สรุปว่ามันจำเป็นต้องใช้ไหมครับ เครื่อง jig ตัวถังเนี่ย พอดีได้ยินมา 2 แบบครับ 1. ต้องใช้ เพราะต้องการความแม่นย้ำในการตัดต่อตัวถัง ต้องการความละเอียดเพราะเครื่อง jig มีสเกลวัด และคุมบาลานซ์ของการตัดต่อตัวถังได้ 2. ไม่ต้องใช้ก็ได้ เพราะ ตัวถังมันมีมาร์คมาให้แล้วเป็นจุดๆ (คล้ายสามเหลี่ยมเว้าเข้าไป ลองเลิกยางขอบประตูดู จะเห็นมาร์คนี้เป็นระยะๆ) แค่ประกอบให้ตรงมาร์คก็โอเคแล้ว เครื่อง jig ส่วนใหญ่ใช้กับรถที่ถูกชนมาเพื่อดึงตัวถังกลับ ถ้ารถไม่ได้ชนมา ไม่ต้องใช้ก็ได้ รบกวนเซียนๆให้ความกระจ่างด้วยครับ
เป็นความเห็นนะ - ถ้าไม่มีเครื่องดึงตัวถัง หรืออุปกรณ์อื่น ที่เอาไว้วัดหรืออ้างอิง (ตัวนี้ ผมก็เรียกชื่อไม่ถูกเหมือนกัน เป็นเหล็กติดอยู่กับพื้น ในรูปแบบต่างๆ และนำรถไปทำบนนั้น สามารถใช้วัดและอ้างอิงได้แม่นยำ) เป็นผม ผมไม่กล้าเสี่ยง โดยเฉพาะหากได้รถชนมาไม่ว่าหนักเบายิ่งไม่กล้า - ตัวผมเองไม่รู้ว่าที่รถมีมาร์กรึป่าว แต่ถ้าการเอารถสองคันมาต่อกัน สมมติว่าแต่ละคันผ่านการใช้งานมาแล้วระดับหนึ่ง มันอาจจะมีการบิดตัวไปบ้าง ดังนั้น ผมว่า เมื่อเอามาทำ มันย่อมจะไม่พอดี 100% หรืออาจจะแล้วแต่ดวง ถ้ามีเจ้าเครื่องจิ๊ก หรืออุปกรณ์ที่ผมว่าตามข้อแรก น่าจะทำให้อย่างน้อยก็มั่นใจได้ เป็นความเห็นนะครับ บางอู่ ไม่มีเครื่องมืออะไรเลย อาจทำได้เหนือกว่าคนที่มีอุปกรณ์ครบก็ได้ เพียงแต่ผมยังไม่ได้ลองสักทีครับ
ตามที่อาจารย์โอว่าครับ บางอู่มีความเชี่ยวชาญและมีเครื่องมือในระดับที่ประกอบรถโดยที่ไม่ต้องพึ่งพาjigแล้วออกมาดีมากก็มีครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอู่ที่มีjigต้องใช้เป็นด้วยนะครับ ที่เห็นส่วนใหญ่ใช้ไม่เป็นเอาไว้แค่ยึดตัวถังแล้วเคาะๆดึงๆบนแท่นแค่นั้นเอง
พวกรถที่ประกอบมา แล้วเวลาเข้าโค้งแรงๆ หรือ ออกตัวแรงๆแล้วรถลั่นตรงนั้น ตรงนี้ ก็เพราะ ตัวถังไม่ได้ระนาบของมันนี้แหละ ปัญหาอยู่ที่ว่า เราจะมีวิธีทำอย่างไรให้ตัวถังได้ระนาบ และ ได้ช่างที่มีฝีมือและประสบการณ์จัดการให้ ช่างที่มีฝีมือ จะรู้ว่าจะเลาะ อย่างไรให้ตัวถังช้ำน้อยที่สุดครับ เลาะน้อยที่สุด เพราะเหล็ก โดนแก๊สเป่า อย่างไรความแข็งแรงต้องลดลงไปมาก ไม่ว่าจะเป่าเพื่อเลาะหรือเป่าเพื่อเชื่อม สมัยก่อนมีรถอีโว5 เพื่อนผมแปลงมาจากอู่แถวพุทธมณฑล ตัวถังฉีกแพท้ายหลุด ตอนซัดกลับ ตจว. 140 กว่าๆ ลองคิดดูครับว่าเกิดอะไรขึ้น
แล้วหยั่งงี้เวลาไปดูตามอู่เนี่ย............จะสามารถเอาตรงไหนเป็นจุดสังเกตได้บ้างครับ ว่าฝีมือเขาระดับไหน เช่น ดูเครื่องมือที่มี หรือไม่ก็ดูรถที่กำลังทำอยู่หน่ะครับ ถ้าเป็นอย่างหลังนี่ดูยากไหมครับ ถ้าเป็นรถสำเร็จแล้วเข้าใจว่าดูยาก แต่ถ้าดูงานระหว่างประกอบนี่หละ.....ต้องดูจุดไหนเป็นพิเศษครับ
อย่างแรก ดูชื่อเสียงของอู่ซะก่อนเลยดีกว่าครับว่าดีไม่ดีอย่างไรแล้วนำมาพิจารณาตัดออกซะก่อน หรือจะถามพวกที่ทำมาแล้วก็น่าจะดีกว่า ส่วนวิธีการทำโดยอาศัยการดู ผมว่าดูยาก แถมให้ตอบ ก็ยาก ผมว่าทางที่ดี ถามโดยตรงกับเจ้าตัว หรือถามโดยไม่ผ่านบอร์ด จะได้คำตอบที่ตรงประเด็น และเข้าใจง่ายกว่าครับ ถ้าไม่รีบมาก จะรอถามใน meeting เดือนตุลาคม ก็ได้ครับ
เรื่องงานตัวถัง ถ้าเก็บงานสีมาแล้ว มันมองไม่เห็น ตอบได้ยากมากครับ นอกจากยกรถขึ้นแล้วสำรวจรายละเอียดต่างๆ อย่างงานอู่บางที่ที่แย่มากจริงๆ ตามตะเข็บรอยเชื่อมเละมากครับ อีกจุดที่ดูได้เลย คือตรงเลาะพื้นหลัง บริเวณห้องเก็บยางอะไหล่ ขอเค้าเปิดพรหมท้ายรถ รื้อดูเลยครับ ตรงนี้ส่วนมาก เท่าที่ดูจะเห็นชัดครับ ว่างานผ่านหรือไม่ผ่าน ความจริงถ้าอยากรู้ว่างานตัดต่อตัวถังสภาพดีหรือไม่ แนะนำ ลอกพรหมตั้งแต่เบาะหลังไปยังห้องท้าย ออกดูครับ ส่วนมากเจอครับ แต่บางอู่ ก็เก็บงานมาไม่ให้ลูกค้าเจอ ต้องลองขับแบบดุดันหน่อย รถมันจะออกอาการให้เห็นเองครับ แต่ส่วนมากสำคัญคือ พวกเต๊นท์มันไม่ยอมให้ลองขับแรงน่ะซิครับ ยกเว้นมีอยู่เคสหนึ่ง รถสวยมาก แต่เต๊นท์ไม่ยอมบอกว่าทำมาจากอู่ไหน ผมให้คนซื้อเอาเงินสดวางมัดจำไว้ที่เต๊นท์ 1 ล้านบาท แล้วก็ซัดขึ้นด่วนประชานุกูลไปลองกันเลยครับ แบบนี้คงพอได้ครับ 5555.... ตอบเรื่องอู่นี้โลกแตกครับ ต้องดูอู่ว่าอู่ส่งงานต่อไปให้ช่างชุดไหนทำ ถ้าช่างชุดที่ทำปราณีตมีฝีมือ เคยทำกันประจำก็จบ ให้ขณะที่อู่เดียวกันส่งไปให้ช่างอีกชุดทำ ถึงจะอู่เดียวกัน แต่งานออกมาไม่เหมือนกันก็มีเยอะครับ หรือช่างชุดเดิมแต่จัดอะไหล่ไม่สวยไป ก็ต้องแก้งานก็อาจจะไม่จบ ที่สำคัญคือคนคุมงาน ต้องคุมช่างให้จบงานให้ได้ด้วยครับ ไม่ใช่ว่าช่างขี้เกียจบอกเจ้าของอู่ว่ารถตัวถังไม่ได้ ก็แก้งานไปโดยไม่ถามคนคุมงาน อาจจะมาเจอปัญหาทีหลังครับ ส่วนเรื่องอู่ เอาเป็นว่า ตามที่พี่โอว่าเลยครับ อู่ไหนที่ได้รับความเชื่อถือ และนักเลงเล่นอีโวยอมรับกันมาก มาเป็นระยะเวลานาน อู่นั้นยอมจบกว่าแน่นอนครับ แต่ราคาค่าประกันผลงานก็อาจจะสูงกว่า ตามคุณภาพเช่นกันครับ ยกตัวอย่าง ขอเป็นอู่ที่สนิทกันกับผมหน่อย เช่นอย่างที่ Mitsusport ส่วนมากงานแปลงแท้พี่ตุ๋ยจะเน้น ซื้ออีโวที่ตัดมาสภาพสวยๆครบๆ ไม่มีชน ของที่ใช้ควรจะเป็นของดีที่สุดเท่าที่เจ้าของจะมีกำลัง ราคาจึงแพงกว่ามาก แต่ประกันงานได้ว่าจะจบ เพราะไม่ต้องดัดแปลงมากในเรื่องงานตัวถัง จึงประกันได้ว่าโอกาสจบแบบเนียบๆมีสูงกว่า เคส นี้ ผมขออนุญาติยกตัวอย่าง งานประกอบอีโว3 ใหม่ของคุณประทีป ซึ่งเดิมประทีปมี อีโว3แท้อยู่แล้วคันหนึ่ง แต่สภาพรถผ่านการใช้งานมาพอสมควร ในเคสนี้คนทั่วไปมักคิดว่ารถแท้ตัวถังย่อมดีกว่า แต่ผมว่ามันขึ้นอยู่กับสภาพและเจ้าของเดิมว่าดูแลมากน้อยขนาดไหนมากกว่าครับ ถ้าไปเจอรถแท้แต่เป็นรถแรลลี่เก่ามาก็ไม่ไหวเลยครับ คร่าวนี้พอพี่ช้างปล่อยอีโว3ของแกที่กำลังประกอบใหม่อยู่ที่ Mitsusport แต่ราคาแพงกว่าคันที่ประทีปมีอยู่ค่อนข้างมาก รถประกอบนานมาก 4เดือนได้มั้ง และใช้เงินมากพอดู แต่งานจบออกมาแบบขับแล้วเป็นรถคนเรื่องละกันเลย ทั้งๆที่อีโว3เหมือนกันทั้ง2คัน ประทีปก็ขับใช้งานอยู่แล้ว แต่พอมาเจอคันนี้มันเนียบกว่า Feeling เด็ดขาดกว่าเยอะครับ เห็นเมื่อวันอาทิตย์โทรมาคุยกับผมใหญ่ 555.. ของแบบนี้ ต้องได้ลองขับเองเจอเองครับแล้วจะรู้ว่ามันแตกต่างกันขนาดไหน เมื่อก่อนผมกับประทีปก็เล่นมิตซูด้วยกันมานานมาก หลายคนก็คิดว่าอีโวแปลงที่ไหนก็ไม่น่าจะแตกต่าง จะซื้อแพงกว่าทำไม อันนี้ผมไม่รู้ว่าจะตอบยังงัยเหมือนกัน ตอบได้แต่ว่าความรู้สึกมันไม่ประทับใจก็เท่านั้น ถึงตอนนี้อย่างประทีปคงเข้าใจความแตกต่าง ที่เราเคยคุยกันมาหลายปีแล้วใช่มั้ยครับ ว่ามันคนละเรื่องกันเลย 555... Feeling อีโวก็คือ อีโว วันยันค่ำครับ มันถึงเป็นเจตนารมณ์ของน้องๆที่ร่วมกันก่อตั้ง Evolution Thailand มาโดยเฉพาะครับ เพราะมันไม่ใช่Lancerเอามาแต่ง อย่างที่นักเลงรถทั่วไปเค้ารู้จักกันดอกครับ มันคนละเรื่องกันเลยครับ มันเป็นแบบนั้นจริงๆครับ เรื่องความรู้สึก นักเลงอีโวที่ขับอีโวมาหลายๆคัน หลายๆอู่จะบอกได้ว่าชอบหรือไม่ ซึ่งมันเป็นประสบการณ์ที่ยากที่จะถ่ายทอดให้ คนที่ไม่เคยกับอีโวดีๆสมบูรณ์ให้เข้าใจ ถึงความประทับใจในอีโวได้เลยครับ เพราะส่วนมากถ้าไม่เคยขับก็บอกไม่ได้หรอกครับ ว่ามันดีหรือไม่ดี บอกได้แค่ว่ามันหน้าตาสวยไม่สวยเท่านั้น ถ้าได้ขับอีโวที่สมบูรณ์มีฟิลลิ่งรถที่ยอดเยี่ยมสมบูรณ์ๆ ก็โยนกุญแจรถคันอื่นทิ้งไปได้เลย เหมือนแม่ผมแหละครับ สมัยผมซื้ออีโวเข้าบ้านใหม่ๆ แม่ถามว่าซื้อมาทำไมทั้ง2 คัน พอแม่ได้นั่งอีโวออก ตจว. ตอนนี้แกไม่ยอมกลับไปนั่งรถกะบะอีกเลย แกบอกนั่งอีโวสบายใจ ปลอดภัยกว่าเยอะ คนมองเยอะด้วย 555.. แต่ถ้างานบางอู่ที่ ซื้อซากรถมาจากหลายๆแหล่ง แล้วมาประกอบเป็นลำใหม่ให้ลูกค้า ย่อมมีราคาถูกกว่า แต่ต้องดัดแปลงแก้ไขงานตัวถังมากกว่าเป็นธรรมดาครับ ถ้าแก้ไขสมบูรณ์ครบทุกจุด งานก็เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยได้เช่นกันครับ แต่ถ้าแก้ไขไม่ครบทุกจุด เครื่องมือไม่ได้มาตราฐาน หรือได้มาตราฐานแต่ช่างใช้ไม่เป็น ก็ไม่จบได้เช่นกันครับ ไม่ใช่ว่าอู่อื่นๆจะไม่จบนะครับ จบมาสวยๆเยอะก็มากครับ แต่นักเลงที่เล่นอีโว ส่วนมากเวลาเราซื้ออีโวกันจะมี 3 เคส 1.สั่งประกอบใหม่ทั้งลำ โดยเลือกอู่ เลือกช่าง เลือกของเอง คุมงานเอง เช่นรถเจ้าต่อที่ออกมาสวยงามทุกคัน เพราะคุมงานประกอบและส่งอู่เอง 2. ซื้อรถที่แปลงแท้ แล้วครบๆ โดยสามารถสอบประวัติได้ว่า ประกอบมาจากอู่ที่เชือถือในฝีมือได้ 3. ซื้อรถต่อจากนักเลงอีโว ในวงการด้วยกัน ต่อครับ (นักเลงเล่นอีโว ส่วนตัวผม หมายถึงคนที่ขับอีโวมาหลายคัน เคยขับอีโวที่ประกอบมาหลายอู่ คือขับแบบจริงๆจังๆนะครับ คนพวกนี้จะสามารถสัมผัส และ รู้สึกได้ ถึงสมรรถนะของรถและความแตกต่างครับ มีอยู่ไม่กี่คนหรอกครับ ที่บ้ากันเข้าขั้นขนาดนี้ 555.. อย่างผม 1-7 ผมชำนาญครับ แต่ถ้า 8-9 ผมไม่ชำนาญเท่าไรครับ อันนี้ต้องยกให้พี่โอKittoด้านบน แกเป็นกูรู ส่วน10ผมเคยครั้งเดียวครับ) ส่วนอู่อันแรกที่ถามมาใน PM. อันนี้ต้องตอบว่าตอบไม่ได้เลยครับ เพราะมีรถหลายOption หลายสภาพประกอบไปจากที่นี้เยอะมากครับ บางLotสวยมาก บางล็อตสวยน้อยหรือไม่ครบก็มีครับ จุดสำคัญในการซื้อรถของที่นี่คือดูเรื่องสภาพ ราคา และการบำรุงรักษาจากเจ้าของเก่าครับ ว่าประวัติมีอะไรบกพร่องบ้าง ถ้าไม่มากต้องมาทำต่อก็ลองคำนวณว่าคุ้มที่จะต้องจ่ายหรือไม่ เท่านั้นครับ ส่วนงานตัวถังที่นี่ส่วนมากที่เคยเห็นถือว่าผ่านและสวยทีเดียวครับ แต่เรื่องเครื่องถ้าเซอร์วิสที่นี้ราคาจะค่อนข้างพอสมควร ทำให้เจ้าของรถไม่ค่อยดูแลและเข้าไปใช้บริการครับ แต่ถ้าเจ้าของรถดูแลตามปกติคงไม่มีปัญหาอะไร ส่วนอู่สอง ก็มีชื่อเสียงเรื่องงานตัวถังรถอีโวมากนาน งานเนียบและสวยมาก เรื่องJIGถ้าไม่ได้ขึ้นเครื่อง แต่ถ้าได้ช่างมีฝีมือเลาะตะเข็บเป็น เลาะจุดเป็น ประกอบเป็น เชื่อมเป็นก็ผ่านครับ แต่ประเด็นอยู่ที่ สภาพตัวถังของรถเดิม กับ ตัวถังอีโวคันใหม่ ที่เอามาประกอบกัน ต้องสดมากครับ วิธีนี้ถึงจะได้ผลสมบูรณ์ เพราะถ้ารถเก่าเคยชนหรือตัวถังไม่ตรง มาประกอบกับตัวถังอีโวที่สดๆ ยังงัยก้ต้องขึ้นเครื่องJIGครับ วิธีที่ใช้แต่ฝีมืออย่างเดียวโดยไม่วัดอาจจะไม่ได้ผลครับ เรื่องเครื่องJIG ผมว่าขึ้นอยู่กับความชำนาญของช่างมากกว่าครับ อย่างช่างตัวถังทำรถแรลลี่ ที่อู่เก่ง service ที่ทำSUBARU ช่างคนนั้นเก่งมากครับ แกมีวิธีวัดโดยใช้ระดับน้ำของแก โดยไม่ต้องพึ่งเครื่องJIG สามารถจบงานออกมาได้สมบูรณ์ แต่งานเชื่อมตะเข็บไม่ค่อยสวยเท่าไร เทียบกับบางอู่ที่มีเครื่องJIGแต่ใช้ไม่เป็น ผมว่าช่างคนนี้น่าจะดูดีกว่าครับ ค่าตัวแกวันละ 3500 บาท 555... กว่าจะจบงานค่าตัวแกอาจะแพงจนเอารถขึ้นJIGได้หลายตลบครับ ผมว่าใจเย็นๆ กำเงินไว้ก่อน แล้วมาดูรถเพื่อนๆในวันมีทติ้งก่อนดีกว่าครับ หาข้อมูลก่อนเถอะครับ เงินเป็นล้านหายาก ไหนๆจะจ่ายแล้ว ถ้าจะแพงกว่าอีกไม่กี่แสนก็คุ้มกว่า อย่างที่ผมบอกด้านบนครับ ไม่อยากจะบอกเลยว่ารถที่ประกอบมาจากบางอู่ เวลาจอดเทียบกัน ก็ดูออกครับว่าประกอบมาจากที่ไหน 555.. อันนี้เรื่องจริงครับ ซื้อรถมาก่อน แล้วมาจอดประกบกับรถเพื่อนๆที่ประกอบมาจากอู่สวยๆ ในตอนมีทติ้งทีหลัง แล้วจะเศร้าครับ 555.. เพราะมันเห็นความแตกต่างกันเยอะมากจริงๆครับ อีกอย่างอีโวซื้อมาต้องทำใจนะครับ เพราะรถมันสมรรถนะสูง การสึกหล่อย่อมสูงตาม ซื้อมาก็ต้องมาตามเก็บกันอีกพักใหญ่ เหนื่อยกันทุกคน ถามน้องๆใหม่ๆในบอร์ดได้ กว่าจะตามเก็บกันจนจบก็เหนื่อยมากครับ พอจบแล้ว ก็ไม่อยากจะขายกัน เพราะกว่าจะทำจบมันเหนื่อยเก็บไว้ใช้ดีกว่า รถที่ซื้อตามเต๊นท์ส่วนมากจึงเป็นรถที่เจ้าของไม่ค่อยดูแล หรือดูแลไม่ไหวนั่นเองครับ จึงต้องมาเก็บกันต่อเป็นปกติ ถ้ารถสวยๆครบๆจบๆ ส่วนมากจะเจ้าของขายเองและขายแพงหน่อย เพราะหมดไปเยอะ 555.. อันนี้ต้องทำใจก่อนนะครับ
เพิ่มจากพี่โอ๋ครับ การทำไม่ได้อยู่ที่ว่าอู่ใหนมีเครื่อง jig หรือไม่มีครับเดี๋ยวจะหลงประเด็นว่าอู่ดีๆไม่มี jig กลายเป็นไม่ดี อยู่ที่ความชำนาญของช่างที่ให้ความละเอียดและพิถีพิถันในการสร้าง อุปกรณ์พิเศษที่ช่างทำขึ้นมาโดยเฉพาะนั่นก็อาจจะเพียงพอต่อการสร้างรถครับ และการทำรถไม่ได้มีเพียงแต่ตัวถังเท่านั้นแต่ยังมีส่วนอื่นที่ควรให้ความสำคัญมากด้วยเช่น เครื่องยนต์ ช่วงล่าง ระบบไฟฟ้าต่างๆถูกต้องไม่มีการตัดต่อสายไฟ ตัดส่วนใดส่วนหนึ่งออกไป หรือชิ้นส่วนใดส่วนหนึ่งขาดหายไปแม้แต่กิ๊บพลาสติกเล็กๆที่ใช้ในการยึดชิ้นส่วน ต้องครบถ้วนเหมือนออกจากโรงงาน ยิ่งช่างที่ชำนาญประกอบรถผ่านมือมาเยอะ น๊อตตัวไหนต้องอยู่ตรงไหนเค้าจะรู้หมดครับไม่มีมั่ว ไม่เอาชิ้นส่วนของรุ่นอื่นมาสลับสับเปลี่ยนดัดแปลง แต่บางทีรถสองคันทำออกมาจากอู่เดียวกัน คันนึงสวยอีกคันเกือบสวยก็มีครับ มันขึ้นอยู่กับช่างและความสนิทสนมเลยครับ ส่วนใหญ่ช่างค่อนข้างศิลปินมากๆทำตามอารมณ์ฝนฟ้าหรือถ้ามีของฝากติดมือไปให้ช่างบ่อยๆ รถก็จะสวยครับออกจากอู่แทบไม่ต้องเก็บให้เหนื่อยมากครับ ขอตบมือให้"ช่างฝีมือ"ทุกคนที่ทำให้เราได้ขับอีโวสวยๆดีๆกันครับ อิอิอิ
ขอบคุณกูรูทุกท่านสำหรับคำแนะนำครับ เด๋ววันมีตติ้งจะขอแอบไปดูเคส อีโวหลายๆคันเลยครับ ............ ขับซูบารุไปคงไม่เคืองกันนะคร้าบบบ แหะ แหะ ปล. ว่าแต่ใน Evolution Thailand นี่มี GTA กี่คันคร้าบบบ .
ผมว่าถ้าจะซื้อ 7GT-A ต้องทำใจก่อนนะครับ ว่าเกียร์มันอาจจะไม่ทนเท้าซักเท่าไร ถ้าขับแบบรู้ลิมิตของรถ ก็ใช้งานได้ไม่มีปัญหาครับ
ซื้อรถมาก่อน แล้วมาจอดประกบกับรถเพื่อนๆที่ประกอบมาจากอู่สวยๆ ในตอนมีทติ้งทีหลัง แล้วจะเศร้าครับ 555.. ตามที่ท่านประธานว่าไว้เลยครับ ใจเย็นๆ ซื้อมาก่อน อาจทำใจไม่ได้ เพราะยังไม่เคยเห็นว่าเน๊ยบสุด หน้าตาเป็นอย่างไร
โวสามของผมน่าจะคัซซีเบี้ยวนะ เวลาเสี้ยวล้อสีกับซุ้มข้างเดียว ล้อก็โผล่ออกจากซุ้มไม่เท่ากัน มีอู่ดึงตัวถัง (เครื่อง JIC ใช่เปล่า) ที่ใหนบ้างและราคาเท่าไรครับ + อ้างถึง ตอบกลับ