คืออยากโหลดรถแต่ว่าไม่ชัวร์ ระหว่าง - ใส่สปริงโหลด - โช๊คมาสด้าสปีด - สตรัทปรับเกลียว ใครพอรู้ก็ช่วยก็ช่วยแจงราคาแล้วก็ข้อดีข้อเสียของแต่ละอย่างหน่อยนะครับ เห็นพี่ เพ้ง แนะนำเป็นสตรัทปรับเกลียวนี่ใช้ของยี่ห้ออะไรเหรอครับ หาซื้อที่ไหนราคาเท่าไหร่ครับ แบบว่า ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ พอดีเห็นในเว็บนี้ ยี่ห้อ Daiyama มันดีมั๊ยครับ ตรงรุ่นด้วย ปรับเกลียวได้ หนึบไม่ได้ 15999 บาท http://racingweb.net/forums/showthread.php?t=593821&highlight=%C1%D2%CA%B4%E9%D2 แล้วอีกอย่างรถผมติด LPG 58 ลิตร เวลาโหลดท้ายมันจะชนซุ้มล้อมั๊ยครับ?? *** ลืมไปครับ รถผมตาตี่ ปี 95 ครับ ขอบคุณครับ :sad::sad::sad:
ขอรายละเอียดเกี่ยวกับรถของคุณอีกหน่อยได้ไหมครับเช่นว่า รถอะไรรุ่นไหนปีไหน จะได้บอกได้ถูกต้องเพราะบางรุ่นก็หาอะไหล่ง่าย แต่บางรุ่นก็หอะไหล่ยากหน่ะครับ อันนี้เป็นข้อมูลคร่าวๆนะครับ เรื่องโหลดอันนี้ต้ออยู่กับสองอย่างหลักๆคือ หนึ่ง ความต้องการในเรื่องระยะของการโหลด สอง ความสามารถขอรถในการโหลด ข้อแรกไม่ยากเลยครับเพราะแค่ว่าเราต้องการโหลดลงไปมากแค่ไหน ถึงจะคิดว่าสวยหรือว่าคิดว่ามันจะใช้งานได้ดีเท่าที่ต้องการ แต่ข้อที่สองมันจะเป็นปัญหาที่ว่าเราโหลดลงไปจนถึงจุดที่ว่าสวย แต่มีปัญหาที่ว่ายางขูดตัวถัวหรือซุ้มล้อ ดังนั้นทางเลือกทั้งสามทางที่ได้เอ่ยมานั้นคือ - ใส่สปริงโหลด - โช๊คมาสด้าสปีด - สตรัทปรับเกลียว มีปัญหาได้ทั้งหมดขึ้นอยู่ว่าจะแก้ยังไงมากกว่า เช่นโหลดลงมาแล้วติดซุ้มจะแก้โดย พับซุ้ม เปลี่ยนล้อหรือเปลี่นยางอะไรแบบนี้หน่ะครับ ข้อดีและเสียบ้างนะครับ - ใส่สปริงโหลด --โหลดสวย แต่ระบุความสูงยากแล้วต้องมาแก้ปัญหาที่ปลายเหตุเยอะ - โช๊คมาสด้าสปีด --คล้ายๆกับอันแรกแต่จะมีเรื่องของความหนึดของโช๊คที่มากขึ้นมาช่วย - สตรัทปรับเกลียว --ทางนี้ก็ดีครับโหลดได้สวยและกะระยะได้แต่จะไม่ได้เรื่องของความหนึบ ส่วนสุดท้ายที่บอกมาว่าของไดยาม่านั้นถือว่าโอเคพอสมควรถ้าคิดจะเลือกเพราะว่า ปรับความสูงต่ำได้และสามารถปรับหนืดได้อีกแม้ว่าเจ้าโช๊คชุดนี้จะไม่ได้ดีถึงขนาด ว่าหนึบดีนักแต่ก็ถือว่าใช้งายได้ดีในระดับนึงครับผม สรุปนะครับ ทางที่แนะนำดีที่สุดคือไดยาม่าครับแต่แพงนิดหน่อย รองลงมาก็เป็นสตรัทปรับเกลียวเพราะปรับสูงต่ำได้ดีและราคาไม่แพง และสุดท้ายคือสปริงโหลดแต่ต้องไปลุ้นกับเรื่องของความสูง ส่วนโช๊คมาสด้าสปีดไม่ค่อยแนะนำครับเพราะหนึ่งหายากสองกะระยะความสูงก็ไม่ได้ด้วย และสุดท้ายครับแพงแน่ๆ ปล.เรื่องของถังแก๊สท้ายรถถ้ากลัวท้ายห้อยก็ยกสูกกว่าปรกติซักนิดหรือถ้าปรับหนืดได้ ก็ปรับให้แข็งมากซักหน่อยจะช่วยเรื่องท้ายห้อยและขูดซู้มล้อได้เยอะเลยครับ
พี่ข้างบนแนะไปเยอะแล้ว จริงๆผมว่าต้องดูจากนิสัยการขับรถด้วยครับ เพราะผมลองมาหมด สปริงโหลด โช้คแต่ง แต่ มาจบที่ tein กระด่างหน่อยแต่เอาอยู่เลยครับ แต่ไม่รู้ว่าตาตี่จะมีตรงรุ่นรึเปล่าครับ แค่อยากให้ลองคิดดูหนะครับ
โช้คมาสด้าสปีดกระบอกเขียวใส่แล้วเตี้ยกว่าเดิมเยอะครับ ส่วนมากสภาพไม่นางฟ้าครับ ให้ดูตัวอื่นดีกว่า ราคาก็ไล่กับสตรัทปรับเกลียว โช้คDAIYAMAไม่เคยลอง แต่ก็มีรถแรงๆใช้อยู่หลายคัน ครับ เมื่อก่อนรถช่างญา(มารชมพู) ก็ใช้ครับ เห็นเกาะหนึบๆ ราคาหมื่นกลางๆนี่คู่นึงใช่ไหมครับเป็นสตรัทปรับเกลียวใช่ไหม ถ้าใช่น่าสนใจครับ เพราะโช้คโคนี่ คู่นึงก็หมื่นกว่าๆแล้ว สองคู่ก็สองหมื่นกว่า ยังไม่รวมปริงอีก เพราะเคยเล่นโคนี่+H&Rแล้วก็รู้สึกไม่คุ้มค่าเท่าไหร่กับเงินที่ลงไปสามหมื่นกว่า ของพี่ใช้ของe'spec ตรงรุ่นโครโนสอ่ะครับได้ราคาช่างหมูมาครับ ปรับแข็งอ่อนได้ แต่ถึงยังไงถ้าคิดจะใส่โช้คสตรัทปรับเกลียว ต้องยอมรับกับความแข็งกระด้างนะครับ วิ่งทางไกลเหนื่อยนิดนึง แต่สิ่งที่ได้มาคือความเกาะ หนึบๆ ไม่โยนตัวครับ
TEIN มีตรงรุ่น ครับ http://www.tein.co.jp/products_search/all_products_search.cgi แต่เมืองไทยไม่มีนำเข้ามาครับ
รุ่นปรับหนึบไม่ได้ เป็นรุ่นสตรัทปรับเกลียวปรับ สูง- ต่ำ ได้ตามต้องการ หนืบเวลาใช้ความเร็วสูงทั้งชุด 4 ต้น พร้อมสปริง ใหม่แกะกล่อง ราคา 15,999 บาท ไม่รวมติดตั้ง รวม 4 ต้นครับ น่าสนใจมากเลย หึหึหึหึ
ใช้ของแต่งแท้ที่ปรับเกลียวสูง-ต่ำได้ครับ กับรถติดแก๊ส ยี่ห้อไหนก็ได้ตามกำลังทรัพย์ ตอนนี้มีไดยาม่ากะแก็ป ครับ ที่หาซื้อได้
ผมไปเช็คราคา Monroe Reflex มา 16980 ได้ Shock Monroe Reflex สตรัทปรับเกลียว 4 ต้น + สปริงโหลด H&R มันดีมั๊ยครับ แล้วก็งง อีก นิดหน่อยคือว่า ถ้าใช้โฃ๊คสตรัทปรับเกลียวแล้วไม่ใช้สปริงโหลด มันจะแตกต่างกันยังไงเหรอครับ
อ่านแล้ว งงเหมือนกันครับ ถ้าโช้คสตรัทปรับเกลียว มันก็มีสปริงอยู่ในกระบอกโช้คอยู่แล้วครับเราสามารถปรับสูงต่ำได้ โดยการยกรถขึ้น แล้วเอาประแจขันปรับสูงต่ำได้เลยครับ ไม่เกี่ยวกับสปริงโหลดครับ สปริงโหลดใช้กับโช้คทั่วๆไปครับ
คือว่า คนที่ซื้อเค้าใส่มาอย่างนี้น่ะสิครับ ผมเลย งง พอจะมีคำแนะนำมั๊ยครับ http://www.mazdaclub.net/module_view.php?mod=webboard&fn=view&cid=49156&sh=%E2%CB%C5%B4 http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V7909788/V7909788.html ลองดูกระทู้นี้อ่ะครับ เถียงกันเรื่องใส่สปริงโหลดลงในโช๊คจะดีหรือไม่ เนี่ยคนขายอธิบายอย่างนี้ ร้านทำช่วงล่างหลายร้านแนะนำลูกค้าใล่ปลอกปรับเกลียวกับสปริงเดิม โดยบอกว่าเป็นการโหลดที่ประหยัดและไม่ต้องตัดสปริง ที่จริงแล้วถ้าคุณลงทุนกับปลอกปรับเกลียวแล้วคุณควรจะใล้สปริงหลอดไปเลย จะได้สมรรถนะที่ดีคุ้มค่าเงินที่จ่ายไปครับ ปลอกปรับเกลียวมีไว้เพื่อใช้ร่วมกับสปริงหลอดครับ ข้อดีของสปริงหลอดคือ 1.ยุบน้อย ดังนั้นเราจะสามารถเซ็ทความสูงรถได้ใกล้เคียงกันระหว่างมีโหลดกับไม่มีโหลด สปริงฐานใหญ่จะมีช่วงยุบ-ยืดเยอะ ทำให้ความสูงช่วงล่างมีความแตกต่างกันเยอะ เราใช้สปริงหลอดแก้ไขปัญหาท้ายห้อยให้รถติดแก๊สไปเยอะ ขนาดรถที่ติดแก๊ส NGV 100 ลิตรมีผู้โดยสารนั่งเต็ม 3 คน น้ำหนักคนละ 80 กก. เราก็ทำให้ท้ายไม่ห้อย ไม่ติดซุ้มได้ เวลาไม่มีผู้โดยสารนั่งหลัง ท้ายก็ไม่โด่งเกินครับ 2.มีค่าK สปริงให้เลือกหลากหลาย ดังนั้นสปริงหลอดเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการอัพเกรดช่วงล่าง การเทียบสปริงฐานใหญ่มาใช้แบบที่ได้ตรงกันทั้งขนาดเบ้าบน-ล่าง ความยาวสปริงและความแข็งสปริงตามที่คุณต้องการ มันยากมาก สปริงหลอดจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด คุณแค่เทียบความแข็งสปริงให้ได้ตามต้องการและติดตั้งปลอกปรับเกลียวเพื่อให้ ขนาดเบ้ารองรับกับสปริงได้ ส่วนสูง-ต่ำก็ปรับขึ้นลงเอา แบบนั้คุณก็สามารถเลือกใช้สปริงที่มีความแข็งตรงตามต้องการได้โดยไม่มีข้อ จำกัดเรื่องขนาดของวงสปริง ความสูง อ่านแล้วก็ยังงงครับพี่น้องงงงงงงงงงงงงงงงงงง
อืม น่าจะเป็นการที่เอาโช้คเดิมไปทำสตรัทปรับเกลียวแบบที่ร้านทำช่วงล่างที่ลงในหนังสือมั้งครับ วิธีนี้ผมไม่รู้ว่าผลที่ได้มันจะออกมาดีแค่ไหนอ่ะครับ ผมว่าลงทุนแบบที่ทำมาจากโรงงานโช้คเลยดีครับ ใช้ได้ยาวๆไปเลย มีโครโนสคันนึงทำโช้คสตรัทปรับเกลียวแต่ทำโดยการเอาโช้คของSUPRAมาทำ งบทำไปสูงพอสมควรแต่ผลที่ได้ไม่คุ้มค่าครับ (แปลงหัวบนกันหูยึดล่าง) ส่วนเรื่องของสปริงผมเห็นว่าทางร้านจะรู้ได้อย่างไรว่าค่าKของสปริงนั้นตรงกับความต้องการของลูกค้าครับ คงไม่มีร้านไหนที่เอาสปริงให้ลูกค้าลองแล้วลองวิ่งดู ถ้าไม่พอใจก็เปลี่ยนเป็นสปริงตัวอื่น
เห็นด้วยกะพี่เพ้งครับ ตามความคิดของผม ผมว่ายังไงๆลงทุนซื้อของใหม่ไปเลยดีกว่าครับ เพราะของใหม่เค้ามีการทำทุกอย่างที่ดีกว่าตามร้านที่มาซ่อมอยู่แล้ว ถ้าเป็นผม ผมจะไม่ลังเลเลยครับที่จะเลือกของใหม่ ปล. ไม่ต้องไปใส่ใจกะพวกสปริงหลอดหรืออะไรที่มันไม่ตรงรุ่นหรอกครับ ทั้งยุ่งยาก งบบนปลาย ทำออกมาจะดีรึเปล่าก็ไม่รู้ ร้านซ่อมโช้คจะสู้โรงงานได้เหรอครับ
คือเท่าที่อ่านมาคือเหมือนไม่ได้แปลงโช๊คอะไรเลยอ่ะครับ แต่ว่าแค่ใส่ปลอกปรับเกลียวลงไปที่โช๊ค โช๊คก็โช๊คตรงรุ่น ของใหม่ สปริง ก็ตรงรุ่นของใหม่ เลย งงงงงง
คือมันเป็นโช๊ค monroe reflex ตรงรุ่นตาตี่ เบิกใหม่ เป็นสปริงโหลด H&R ตรงรุ่นตาตี่ เบิกใหม่ แต่ใส่ปลอกปรับเกลียวลงไปกับโช๊คครับ (ใส่ลงไปได้เลยไม่ต้องแปลง) เค้าให้เหตุผลที่ใส่สปริงโหลดเพราะว่าหนึบกว่า และใส่ปลอกปรับเกลียวเวลาโหลดจะได้ปรับระดับได้
อืม งง นึกภาพไม่ออก ปลอกปรับเกลียว สปริงโหลดไม่ค่อยมีผลกับคำว่าหนึบครับ จะหนึบหรือไม่อยู่ที่โช้คครับ สปริงเป็นแค่ตัวเสริมกับโช้คเอง สปริงทำหน้าที่รับน้ำหนักรถยนต์ มันก็ทำหน้าที่คล้ายๆแหนบครับ ค่า k ของสปริงรถยนต์คือค่าความแข็งของ ขดสปริงรถยนต์หรือคอลย์สปริง ที่ใช้ในระบบรองรับน้ำหนักรถยนต์ สำหรับผู้ผลิตรถยนต์ เมื่อทำการออกแบบระบบรองรับน้ำหนักรถยนต์ วิศวกรจะต้องกำหนดค่า k ของคอลย์สปริงให้เหมาะสมกับการใช้งานและน้ำหนักของรถยนต์ เพื่อให้ได้สมรรถนะการขับขี่และยึดเกาะถนนที่ดี รวมถึงการทรงตัว และความนุ่มนวลในการขับขี่ โดยสอดคล้องกับการใช้งานจริง รถยนต์ในแต่ละยี่ห้อจะมีค่า k ที่แตกต่างกันออกไป ถึงแม้ในรถบางรุ่นที่ใช้ตัวถังเดียวกัน แต่ต้องดูว่ามีอะไรแตกต่างกันบ้าง เช่น ขนาดของเครื่องยนต์ ตำแหน่งการจัดวางเครื่อง การออกแบบระบบขับเคลื่อน ระบบกันสะเทือน น้ำหนักรถยนต์รวมทั้งความสามารถในการรับน้ำหนักบรรทุกขณะใช้งาน ค่า k ของสปริงแข็ง เหมาะสำหรับรถยนต์ที่ใช้ความเร็วสูง จะช่วยให้ยึดเกาะถนนทรงตัวดี แต่หากใช้กับการใช้งานทั่วไปที่ความเร็วต่ำจะขาดความนุ่มนวลไปบ้าง แต่ก็ขึ้นกับปัจจัยอื่นประกอบ ค่า k ของสปริงอ่อน เหมาะสำหรับรถยนต์ที่ใช้งานในความเร็วต่ำๆ ซึ่งจะให้ความนุ่มนวลในการขับขี่ แต่เมื่อใช้ความเร็วสูงๆ จะทำใหรถมีอาการโยนตัวหรือโคลงได้ ปัจจุบันจะเห็นได้ว่า หลายคนเมื่อซื้อรถยนต์ใหม่ก็อยากที่จะไปตกแต่งระบบกันสะเทือนใหม่ โดยใช้วิธีเปลี่ยนล้อ เพิ่มขนาดล้อ ดัดแปลงคอลย์สปริงด้วยการตัดหรือเปลี่ยนใหม่ แม้กระทั่งยกชุดเปลี่ยนโช้คอัพใหม่ทั้ง 4 ตัว ตามร้านประดับยนต์ทั่วไป ดังนั้น หากผู้ใช้รถมีความประสงค์ที่จะดัดแปลงระบบช่วงล่างให้แตกต่างจากโรงงานกำหนด ควรคำนึงถึงค่า k ว่าเหมาะสมกับการใช้งานจริงหรือไม่ หรือสอบถามผู้ที่ชำนาญก่อนตัดสินใจ
หน้าที่และชนิดของสปริง สปริงจะยุบและยืดตัวเมื่อล้อวิ่งผ่านผิวถนนที่ขรุขระ ส่งผลให้ล้อเคลื่อนที่ขึ้น-ลงได้เกือบอิสระในแนวดิ่งจากโครงรถ ทำให้สามารถ " ดูดกลืน" (Absorb) แรงเต้นของล้อลงได้ แรงจากการเคลื่อนที่ของล้อจึงถูกส่งถ่ายไปยังตัวถังน้อยกว่าที่ ล้อเต้นจริง ผลก็คือผู้โดยสารและน้ำหนักบรรทุกจะได้รับแรงสะเทือนจากล้อลดลง นั่นเอง เรามักเข้าใจว่า " สปริง" คือ ขดลวดที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาดต่างๆ ขดเป็นวง รูปทรงกระบอก (สปริงขด หรือ Coil Spring) แบบอย่างที่เราคุ้นเคยกันมาตลอด แต่ในความเป็นจริง สปริงยังมีอยู่อีกหลายประเภท หลายรูปแบบ และที่นิยมใช้อยู่ในปัจจุบัน ได้แก่ แหนบ(Leaf Spring), เหล็กบิด หรือทอร์ชั่นบาร์(Torsion bar), สปริงลม (Air Spring), สปริงยาง (Rubber Spring) และ ไฮโดรนิวเมติก (Hydro - Pneumatic) ในอนาคตเมื่อความก้าวหน้าทางวิศวกรรมสูงขึ้นอีก ก็อาจมีสปริงรูปแบบใหม่ๆ ออกมาใช้งานอีกก็เป็นได้ แหนบจะรับน้ำหนักและแรงสั่นสะเทือนโดยการ " โค้งหรืองอตัว" ของแผ่นแหนบ สปริงขดรับน้ำหนักโดยการ "หด หรือยุบตัว" ของขดสปริง ส่วนเหล็กบิด หรือทอร์ชั่นบาร์ นั้น จะรับแรงสั่นสะเทือนโดยการ " บิดตัวของเพลา" , สปริงลมลดแรงสั่นสะเทือนจากการ "อัดตัวของลม" ในถุงลม , ส่วนสปริงแบบไฮโดรนิวเมติก ดูดซับแรงสั่นสะเทือน โดยการอัดตัวของแก๊สไนโตรเจนและของเหลว (ที่ใช้อยู่เป็นน้ำมันไฮดรอลิก) ในระบบ
เพิ่งถามกูรูมา กูรูบอกว่า Q: พอดีมีคนมาเสนอน่ะครับ เป็นชุดคอล์ยโอเวอร์ หัวบอล และตัวสตรัทปรับสูง-ต่ำได้ ส่วนความหนืดปรับได้ 32 ระดับ ยี่ห้อ e'spec รุ่น A: อันนี้หมายถึงปรับแคมเบอร์ได้ใช่มั้ยครับ A: ไม่แนะนำกับรถใช้งานตามปกติครับ ตัว ball joint ใช้ได้ไม่นานก็หลวมครับ ก๊อกๆ แก๊กๆ A: ถนนบ้านเราก็ห่วยเสียด้วยครับ A: ส่วน ปรับระดับได้ ถ้าไม่ค่อยได้ปรับขึ้นลงบ่อยๆ ไม่ค่อยแนะนำครับ (พวกในสนามแข่งนี่จำเป็นครับ มันหลายเรื่องเลย เช่น ปรับ ride height นี่กระทบกับ roll center ด้วยครับ) A: สังเกตุมั้ยครับว่าของเดิมๆ แนวของสปริงกับแนวแกนโช้คมันทำมุมต่อกัน A: อันนี้เพื่อ cancel แรงงัดที่เกิดขึ้นกับตัวโช้คครับ ซึ่งเป็นปกติของช่วงล่างแบบ Macpherson Strut Q: สรุปให้ใช้แบบตายตัวดีสุดใช่มั้ยครับ A: ขึ้นอยู่กับความจำเป็นนะ A: ถ้าไม่ได้ต้องการใช้ปรับขึ้นลง ใช้แบบตายตัวดีกว่า A: แต่ถ้าต้องใช้ในสนามบ่อย หรือ ลง track day บ่อยๆ หรือต้องปรับขึ้นลงประจำ ก็คงเลี่ยงไม่ได้ สรุปได้ว่าถ้าใช้แบบปรับเกลียวได้ มันจะพังไวกว่าแบบตายตัว ไม่ใช่ว่าไม่ดี แค่มันพังไวกว่า ถ้าไม่ได้มีความจำเป็นต้องปรับขึ้นปรับลงบ่อยก็หาโช๊คดี ๆ แบบตายตัวแล้วหนุนเอาดีกว่า เอาไงดีวะเรา T T