ขอถามเกี่ยวกับเครื่องยนต์หน่อยครับ

มีคำถามคาใจรบกวนผู้รู้ท่านใดก็ได้ชี้แนะหน่อยคับ
อยากทราบว่า

- เครื่อง 3S GTE Spec: 260/6000 33/4400 ที่อยู่ใน CALDINA มาจับวางใน MR2 ได้รึป่าวคับ

- แล้วเครื่องตัวที่ว่าเนี่ยมันมีเกียรออโต้มั้ย/ถ้ามีจะวางใน MR2 ได้รึป่าว

- สมมุติว่างถ้าวางตัวนี้ลงไปแล้ว พวกชุด KIT 2.2 ของพวก JUN/HKS ที่มีขายกัน เอามาใส่ใครเครื่องตัวนี้ได้เลยเหมือนที่ใส่ใน MR2 มั้ย ครับ

- แล้วอินเตอร์คูลเลอร์แบบอัพเกรด สำหรับวาง MR2 แบบที่ไม่ต้องเจาะไปห้องเก็บของท้ายรถมีรึป่าวครับ

- หรือถ้าไม่งั้น อินเตอร์น้ำของ GT4 ใส่ใน MR2 ได้มั้ย/แล้วดีกว่าของเดิมๆจากเครื่อง MR2 รึป่าว

- เคยเห็นฝรั่งติดพัดลมใต้ฝากระโปรงห้องเครื่องเป็นคู่ๆ น่ะครับ อยากทราบมันเป็นเป่าลมเข้าเครื่องหรือว่า เป็นแบบดูดอากาศร้อนออกจากเครื่องครับ

- แล้วพวกพัดลมแบบนี้ช่วยบรรเทาปัญหาเครื่องความร้อนของห้องเครื่อง MR2 ได้เยอะมั้ย

ช่วยตอบหน่อยครับ

 

เครื่อง 3s-gte ที่อยู่ใน caldina เป็นตัว 3s direct coil คับ ลงใน mr2 ได้คับ

ผมไม่แน่ใจว่า มันจะมีแต่เกียร์ออโต้รึเปล่าด้วยนะคับ เพราะ caldina เป็นรถสไตล์ครอบครัว เหมือน wish, space wagon ประมาณนั้น
ถ้าจะวางใน mr2 ก็อาจจะต้องชนกับเกียร์ non-air คับ

พวกชุด kit ก็ใส่ได้ตามปกติ แต่ที่ไม่ค่อยเห็นคนเอามาวาง หรือโมกัน เพราะเครื่องตัวนี้ ที่ญี่ปุ่นต้องเติมน้ำมันอ๊อกเทน 97++
พอเข้ามาเมืองไทย น้ำมันอ๊อกเทนไม่ถึง เครื่องเขกกระจาย ช่างไทยก็แก้ปัญหาโดยการลดไฟลง ผลที่ออกมาก็วิ่งไม่ค่อยออกอีก ม้าหายกระจาย
non-air เลยดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า โมง่ายกว่า อะหลั่ยหาง่ายกว่า
แต่ตอนนี้ก็น่าจะแก้ปัญหาของเครื่องตัวนี้กันได้แล้ว (ช่างไทยเก่งเรื่องดัดแปลงอยู่แล้ว)

inter cooler upgrade ก็มีของ trust อะคับ ผมเองก็ใส่อยู่ เห็นมีขายใน board ด้วย
มาเป็นชุดเลยคับ ขันน๊อตใส่ จะติดตั้งที่ตำแหน่งเดิมเลยคับ แต่หนาเกือบ 4 นิ้ว

ส่วนตัวผมคิดว่า น้ำ อมความร้อนมากกว่าอากาศ และ คายความร้อนได้ไม่ดีเท่า inter อากาศ และอีกอย่างเครื่องของเราอยู่ข้างหลัง
การระบายความร้อนยิ่งแย่ไปกันใหญ่ ฉะนั้นตัดเรื่องการใส่ inetr น้ำไปได้เลยคับ
ขนาด water temp รถเรา ยังสูงกว่ารถชาวบ้านเค้า (ที่เครื่องอยู่ข้างหน้า) เกือบ 10 องศา

การติดพัดลมที่ฝาครอบเครื่อง ผมว่าน่าจะติดแบบดูดนะคับ เพราะโดยธรรมชาติ อากาศร้อน มวลจะเบาและลอยขึ้นข้างบนเสมอ
การติดพัดลมแบบดูดน่าจะทำให้การระบายความร้อนได้ดีกว่า รวดเร็วกว่า
ถ้าจะให้ผลที่ดี ควรเปลี่ยนฝาหลังเป็นของแต่ง แบบของ Tom's ด้วย จะมีช่องระบายสูงขึ้น ใหญ่ขึ้น และกันนำฝนเข้าพ้ดลมได้ด้วย
ลองดูคับ



ข้อมูลผิดพลาดอย่างไร ขออภ้ยด้วยนะคับ


ปล. เคยได้ยินเริ่องเครื่องเดียวกัน แต่มาจากรถต่างสไตล์กัน ก็เลยวิ่งไม่เหมือนกันหรือเปล่าคับ
เหมือน 2JZ ที่อยู่ใน supra กับ aristo ม้าเท่ากัน แต่แรงไม่เท่ากัน
เพราะ supra เป็น sport car ม้ามาเร็ว แรงบิดสูงๆ ดุดัน
aristo เป็น luxury car มา และ แรงบิดค่อยๆมา แบบนิ่มๆ

ผมว่า non-air กับ direct coil ก็คงไม่ต่างกันคับ

 

ขอบคุณมากครับพี่จิม ^^

 

ขออาศัยกระทู้นี้ด้วยเลยนะครับ อยากทราบ ข้อมูล ของเครื่องตัว 3s beams อ่ะคับ
- เครื่องตัวนี้ ในรูปแบบ na ฟิวล์จะเหมือนเทคของฮอนด้ารึป่าวคับ
- แรงม้า 200 ตัว ถ้ามีเต็ทดีๆ ยังจะแอ๊คชั่นได้อยู่รึป่าวคับ ( ยังอยากท้ายปัดอยู่ อิอิ )


-------ที่หันไปสนใจเครื่องตัวนี้เนื่องจากคิดว่าน่าจะใช้งานได้ทุกวันอ่ะคับ แต่ ก็ยังชอบเทอร์โบเหมือนเดิม
รบกวน เพื่อนๆ เทียบ ระหว่าง beams & non air หน่อยนะครับ-------------------------

ปล. คิดว่าเครื่อง 2 ตัวนี้หน้าจะดีที่สุดในรูปปแบบของ na และ torbo อ่ะคับ

 

ความรู้ครับความรู้

 

3s beam มี ที่วางอยุ๋ใน mr2 version สุดท้ายเลยคับคุณ boy wc เป็นเครื่องของ mr2 เองเลย
ส่วนอีกอันนึง ก็อยู่ใน Alteza อ่ะคับ ผมไม่แน่ใจว่าเป็นตัวเดียวกันหรือเปล่า

ส่วนให้เทียบกีบเครื่อง V-tec อันนี้ไม่ทราบจริงๆ คับ ผมไม่ค่อยมีความรู้เรื่อง V-tec

แต่ถ้าใส่ล้อใหญ่ ผมว่า beam อาจจะออกอาการ เหี่ยว ใหเห็นได้ชัดกว่า Turbo คับ

แต่ถ้าชอบ na จริงๆ แนะนำให้ลองเล่น 1 MZ 3000cc. v6 ซึ่งอยู่ใน Harrier กับ Lexus gs300
แรงบิด มหาสาร ความเร็ว 220 km/h รอบยังอยู่ที่ 2200 rpm เอง

ที่เมืองนอกเอาลง mr2 set turbo เพิ่ม วิ่ง 9 sec เลยอ่ะคับ รถเหล็กนะคับ ไม่ใช่ space frame

 

ขอบคุณครับ คุณจิมมี่ ( เห็นรูปรถของคุณจิมมี่ทีไร อดชมไม่ได้จิงๆคับ สวยมั่กๆคับ )
รบกวนคุณจิมมี่อีกนิสสสนะคับ คือ อย่างตัว non air อ่ะคับ วางแล้วขับใช้งานได้ทุกวันรึป่าวคับ มีตัวร้อนบ้างมั้ยตอนรถติดๆอ่ะคับ หรือเวลา ขับไปไกลๆอ่ะคับ

 

ขอบคุณคับ

non-air ใช้งานได้ปกติทุกวันเลยคับ ไม่มีปัญหา

gasohal ก็ได้คับ นานๆทีผมจะเติม 95 สลับ เพื่อล้างถัง แต่ต้องบอกก่อนว่า อัตราเร่ง เวลาซัดหายไปแบบเห็นๆเลยนะคับ
ประมาณ รอบเครื่องไป แต่รถไม่ค่อยไป แต่ขับใช้งานปกติได้

รถผมไม่เคยมีปัญหาเรื่องความร้อนเลยนะคับ
แนะนำสำหรับรถวางเครื่องใหม่ ให้เปลี่ยนวาล์วน้ำใหม่เป็นของแต่ง หรือไม่ก็เจาะรูขยายวาล์วเดิม
ทำตอนวางเครื่องดีที่สุด เพราะ มันรื้อยากคับ
อีกอย่าง ให้ใช้ coolant แบบน้ำยาเพียวๆ ไม่ผสมน้ำ ของ toyota มีขายตามศูนย์เลยคับ
gallon ละ 600 อ่ะคับ ถ้าจำไม่ผิด ใช้ประมาณ 2 gallon ครึ่ง ใช้เยอะเนื่องจาก หม้อน้ำอยู่หน้ารถ แต่ถังพักอยู่งหลัง
แค่นี้ก็หายห่วงขับ ไม่เคยตัวร้อนเลย


ส่วนเรื่องขับทางไกล ผมก็ไม่เคยมีปัญหาคับ เมื่อก่อนตอนรถอยู่ สุราด ผมก็ขับไปภูเก็ต อยู่บ่อยๆ มันมาก อัดตลอดทาง
ทางเป็นเขาอ่ะคับ โค้งไป โค้งมา ระยะทาง 210 km ใช้เวลา 1.45 ชม เอง

mr2 ถ้าเซ็ทช่วงล่างดีๆ รู้จักนิสัยรถ กะระยะคันเร่งถูก ขับสนุกมากคับ เวลาแซง เข้าโค้ง


ลืมตอบอีกอย่างคับ อัตตราสิ้นเปลือง non-air คับ

gasohal

ในเมือง กทม. เต็มถัง วิ่งได้ 220 km ก็ต้องเติมใหม่แล้วคับ
แบบว่าบ้านอยู่ลาดพร้าว รถติดหง่ะ
ตจว. ขับแช่ๆ ยาวๆ กดเฉพาะตอนแซง นอกนั้น ไม่เกิน 3500 rpm เต็มถัง วิ่งได้ 360 - 380 km

เบนซิน 95
ในเมืองได้ 250 km
ตจว ได้ 420 km คับ

สรุป gasohal ผิด !!!!!!!!!!!!!!!!

 

------------------------ ขอบคุณมั่กๆๆๆๆๆคับ ----------------------

 

อ่อ ลืมบอกไปคับ เกี่ยวกับอัตราการสิ้นเปลือง

รถผมล้อ หน้ากว้าง 9 x 18"
ล้อหลัง 10.5 x 18" ยางกว้าง 275/35/18

กับโป่งหนักๆ อีกหนึ่งชุด

คือถ้าเป็นคันอื่นๆ ล้อ ไม่กว้างมาก รถไม่หนัก ก็จะประหยัดน้ำมันกว่านี้คับ

 

คุณจิมมี่คับ รบกวนอีกเรื่องนะค๊าบบบ off ล้อ ที่ใช้กับชุด2000gt อ่ะคับ ใช้off เท่าไหร่คับ

 

offset ล้อนี่ จำไม่ได้จริงๆคับ
แต่ spec ของ 2000GT Street Version ที่ TRD เค้าใส่มา
ล้อหน้ากว้าง 7.5 x 17" off +12 หลัง 8.5-9" x 17 off +7 ประมาณนี้คับ ไม่ชัวร์
แต่มันจะหุบนิดๆนะคับ แล้วแต่ชอบ

รถผมเป็น 2000GT Prototype อ่ะคับ โป่งมันจะใหญ่กว่า สุ้มล้อยกสูงกว่า 2000GT Street Version
อีกอย่างผมเป็นคนชอบล้อยื่นนิดๆ พอดีๆสุ้มอ่ะคับ
หน้า 9 x 18" off +12 สเปเซอร์อีก 15 mm.
หลัง 10.5 x 18" off +15 สเปเซอร์อีก 20 - 25 mm จำไม่ได้ ประมาณนี้คับ

 

ขอบคุณคับคุณจิมมี่ ได้ข้อมูลครบถ้วนเลยครับผม