เคยเอาน้ำฉีดแมลงที่ติดกับหม้อน้ำแล้วสตาร์ทไม่ติด เอาลมเป่าในห้องเครื่องก็ไม่ติด เคยวิ่งผ่าฝนกำลังตกหนักก็มีอาการสะอึก (ฝากระโปรงรถผมใช้น็อตรองให้เผยอเล็กน้อยประมาณนิ้วมือ ซื้อรถต่อจากวัยรุ่นมาครับ)เมื่อวันก่อนเอาสเปรย์ที่ล้างคราบน้ำมันที่ห้องเครื่อง ก้อไม่ติด มันต้องระวังตรงไหนเป็นพิเศษครับ เข้าหน้าฝนแล้วกลัวดับกลางฝน
ก้มลงไปดูยางกันฝุ่นข้างเครื่องเลยครับ ว่ายังอยู่มั้ย ถ้าหายไปก็หาซื้อมาใส่ครับ ของเทียมไม่มีด้วย อันนึงพันฝ่า ๆ เมื่อก่อน ผมวิ่งลุยน้ำ 80 - 100 ไม่มีปัญญา ตอนนี้ ข้างขวาหาย 60 ก็สะดุดแล้วครับ
อย่าลืมดูตรงหัวเทียนด้วยนะคับว่าน้ำ มันไปขังอยู่รึปล่าว ตัวสายเองหัวเทียนวัสดุไม่ดีรึปล่าวคับเพราะถ้ามีความชื่นตัวสายไฟมันก็จะรั่วลงตัวถังเลยทำให้การจุดระเบิดไม่สมบูรณ์ ดูหลายๆอย่างคับ แต่ก็อย่างที่พี่ โบตั๋นว่าเลยอะคับถ้าไม่มียางที่ว่าน้ำ มันจะกระเด็นเข้ามาในห้องเครื่องได้ง่ายมากคับ
ยางกันฝุ่นข้างเครื่องอ่ะคับ + สายหัวเทียนมีรั่วอ่ะป่าว บางทีเรามองไม่เห็น...ลองถ่ายมาเช็คดูเลยอ่ะคับ (สายหัวเทียนอ่ะ) น่าฝนแล้วระวังรถไม่สบาย.....ส่วนของผมน๊อตไปแล้ว ขี้เกียจซ่อมแล้วอ่ะคร๊าบบบบบ
อีก Case นึงที่เจอคือ คันหน้าเหยียบน้ำ แล้ววิ่งเข้าไปบวก อันนี้งามเลยครับ เข้าหมด 4 หัวเลย ถ้าใช้หัวเทียนเดิม มันจะเป็นหัวใหญ่ ปลั๊กหัวเทียนมันจะพอดี ไม่ค่อยมีที่ให้น้ำลงไปที่เบ้สหัวเทียนได้ แต่ถ้าใช้หัวเล็กก็ระวังเรื่องยางกันฝุ่นแหละครับ เพราะไม่งั้น เหยียบน้ำทีไร ได้เรื่องทุกที
ถ้ารู้ว่าจะต้องขับรถตอนฝนตกนะสเปร์ไล่ความชื้นฉีดไปเลย สายทัวเทียน+จานจ่าย+คอร์ยฉีดแบบไม่ต้องกลัวมันหมดนะครับ ยังไงก็ยังดีกว่าดับกลางถนนแน่ๆ แต่ถ้าลุยน้ำเยอะๆ ก็เอาถุงพลาสติกคลุมจานจ่ายซะ...