คือว่ารถผมบูสอยู่1.3บาร์ พอบูสมาเข็มแรงดันเบนซินก็ขึ้นตามที่4.2บาร์ พอถึง1.3บาร์เวสเกตตัด เข็มแรงดันเบนซินตกลงอยู่ที่3.2บาร์ อยากถามว่ามันปกติหรือป่าวครับหรือว่าแรงดันปั๊มติ๊กไม่พอ รบกวนพี่ๆช่วยตอบด้วยนะครับขอบคุณครับผม แล้วปั๊มติ๊ก RB25 กับ 2J ตัวไหนดูดแรงกว่ากันครับ
ตอนผมจูนนะครับ จูนเนอร์บอกว่า ให้นับจากเดินเบา บูสต์ขึ้นไปเท่าไร แรงดันน้ำมันควรขึ้นเท่ากัน เช่น จูนเนอร์ให้ตั้งเดินเบาใว้ที่ 3.2 บาร์ เวลาบูสต์ 0.7 บาร์ แรงดันน้ำมันควรเป็น 3.9 บาร์ เวลาบูสต์ 1.3 บาร์ แรงดันควรเป็น 4.5 บาร์ หรือ เดินเบาที่ 3.5 บาร์ เวลาบูสต์ 1 บาร์ แรงดันควรเป็น 4.5 บาร์ ไม่รู้ว่าถูกหรือผิดครับ
ขั้นแรก ต้องรู้แรงดันในรอบเดินเบาก่อน ต้องเช็คโดยการถอดสายลมที่หัวเรกกุเรดออกก่อน 2.อยากรู้แรงดันสูงสุดเอาค่าบูสมาบวกเข้าไป เช่น แรงดันเดินเบาหลังจากถอดสายลมออกจากหัวเรกกุเรดออกเท่ากับ3.3บาร์ บูส1.3 แรงดันเบนซินสูงสุดหลังจากบูสเต็ม จะเท่ากับ 3.3+1.3=4.6บาร์ บวกลบนิดหน่อย ถ้าแรงดันไม่ถึงนี้ เป็นไปได้หลายประการ เช่น แรงดันป๊มไม่ถึง หรือมันใกล้พัง
รถผมเดินเบาแรงดันเบนซิน 3 บาร์ครับ บูส1.3บาร์ แล้วเวลาเวสเกตตัดเข็มตกลงมาอยู่ที่ 3.2 บาร์มันปกติป่าวครับ
แล้วถ้าตัวเลขตั้งต้นเดินเบาที่ 3.5 (ไม่ได้ถอดท่อที่หัวเรคกูเรต) ที่บูสต์ บาร์สาม มันฟาดยาวเกิน ห้าบาร์ละ เป็นรัยป่าว ...... เด๋วต้องลองถอดท่อดูก่อน เผื่อเลขเดินเบาจะเปลี่ยน
ผมมีปัญหาอีกแบบคับ ขอความรู้หน่อยคับ เริ่มจากสตาทร์รถตอนเช้า แรงดันน้ำมันเบนซิน 4.5 บาร์ พอวิ่งไปเรื่อยๆๆ แรงด้านจะตกลงเรื่อยๆๆๆๆ จนลงมาถึง 3.5บาร์ แต่พอเวลาวิ่ง เยียบคันเร่งให้บูท อยู่ที่ 0 แรงดันจะขึ้นมาอยู่ที่ 4.0-4.1 บาร์ ไม่ทราบว่าปกติไหมคับ ปล. ปั้มติ๊กของ walbro ผมบูทอยู่ที่1.1 แรงดันตอนบูทปกคิขึ้นไป 5.2-5.3 บาร์ เลย
ผิดปกติครับ แรงดันถอย มีได้หลายสาเหตุครับ ต้องไล่เช็คดูก่อน พระเอกหลักๆที่เจอประจำคือ ปั๊มติ๊ก แรงดันไม่พอ หรือ เสื่อมสภาพครับ ส่วนปั๊ม 2J แรงก่วา RB แต่ถ้าคุณจะบูสท์ 1.3 บาร์ ปั๊มทั้ง2ตัวข้างบน แรงดันไม่พอครับ หาปั๊มติ๊กยี่ห้อ SARD หรือ Walbro ดีกว่าครับ รุ่นไหนก็ได้ ขอให้แรงดันมากกว่า 250 ลิตร/ชม. ครับ
ถือว่าปกติครับ ยิ่งแรงดันสูงเอาไว้ก่อนยิ่งดีครับ มีข้อเสียอยู่ 2 อย่างคือ 1. กินน้ำมันมาก 2. แรงดันสูงเกิน ไหลกลับถังไม่ทัน จะทำให้น้ำมันท่วมหัวฉีด ต้องทำการจูนกล่องปรับแก้อัตราการทำงานของหัวฉีดใหม่ครับ ถ้าวัดA/Fตอนจูนแล้วน้ำมันไม่หนา ก็แสดงว่าผ่านแล้วครับ
ไปถอดหัวเรคกูเลตมาแล้ว ..... โหย เดินเบา สี่บาร์ บูสต์บาร์สาม ฟาดไปห้าบาร์กว่า .....มิน่า ตังส์ในกระเป๋า มีเท่าไหร่ก็หมด
ต๊อก ถ้าบูส ไม่เกิน 1.3 บาร์ ปรับเรกูเรเตอร์ให้ แรงดันเดินเบา เหลือ แค่ 3 บาร์ ก็พอ จะได้ประหยัดน้ำมัน
รบกวนถามอีก นิดนึง รถผม อีโว4 บุสสูง สุด 1.2 ปั๊มติ๊ก อีโว8 แรงดัน ควร อยู่ ที่เท่าไร อะคับ แล้ว ติ๊ก 8 พอ ไหมคับ
พี่ต๊อกอย่าพึงปรับ คนจูนเค้าจูนไว้น่าจะปรับแรงงดันไว้เท่านี้ครับพี่โอ๋ ส่วนเครื่องEVO4 ต้องดูแรงดันรอบเดินเบาก่อน ถึงจะบอกได้ว่าควรจะขึ้นเท่าไหร่
โทษทีครับ ผมลืมไปว่าของต๊อกยัดกล่อง อีมาเนจ แล้ว ถ้ามันกินน้ำมันมากขึ้น อย่างต๊อก ให้สังเกตุง่ายๆแบบนี้ครับ ว่าตอนจูน Tunner จูนแรงดันน้ำมัน ที่ 7000 รอบ+บูสสูงสุดตอนจูน แรงดันน้ำมันดันไว้ที่เท่าไร เช่นตอนนั้นจูน สุดเกียร์ที่ 7พันรอบ บูสท์เต็ม 1.2 บาร์ เข็มวัดแรงดันเบนซิน อ่านได้ 5บาร์ ให้ต๊อกยึดค่านี้ไว้ครับ ถ้าแรงดันเบนซินในปัจจุบัน ไม่ต่ำไปกว่า 5 บาร์ที่ 7พันรอบ แบบนี้ไม่มีปัญหาเรื่องลูกแตกครับ เดินเบาก็ไม่ต้องไปปรับลดมันทั้งสิ้น เพราะส่วนผสมจะบางเกิน ถ้าปัจจุบันนี้ แรงดันต๊อกสูงกว่า หรือ ต่ำกว่า ต้องหาสาเหตุ และให้จูนเนอร์จับ A/F ที่รอบสูงสุด+บูสท์สูงสุด เพื่อเกลี่ยตารางน้ำมันใหม่ครับ แต่แรงดันมากเกินไป ไม่พังหรอกครับ แต่ถ้าแรงดันตกนี้อันตราย ถ้าต๊อก ไม่ชัวร์ หรือ จำไม่ได้ ให้จูนเนอร์จับวัด A/F ดูใหม่ก็ได้ครับ อย่าง Concept ผม ถ้ารอบสูงๆ แรงดันเกิน5บาร์ไปเท่าไร ผมไม่สนใจเลยนะ กินเท่าไรช่างมัน มีมากๆกันเหนียวไว้ก่อน แต่เดินเบา 0ถึง3 พันรอบ แรงดันน้ำมันผมตั้งไว้แค่ 3-3.2 บาร์ เพื่อให้ประหยัดและออกตัวดีไว้ก่อน และให้จูนเนอร์เกลี่ยรอบต้นใหม่ให้น้ำมันบางพอดี ส่วนรอบปลายกินเท่าไรไม่สนครับ เอาเหนียวไว้ก่อน ขออย่าหนามากจนวิ่งไม่ออกเท่านั้นพอ ของต๊อก ลองเสียบสาย Vaccumm เข้าไปและดูว่าเดินเบาอยู่เท่าไร ถ้าอยู่ 4 บาร์ ผมว่ามันมากเกินและเป็นสาเหตุหลักๆที่ทำให้กินน้ำมันเลยครับ เพราะเป็นช่วงที่ใช้เยอะที่สุด ปลายท่อต๊อกต้องดำแล้วมั้งขนาดนี้
เสร็จแล้ว อย่าลืม ใส่สายแวคคั่มแล้ว ตรวจสอบค่าแรงดันดูอีกครั้งครับ ตั้งเดินเบาโดยขันที่หัวเรคกูเรต ไป ที่ 2.8-3.2 บาร์ ตามแต่จะเลือกใช้ ที่ต้องถอดสายแวคคั่มเพราะเป็นการ ทดสอบการทำงานของสปิรงเรกกูเรตครับ ว่ายังสามารถเอาชนะแรงดันน้ำมันในรางหัวฉีดได้หรือไม่ครับ และใช้ทดสอบ เวลาเราตอกตูดกระป๋อง เพื่อเพิ่มแรงกดสปริงของเรกกูเรตกระป๋องได้ด้วยครับ
เทอร์โบเดิม กล่องเดิม บูส1.2 แรงดัน ไม่ควรต่ำกว่า 4.5บาร์ครับ ปั๊ม8 ผมไม่เคยใช้ แต่คร่าวๆคงได้ราวๆ220ลิตร/ชม. แรงดันรอบปลายน่าจะอยู่ที่ 4.2-4.5 ตอนนี้ เรียกว่าพอดีครับ ถ้าเปลี่ยนเทอร์โบ เปลี่ยนกล่อง หรือ เปลี่ยนเฮด เปลี่ยนท่อไอดี เปลี่ยนเวสเกตแยก อันนี้ไม่ทราบแล้วครับ พอหรือไม่พอ ต้องจับ A/F แล้วครับ แต่คิดว่ามีเสียวครับ
ปั๊มติ๊ก ถ้าใส่ปั๊มติ๊กแรงดันสูงเผื่อไว้ ถ้าทำการปรับจูนน้ำมันใหม่แล้ว ก็จะทำให้อัตราบริโภคน้ำมันเท่าเดิมใช่ไหมครับ
ผมอยากได้ รายละเอียดปั้ม 3 กับ ปั้ม 8 MR รู้แค่แรงดันมากกว่า แต่อยากรู้ว่า spec ต่างกันมากไหม ใครมีข้มมูล ขอหน่อยนะครับ พอดีหามาหลายวันและ ยังไม่ได้ข้อมูลเลย ส่วนใครอยากได้ pin ECU E3 , E7 ,E8 mail มาได้เลย ผมมี อิอิ .....กำลังจะซนนิดหน่อย เห็นคุณสมบัติมันเยอะ ประมวลผลเร็ว เก็บ Log ได้ น่าสนใจดี (อยู่ในขั้นศึกษาความเป็นไปได้)
ปรับจูนใหม่แล้ว จะสามารถกำหนดอัตราการฉีดของหัวฉีดใหม่ได้ครับ ส่วนจะประหยัดน้ำมันเท่าเดิมหรือไม่ ขึ้นอยู่กับ จูนเนอร์เลือกใช้งานครับ เพราะบางคันต้องการแรงเพิ่มขึ้น จูนเนอร์ต้องฉีดน้ำมันหนาขึ้น เพื่อเพิ่มกำลังเครื่องอยู่แล้วครับ จึงต้องกินน้ำมันมากกว่าเดิมครับ ซึ่งปกติ เมื่อเราจูนรถแล้ว ส่วนมากรอบเดินเบาถึงรอบต้นไม่เกิน 2500 รอบ เราสามารถLEAN น้ำมันให้ประหยัดลงมาได้ แต่ไม่ควรบางจนประหยัดมาก เพราะต้องคำนึงถึงการใช้น้ำมันในการระบายความร้อนบริเวณหัวลูกสูบกรณีซัดมาแล้วยกด้วยครับ ถ้าจูนเนอร์ ปสก.จูนไม่พอ ส่วนมากรอบต่ำจะจูนเผื่อไว้ก่อนกันพังครับ
เปลี่ยนปั๊มติ๊กไปด้วยเลยครับอั๋น เดี๋ยวไม่พอ ส่วนกล่อง 7 แบบ4ปลั๊ก ใส่ได้ครับ แต่ต้องมีวิธีทำครับ จะมีปัญหาเรื่องจำรอบเดินเบาไม่นิ่งเท่านั้นเพราะ VACUMM Sensor ไม่เหมือนกันครับ และต้องปลด INNIT CODE ให้กับSensorบางตัวในกล่องครับ ยิ่งถ้าได้กล่อง GSR ที่มีสัญญาณ Immobilizer มาก็ต้องปลดเจ้าINIT CODE ออกด้วยครับ ไม่งั้นสตาร์ทไม่ได้ ที่ผมใส่อยู่มันเป็นกล่อง 7RalliArt WRC จึงไม่มีImmobilizerครับ ส่วนกล่อง8 เป็น3ปลั๊ก สามารถใส่ได้เช่นกัน แต่ต้องแปลงสายไฟเยอะมากครับ ถ้าคิดง่ายๆ อั๋น หากล่อง7-8 ได้ในราคา 8 พัน + ค่าทำ ค่าจูนอีกซัก 5 พัน เป็น 1.3หมื่น มีข้อดีคือ Reflash เองได้ ตอนนี้ F-CON กล่องเงิน พร้อมวาย+จูน น่าจะจบไม่เกิน 3 หมื่นครับ ลองตัดสินใจดู
น่าจะเป็นซัก 100ต้นๆหรือเปล่าก้อง ครับ เพราะปั๊ม 2J มันก็แค่ 160หรือ190 เองนะ ไม่มากอย่างที่คิดครับ ผมถึงบอกว่าต้องเปลี่ยน เพราะบูสท์ไหลหน่อย กดแช่หน่อย ลูกสูบก็แตกแล้วครับ ถ้าจะซน ปั๊มน้ำมัน+หัวฉีด และเรคกูเรเตอร์ เป็นสิ่งของอันดับต้นๆที่ต้องเปลี่ยนครับ ไม่งั้นพังไม่เลิกครับ + อ้างถึง ตอบกลับ