ก้อจบกันไปแล้วนะครับสำหรับบอลคืนวันเสาร์ที่29สิงหาคม2552นะคับ เลยเอาผมบอลมาฝากกัน FT Chelsea 3 - 0 Burnley FT Blackburn R. 0 - 0 West Ham U. FT Bolton W. 2 - 3 Liverpool FT Stoke C. 1 - 0 Sunderland FT Tottenham H. 2 - 1 Birmingham C. FT Wolverhampton W. 1 - 1 Hull C. FT Manchester U. 2 - 1 Arsenal ปล และแล้วปืนก้อแตก ฌ โอลแทรฟฟอร์ดนะจ๊ะ (น้องทัดโดนนนนน เอิ๊กๆๆ)
แฟนผีรายงานตัวครับทำไมพอโด้ไปแล้วนานี่มันดีขึ้นผิดหูผิดตาหว่า งงมาก วาเลนเซียก็ใช้ได้ ว่าแต่ยังไม่ได้ขอบคุณคุณอาร์มเลยเรื่องเสื้อ ที่ผมให้แฟนไปเอาอะ สวยดีครับ
พูดถึงความนิ่งคงเส้นคงวา ตอนนี้ก้อต้องยกให้เชลซีนะครับ ชาวหงษ์ลุ้นขี้ขึ้นหัว ดูพี่เดะชิ้ว ชาวผีแดงก้อเยี่ยวเหนี่ยวเลยอะคับมะคืน ปีนี้ต้องยอมรับคับว่าเชลซีน่ากลัวมากๆๆๆๆๆๆ
ผลบอลวันอาทิตย์ที่30สิงหาคม2552 FT Portsmouth 0 - 1 Manchester C. FT Everton 2 - 1 Wigan Athletic FT Aston Villa 2 - 0 Fulham ปล สรุปอาทิตย์นี้เป็นยังไงกันบ้างครับ สุขสมหวังกันถ้วนหน้ารึป่าวคับทุกท่าน เอาหละคับชาวคลับทุกท่าน พี่หนุ่มเราออกตัวมาแล้วคับว่าเป็นแฟนเชลซี อย่าพลาดละกันนะพี่มีโดนแน่ เอิ๊กๆๆ
ข่าวอัพเดทหลังเกมส์คับเอามาฝากกัน อา ร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ อาร์เซน่อล เตรียมรับคำขอโทษจาก คีธ แฮ็กเก็ตต์ หัวหน้าผู้ตัดสิน พรีเมียร์ลีก จากเหตุการณ์ที่เจ้าตัวถูกเชิ้ตดำตะเพิดขึ้นไปนั่งบนอัฒจันทร์ ในช่วงท้ายเกมที่ "ไอ้ปืนใหญ่" บุกพ่าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา หลังหัวหน้าเปาแดนผู้ดียอมรับ เป็นความผิดพลาดของผู้ตัดสินที่ 4 ในเกมดังกล่าว อา ร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล ยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เตรียมที่จะได้รับคำขอโทษจาก คีธ แฮ็กเก็ตต์ หัวหน้าผู้ตัดสินประจำลีกสูงสุดแดนผู้ดี หลังกุนซือ "เดอะ กันเนอร์ส" ถูกผู้ตัดสิน ไมค์ ดีน ไล่ขึ้นไปอยู่บนอัฒจันทร์ในช่วงท้ายของเกมที่ทีมบุกไปพ่าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-2 เมื่อวันเสาร์ที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา หลังจากได้รับคำแนะนำจาก ลี โพรเบิร์ต ผู้ตัดสินที่ 4 ในเกมดังกล่าว ทั้งนี้ โพรเบิร์ต ตัดสินใจแจ้งให้ ดีน ไล่ เวนเกอร์ ขึ้นไปนั่งบนอัฒจันทร์ หลังเจ้าตัวเห็นกุนซือ "ไอ้ปืนใหญ่" เตะขวดน้ำที่เส้นข้างสนาม หลังทีมถูกปฏิเสธประตูตีเสมอ 2-2 ในช่วงนาทีสุดท้ายของเกมการแข่งขัน ขณะ ที่ ริชาร์ด เบแวน ประธานบริหารของสมาคมผู้จัดการทีมในลีกแดนผู้ดี ได้พูดคุยกับหัวหน้าเปาแดนผู้ดี เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่สนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้รับแจ้งว่า บอร์ดบริหารของคณะผู้ตัดสินในเกมระดับสูง ซึ่งเป็นผู้คัดเลือกสิงห์เชิ้ตดำลงทำหน้าที่ในเกมระดับสูงของแดนผู้ดีนั้น จะทำการขอโทษกุนซือ "ไอ้ปืนใหญ่" ต่อไป เบแวน กล่าวถึงการตัดสินใจทำโทษ เวนเกอร์ ในเกมดังกล่าวว่า "แม้ว่ามันจะเป็นการทำตามกฏ แต่มันก็ไม่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของเกมที่เกิดขึ้น แถมต่อจากนั้นยังมีเรื่องงี่เง่าเมื่อพวกเขาไม่รู้ว่าจะให้ เวนเกอร์ นั่งตรงไหนอีกด้วย" "ผมได้คุยกับ คีธ แฮ็กเก็ตต์ และเขาก็รู้เต็มอกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นความผิดพลาด และเตรียมส่งคำขอโทษไปยัง อาร์แซน เวนเกอร์ แล้ว ลี โพรเบิร์ต ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ดังกล่าวได้ และสร้างแรงกดดันให้เกิดขึ้นโดยไม่จำเป็น ซึ่งเป็นการหันเหความสนใจจากเกมในสนาม ในเกมนัดสำคัญในขณะที่เหลือเวลาการแข่งขันอีกแค่นาทีเดียวเท่านั้น" เบแวน กล่าวในที่สุด รา ฟาเอล เบนิเตซ กุนซือจอมแท็กติก "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล พอใจอย่างยิ่งยวด กับชัยชนะสุดสำคัญเหนือ โบลตัน วันเดอเรอร์ส คุยขรมรู้อยู่แล้ว ลูกทีมจะกลับมาผงาดได้ แม้โดนนำถึง 2 ครั้ง 2 ครา ชมบรรดานักเตะหัวใจสำคัญ พร้อมใจคืนฟอร์มเก่ง หลังโดนเฉ่งอย่างหนักเมื่อกลางสัปดาห์ รา ฟาเอล เบนิเตซ ผู้จัดการทีมชาวสเปนของ ลิเวอร์พูล ทีมดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แสดงความพอใจเป็นอย่างยิ่ง ที่เห็นลูกทีมลืมความพ่ายแพ้ในเกมกับ แอสตัน วิลล่า เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ด้วยการงัดฟอร์มเก่ง ยิงแซง โบลตัน วันเดอเรอร์ส 3-2 เก็บ 3 คะแนนสำคัญเอาไว้ได้ "หงส์แดง" ต้องเป็นฝ่ายตามตีเสมอตลอด 2 ครั้ง ก่อนเฉือนชนะอย่างหวุดหวิด จากประตูชัยของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีมคนเก่ง ซึ่ง เบนิเตซ กล่าวผ่าน "บีบีซี สปอร์ต" หลังจบแมตช์สุดตื่นเต้นว่า "พวกนักเตะทำงานหนักสุดๆ ตั้งแต่เริ่มต้นเกม พวกเราพยายามเล่นฟุตบอล และครอบครองเกมเอาไว้ได้ตลอด เราเสียประตู 2 ครั้ง และการกลับมาเอาชนะได้ มันเป็นเรื่องที่ดีจริงๆ" กุนซือจอมวางแผน เชื่อมั่นว่า พลพรรค "เร้ด แมชีน" จะกลับมาได้เสมอ แม้จุดเปลี่ยนสำคัญอาจเป็นเพราะ โบลตัน ต้องเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน ตอนที่นำอยู่ 2-1 "ผมมีความมั่นใจ เพราะพวกเราครองเกมได้ตลอด และเราสร้างโอกาสได้เยอะ แน่นอนว่า ทีมเดินหน้าบุกแหลก และพวกเราแสดงให้เห็นถึงบุคลิก ผมคิดว่า แฟนๆ น่าจะพอใจ" นอกจากนั้น เบนิเตซ ที่เพิ่งกระตุ้นให้บรรดานักเตะรุ่นใหญ่ของทีมปรับปรุงฟอร์มการเล่นของตัวเอง ให้ดียิ่งขึ้น หลังเกมพ่าย "สิงห์ผงาด" ยืนยันว่า เหล่าลูกทีมได้ตอบสนองต่อความต้องการของเขาแล้ว "วันนี้พวกนักเตะรุ่นใหญ่ แสดงให้เห็นว่า พวกเขาทำได้ดีมากๆ และแสดงให้เห็นว่า ทำไมพวกเราถึงได้ 86 คะแนนเมื่อปีก่อนอีกครั้งหนึ่ง ทีมของพวกเรามีคุณภาพ" เครดิตจากสยามสปอร์ตครับ
อัพเดทการย้ายนักเตะคืนก่อนปิดตลาดการซื้อขายครับ ช่วง วันสุดท้ายก่อนปิดตลาดซื้อขายนักเตะรอบแรกจะปิดตัวลง บรรดาทีมในลีกผู้ดีต่างเร่งเครื่องเสริมแกร่งกันอย่างเมามัน โดยมีการโยกย้ายทีมหลายรายแม้ว่าจะไม่มีทีมใหญ่ทุ่มซื้อนักเตะแบบฮือฮา แต่จัดได้ว่าเรียกความสนใจได้ไม่น้อยทีเดียว เริ่ม ที่ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน ชอปส่งท้ายตลาดนักเตะ ด้วยการกระชากตัว จอห์นนี่ ไฮติงก้า ปราการหลังฝีเท้าดีชาวดัตช์ มาจาก แอตฯ มาดริด ในราคาราว 336 ล้านบาท ภายใต้สัญญายาว 5 ปี http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/090902_005.html ขณะ ที่ เจมส์ คอลลินส์ ปราการหลัง "ขุนค้อน" เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ตกลงจรดปากกาในสัญญา 4 ปี ย้ายมาร่วมทัพ "สิงห์ผยอง" แอสตัน วิลล่า ด้วยค่าตัวราว 280 ล้านบาท เรียบร้อย http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/090902_006.html เช่น เดียวกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ทีมดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยืนยัน จัดการคว้าตัว นิโก้ ครานชาร์ จอมทัพเลือดโครแอตของ พอร์ทสมัธ มาเสริมแกร่งเรียบร้อย ด้วยค่าตัวหยุมหยิมราว 2.5 ล้านปอนด์เท่านั้น http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/090902_014.html ส่วน โบลตัน วันเดอเรอร์ส เพิ่มความเฉียบขาดให้กับแนวรุก ด้วยการยืมตัว อีวาน คลาสนิช หัวหอกชาวโครแอตของ น็องต์ มาล่าตาข่ายในถิ่น รีบอค สเตเดี้ยม เป็นเวลา 1 ซีซั่น พร้อมออปชั่นซื้อขาดในภายหลัง http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/090902_016.html แม้ แต่น้องใหม่ เบิร์นลี่ย์ ประสบชัยชนะเหนือ ฮัลล์ ซิตี้ ในศึกชิงบริการฝีเท้า เดวิด นิวเจนท์ กองหน้า พอร์ทสมัธ หลังสามารถคว้าหัวหอกดีกรีทีมชาติอังกฤษ มาร่วมทีมด้วยสัญญายืมตัว 6 เดือน พร้อมเงื่อนไขซื้อขาด http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/090902_026.html ส่วน พอร์ทสมัธ สโมสรฟอร์มแย่ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ทำการคว้าตัว ไมค์ วิลเลียมสัน เซนเตอร์แบ็กร่างยักษ์ มาจาก วัตฟอร์ด สโมสรลูกหนังในระดับ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ด้วยค่าตัว 3 ล้านปอนด์ (ประมาณ 168 ล้านบาท) โดยตอนนี้เหลือเพียงแค่รอให้ตัวนักเตะจรดปากกาเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการเท่า นั้น เปงไงมั่งคับ เดะถ้ามีไรอัพเดทจะเอามาฝากกันใหม่คับ
สรุปตลาดแข้งผู้ดียอดเงินลดฮวบจากเมื่อปีก่อน รายงาน สรุปผลยอดรวมเม็ดเงินที่ทีมใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ถลุงในตลาดนักเตะประจำปีนี้ ลดลงจากเดิมมาก เหตุทุกทีมต่างก็รัดเข็มขัดระวังเรื่องการใช้จ่ายอย่างดี ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก สโมสรใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ใช้จ่ายเงินไปทิ้งสิ้น 119 ล้านปอนด์ (6,664 ล้านบาท) น้อยลงกว่าเม็ดเงินที่ทุกทีมใช้จ่ายรวมกันในช่วงตลาดซื้อ-ขายนักเตะเปิดทำ การในช่วงซัมเมอร์ปีก่อน ตามข่าวจากรายงานเกี่ยวกับการทำสัญญาซื้อ-ขายนักเตะ เมื่อวันอังคารที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา เจฟฟ์ เมเชอร์ หัวหน้าฝ่ายตรวจสอบทุจริตในวงการกีฬาของบริษัท เคพีเอ็มจี ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์สำนักข่าว "รอยเตอร์ส" ว่าสโมสรมียอดรวมการใช้จ่ายเงินลดลงจาก 210 ล้านปอนด์ (11,760 ล้านบาท) ในปี 2008 ถึง 81 ล้านปอนด์ (4,536 ล้านบาท) ในปีนี้ ก่อนเส้นตายปิดตลาดนักเตะ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เมเชอร์ กล่าวว่า "มีหลายเหตุผลด้วยกัน แต่มันไม่ใช่แค่สถานการณ์ด้านการเงินโลกเพียงอย่างเดียว สโมสรฟุตบอลมีอำนาจมาก เป็นธุรกิจอิสระ แต่นอกเหนือจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในอังกฤษ และ เรอัล มาดริด ในทวีปยุโรปแล้ว สโมสรส่วนใหญ่ใช้จ่ายเงินกันน้อยมากเท่าที่ทีมอังกฤษเป็นกังวล มันมีหลายเหตุผลด้วยกัน" "รวมทั้งอัตราแลกเปลี่ยนเงินระหว่างเงินปอนด์กับเงิน สกุลยูโร และมาตรการภาษีในอังกฤษ แม้คุณจะเป็นนักเตะได้รับค่าเหนื่อย 100,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ประเด็นเหล่านั้นมันก็กระทบได้ทั้งนั้นว่าคุณจะมาเล่นที่อังกฤษหรือในยุโรป ดี ดาวดังบางคนจึงตัดสินใจเล่นในยุโรปดีกว่า โดยรวมสโมสรต่างๆ ระมัดระวังด้านการเงินอย่างยิ่ง ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจในเวลานี้" "การที่ไม่ค่อยมีนักเตะดาวดังย้ายมาเล่นในอังกฤษอาจดู แปลกๆ ไป เมื่อดูจากความสำเร็จของทีมจากอังกฤษในเวทียุโรปช่วงที่ผ่านมา เมื่อ 3 จาก 4 ทีมในรอบรองชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก ช่วง 3 ปีหลังสุด คือทีมจากอังกฤษทั้งหมด แต่เหตุผลคือเรื่องเงินตัวเดียวเท่านั้น" พร้อมกันนี้ เมเชอร์ ชี้ว่า การที่หลายๆ สโมสรใน พรีเมียร์ลีก ประสบปัญหาอย่างหนักในการดึงดูดใจหรือรั้งตัวผู้เล่นดาวดังไว้กับทีมต่อไป นั้น สะท้อนถึงแรงดึงดูดของ ลา ลีกา สเปน ที่มีต่อตัวนักเตะได้เป็นอย่างดี
คิคิ แค่ติดตามข่าวอะค้าบมีไรอัพเดทเจ๋งๆๆเลยเอามาฝาก ชาวพรีเมีย์ชิฟกัน(บอร์ดจะได้ไม่เงียบด้วย) ขอเสนอความคิดหน่อยคับ ก้อแค่ลองออกไอเดียดูนะคับ วันไหนเรามานอกรอบเชียบอลกันมั่งมั้ยครับทุกท่าน นัดกันร้านที่มีจอใหญ่ๆๆ แล้วเราก้อใส่เสื้อประจำทีมเชียร์มา ก้อน่าจะสนุกดีนะคับ ผีแดงพร้อมชนทุกทีม เอิ๊กๆๆๆๆๆ
แฟนเชลซีรู้สึกไงบ้างครับกับบทลงโทษที่ห้ามซื้อนักเตะเป็นเวลา 1 ปี แฟนแมนยูรู้สึกเป็นไงบ้างครับที่จะโดนบทลงโทษเดียวกับเชลซี ^ ^ แฟนหงส์รู้สึกสะใจเล็กมั๊ยครับ ^ ^ ผมรู้สึกโครตๆอ่ะ 55555
และแล้วก้อจบไปแล้วนะคับสำหรับคืนวันเสาร์ เรือใบก้อพิสุจน์แล้วนะคับว่าของจริง ปืนแตกอีกแล้วครับทั่น ผีและหงก้อโชว์ฟอร์มเทพกันไปตามๆๆกัน ผลบอลคืนวันเสาร์ที่12 กย 52 FT Blackburn R. 3 - 1 Wolverhampton W. FT Liverpool 4 - 0 Burnley FT Manchester C. 4 - 2 Arsenal FT Portsmouth 2 - 3 Bolton W. FT Stoke C. 1 - 2 Chelsea FT Sunderland 4 - 1 Hull C. FT Wigan Athletic 1 - 0 West Ham U. FT Tottenham H. 1 - 3 Manchester U.
. " ผีแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด พลิกสถานการณ์จากโดนนำก่อน กลับมาแซงชนะ "ไก่เดือยทอง" สเปอร์ส ไปแบบนิ่มๆ 3-1 ในเกมเมื่อวันเสาร์ที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ สเปอร์ส 1 - แมนฯ ยูไนเต็ด 3 เกมคู่เอกประจำสัปดาห์ที่ไวท์ ฮาร์ทเลน สเปอร์สไม่อาจใช้งานลูก้า โมดริชที่เดี้ยงได้ แต่วางหมากส่งปีเตอร์ เคราช์ลงไปป่วนแนวรับแมนฯ ยูไนเต็ดเพิ่มอีกราย ขณะที่ผีแดงได้ริโอ เฟอร์ดินานด์ฟิตกลับมา และปล่อยดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟลงเจอกับทีมเก่า เริ่มเขี่ยบอลกันแค่ 48 วินาที แฟนไก่ก็ได้เฮลั่นเมื่อพอล สโคลส์ทำเสียบอลในแดนกลางเลยโดนเจ้าบ้านฉวยโอกาสรุกใส่โดยเบอนัวร์ อัสซู เอก็อตโต้จัดแจงโยนบอลเข้าเขตโทษแล้วเนมานย่า วิดิชที่ต้องตามประกบเคราช์โขกสกัดแย่มาเข้าทางให้เจอร์เมน เดโฟตีลังกายิงจากหกหลาตุงตาข่ายง่ายดายเป็นสกอร์นำ 1-0 ของสเปอร์ส แมนฯ ยูไนเต็ดออกอาการเลือดขึ้นหน้า และเปิดฉากลุยแหลกทันที แถมน่าจะได้ประตูคืนในนาทีที่ 4 ด้วยเมื่อไรอัน กิ๊กส์สาดบอลจากกราบซ้ายเข้าเสาสองให้ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์วอลเลย์ แต่ถูกคาร์โล คูดิชินี่เซฟได้ ผ่านมาถึงนาทีที่ 14 ทีมตราไก่ก็เกือบทำแสบได้อีกจากการเปิดบอลยาวขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษแล้วเคราช์ อาศัยความโย่งกระโดดพักอกพร้อมทั้งตะบันทันที แต่เบน ฟอสเตอร์ไม่เผลอรับติดมือได้สำเร็จ ถัดจากนั้น เกมก็ตกอยู่กับทีมเยือนอย่างชัดเจน และในนาทีที่ 23 วิลสัน ปาลาซิออสก็โดนจดชื่อข้อหาเข้าเสียบเบอร์บาตอฟพร้อมทั้งเสียลูกฟรีคิกระยะ 25 หลา เวย์น รูนีย์จึงวิ่งข้ามบอลปล่อยให้กิ๊กส์ปั่นเสียบเสาไกลสุดสวยเป็นประตูตีเสมอ 1-1 ของแชมป์เก่า สถานการณ์ของทีมเยือนดีขึ้นเป็นกอง และในนาทีที่ 28 เบอร์บาตอฟก็โชว์เบสิคดึงบอลโยนโด่งลงพื้นได้อย่างนิ่มเท้าก่อนจะสับไกเต็ม ข้อแถวริมเขตโทษด้านขวา ทว่าคูดิชินี่ปัดพ้นคานได้ บู๊กันมาครบครึ่งชั่วโมง แมนฯ ยูไนเต็ดก็ชวดได้ประตูเพิ่มอย่างไม่น่าเชื่อจากการเติมเกมรุกขึ้นทางซ้ายของ ปาทริซ เอวร่าที่ไหลบอลเข้าเขตโทษให้รูนีย์ แต่กองหน้าร่างตันเงื้อง่าราคาแพงจึงถูกคูดิชินี่ปรี่ออกมาปัดบอลได้แทบเท้า ทำให้เบอร์บาตอฟเข้าเก็บตกที่จุดโทษแต่มีเซบาสเตียน บาสซงสกัดได้บนเส้นประตู สโคลส์จึงตามไปเก็บบอลมาจ่ายให้หัวหอกบัลแกเรียเผด็จศึกอีกครั้ง แต่คราวนี้อดีตสตาร์สเปอร์สส่งบอลโด่งข้ามคานไป อย่างไรก็ดี เจ้าบ้านยังมีพิษสงในจังหวะได้บุก และนาทีที่ 33 จากลูกเตะมุมด้านขวา เคราช์ก็ได้โหม่งที่เสาแรกแต่ส่งบอลหลุดกรอบไปแบบน่าเสียวไส้ กระนั้น ในนาทีที่ 41 ผีร้ายก็คลำเป้าเพิ่มจนได้จากลูกเตะมุมด้านขวาที่เคราช์โขกทิ้งออกมา สโคลส์จึงยิงสวนจากหน้าเขตโทษแล้วโดนเล็ดลีย์ คิงเคลียร์ออกมาอีกหน แต่ก็มาโดนอันแดร์สันซัลโวจาก 20 หลาเข้าเสียบเสาแรกเด็ดขาดพาทีมเยือนแซงนำ 2-1 พร้อมกับเบิกสกอร์แรกในแมตช์อย่างเป็นทางการให้กับทีมอสูรแดงได้เสียที นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก วิดิช ตามไปรวบเคราช์ลอยคว้างแถวกลางสนาม ทำให้ได้ใบเหลืองเป็นรางวัล ครบ 45 นาทีจึงเป็นผีแดงที่บุกมานำ 2-1 ครึ่งหลังกุ๊กไก่เปลี่ยนเจอร์เมน จีนาสลงไปแทนปาลาซิออส และหวิดตีเสมอได้ตั้งแต่นาทีที่ 48 จากการเสริมเกมบุกขึ้นมาทางด้านซ้ายของเอก็อตโต้ที่พลิ้วหนีเฟล็ทเชอร์ไป จ่ายบอลเข้าเขตโทษได้ จีนาสจึงป้ายเข้ากลางให้ร็อบบี้ คีนเข่นจาก 10 หลา แต่ติดบล็อควิดิชโด่งข้ามคานไป ผ่านมาถึงนาทีที่ 51 สโคลส์ก็หนีไม่พ้นได้ใบเหลืองเมื่อเข้าสอยเดโฟน่าเกลียด แต่อีกอึดใจเดียวคิงก็รับใบเหลืองตามมาโทษฐานเสียบใส่สโคลส์ จากนั้นในนาทีที่ 54 กิ๊กส์ก็เกือบฆ่าทีมตัวเองเมื่อผ่านบอลขวางหน้าเขตโทษเลยโดนจีนาสฉกไปตะบัน ระยะ 25 หลาเดือดร้อนให้เบน ฟอสเตอร์ต้องออกแรงโชว์ความเหนียวปัดพ้นสามเหลี่ยมได้อย่างไม่น่าเชื่อ และจากลูกเตะมุม สเปอร์สก็น่าจะได้ไชโยอีกครั้งจากการเทคตัวโขกของเคราช์ที่กระโดดได้สูงกว่า วิดิชเห็นๆ ทว่าบอลไม่เป็นใจลอยไปกระแทกคาน อย่างไรก็ดี นาทีที่ 60 สถานการณ์ของปีศาจแดงก็เข้าขั้นเลวร้ายเมื่อสโคลส์วิ่งทะเล่อทะล่าไปปะทะใส่ ทอม ฮัดเดิลสตันทั้งๆที่พยายามเบรกแล้ว แต่ผู้ตัดสินไม่สนใจแจกให้อีกเหลืองจึงกลายเป็นใบแดงทำให้ทีมเยือนเหลือกัน แค่สิบคน เข้าอีหรอบนี้แชมป์เก่าจึงต้องถอดเบอร์บาตอฟออกส่งไมเคิ่ล คาร์ริคเด็กเก่าเจ้าบ้านอีกรายไปเสริมแดนกลางในนาทีที่ 63 และน่าจะได้ประตูเพิ่มจากจังหวะโต้ในนาทีที่ 67 เมื่อรูนีย์สปีดพาบอลลุยขึ้นกราบซ้ายแล้วลากเข้าเขตโทษไปกดเปรี้ยงยัดใส่เสา แรก แต่ถูกคูดิชินี่ปัดได้ ขยับมาอีกสองนาที ทีมเมืองกรุงก็ปล่อยอลัน ฮัตตันลงไปแทนเวดราน ชอร์ลูก้า ก่อนจะเปลี่ยนคีนออกในนาทีที่ 72 พร้อมทั้งส่งนิโก้ ครานชาร์ลงไปแทน นาทีต่อมา จีนาสไปดึงกิ๊กส์ล้มจึงได้ใบเหลืองตามระเบียบ แถมผ่านมาถึงนาทีที่ 77 ก็มาโดนทีเด็ดเกมโต้กลับของทีมเยือนทำพิษซะอีกจากความแข็งแกร่งของรูนีย์ที่ พาบอลลุยขึ้นมาคนเดียวแล้วทะลุเข้าเขตโทษโดยที่ฮัตตันกับเอก็อตโต้พยายาม ช่วยกันแล้วแต่เอาไม่อยู่ ทำให้กองหน้าทีมชาติอังกฤษได้แปบอลลอดขาคูดิชินี่พาผีแดงสปีดหนี 3-1 จากนั้นทีมเยือนก็เปลี่ยนนานี่ลงไปแทนอันแดร์สันในนาทีที่ 82 แต่เจ้าบ้านมีเสียวเล็กๆจากลูกยิงหน้าเขตโทษของฮัดเดิลสตัน ทว่าเบาเกินไปจึงถูกฟอสเตอร์เซฟเข้าซอง แม้ตัวผู้เล่นจะน้อยกว่าแต่แมนฯ ยูไนเต็ดกลับเป็นฝ่ายกดดันสเปอร์สได้อย่างเมามัน และนาทีที่ 85 เฟล็ทเชอร์ก็ลองกระทุ้งจาก 30 หลาถูกคูดิชินี่ทุบออกมา รูนีย์จึงตามไปเอาบอลแล้วซัดจากริมเขตโทษด้านซ้ายเข้าหาเสาแรกบีบให้คูดิชิ นี่ต้องกระโจนไปปัดอีกครั้ง ช่วงที่เหลือ สเปอร์สยังบุกไม่ขึ้น หมดเวลาจึงพ่ายคาเล้าอย่างน่าอับอาย 1-3 เสียสถิติแพ้เป็นเกมแรกของซีซั่นจนได้ รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม สเปอร์ส : คาร์โล คูดิชินี่ - เวดราน ชอร์ลูก้า , เล็ดลี่ย์ คิง , เซบาสเตียน บาสซง , เบร์นัว อัสซู เอก็อตโต้ - อารอน เลนน่อน , วิลสัน ปาลาซิออส , ทอม ฮัดเดิ้ลสโตน - ร็อบบี้ คีน , เจอร์เมน เดโฟ , ปีเตอร์ เคร้าช์ แมนฯยูไนเต็ด : เบน ฟอสเตอร์ - จอห์น โอเช , เนมานย่า วิดิช , ริโอ เฟอร์ดินาดน์ , ปาตริช เอวร่า - พอล สโคลส์ , ดาร์เรน เฟลทเชอร์ , อันแดร์สัน , ไรอัน กิ๊กส์ - เวย์น รูนี่ย์ , ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ เครดิตจากสยามสปอร์ต
. " ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ยังกู่ไม่กลับ ต้องพ่ายเป็นนัดที่2 ติดต่อกัน หลังไปเยือน แมนฯ ซิตี้ แล้วโดนเจ้าถิ่นอัดพ่ายไป 2-4 โดยเกมนี้ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ กองหน้าของเรือใบ ทำแสบ ยิงประตูทีมเก่าได้ด้วย ทำให้ แมนฯ ซิตี้ เก็บสามคะแนนเต็ม และเป็นการชนะรวด 4 นัดไปแล้ว ฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 12 กันยายน 2552 แมนฯซิตี้ 4 - อาร์เซน่อล 2 "เรือใบสีฟ้า" แมนฯซิตี้ ที่ชนะมา 3 นัดรวด เจอของแข็งรับการมาเยือนของ "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล โดยเกมนี้ มาร์ค ฮิวจ์ส ต้องขาด คาร์ลอส เตเวซฟ กับ โรบินโญ่ ที่เจ็บ โคโล ตูเร่ กับ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ได้เจอทีมเก่า ขณะที่ อาร์แซน เวนเกอร์ ขาด อังเดร อาร์ชาวิน ที่เจ็บจากเกมทีมชาติ แต่ว่าได้ เชส ฟาเบรกาส กลับมาลุยอีกครั้ง เริ่มเกมมาทั้งสองทีมยังไม่ผลีพลามบุกเข้าใส่กันมากนัก นาทีที่ 11 อเดบายอร์ ไปย่ำข้อเท้า เชส ฟาเบรกาส แต่ว่าไม่โดนเหลือง ขณะที่กัปตันปืนโตกลับมาเล่นต่อได้ นาที 13 อาร์เซน่อล ได้ลุ้นก่อนจากจังหวะเตะมุมที่ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เปิดโค้งมาให้ วิลเลี่ยม กัลลาส ได้โหม่งแต่ว่าข้ามคานนิดเดียว อีก 3 นาทีถัดมา เบนท์เนอร์ จ่ายบอลคืนหลังให้ บาการี่ ซาญ่า เติมขึ้นมายิงแต่ว่าซัดข้ามคานออกไป บาการี่ ซาญ่า มาโดนเหลืองคนแรกของเกมจากการไปดักฟาวล์ เคร็ก เบลลามี่ และในจังหวะฟรีคิก แมนฯซิตี้ ก็ได้ประตูนำ 1-0 เมื่อ แกเร็ธ แบร์รี่ ตักโค้งไปให้ ไมกาห์ ริชาร์ดส์ โหม่งในเขตโทษบอลย้อนไปชนเสากระเด้งมาโดนหัว มานูเอล อัลมูเนีย เข้าประตูตัวเองไปอย่างโชคร้าย แมนฯซิตี้ อาศัยการตั้งรับและคอยโต้กลับเล่นงานอาร์เซน่อล นาทีที่ 25 ไรท์-ฟิลลิปส์ ได้ยิงแต่ว่าไม่ผ่านมือ อัลมูเนีย นาที 37 เป็นโอกาสของอาร์เซน่อล จากการยิงของ เชส ฟาเบรกาส แต่ว่าไม่เข้ากรอบ ท้ายครึ่งแรก ไรท์น้อย ได้ยิงทางกราบขวาแต่ว่าไม่เข้ากรอบ ทำให้จบครึ่งแรก แมนฯซิตี้ นำ 1-0 ครึ่งหลังเจ้าบ้านออกสตาร์ตอย่างฮึกเหิม และในนาทีที่ 48 อเดบายอร์ก็ได้สับไกที่เส้น 18 หลาเต็มข้อ ดีที่ว่ากัลลาสเข้ามาบล็อคได้ทัน พอเห็นท่าไม่ดี เกมยังเนือยไม่เลิกทีมเยือนก็เปลี่ยนเดนิลสันออกส่งโรซิคกี้ลงไปปั้นเกมในนาทีที่ 53 จากนั้นอีกสามนาที อาร์เซน่อลก็มีเสียวจากลูกเตะมุมด้านขวาที่กัลลาสโฉบเข้าขวิดระยะหกหลาที่ เสาแรก แต่เชย์ กิฟเว่นผวาปัดทิ้งได้อย่างเฉียดฉิว ถึงนาทีที่ 60 เดอะ กันเนอร์สเกือบสอยตาข่ายได้อีกหนจากลูกยิงไกลระยะ 30 หลาของโธมัส แฟร์มาเล่น แต่กิฟเว่นยังเหนียวปัดป้องได้สำเร็จ อย่างไรก็ดี ผ่านมาอีกสามนาทีแฟนเรือใบก็ต้องคอตกเมื่อซาญ่าเติมเกมขึ้นมาทางขวาแล้วไหล เข้ากลางให้โรซิคกี้แทงขึ้นหน้า โรบิน ฟาน เพอร์ซี่จึงสบโอกาสโชว์ทักษะพลิกหนีโจลีออน เลสค็อตต์แล้วเข่นลูกเรียดจาก 20 หลาส่งบอลเบียดเสาเข้าประตูสุดที่กิฟเว่นจะพุ่งปัดถึงจึงเป็นอันว่าทั้งสอง ฝ่ายเจ๊ากัน 1-1 ถึงตรงนี้ทีมมหาเศรษฐีจำต้องเดินหน้ากันใหม่ และในนาทีที่ 74 อเล็กซ์ ซงก็มาโดนจดชื่อในจังหวะเตะใส่อเดบายอร์เป็นการเอาคืนก่อนที่เรือใบสีฟ้าจะ เปลี่ยนมาร์ติน เปตรอฟลงไปแทนสตีเฟ่น ไอร์แลนด์ และแค่พริบตาเดียว เจ้าบ้านก็ได้ประตูเพิ่มเมื่อฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์จ่ายบอลขึ้นทางขวาให้ริชาร์ดส์ควบขึ้นหน้าก่อนจะเตะหนีซงเข้าเขตโทษ ได้จึงแปถวายพานให้เบลลามี่ซัลโวสบายแฮจาก 15 หลาพาแมนฯ ซิตี้นำอีกหน 2-1 เป็นอย่างนี้ทีมปืนโตจึงต้องปล่อยดา ซิลวากับเอ็มมานูเอล เอบูเอ้ลงไปแทนซงกับซาญ่าในนาทีที่ 78 แต่แค่อึดใจเดียวก็น่าจะเสียหายเพิ่มจากลีลาการพลิ้วของอเดบายอร์ที่ลากบอล หนีทั้งกาแอล กลิชี่และเอบูเอ้ไปจนสุดเส้นหลังได้จึงป้ายมาเสาแรกให้ไรท์ ฟิลลิปส์ชาร์จเผาขน แต่บอลหลุดเสาแรกอย่างเหลือเชื่อแค่เส้นยาแดง กระนั้นนาทีที่ 80 ไรท์ ฟิลลิปส์ก็พลิกหนีกลิชี่ได้จึงสาดบอลจากกราบขวาเข้าหาเขตโทษให้อเดบายอร์โขก เต็มๆแปดหลาโดยไม่มีใครคุมพาเรือใบหนีห่าง 3-1 โดยที่กองหน้าผิวสีแสดงความสะใจสุดชีวิตวิ่งแบบไม่ลืมหูลืมตากลับไปอีกฝั่ง ของสนามเพื่อเจตนาตะโกนใส่สาวกกันเนอร์สเลยโดนแจกใบเหลืองโทษฐานยั่วยุ จากนั้นอีกสี่นาที แฟนทีมเจ้าบ้านก็ได้เริงร่ากันอีกเมื่อกลิชี่ทำเสียบอลอีกครั้งเลยโดนโต้ เร็วแล้วเบลลามี่จ่ายให้ไรท์ ฟิลลิปส์หลุดเดี่ยวไปชิพผ่านอัลมูเนียเป็นสกอร์นำ 4-1 ของทีมเงินถัง นาที่ที่ 88 อาร์เซน่อลมาไล่ตีตื้นมาเป็น 2-4 จากการยิงของ โธมัส โรซิชกี้ ช่วงที่เหลืออาร์เซน่อลทำอะไรไม่ได้เลย จบเกมจึงพ่ายไปอย่างบอบช้ำ 2-4 ขณะที่แมนฯ ซิตีทำสถิติชนะรวดตั้งแต่เปิดซีซั่น รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม แมนฯซิตี้ : เชย์ กิฟเว่น, ไมกาห์ ริชาร์ดส์, โคโล ตูเร่, โจลีออน เลสค็อตต์, เวย์น บริดจ์, ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, แกเร็ธ แบร์รี่, ไนเจล เด ยองก์, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์, เคร็ก เบลลามี่ สำรอง : สจ๊วร์ต เทย์เลอร์, เนดุม โอนูโอฮา, พาโบล ซาบาเลต้า, ซิลวินโญ่, มาร์ติน เปตรอฟ, วิดาล, วลาดิเมียร์ ไวส์ อาร์เซน่อล : มานูเอล อัลมูเนีย, บาการี่ ซาญ่า, โธมัส แฟร์มาเล่น, วิลเลี่ยม กัลลาส, กาแอล กลีชี่, นิคลาส เบนท์เนอร์, อเล็กซ์ ซง, เชส ฟาเบรกาส, เดนิลสัน, อาบู ดิยาบี้, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ สำรอง : วิโต้ มานโนเน่, โธมัส โรซิชกี้, เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา, อาร่อน แรมซี่ย์, มิกาแอล ซิลแวสต์, เอ็มมานูเอล เอบูเอ้, คีแรน กิ๊บบ์ส เครดิตจากสยามสปอร์ต
ผลบอลวันอาทิตย์ที่13กย52 FT Birmingham C. 0 - 1 Aston Villa FT Fulham 2 - 1 Everton เอฟเวอร์ตั้นทำท่าจะแย่แฮะ เดวิด มอยส์งานเข้าละคับพี่น้อง . แมน เชสเตอร์ ยูไนเต็ด จับ พาร์ค ชี-ซอง มิดฟิลด์พลังโสม ต่อสัญญาออกไปจนถึงปี 2012 คาดได้รับค่าเหนื่อยเพิ่มเป็นปีละกว่า 200 ล้านบาท จากที่เคยได้รับซีซั่นละ 156 ล้านบาท หลังย้ายมาจาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น เมื่อปี 2005 พาร์ค ชี-ซอง กองกลางทีมชาติเกาหลีใต้ ตกลงต่อสัญญากับ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกไปอีก 3 ปี ส่งผลให้จะได้อยู่ค้าแข้งในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด จนถึงเดือนมิถุนายน 2012 จากการเปิดเผยของ คิม จุง-ซู เอเยนต์นักเตะ เมื่อวันจันทร์ที่ 14 กันยายน ที่ผ่านมา จุง-ซู เผยผ่านสำนักข่าว "ยอนฮับ" ว่า "พาร์ค และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บรรลุข้อตกลงในการต่อสัญญา 3 ปี โดยสัญญาใหม่จะมีผลจนถึงเดือนมิถุนายน ปี 2012" อย่างไรก็ตาม เอเยนต์ของดาวเตะโสมขาว ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดทางการเงินในสัญญาฉบับใหม่ แต่สื่อในบ้านเกิดเชื่อว่า พาร์ค จะได้รับค่าเหนื่อยปีละ 3.6 ล้านปอนด์ (ประมาณ 201.6 ล้านบาท) หรือเพิ่มขึ้นราว 30 เปอร์เซ็นต์ จากที่เคยรับปีละ 2.8 ล้านปอนด์ (ประมาณ 156.8 ล้านบาท) หลังย้ายมาจาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น เมื่อปี 2005 ด้วยค่าตัว 4 ล้านปอนด์ (ประมาณ 224 ล้านบาท) . รา ฟาเอล เบนิเตซ กุนซือ ลิเวอร์พูล ออกโรงป้อง เจมี่ คาร์ราเกอร์ กองหลังของทีม ไม่ใช่จุดอ่อน หลังดาวเตะวัย 31 ปีถูกวิจารณ์หนักสำหรับผลงานเกมรับที่ย่ำแย่ในซีซั่นนี้ ยันลูกทีมยังคงเป็นผู้เล่นชั้นยอด และมีสภาพร่างกายฟิตเหมือนที่ผ่านมา แต่ยอมรับนักเตะอาจแบกรับภาระภายในทีมมากเกินไป ราฟาเอล เบนิเตซ ผู้จัดการทีม "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก ออกมากล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ 14 กันยายน ที่ผ่านมา ว่า เขาเชื่อว่า เจมี่ คาร์ราเกอร์ ปราการหลังของทีม ไม่ใช่จุดอ่อนในแนวรับ หลังจากที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักสำหรับผลงานเกมรับที่ย่ำแย่ของต้น สังกัดในฤดูกาลนี้ ลิเวอร์พูล พ่าย ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 1-2 ในนัดเปิดฤดูกาล รวมทั้งแพ้ แอสตัน วิลล่า 1-3 คารังแอนฟิลด์ ทำให้ในซีซั่นนี้ "หงส์แดง" โดนเจาะตาข่ายไปแล้วถึง 7 ประตู และบรรดาผู้สันทัดกรณีต่างออกมาชี้ว่า คาร์ราเกอร์ ไม่มีความเร็วและสภาพความฟิตพอที่จะทำผลงานคงเส้นคงวาได้เหมือนที่ผ่านมาอีก แล้ว อย่างไรก็ตาม เบนิเตซ ได้ออกมาปกป้องลูกทีมว่า ดาวเตะวัย 31 ปียังคงทำผลงานที่ดีให้กับทีม "เมื่อทีมทำผลงานไม่ดี กองหลังมักจะถูกตำหนิ เมื่อคุณแพ้ พวกเขาก็จะถูกวิพากษ์วิจารณ์มากกว่ากองหน้า เจมี่ ยังคงเป็นนักเตะชั้นยอด เขาฝึกซ้อมเหมือนที่ผ่านมา เขาฟิตและมีความเร็ว และเขาก็จะเป็นอย่างนั้นตลอด เขาเป็นมืออาชีพที่ดูแลตัวเอง ดังนั้น ผมจึงไม่คิดว่าเขาเชื่องช้าลงแต่อย่างใด" เบนิเตซ กล่าว กุนซือชาวสเปน ยอมรับว่า คาร์ราเกอร์ อาจแบกรับภาระมากจนเกินไปในแง่ของการรวมใจทุกคนในทีมให้เป็นหนึ่งเดียว และเขาก็เรียกร้องให้เพื่อนร่วมทีมแสดงออกมากกว่านี้ "ตอนนี้มันขึ้นอยู่กับทีม ถ้าพวกเขาช่วยกองหลังมันก็จะเป็นเรื่องง่ายสำหรับกองหลังที่จะเล่นได้ดี มันเป็นเรื่องยากมากขึ้นสำหรับ คาร์ราเกอร์ เพราะเขาเล่นกับเพื่อนร่วมทีมมากมาย เขาชอบพูด แต่นักเตะคนอื่นๆ รอบตัวเขาก็สำคัญเช่นกัน ถ้าเขาไม่ต้องเสียเวลาพูดมาก มันก็เป็นเรื่องง่ายขึ้นสำหรับเขาที่จะจดจ่ออยู่กับเกมของตัวเอง" เบนิเตซ กล่าว . สื่อ ผู้ดีลือหึ่ง หลุยส์ ฟาเบียโน่ ดาวยิงฟอร์มฮอต เซบีย่า ตกเป็นเป้าหมายสำคัญของ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่จะพยายามคว้าตัวมาเสริมความคม เพื่อไล่ล่าแชมป์ลีกเมืองผู้ดี สมัย 4 ติดต่อกัน ในช่วงเดือนมกราคม "เดอะ พีเพิ่ล" หนังสือพิมพ์ในอังกฤษ รายงานข่าว เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยอดผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมหัวแถวในลีกเมืองผู้ดี เตรียมทดสอบความอดทนของ เซบีย่า ทีมดังแห่ง ลา ลีกา สเปน ด้วยการยื่นข้อเสนอซื้อตัว หลุยส์ ฟาเบียโน่ ดาวยิงบราซิเลียน ในช่วงเปิดตลาดนักเตะเดือนมกราคมศกหน้า บรมกุนซือชาวสกอตติช ชื่นชอบฝีเท้าของ ฟาเบียโน่ ซึ่งทำผลงานได้เป็นอย่างดีทั้งกับสโมสร และทีมชาติ และกำลังพิจารณายื่นข้อเสนอคว้าหัวหอกวัย 28 กะรัต ช่วงเดือนมกราคมนี้ แม้จะไม่สามารถใช้งานในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ก็ตาม ฟาเบียโน่ เกือบย้ายไปร่วมทีม เอซี มิลาน ช่วงต้นปีที่ผ่านมา แต่สโมสรไม่สามารถตกลงค่าตัวกันได้ ซึ่งทำให้อดีตดาวเตะ ปอร์โต้ เสียใจเป็นอย่างยิ่ง และจำเป็นต้องปักหลักอยู่ค้าแข้งในเมืองกระทิงต่อไป รายงานข่าวระบุว่า แหล่งข่าวใกล้ชิด ฟาเบียโน่ กล่าวถึงอนาคตของศูนย์หน้าตีนคมว่า "หลุยส์ ฟาเบียโน่ ไม่มีความสุขที่ไม่ได้ย้ายไป เอซี มิลาน และเขาตัดสินใจไม่พูดถึงอนาคตของตัวเองจนกว่าจะมีข้อเสนอเป็นทางการเข้ามา เขากำลังมุ่งมั่นกับการทำให้ดีที่ เซบีย่า แต่มันก็น่าจะทำให้เขาพอใจ ที่มีสโมสรใหญ่ต้องการตัวเขา" ดาวเตะเลือดแซมบ้า เพิ่งยิง 2 ประตู ในเกมถล่ม เรอัล ซาราโกซ่า 4-1 เมื่อวันเสาร์ ซึ่งก่อนหน้านั้น เขาก็เพิ่งซัดเบิ้ล ในเกมพา "เซเลเซา" ถล่ม อาร์เจนตินา 3-1 ในเกมฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก โซนอเมริกาใต้ ซึ่ง เฟอร์กูสัน มองว่า นี่เป็นคนที่จะทำให้ "ปีศาจแดง" คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 4 สมัยติดต่อกัน + อ้างถึง ตอบกลับ
