ในที่สุดก็มาถึงบทความเรื่องที่ 2 ของผมแล้ว 555+ ความเดิมจากตอนที่แล้ว Review OHLINS DFV วันนี้ผมจะขอเล่าถึงโช๊คอัพ KYB ก็แล้วกันนะครับ โช๊ค KYB ตัวนี้ต้องยอมรับว่าผมหาข้อมูลได้น้อยมาก แม้กระทั่งชื่อรุ่นของมัน ผมก็ยังไม่ทราบเลย รู้แต่ว่าเป็นโช๊คซิ่งระดับ Premium ที่ KYB ผลิตขึ้นในปี 2009 รวมทั้งผลิตให้กับ Spoon โดยใช้ Spec เดียวกัน วัสดุ และหน้าตาก็ ราวกับว่าเป็นฝาแฝดกันเลยทีเดียว แรกเริ่มเลย ผมได้รู้จักกับโช๊คตัวนี้เพราะเมื่องาน Motor Show ที่ผ่านมา บริษัท KYB ประเทศไทยได้นำโช๊ครุ่นนี้เข้ามาทำตลาด โดยเป็นสปอนเซอร์ ให้กับ Dr.Mo ลงใช้แข่งงาน Honda Racing Fest โช๊คชุดเก่าของ Dr. Mo ก็คือ OHLINS PCV เลยมาประจำการในรถของโอ๊ตแทน บริษัท KYB ประเทศไทยตั้งราคาค่าตัวโช๊ครุ่นนี้ไว้ที่ 78 000 บาท ไม่รวมชุด หัว Ball Joint ดูจากรูปร่างหน้าตา โหวเห้งแล้ว น่าจะเหมาะกับการใช้งานแบบ Street Racing ผมจึงซื้อมาเพื่อเอามาลองในสนามพีระ งาน EK Group Track Day ที่ผ่านมาครับ
เกริ่นนำถึงที่มา ที่ไปกันพอหอมปาก หอมคอแล้ว มาดูตัวจริง ของจริงกันเลยดีกว่า KYB ชุดนี้เป็นโช๊คที่สามรถปรับสูง ต่ำได้สองวิธีนะครับ วิธีแรกโดยกันขันสตรัท อัดสปริงขึ้นไป และวิธีที่สองก็คือการสไลด์กระบอก ระบบภายในเป็น Gas และ น้ำมัน ตัวสตรัททำจากเหล็ก ชุบโครเมี่ยม ตัวล็อคสปริงเป็นเหล็กชุบโครเมี่ยม ส่วนชุดสไลด์กระบอก และตัวล็อคผลิตจากอลูมีเนียม หน้าตาหล่อเหลาใช้ได้ครับ แต่ผมไม่ชอบที่ตรัทเป็นเหล็กเนี่ยแหล่ะ พอใช้ไปนาน ๆ ขันขึ้น ๆ ลง ๆ บ่อย ๆ โครเมี่ยมที่ชุบไว้ก็จะลอก สนิมก็อาจจะถามหาได้ เมื่อถอดแยกชิ้นออกมา หน้าตาก็จะประมาณนี้ครับ
คราวนี้จะประกอบกับไปให้ดูก็แล้วกันนะครับ โช๊ค KYB ชุดนี้ มีของเล่นให้เล่น กันอีกแล้ว น่าจะเป็นยี่ห้อเดียวที่มีแบบนี้นะ เพราะของ TEIN, OHLINS, CUSCO ยังไม่เคยเห็นยี่ห้อไหนมีระบบนี้เลย ระบบที่ว่านี้ก็คือระบบกันการสไลด์กระบอกลงจะโช๊คหลุดออกจากเบ้าครับ อาจจะเป็นเพราะ KYB ชุดนี้ออกแบบมาเป็นโช๊คที่เตี้ย ถึงเตี้ยมาก การใช้งาน จึงอาจจะต้องสไลด์กระบอกขึ้นจรหมดเกลียว แล้วทำให้ตัวกระบอกหลุดออก มาจากเกลียวได้เมื่อตกหลุม หรือใช้งานหนัก KYB จึงออกแบบ Plug ตัวนี้ขึ้นมา ข้างในจะมีลูกปืนลูกเล็ก ๆ วิ่งไปตามเกลียว ของตรัท แต่เมื่อสไลด์กระบอกลงจนเหลือประมาณ 5 เกลียวจะมีลิ่มเล็ก ๆ ไว้ ล็อคไม่ให้ลูกปืนวิ่งผ่านได้ ทำให้ไม่สามารถสไลด์กระบอกลงให้ต่ำกว่านี้ได้ครับ
ตามสเป็คของโรงงานแล้ว KYB ชุดนี้จะไม่มีชุด Ball Joint ที่หัวมาให้ แต่เพื่อการตอบสนองต่อการขับขี่ที่กระชับ ฉับไว ผมจึงใช้ร่วมกับหัว Joint ของ Cusco ก็โอเคครับ ใส่ได้วยกันได้เลย ไม่มีปัญหา ถามว่าหัว Joint กับหัวเดิมความรู้สึกต่างกันไหม ตามหลักการแล้วย่อมต่างกัน เพราะความสามารถในการถ่ายทอดแรงจากโช๊คมาสู่ตัวรถของ Ball Joint ย่อมดีกว่ายาง เหมือนหัวโช๊ค Type R จะเป็น Bush เหล็ก แต่ของตัวธรรมดา จะเป็ยยาง แต่ก็ไม่ใช่ว่าหัวแบบ Ball Joint จะดีกว่าเสมอไปนะครับ เพราะอายุการใช้งาน มันก็มี ถ้า Ball Joint มันเสื่อม หรือหลวม ก็จะทำให้เกิดเสียงดัง น่ารำคาญ ค่าซ่อมก็ค่อนข้างสูง ส่วนหัวยางก็ใช้กันยาว ๆ ไปเลยครับ พังยาก แต่หล่อน้อย กว่าหัว Ball Joint หน่อยนึง อ่ะ...เมื่อประกอบทุกอย่างเข้าด้วยกันแล้ว ก็จะออกมาเป็นแบบนี้ครับ
ตัวโช๊คปรับนืดได้ 4 ระดับครับ...อ่ะ นั้นนี้มีคนถามบ่อย ว่าปรับได้แค่ 4 ระดับ แล้วมันจะดีเหรอ ? อันนี้ต้องบอกตามความรู้สึกส่วนตัวของผมก็แล้วกัน ผมชอบโช๊คได้ที่ปรับได้ น้อย ๆ หมายถึงปรับได้ 4 ระดับ 5 ระดับ 8 ระดับ มากกว่าโช๊คที่ปรับได้ 30 กว่าระดับนะครับ เพราะความแตกต่างของแต่ละระดับที่เราปรับ เราสามารถเห็นถึงความแตกต่างได้ชัดเจน แล้วมันก็เซ็ทง่าย ไม่หลงด้วยครับ อย่างโช๊คที่ปรับได้ 30 กว่าระดับ อาจจะต้องปรับที่ละ 5 หรือ 6 คลิ๊ก ถึงจะเห็นถึงความแตกต่าง บางทีนับ ๆ ไปสิบ ยี่สิบระดับ ก็หลงว่าปรับไป ข้างละเท่าไหร่แล้ว ถ้านับผิดขึ้นมาก็ไม่เท่ากันอีก อันนี้ก็แล้วแต่ความชอบครับ
KYB ที่ผมได้มานี้ มาพร้อมสปริงยี่ห้อ Swift รุ่น 200 ก็มีค่า K เท่ากับ 20K วิธีดูว่าสปริงยี่ห้อ Swift มีค่า K เท่าไหร่ก็ดูที่ตัวเลขสามตัวหลังสุด แล้วหารด้วย 10 ก็จะได้ค่า K ของสปริงครับ เซ็ทมาแปลกมาก หน้า 20K หลัง 7K ดูท่าทางแล้ว ขับไม่ไหวแน่ ๆ เลยต้องโทรไปไหว้วานพี่โส เพราะจำได้ว่าแกมีสปริงของ D2 เก็บสะสม ไว้ที่บ้านนานแล้ว ก็ได้สปริง 11K มาใส่ในคู่หน้า ส่วนด้านหลังยังใช้ค่าเดิม จากญี่ปุ่นคือ 7K ครับ ดูทรงแล้ว น่าจะแม็ทกันดี(เดาเอาเองนะ) เมื่อประกอบสปริงเข้ากับตัวโช๊คแล้ว ดูจากช่วงยุบจะเห็นว่าโช๊คมีช่วงที่ สามารถให้ตัวได้ประมาณ 3 - 4 นิ้วเท่านั้นครับ โอ้ว....ดุจัง 555+
ประกอบจบ เสร็จสรรพ เอารถออกจากอู่ไปเทสกันหน่อยสิ ของมันดีจริงป่าว ตามนิสัยของผม ปรับไว้เบอร์ 1 ทั้ง 4 ต้นก่อนเลย ไล่จากอ่อนไปแข็ง แล้วค่อย มาไล่กันอีกที ความรู้สึกแรกที่ขับออกจากอู่ รู้สึกว่าแน่น และกระแทกพอสมควร Feeling คล้าย ๆ TEIN RA แต่แน่นกว่า แต่ไม่แน่นแบบจุก ๆ เหมือน JIC จะออกแนว แน่น ๆ แต่มีเด้งบ้าง ทำให้ไม่กระแทก ไม่จุก ก็.....ลองเซ็ทไปเซ็ทมาจบมาจบที่ ด้านหน้า 2/4 หลัง 2/4 รู้สึกว่าขับสบายขึ้นมาหน่อย ลองขับมาเกียร์ 2 แล้วกวาด ซ้ายที ขวาทีแบบเร็ว ๆ โช็คให้ความรู้สึกว่าคมมาก สั่งซ้ายเป็นซ้าย ขวาเป็นขวา ตอบสนองเร็วดีครับ เร็วกว่า OHLINS DFV เสียอีก ตรงนี้เป็นอะไรที่ผมให้ คะแนนเต็ม 10 สำหรับ KYB ชุดนี้ครับ
ความรู้สึกจากการใช้งานในสนามพีระ ให้ความรู้สึกที่มั่นใจ และคมในทุกโค้งครับ ความรู้สึกจากโช๊ค ถ่ายทอดมาที่พวงมาลัยได้มาก ทำให้จับอาการรถได้ดีทีเดียว แต่คงต้องแลกมาด้วยความกระด้างนิด ๆ แต่พอรับได้ ข้อเสียของ KYB ชุดนี้ก็มี นะครับ คือ KYB ชุดนี้เป็นโช๊คที่ Rebound ช้า ถึงช้ามาก สมมุติว่าเข้าโค้ง S ที่ ต้องปีนของ Apex เมื่อปีนขอบแรกแล้ว ถ้าปีนขอบที่สองต่อเนื่องเร็ว ๆ ล้อจะลอย และอาจจติดซุ่มนิด ๆ อาจจะเป็นเพราะช่วงยุบสั้น หรือสปริงนุ่มเกินไป ต้องเซ็ทกัน ใหม่อีกที น่าจะช่วยให้ดีขึ้นครับ Coment ส่วนตัวคิดว่า KYB รุ่นนี้น่าจะเหมาะกับคนที่ต้องการโช๊คที่ให้ความรู้สึก แน่น และไว ใช้งานได้ทั้งในสนามแข่ง และบนถนน ตัวโช๊ค Set ง่าย วัสดุ และหน้าตา ทำออกมาสวยงาม อะไหล่ซ่อมได้ มีศูนย์ และตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย คนที่อยาก ทดสอบรถในสนามทางเรียบ หาโช็คชุดนี้มาใช้งาน ไม่ผิดหวังครับ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านมาจนจบนะครับ และขอบคุณ EK Group และ RCW สำหรับ พื้นที่ดี ๆ แห่งนี้ด้วยครับ
ข้างหน้าใส่ Swift รุ่น 200 ละดีแล้ว เดียวเอา Swift รุ่น 190 กับ 160 ข้างหลังไป ให้ลอง รับ ลอง สุด ๆ หรือ จะเอา ข้างหน้า เบอร์ 220 ก็ มี น่ะ
ขอบคุณครับสำหรับบทความดีๆที่มาแบ่งปันกัน.... ไม่ทราบว่าซื้อมาเป็นมือ 1เลยหรือครับ...เอ่อแล้วก็ได้มาแต่โช็คหรือครับ:sad:
ขอบคุณครับ โชคดีจังครับได้มีโอกาศทดลองหลาย ๆ ยี่ห้อ บ่อย ๆ ตอนนี้ อยากทราบ ของยี่ห้อ CUSCOบ้าง อะครับ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง ถ้ามีโอกาสได้ลอง มาแบ่งปันความรุ้ ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
เริ่มชอบแล้วดิ่ ความรู้เรื่องโช๊คม่ายมีแต่ชอบวิธีการเขียนบทความ อ่านสนุกไม่น่าเบื่อ อนาคตน่าจะจับเป็นงานอดิเรกได้ ...แจ่มมากเต้