อน่าจะทดสอบด้วยเครื่องที่ทำและเทสต์เสร็จแล้วมาใส่ลงไป
แล้วไปทดสอบในแทร็คหรือบนถนน ตามแต่การแข่งขันในประเภทนั้นๆ
แม้แต่รถที่เราใช้บนท้องถนนก้อทำเช่นเดียวกันคับ ถ้าไม่ชอบหรือไม่เข้าใจแล้วอยากถามผมว่าก้อไม่เสีย
หายหรอกคับ แต่ภาษาที่ใช้ในการสื่อสารของคุณมันฟังแล้วดูไม่ค่อยจะเป็นมิตรสักเท่าไร แล้วมันมีการ
พาดพิงถึงคนที่เค้าชอบรถประเภทแดร็กอ่ะนะคับ ผมว่าในการโพสต์แต่ละครั้งน่าจะคิดและพิมพ์ให้มันไม่มี
ประเด็นน่าจะดีกว่าคับ การเล่นรถไม่ว่าจะประเภทไหนผมมองว่ามันก้อเป็นความชอบของแต่ละบุคคลคับ
คุณเปิดประเด็นมาแบบสร้างความแตกแยกแบบนี้ไม่ค่อยดีคับ ไม่อยากให้สร้างประเด็นแบบนี้เลยคับ
ผมว่าคงไม่นานถ้ายังไม่โดนลบเสียก่อน คงมีคนมาด่าคุณเยอะแน่ๆคับ หรือสิ่งที่คุณอยากได้จริงๆคือ
คำ"ด่า"มากกว่าคำตอบจากคำถามของคุณ ถ้าเป็นเช่นนั้นผมว่าคุณคงได้ในสิ่งที่ต้องการแน่คับ ถ้าคุณ
ยังอายุไม่มากผมว่าลองเปลี่ยนมุมมองในการคิดดีกว่าคับ เพราะถ้าคุณไม่ชอบอะไรไม่ว่าจะเป็นรถ
หรือไม่ก้อตามคับ แล้วคุณแสดงออกมาในแนวนี้มันแสดงถึงความไม่มี "วุฒิภาวะ"ของคุณเลยคับ
ปรับเปลี่ยนแนวความคิดให้มันอยู่ตรงกลาง อย่าซ้ายจัดหรือขวาจัด สังคมจะได้น่าอยู่มากขึ้นคับ
ขออภัยถ้าสร้างความไม่พอใจคับ

 

มาดูอย่างเดียว หุหุ

 

มันน่าจะเข้าใจแล้วกละมังว่าไดโนคืออะไร หุหุ ท่ายังงงอีกก็คงเป็น.........

 

เอ่อ....เหนื่อยใจ

 

.............."บันไดติดล้อ" งั้นเหรอ? แต่นั่นมันก็พานายไปถึงความเร็ว300ไมล์กับแรงดึงอีก5จีนะ...

 

คนจะเกรียน เกรียนที่ใจ ใช่ทรงผม มันต้องการสื่ออะไรของมันว่ะ