ฝาบนแตกอีกแล้ว...2ใบใน4เดือนครับ.....ใช้หม้อเปลืองชิบ...เลยผม.....ใครมีในสต๊อกมั่งง่ะ.....เออ...และมีสมาชิกท่านนึงโทรคุยกันเขาบอกว่าP11ใช้กับเซฟิโร่A32ตัวเครื่อง3000ได้ด้วย......ว่าแล้วก้อเลยเอาเกร็ดหม้อน้ำมาฝากท่านอื่นด้วยครับ หม้อน้ำ (Radiator) หม้อน้ำ คืออุปกรณ์แลกเปลี่ยนความร้อน จากน้ำที่ไหลมาจากโพรงผนังเสื้อสูบ ก็จะเข้ามาสู่หม้อน้ำทางด้านบน จากนั้น ก็ไหลลงมาตามท่อน้ำในหม้อน้ำ ท่อน้ำเหล่านี้ จะเชื่อมติดกับครีบระบายความร้อน (รังผึ้ง) ซึ่งทำจากโลหะที่ถ่ายเท ความร้อนได้รวดเร็ว เมื่อน้ำที่มีอุณหภูมิสูงเหล่านี้ เคลื่อนตัวจากด้านบน ลงสู่ด้านล่าง ก็จะถ่ายเทความร้อนออกไป ให้ครีบระบายความร้อน ขณะเดียวกัน พัดลมหม้อน้ำ (Fan) ก็จะทำการหมุน เพื่อดูดอากาศที่อยู่ด้านหน้าหม้อน้ำ ผ่านครีบระบายความร้อนหม้อน้ำ ออกมาทางด้านหลัง เป็นการแลกเปลี่ยนความร้อน ไปเป็นอากาศ เมื่อน้ำที่มีอุณหภูมิสูง ไหลลงสู่ด้านล่าง อุณหภูมิ ก็จะลดลงมาตามลำดับ บริเวณด้านล่างหม้อน้ำ จะมีท่อยางหม้อน้ำ ต่อไปสู่ทางเข้าผนังเสื้อสูบอีกที ทำให้น้ำที่มีอยู่ในระบบ ไหลเวียนไปมา ระหว่างโพรงผนังห้องเครื่อง กับหม้อน้ำได้อย่างต่อเนื่อง ตราบใดที่วาล์วนี้ ยังคงเปิดอยู่ พัดลมหม้อน้ำ (Fan) พัดลมหม้อน้ำ ทำหน้าที่ระบายความร้อน โดยจะพัดพอเอาความร้อนด้านหน้า หม้อน้ำ (Radiator) ผ่านครีบระบายความร้อน ออกมาทางด้านหลังหม้อน้ำ พัดลมหม้อน้ำขับเคลื่อนด้วยแรงฉุดหมุน สำหรับเครื่องยนต์ที่วางเครื่องตามแนวยาวของตัวรถ จะติดตั้งพัดลมหม้อน้ำ บนแกนเพลาเดียวกับเพลา ปั๊มพ์น้ำ (Water pump) และจะมีสายพาน คล้องยึดไว้ เพื่อรับแรงฉุดหมุนมาจาก พูลเล่ย์เพลาข้อเหวี่ยง (Crankshaft pulley) พัดลมหม้อน้ำทำงานด้วยไฟฟ้า เรียกสั้นๆ ว่าพัดลมไฟฟ้า โดยจะใช้มอเตอร์ในการหมุนใบพัด และต่อสวิตช์ร่วมกับสายไฟ ที่มาจากแบตเตอรี่ ในเครื่องยนต์รุ่นใหม่ๆ การหมุนของมอเตอร์พัดลมไฟฟ้า จะถูกควบคุมโดยสวิตช์ความร้อน เช่น ในขณะที่สตาร์ท และอุ่นเครื่องอยู่ ความร้อนจากภายในโพรงน้ำ ยังไม่สามารถทำให้วาล์วน้ำเปิดออกได้ ซึ่งเป็นผลทำให้ เครื่องยนต์อุ่นตัวเร็วขึ้น เมื่อถึงจุดความร้อนประมาณ 89 ถึง 97 ?C พัดลมไฟฟ้า จะเริ่มทำงาน และจะหยุดทำงาน เมื่ออุณหภูมิของน้ำหล่อเย็น ต่ำกว่านี้ ในเครื่องยนต์บางรุ่น ถูกออกแบบมา ให้พัดลมไฟฟ้า สามารถทำงานในระดับความเร็วที่แตกต่างกัน กล่าวคือ พัดลมไฟฟ้า จะมีระดับความเร็วมากกว่า 1 ระดับ เพื่อรองรับ กับระดับความร้อนที่แตกต่างกันอีกด้วย ปั๊มน้ำ (Water pump) ปั๊มพ์น้ำ ทำหน้าที่ให้น้ำหล่อเย็นในระบบ เกิดการหมุนเวียนอยู่ตลอดเวลา ตราบที่เครื่องยนต์ยังคงทำงานอยู่ โดยปกติ ปั๊มพ์น้ำ จะติดตั้งอยู่ที่ปลายด้านหน้าของเสื้อสูบ การทำงานของปัมพ์น้ำ จะได้รับแรงฉุดให้หมุน มาจากสายพานซึ่งคล้องไปกับ พูลเล่ย์เพลาข้อเหวี่ยง (Crankshaft pulley) พลูเล่ย์เพลาข้อเหวี่ยง ( Crankshaft Pulley) พลูเล่ย์เพลาข้อเหวี่ยง จะติดตั้ง เกาะติดกับแกน เพลาข้อเหวี่ยง (Crank shaft) ซึ่งอยู่ด้านนอกของห้องเครื่อง และอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับ ล้อช่วยแรง (Fly wheel) เมื่อเพลาข้อเหวี่ยงหมุน ตัวพลูเล่ย์ก็จะหมุนไปด้วย ที่ร่องของพูลเล่ย์ จะคล้องกับสายพาน เพื่อส่งแรงหมุนนี้ ไปให้กับอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ปั้มพ์น้ำ (Water pump) เครื่องกำเนิดไฟฟ้า (Alternator) พัดลมหม้อน้ำ (Fan) คอมเพรสเซอร์ (Compressor) ปัมพ์พวงมาลัยเพาเวอร์ (Power steering pump) เป็นต้น
เห็นด้วยครับ ของผมทำแล้วเหมือนกันแต่จำไม่ได้ว่าอลูมิเนียมหรือสแตนเลสนะครับ แต่ทำแล้วจบครับ ตอนนี้ก็ไม่มีปัญหาตรงนี้ แต่ตรงอื่นมีอีกเยอะครับ
เปิดดูในเว็บ....มีของใหม่ฝาบนล่างทองเหลืองรังผึ้งทองแดง..ตรงรุ่นเกียร์ธรรมดา4500.-ออโต้5000.-อยู่ลาซาล,...กับอลูมีเนียมทั้งหมด5500.-อยู่หลักสี่แต่ต้องเอาอันเก่าไปวัดแบบ.......อยู่ต่างจังหวัด6000.-แทบทุกร้านเลยครับเป็นทองเหลืองอีกต่างหาก.....บางคนก้อว่าทองเหลืองดีบางคนก็ว่าอลูมีเนียมดี.....สรุปสงกาสัยเชียงกงจาดีที่สุด...อิอิอิอิ.....
ใช้หม้อนึ่ง...แทนได้มะ...ไอ้แบบที่มันอ้วน ๆ ไว้นึ่งข้าวเหนียวอ่ะ... เป็นอลูมิเนียมเหมือนกันนะ...อิอิอิ...สองร้อยกว่าบาท...ฮิ้วววววว... ล้อเล่งนะท่านโจ....ขอให้หายไว ๆ นะค๊าบ... (นับถือจริง ๆ เกียร์ยังซ่อมไม่หาย...หม้อน้ำพัง...ยังเอารถไว้อีก...คาราวะ 1 จอก)
ผมไม่ค่อยชอบหม้อทองเหลืองน่ะครับ..มันเหลืองๆช้ำๆงัยไม่รู้...ถ้าหม้อเนียม...มันขาวโบ๊ะขาวโบ๊ะ...น่าใส่เป็นอย่างยิ่ง.......อิอิอิอิ...... ไปได้ที่บางนามาแล้วครับ.....และก้อขอแก้เรื่องหม้อน้ำของA32หน่อยนะครับ..ตกลงใช้กันไม่ได้นะครับ......ขอบคุณข้อมูลของคุณนิทิศครับ(ขออภัยหากชื่อไม่ถูกต้อง)....และก้อไปได้เกียร์ครบชุดจากคุณกอล์ฟมาแล้วครับ.....ขอบคุณมากๆครับ(ต่อไปหวังว่ารถพี่จาวิ่งได้เกิน100กม/ชม..แล้วนะครับกอล์ฟ..55555)