สอบถามเรื่องเครื่องเสียงรถกับการกินน้ำมัน

คือว่าสงสัยว่าเมื่อเราติดเครื่องเสียงลงไปในรถแล้ว รถจะกินน้ำมันเพิ่มไหมครับ

ผมจะติดpower2ตัว ซับ10นิ้ว 1ดอก capa 1ตัว จะกินเพิ่มไหมครับ

เพื่อนๆ ที่ติดเครื่องเสียงกัน เคยลองจับดูไหมครับ

 

คงไม่ถึงกับต้องมากังวลเรื่องนี้กันหรอก ครับ ... คงมีผลนิดหน่อยไม่มาก เท่ากับผลทางเสียงที่ได้มากกว่าของชุดเดิมๆ ติดรถนะครับ
อย่าคิดมาก

 

รถน้ำหนักเพิ่มขึ้น อึดขึ้ดเลยคิดว่ากินน้ำมันครับ แน่นอนเลย แต่ได้อย่างเสียอย่างครับ

 

ถ้าไม่นับเรื่องน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นละครับ เกี่ยวแต่เรื่องไฟที่ดึงมา จะทำให้กินไหมครับ เคยอ่านเจอเค้าบอกว่า อุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดในรถทำให้กินน้ำมัน ขอบคุรครับ

 

ขออนุญาติออกตัวก่อนนะครับ ผมไม่ใช่เซียนเครื่องเสียง เป็นแค่นักเล่นที่พอมีประสบการณ์บ้าง จึงขอตอบ

จากประสบการณ์และความรู้แบบผิวเผินที่พอมีอยู่ครับ

สำหรับเรื่องการกินน้ำมันอย่างที่หลายๆท่านตอบครับ ว่าน้ำหนักเพิ่ม ภาระมากขึ้น ก้อทานน้ำมันขึ้นเป็น

ธรรมดา เป็นเรื่องของความพอใจครับ ต้องแลกเอาระหว่างสมรรถนะที่เสียไปในด้านความประหยัดและ

อัตราเร่ง แลกกับความไพเราะของเสียงเพลง/ความดังฯลฯ


สำหรับเรื่องระบบไฟก่อนอื่นต้องถามก่อนครับว่าระบบเครื่องเสียงที่ใส่ไปใหญ่แค่ไหน เป็นอย่างไร มีความ

จำเป็นไม๊ที่จะต้องทำระบบไฟเพิ่มเติม ท่านใส่ใจในรายละเอียดเสียงขนาดไหน ฯลฯ

แต่จากที่อ่นดูท่านเจ้าของกระทู้ข้องใจในเรื่องของระบบไฟ ซึ่งถ้ากล่าวถึงระบบเครื่องเสียงอย่างเดียว ถ้า

อยากจะให้เสียงออกมาดีไม่ว่าจะในแนว SQ หรือ SPL ก้อตาม เป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจและมีการปรับปรุง

ครับ ลำพังระบบไฟติดรถเดิมๆ ที่ต้องรับภาระทั้งจากแอร์ ไฟหน้า ที่ปัดน่ำฝน กระจกไฟฟ้า ฯลฯ ไม่

สามารถทำให้เครื่องเสียงแสดงประสิทธิภาพออกมาได้เต็มที่ครับ ซึ่งยิ่งถ้ามีพาวเวอร์แอมป์และอุปกรณ์

ส่วนควบมากเท่าไหร่ ยิ่งจำเป็นมากเท่านั้น แม้แต่ไฮพาวเวอร์ถ้าทำไฟดีๆก้อยังเห็นผลในแง่ของความนิ่ง

และ

คุณภาพเสียงโดยรวม นี่ยังไม่รวมถึงความดังที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากไฟดีขึ้นกำลังขับจะมากขึ้นตาม สังเกตุ

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือพาวเวอร์แอมป์ดีๆส่วนมากจะระบุกำลังขับ ว่ามีกำลังกี่วัตต์ที่โหลดเท่าไหร่ และไฟ

กี่โวลต์ ยิ่งโวลต์เพิ่มกำลังขับก้อเพิ่มตาม อุปกรณ์ชิ้นอื่นก้อเช่นกัน ส่วนวิธีในการปรับปรุงระบบไฟ ผมขอ

สรุปย่อๆครับเพราะถ้าคุยกันเรื่องนี้เป็นเดือนๆก้อคุยกันไม่จบ เพราะมีหลายวิธี หลายแนวทาง

อย่างแรกที่แนะนำไม่ว่ารถท่านจะทำเครื่องเสียงหรือไม่ก้อตามคือ ลองดูที่สายไฟจากไดร์ชาร์จไปเข้า

แบตเตอรี่ครับ ขยายให้ใหญ่ที่สุดเท่าที่จะใหญ่ได้ ถ้ามีเกจ์วัด

โวลต์จะเห็นความแตกต่างทันที โวลต์เพิ่มประมาณ 1 ครับ และอย่าลืมในเรื่องของสายกราวน์

สายแบตใหญ่เท่าไหร่สายกราวน์ก้อ

ควรจะมีพื้นที่หน้าตัดเท่าๆกันครับ และที่สำคัญต้องลงให้ถึงตัวถังจริงๆ วิธีนี้ใช้เงินน้อยและเงินผลมาก

ครับ แต่ก้อเพียงซัพพอร์ตระบบเล็กๆ เท่านั้น หากแบตเตอรี่เล็กๆเดิมๆ ไดร์ชาร์จกำลังต่ำ ซึ่งเบื้องลึกต้อง

สอบถามผู้รู้ครับว่าระบบที่คุณใส่ต้องการใช้ไฟเท่าไหร่และต้องทำอะไรเพิ่มเพื่อให้ระบบเครื่องเสียงของ

ท่านแสดงประสิทธิภาพออกมาได้เต็มที่ แต่วิธีนี้ก้อนับเป็นพื้นฐานขั้นแรกของการปรับปรุงระบบไฟครับ

อย่างต่อมาก้อเป็นพวกเรื่องการเปลี่ยนแบตที่สำรองไฟได้มากขึ้นการเพิ่มคาปาซิเตอร์ การเปลี่ยนไดร์ชาร์จ

หรือเพิ่มไดร์ชาร์จ

ฯลฯ ซึ่งจะต้องเริ่มใช้เงินมากขึ้น แต่หลีกเลี่ยงไม่ได้ครับ ถ้าระบบเครื่องเสียงของคุณต้องการ


ก้อคงจะพอแค่นี้ครับสำหรับระบบไฟเครื่องเสียง แต่ไม่ใช่แค่ไฟดีแล้วจะจบนะครับ สำคัญที่การเลือก

อุปกรณ์ทั้งระบบตั้งแต่ฟร้อนท์ ไปจนถึงลำโพง สายต่างๆ การติดตั้ง และการจูนอีก ทุกอย่างต้องดีเสริม

กันครับ หากอยากให้เครื่องเสียงเรือนหมื่นเรือนแสนได้ราคาหมื่นแสน ไม่ใช่ราคาพัน




มาเข้าประเด็นหลักครับที่ท่านเจ้าของกระทู้ข้องใจ คือกลัวว่าจะไปกวนการทำงานของอุปกรณืต่างๆในระบบ บอกได้เลยว่า ถ้าเครื่องเสียงท่านใช้กระแสไฟมากและไม่มีกระแสไฟป้อนให้พอกวนแน่นอน ยกตัวอย่างจากรถที่เปิดเพลงดังๆแล้วหน้าปัดไฟกะพริบ เพื่อนๆคงเคยเห็นกันทุกคน ดังนั้นอย่างที่เรียนตอนแรกครับต้องยอมแรก แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะปล่อยเฉย มันมีวิธีแก้ ก้อคือวกกลับไปที่อธิบายมาเรื่องการปรับปรุงระบบไฟครับ เพื่อให้สามารถซัพพอร์ตความต้องการของทั้งอุปกรณ์ในรถและเครื่องเสียงรถยนต์ของท่านได้