เตือน เพื่อนๆ พี่น้อง เวลาไปเช่ารถ Avis!!! บริษัทอื่นไม่ทราบ แต่ก้ควรระวัง เนื่องจากเวลาไปเช่ารถ ต้องใช้บัตรเครดิต เพื่อล็อควงเงินประกัน จำนวน 20000 บาท และต้องให้เอกสารคือ บัตรประชาชน และ ใบขับขี่ ซึ่งในนั้น มีข้อมูล ของเราทั้งหมด ทางบริษัทจึงมี ทั้งเลขบัตรเครดิต เลขหลังบัตร และข้อมูลส่วนตัวของท่าน หลังจากนั้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ทางบริษัทสามารถ หักเงินในบัตรเครดิต ของท่าน โดยไม่แจ้งให้ท่านทราบ!!!! :cry: ไม่ว่าจะเป็นค่าปรับ จากการเสียหาย หรือค่าปรับจากทางตำรวจ ซึ่ง มีค่าธรรมเนียมเกินจริง ไปมากกกกกกกกกกก ตัวอย่างเช่น ทางตำรวจคิดค่าปรับ 400 บาท ทางบริษัทจะหักเงินจำนวน 2000 บาท และแน่นอนคับ ไม่มีใบเส็จ ไม่สามารถแจ้งได้ว่าเป็นค่าอะไร บอกได้แต่เพียงว่า เป็นนโยบายของบริษัท บริษัทลงทุนซื้อรถขั้นต่ำก็ 500000 บาทต่อคัน หาเงินค่าเช่าได้ 690 ต่อวัน แต่บริษัทหาเงินได้ 1600 บาท ต่อ หนึ่งใบสั่ง เพื่อไปจ่ายฝ่ายบัญชีและเด็กที่ไปจ่ายค่าปรับ เงินเดือนคงสูง เพื่อนๆท่านใดมีเหตุ จำเป็นในการไปเช่ารถกับ AVIS ควรเขียนที่ด้านล่างสัญญาว่าไม่อนุญาตให้ถอนเงินจากบัญชีบัตรเครดิตโดยมิได้มีการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร หากมีค่าใช้จ่ายใดเพิ่มเติมให้แจ้งก่อน และให้ถอนเงินจากบัตรเครดิตเมื่อมีลายเซ็นต์ ยินยอม ในใบแจ้งค่าใช้จ่ายนั้นๆ เท่านั้น และหลังจากเช่ารถแล้วอย่าลืมตรวจดูในใบแจ้ง บัตรเครดิตอย่างละเอียอไปอีกหลายๆเดือน เพราะอาจโดนหักโดยไม่รู้ตัวคับ
โอว์ ไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะคับเนี่ย ผมลูกค้า AVIS ที่ หาดใหญ่ เดือนละครั้งเลยล่ะ เพราะต้องไปทำงานที่นั่น ยังไงขอบคุร จขกทงนะคับ ที่เอามาเตือนกัน
คุนพ่อโดนเองเลยค่า... โดนเรื่องความเร็ว ตำรวจปรับ 400 แต่โดนตัดบัตรเครดิตไป 2000 ที่สำคัญคือไม่มีการแจ้งใดๆทั้งสิ้น!!!
พอดีเคยทำบ.พวกนี้อยู่บ้างนะครับ ปกติรถเช่าต่างๆ ก็จะมีการล๊อควงเงินบัตรเครดิตไว้ เพื่อประกันความเสียหายเพิ่มเติมที่อาจะเกิดขึ้นในระหว่างการเช่า โดยที่ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาก็จะปลดล๊อควงเงินบัตรให้ตามปกติ โดยมากที่มีปัญหากัน จะเป็นเรื่องค่าซ่อมในกรณีที่เกิดการเฉี่ยว เพราะโดยมากรถขอบ บ. พวกนี้จะมีประกันชั้น 1 แต่โดยมาก บ. ก็จะขอเรียกเก็บคราวละ 2,000 บาท หรือมากกว่า เพราะเขาเป็นรถใช้เพื่อหาเงิน การเอารถเช้าอู่ซ่อม 3-4 วันเพื่อทำสี ก็จะทำให้เสียรายได้ไปแล้ว 4-5,000 บาท ถ้าเรื่องค่าปรับของ ตร. นี่ ไม่เกี่ยวกับทางต้นทุนของรถยนต์เอง ก็น่าจะเก็บตามจริงๆนะครับ ไม่น่ามาเอากำไรกัน คือปกติ ถ้าลูกค้าโดนใบสั่ง เขาก็จะเอาไปจ่ายกันเอง บ.รถเช่าก็ไม่เกี่ยว แต่หลังๆดันมีพวกกล้องจับไฟแดง กล้องจับความเร็วเยอะ เลยกลายเป็นกรณีใหม่ คือจะบอกว่าเรื่องบล๊อคบัตรเครดิต เรื่องการซ่อม เรื่องใบสั่ง อะไรนี่เป็นเรื่องปกติ แต่เรื่องใบสั่งมาที่บ.รถเช่า มันเพิ่งเริ่มปีนี้เอง สงสัยยังมั่วกันอยู่ เดี่ยวจะลองสอบถามเพื่อนในวงการแล้วจะมา ตอบให้ครับว่าที่มาที่ไปเป็นยังไง
ผมเช่าที่เมืองนอกไม่เคยมีปัญหานะครับ เรียบร้อยดี เวลาโดนใบสั่ง หรือกล้องถ่ายภาพนี่...มีสแกนภาพส่งมาให้พร้อม เคยมีอยู่หนที่คนส่งรถรีบมากจนเอารถไปตีลังกา จากที่เราสั่งเช่าเก๋งไว้ เค้าก็ชดเชยให้ ส่งคันใหม่เป็นรถตู้แบบที่หรูสุดของเค้ามาให้เลย คิดราคาเก๋งด้วย เรียกว่าไปเช่าที่เมืองนอกไม่น่าห่วงครับ ส่วนในไทยนี่ไม่ทราบฮะไม่เคย
ผมว่าเค้าต้องมีค่าใช้จ่ายอื่นๆเพิ่มเติมน่ะครับ เช่น 1.ค่าน้ำมันในการเดินทางไปเสียค่าปรับ (ในกรณีที่นำรถไปโดนค่าปรับที่ใดก็ไม่ทราบ อาจจะห่างไกลจากบริษัท) 2.ค่าแรงของผู้ที่ไปเสียค่าปรับ 3.ค่าเสื่อมของรถที่เค้าต้องใช้ อะไรประมาณนี้หรือเปล่าครับ อันนี้ความเห็นส่วนตัวไม่ได้เข้าข้างทางบริษัทนะครับ (แต่จาก 400 คิด 2,000 ก็เกินไปหน่อยเหมือนกัน) ---------- Post added at 23:33:35 ---------- Previous post was at 23:32:53 ---------- ผมว่าเค้าต้องมีค่าใช้จ่ายอื่นๆเพิ่มเติมน่ะครับ เช่น 1.ค่าน้ำมันในการเดินทางไปเสียค่าปรับ (ในกรณีที่นำรถไปโดนค่าปรับที่ใดก็ไม่ทราบ อาจจะห่างไกลจากบริษัท) 2.ค่าแรงของผู้ที่ไปเสียค่าปรับ 3.ค่าเสื่อมของรถที่เค้าต้องใช้ อะไรประมาณนี้หรือเปล่าครับ อันนี้ความเห็นส่วนตัวไม่ได้เข้าข้างทางบริษัทนะครับ (แต่จาก 400 คิด 2,000 ก็เกินไปหน่อยเหมือนกัน)
ขอบคุณครับ ว่าแต่ทำไมเค้าถึงมีเลขหลังบัตรได้ล่ะ ได้เลขนี้ไป กับได้ วันหมดอายุบัตรไปนี่ อันตรายมากนะครับ เอาไปซื้อของตามเน็ตได้สบายๆ เลย เค้าถ่ายเอกสาร บัตรเครดิตเราไปทั้งด้านหน้า ด้านหลังเลยเหรอ ??
เดี๋ยวลองไปถามเพื่อนให้ดีกว่า หาเบอร์มันก่อน มันเป้นลูก ตัวแทน avis ในเมืองไทย แต่ต้องหาเบอร์ไม่ได้คุยกันนานและ
ฝากไว้เผื่อมีผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาอ่าน ถ้าแจ้งให้ทราบก่อนว่ามีใบสั่งมานะคะ เสียค่าปรับเท่านี้นะคะ หรือ จะให้เราดำเนินการให้มีค่าบริการเท่านี้คะ ไม่มีใครว่าหรอกคับ แต่นี้ ไม่มีการแจ้งใดๆ ทั้งสิ้น หักไปแล้ว จึงมาเห็นในใบแจ้ง พอโทรไปถามก้บอกไม่ทราบ เป็นนโบายบริษัท ผมเช็คใน e MAIL ก้ไม่มี ทั้งๆทีบริษัทมีเบอร์โทรและข้อมูลของผมทุกอย่าง แล้วก็บอกว่าให้ไปบอกส่วนกลางเพราะวันๆมีลูกค้าว่าหลายราย มันจะยากอะไรที่จะแจ้งลูกค้า ถ้ายังอยากให้เปนลูกค้ากันต่อไป + อ้างถึง ตอบกลับ