ตลกใต้สะดือ........... [1] มีผู้หญิงอยู่คนหนึ่ง มีสามีรวยมากๆเป็นมหาเศรษฐี สามีของผู้หญิงคนนี้ได้ป่วยตาย ทิ้งมรดกไว้ให้เป็น พันๆล้าน ผู้หญิงคนนี้ก็เลยเป็นม่ายมาหลายปี ยังไม่มีสามีใหม่เพราะกลัวว่าสามีใหม่นั้นจะมาหลอกเธอ แล้ววันหนึ่งเธอได้ตัดสินใจว่า เธอจะต้องหาสามีใหม่ เธอได้ประการไปทั่วว่า บุคคลที่มีคุณสมบัติดังนี้ จะสามารถมาเป็นสามีเธอได้ 1.จะต้องไม่ตบตีเธอ 2.เวลาเบื่อเธอจะไม่เดินหนีเธอไปไหน 3.ต้องเก่งเรื่องเซ็ก เช้าวันรุ่งขึ้น... มีคนมาเคาะประตูห้องดัง ปั้ง ๆ ๆ ๆ ๆ ~ ~ เธอได้เปิดประตูออกมา ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าบอกว่า ผมมีคุณสมบัติครบทั้ง 3 ข้อครับ 1.ผมจะไม่ตบตีคุณคับ เพราะผมแขนขาด 2.ผมจะไม่เดินหนีคุณไปเวลาผมเบื่อคุณ เพราะผมขาขาด 3.ผมเก่งเรื่องเซ็กเพราะว่า ผมไม่มีแขนไม่มีขา แล้วคุณคิดดูซิว่าผมเอาอะไรเคาะประตู [2] หลังจัดงานศพคุณปู่ เหลือเพียงเจนนี่ กับย่ายืนอยู่ เจนนี่ : คุณย่านี่มันเกิดอะไรขึ้นค่ะ หนูก็ยังเห็นคุณปู่แข็งแรงจะตายไป คุณย่า : จ๊ะ.........ความจริงแล้วยังมีเรื่องที่หนูยังไม่รู้.......... ปู่น่ะ แกเป็นโรคหัวใจอ่อนๆอยู่ เราตกลงจะมีเซ็กส์กันอาทิตย์ละครั้ง ทุกวันอาทิตย์ และเราจะใช้เสียงระฆังโบสถ์เป็นตัวให้จังหวะ "แก๊งหนึ่งเข้า......แก๊งหนึ่งออก" วันนั้นทุกอย่างดำเนินไปเป็นปกติ.....จนกระทั่ง........... ไอ้รถขายไอติมคันนั้นผ่านมาหน้าบ้าน.......... แล้วมันก็สั่นกระดิ่งรัวไม่ยั้ง เจนนี่ : ............................
[3] วันหนึ่ง ณ ร้านขายยา มีหนุ่มน้อยหน้าใสวัย ม.ปลาย มาซื้อถุงยางอนามัย อาม่า : "ลื้อจาอาว ซ้ายอารายอะ ?" หนุ่มน้อย : ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน อาม่า : "ม่ายหวาย ม่ายหวาน คงหลุ่มทุกวังนี้ มังแย่จิง ๆ อ่า..." ว่าพลางเดินออกจากเคาน์เตอร์ ......ว่าแล้วอาม่าก็ไม่พูดพล่ำทำเพลง เดินยืนตรงหน้าหนุ่มน้อย แล้วก็ล้วงมือเข้าไปจับน้องชายของหนุ่มคนนั้นแบบไม่ขออนุญาติ แล้วก็ลองจับๆ คลำๆดู พ่อหนุ่มก็ได้แต่ยืนแข็งทื่อเพราะตรงใจและทำอะไรไม่ถูก อาม่า : หันกลับไปตระโกนบอกคนหลังร้านว่า "เอาถุงยังช้าย เอียม มาอังนึงสิ อาหย้ง!!" ....แต่มือยังไม่เอาออกจาก.....จับ ๆ ไปก็บอกว่า อาม่า : "ม่ายอาวซ้าย เอียม เลี้ยว อาหย้ง เปี่ยงเป็ง เอ็กแอล เลย" ...มือก็ยังไม่ปล่อยอยู่ดี พอจับๆคลำๆ ซักพัก ก็บอกคนหลังร้านอีกว่า อาม่า : "ถุงยังไม่ต้องเลี้ยวอาหย้ง... เอาทิกซู้มาให้เอาหน่อย [4] สมัยอังกฤษโบราณ..บุคคลมิอาจร่วมประเวณีกันโดยปราศจากการยิมยอมของกษัตริย์ ดังนั้น เมื่อชายหญิง ต้องการจะมีบุตร จึงจะต้องได้รับพระราชานุญาตจากกษัตริย์ก่อน.... และกษัตริย์จะพระราชทานใบปิดซึ่งจะต้องนำไปปิดไว้ที่ประตูหน้าบ้าน ระหว่างที่มีการร่วมประเวณี ซึ่งจะมี ข้อความว่า " ให้ผิดประเวณีได้ภายใต้พระบรมราชานุญาตของษัตริย์" ......ซึ่งภาษา อังกฤษเค้าเขียนอย่างนี้ " Fornication Under Consent of the King " ซึ่งปัจจุบันคนทั่วโลกนิยมเรียกเป็นคำย่อครับ .....F.....U.....C.....K.....
[5] (อันนี้เก่าหน่อย) บิน ลาดิน มีเคราจริงไหม หลังจากการก่อวินาศกรรมที่ตึกเวิลด์เทรดเมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2544 ชื่อเสียงของนายบิน ลาเดน ก็โด่งดังไปทั่วโลก พ่อยอดชายนายบิน ได้กลายเป็นขวัญใจของผู้ที่เกลียดอเมริกัน จนทำให้มีพ่อค้าหัวใสนำรูปใบหน้าของหมอมาทำเป็นเสื้อโหลขาย น้องจิ๋มก็เป็นผู้หนึ่งที่หลงใหลในมาดดิบๆของพ่อยอดชายนายบิน เมื่อคลั่งไคล้หลงใหล น้องจิ๋มก็ไม่รีรอที่จะไปซื้อเสื้อใบหน้าของบิน ลาเดน มาใส่ด้วยความภูมิใจ ด้วยความที่น้องจิ๋มแกเป็นคนตัวเตี้ยและเป็นคนที่ชอบเอาเสื้อใส่ในกางเกง พอคุณน้องเธอใส่เสื้อบิน ลาเดน ก็เห็นเฉพาะใบหน้า แต่ส่วนที่เป็นเครานั้นหายเข้าไปในกางเกง กระทาชาย 2 นาย เมื่อเดินผ่านน้องจิ๋มเห็นแต่เสื้อที่โชว์ใบหน้าของบิน ลาเดน แต่ว่าไม่เห็นเคราของบิน ลาเดน ก็ให้สงสัยเป็นนักหนาว่าไอ้เจ้าบิน ลาเดนนี่มันมีเคราจริงหรือ เมื่ออดรนทนสงสัยไม่ได้เขาทั้ง 2 จึงตรงรี่เข้าไปถามน้องจิ๋มว่า กระทาชายทั้ง 2 : “นี่น้อง พวกพี่สงสัยจังเลยว่า ไอ้เจ้าบิน ลาเดนนี่มันมีเคราจริงหรือเปล่า” น้องจิ๋ม : “บิน ลาเดน มีเคราจริงๆ ไม่เชื่อพี่ทั้ง 2 ลองล้วงไปจับเคราบิน ลาเดนในกางเกงดูสิ” เมื่อกระทาชายทั้ง 2 ได้ฟังดังนั้นก็ไม่รีรอ ขอล้วงกางเกงน้องจิ๋มเข้าไปจับดูว่าบิน ลาเดนมีเคราจริงหรือเปล่า กระทาชายนายแรกล้วงเข้าไปจับได้สักพัก ก็หันหลังมาบอกเพื่อนว่า อืม... “บิน ลาเดน มีเคราจริงๆ ทั้งดก ทั้งหยิก” กระทาชายนายที่ 2 ไม่เชื่อ จึงขอน้องจิ๋มพิสูจน์บ้างว่าไอ้เจ้าบิน ลาเดน นี่มันมีเคราจริงหรือเปล่า หมอจึงล้วงมือเข้าไปในกางเกงน้องจิ๋มแบบเดียวกับกระทาชายนายแรก แต่พอกระทาชายนายที่ 2 เอามือล้วงไปได้แค่แป๊บเดียว ยังไม่ทันจะชักมือขึ้น น้องจิ๋มก็ตบหน้าเพี๊ยะ!!!เข้าให้พร้อมกับด่าว่า “นี่ ฉันให้มาจับเครา บิน ลาเดนนะ ไม่ใช่ให้มาอ้าปากบิน ลาเดน!!!” [6] ฮิปปี้นายหนึ่งขึ้นรถเมล์ พลันสายตาก็หันไปเจอแม่ชีสวยบาดใจจึงเดินเข้าไปหา ฮิปปี้: ผมอยากนอนกับแม่ชี แม่ชี: (ตกใจ ตบหน้าฮิปปี้ไปหนึ่งทีก่อนลงจากรถ) คนขับ บังเอิญเห็นเข้าจึงบอกกับฮิปปี้ว่า) ถ้านายอยากล่อแม่ชี ฉันมีวิธี...(ฮิปปี้นิ่งฟังด้วยความตั้งใจ) ทุกวันอังคารตอนห้าโมงเย็น แม่ชีจะไปสวดมนต์ที่ป่าช้าจนค่ำ นายเตรียมหน้ากากยาง เสื้อคลุมยาวกับสีเรืองแสงไปดักรอ พอได้จังหว่ะนายก็โผล่ออกมาแสดงตัว เป็นเทวดา ยิ่งผมยาว เครารุงรังแบบนี้ แม่ชีต้องเชื่อสนิท วันอังคารถัดมาฮิปปี้แต่งตัวไปดักรอแม่ชี และก็เป็นไปอย่างที่คนขับรถเมล์พูดไว้ แม่ชีลงจากรถเมล์เดินเข้าไปสวดมนต์ในป่าช้าจนใกล้ค่ำ ฮิปปี้ในร่างเทวดาก็แสดงตัวออกมา ฮิปปี้: ฉันได้ยินคำอธิษฐานทั้งหมดของแม่ชีแล้ว ถ้าอยากขึ้นสวรรค์จิงๆแม่ชีต้องมีเซ็กซ์กับฉันก่อน แม่ชี: ฉันอยากขึ้นสวรรค์โดยที่ยังเป็นสาวพรหมจารีย์ ถ้าจะต้องมีเซ็กซ์กัน ขอเปลี่ยนเป็นทางทวารหนักได้ไหม ฮิปปี้: ฮืม.......(คิดอยู่) ตกลง เมื่อเสร็จกิจทางเพศ ฮิปปี้ก็ดึงหน้ากากยางออกแล้วพูดว่า ฮิปปี้: ฮ่าๆๆๆ...ฉันไม่ใช่หรอกเทวดา ฉันเป็นฮิปปี้ต่างหาก แม่ชี: (ดึงหน้ากากออกเช่นกัน) ฮ่าๆๆๆๆๆๆ ฉันก็ไม่ใช่แม่ชี ฉันเป็นคนขับรถเมล์ ใครมีเรื่องพวกนี้ก็มาแบ่งกันอ่านนะครับ ถือว่าแก้เครียดยุคขาขึ้นของประเทศ (ขึ้นแม่มทุกอย่าง ยกเว้นเงินเดือน) "เฮงซวย ตอนน้ำมันดิบลง 10$ ลดค้าปลีก 0.40สต. พอน้ำมันดิบขึ้น 5 $ ขึ้น 0.80 สต." เอามาจาก พันทิป อ่านเล่น ๆ นะครับอย่าเครียด (ไม่ล่อเป้าเน้อ....)
[7] สาวน้อยดาว เพิ่งจะมีนัดกับชายหนุ่มเป็นครั้งแรก เธอวิตกจริตพอสมควร เธอขนเสื้อผ้าชุดเด็ดออกมาเป็นกองกะตั๊ก และเดือดร้อนต้องขอคำปรึกษาจากคุณแม่ "หนูจะทำยังไงดีค่ะคุณแม่" จำที่แม่จะสอนไว้สามข้อนะ .... "ข้อหนึ่ง" อย่าให้เค้าจูบลูก ริมฝีปากของลูกบอบบางเหมือนกลีบดอกไม้ที่จะชอกช้ำได้ง่าย "ข้อสอง" อย่าให้เค้าจับหน้าอกของลูก มันเปรียบเหมือนคริสตัลล้ำค่าราคาแพงที่เปราะบาง "ข้อสาม" อย่าให้อะไรล่วงล้ำเข้าไปใน'ส่วนตัว'ของลูก เพราะในนั้นเป็นเหมือนเตาอบที่จะแผดเผาทุกสิ่งที่ล่วงล้ำเข้าไป "ค่ะ...หนูจะทำตามต่ะคุณแม่" สาวน้อยรับคำแล้วก็ไปเดทกับเพื่อนชาย ปล่อยให้คุณแม่นั่งใจจดใจจ่อรอคอย กระที่งตีสาม...สาวน้อยโผเผกลับมาบ้าน หน้าตาอิดโรย แต่แววตานั้นแช่มชื่นเหมือนกับคนเพิ่งผ่านอะไรดีๆ มา "คุณแม่ค่ะ หนูคิดว่าหนูกำลังตกอยู่ในความรักค่ะ...มันช่างยอดเยี่ยมเหลือเกิน" "ดาว...ลูกทำทุกอย่างที่แม่สั่งใช่มั้ย" คุณแม่ชักหนาวๆในใจ "ค่ะ ทีแรกเค้าจะมาจูบหนู หนูก็บอกเค้าว่าริมฝีปากหนูบอบบางเหมือนดอกไม้ เค้าก็หยุดไป... ต่อมาเค้าจะจับหน้าอก หนูก็บอกว่าอกหนูเหมือนคริสตัลที่เปราะแตกง่าย เค้าก็หยุดไป..." ถึงตอนนี้หนูดาวหัวเราะด้วยแววตาเยิ้มฉ่ำ "แล้วยังไงต่อล่ะ" คุณแม่อดรนทนไม่ไหว "เค้าพยายามจะเอามือเข้าไปในส่วนตัวของหนูค่ะ แต่หนูบอกว่าในนั้นเป็นเหมือนเตาอบที่จะเผาทุกอย่างที่ล่วงล้ำเข้าไป เค้าก็เลยหยุด.." เฮ้อ....คุณแม่ถอนหายใจอย่างโล่งอก "แล้วไงต่อล่ะลูก" "แล้วเค้าก็บอกว่า คุณมีเตาอบใช่มั้ย ผมมีขนมปังฝรั่งเศสอยู่ชิ้นนึง แล้วเค้าก็ลองเอาเข้าเตาอบของหนู... หลังจากนั้น เค้าก็เร่งไฟ พอมันร้อนได้ที่เค้าก็เอาออกมาให้หนูชิม แล้วถามว่าอบได้ที่หรือยัง..." [8] ลูกสาวสามใบเถาของคุณแม่คนหนึ่ง ให้สัญญากันไว้ว่าเมื่อใดที่แต่งงานไปแล้วจะส่งข่าว ชีวิตคู่มาให้คุณแม่ทราบ จนกระทั่ง.... ลูกสาวคนโตแต่งงาน คุณแม่ก็ได้ข่าวจากลูกสาวภายในวันที่สองสั้นๆ ว่า "Maxwell House Coffee" คุณแม่ก็สงสัยว่าหมายความว่าอะไร จนกระทั่งไปค้นพบโฆษณาว่า Maxwell House Coffee เยี่ยมจนหยดสุดท้าย คุณแม่ยิ้มด้วยความสุข พอลูกสาวคนที่สองแต่งงานได้ 7 วัน ก็ส่งข่าวมาให้คุณแม่ว่า "Rothmans" คุณแม่จึงค้นหาข้อความโฆษณา จนพบว่า Rothmans ทนยาวนาน ใหญ่ยาวเหยียด คุณแม่ภาคภูมิใจกับลูกสาว. จวบจนกระทั่งลูกสาวคนสุดท้องแต่งงาน คุณแม่เฝ้ารอข่าว ผ่านไป 1 เดือน ลูกสาวคนสุดท้องก็ส่งข้อความง่ายๆ ว่า "British Airways" คุณแม่ให้อยากรู้ว่ามันคืออะไร จนกระทั่งค้นพบข้อความที่หน้าสนามบินว่า British Airways บริการ 4 เที่ยวต่อวัน 7 วันต่อสัปดาห์ ทั้งสองทาง