ตัวอย่างเช่น ตอนเช้า ขับรถไม่ว่าจะใช้น้ำมัน อะไร หรือ แก๊ส ก็ตาม ถังเดียวกัน แต่ต่างเวลา กัน บางทีก็อีด บางทีก็วิ่งลื่น เป็นมาตั้งแต่ซื้อรถใหม่ ๆ แล้ว สภาพรถก็ปกติดี เป็นกันบ้างไหม ครับ
ผมก็รู้สึกแต่ความคิดเห็นส่วนตัวผมว่ามันเกี่ยวกับอากาศภายนอกรถ เพราะอากาศร้อน+พื้นถนนร้อนกว่า มันทำให้คอมแอร์ทำงานหนัก ฉุดเครื่อง แล้วก็อากาศร้อนที่ไหลเข้าสู่ห้องเผาไหม้นี่มีผลหรือเปล่าผมเองก็ว่าน่าจะเป็นไปได้
ผมว่าอากาศร้อนหรือเย็นน่าจะเกี่ยวนะครับ เพราะว่าอากาศที่มีอุณหภูมิต่ำจะสามารถเผาไหม้ได้ดีกว่าอากาศร้อน พวกรถ Drag ที่แรงบางคันยังใช้น้ำแข็งแห้งในการที่จะทำให้ อากาศที่เข้ามาในห้องเครื่องเย็นที่สุดเพื่อการเผาไหม้ที่สมบูรณ์มากขึ้น และตามหลักแล้วอากาศร้อนโมเลกุลของอากาศจะขยายตัวทำให้ โมเลกุลของอากาศอยู่ห่างกันมากทำให้การเผาไหม้หรือการทำให้เกิดการ ลุกไหม้ต่ำลงด้วยสังเกตุจากเวลาอากาศร้อนๆเราจะรู้สึกว่าหายใจไม่สะดวกเท่าไหร่ แต่อากาศเย็นๆนี่สูดหายใจได้เต็มปอด ก็คงจะประมาณนี้แหละครับ อิอิ
ผมก็ว่าตามกันนะ อากาศน่าจะมีส่วนเยอะ ดูเวลาเขาจูนอากาศรถแข่งเขาดูสภาพอากาศทั่วไปด้วยครับ ไม่รู้มันจะเกี่ยวกันไม่นะครับ
เห็นด้วยกับทั้ง2นี้เลย เพิ่มนิดนึงนะ เคยสังเกตุรถตัวเองเหมือนกัน ตอนเช้าๆไปทำงานยิ่งรีบๆด้วยนะ มักวิ่งไม่ออก พอกลับบ้านค่ำๆหน่อยเหยียบแล้วไหลดีจิงจิ้งเลย
เห็นด้วยคับที่ว่าเป็นที่อากาศ.................แต่ผมว่าเหตุผลก็เพราะเมื่ออากาศร้อนปริมาณของอากาศจะขยายตัวจึงทำให้มวลของอากาศที่เข้าไปในห้องเผาไหม้ลดลง(เพราะปริมาณในห้องเผาไหม้เท่าเดิม) สังเกตุพวกรถดีเซลรุ่นใหม่ๆมันจะติดตัว inter cooler มาด้วยเพื่อลดอุณหภูมิของอากาศก่อนเข้าห้องเผาไหม้เพื่อที่จะเพิ่มมวลของอากาศที่จะเข้าไป เพราะเครื่องยนต์ดีเซลจะมีประสิทธิ์สูงและเผาไหม้หมดจำเป็นต้องใช้อากาศมาก พูดง่ายๆอากาศยิ่งมากยิ่งดี(จำได้รางๆตอนสมัยเรียนเรื่อง ICE) + อ้างถึง ตอบกลับ