ขอคำแนะนำ การขับรถ ขึ้นเขา - ลงเขา สำหรับเกียร์ Auto หน่อยครับ จะได้ปลอดภัย ทั้งรถ ทั้งคน ตอนขั้นไม่เท่าไร แต่ตอนลงมันเสียว
ถ้าลงเขาชันมากๆ จะใช้เอนจิ้นเบรค ได้โดยดึงคันเกียร์ลงมาในตำแหน่งล่างสุด คือ L หรือบางรุ่น 1 รถจะวิ่งแค่เกียร์ 1 อย่างเดียวครับ
เท่าที่ใช้นะคะ ถ้าไม่ชันมากก็ลงด้วย L2 แต่ถ้าชันก็ ลง L1 คะแต่แตะเบรคช่วยเป็นระยะๆคะ เพราะเสียงเครื่องจะได้ไม่ดังมานักคะ
ขับขี่ปลอดภัย ตอน เทคนิคขับรถขึ้น-ลงภูเขา สำหรับเกียร์ออโต้ สำหรับคนที่ชอบเที่ยวต่างจังหวัด ไปภูเขา น้ำตก โดยการขับรถไปเองวันนี้ผมมีเทคนิคการขับรถขึ้น-ลงเขาอย่างปลอดภัยมาฝากครับ คนกรุงเทพฯ รถเกีียร์ออโต้ คงเป็นที่นิยมมากที่สุด เพราะให้ความสะดวกสบายในการขับขี่ โดยไม่ต้องสนใจกับการเข้าเกียร์เลย แต่พอเราจะเอารถเกียร์ออโต้คันเก่งไปเที่ยวภูเขา น้ำตก ซึ่งไม่ใช่ที่ราบ เราจำเป็นต้องเรียนรู้ถึงวิธีการขับรถอย่างถูกวิธีเพื่อความปลอดภัยของตัวเองเองและเพื่อนร่วมทางกันครับ การขับรถขึ้นภูเขา อันนี้ผมแนะนำว่าให้ใช้เกียร์ D จะดีที่สุด เนื่องจากเกียร์ออโต้จะสามารถทดเกียร์ต่ำลงได้เองโดยอัตโนมัติเมื่อเครื่องยนต์ขาดแรงในการส่งขึ้น เกียร์ออโต้จะคอยเปลี่ยนเกียร์ให้ตลอด การใช้เกียร์ที่ไม่เหมาะสมจะทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักเกินไป ถ้ารู้สึกว่ารถยังเคลื่อนที่ช้าก็ให้เหยียบคันเร่งเพิ่มจากปกติ พยายามสังเกตรอบเครื่องยนต์ไม่ให้เกิน 4,000 รอบ/นาที การขับรถลงภูเขา การขับรถลงจากเขาจะมีแรงโน้มถ่วงคอยฉุดรถให้ลงจากเขา วิธีที่ดีที่สุดในการขับรถลงเขาคือใช้เกียร์ต่ำเข้าช่วย ส่วนมากจะใช้เพียงเกียร์ 1 และเกียร์ 2 ในการลงเขาเท่านั้น ในขณะที่เราใช้เกียร์ต่ำเครื่องยนต์จะมีกำลังมาก เครื่องยนต์จะช่วยต้านไม่ให้รถไม่ให้รถลงจากเขาเร็วไป หรือที่เรียกว่า Engine Brake ถ้าความเร็วรถยังไม่อยู่ในความเร็วที่ปลอดภัยให้ใช้เบรคย้ำเป็นระยะๆ ไม่ควรเหยียบเบรคแช่เป็นเวลานาน เพราะจะทำให้เบรคเกิดความร้อน และจะเบรคไม่อยู่ในที่สุด ถ้าทางลงเขายาว แล้วจำเป็นต้องเหยียบเบรคตลอด อาจเป็นเพราะคันหน้าขับช้า ให้หาที่จอดรถริมทางพักรถเป็นระยะๆ เพื่อลดความร้อนที่สะสมในระบบเบรค และห้ามใช้น้ำราดเข้าไปที่จานเบรคในขณะที่ยังร้อนอยู่ จะทำให้จานเบรคคด เสียหายได้ ในการเข้าโค้งที่เป็นเนินขึ้นหรือลง เราอาจจะมองไม่เห็นรถที่วิ่งสวนมา ให้เบรคชะลอรถก่อนเข้าโค้ง เมื่อใกล้จะหลุดโค้งแล้วให้เหยียบคันเร่งส่งจะช่วยให้บังคับรถได้ง่ายขึ้น ในการเข้าโค้ง ให้บังคับรถให้อยู่ในเลนส์ฝั่งเรา และระวังรถฝั่งตรงข้ามที่อาจแซงในทางโค้งมาที่เลนส์เราด้วย การขับรถลงเขาห้ามปล่อยเกียร์ว่างลงเขาโดยเด็ดขาด เพราะจะไม่มีเครื่องยนต์ช่วยในการควบคุมความเร็ว และยังอาจสร้างความเสียหายให้กับระบบเกียร์ออโต้ได้อีกด้วย ตอนสมัยขับรถใหม่ๆ ผมเองก็เคยเข้าเกียร์ผิดปล่อยเกียร์ว่างลงจากผาเดียวดาย เขาใหญ่ เจอหลุมแล้วหลบไม่ทันตกหลุมเข้าจังๆ โชคดีที่ว่าเป็นล้อขอบ 14 มียางหนา ถ้าเป็นขอบ 15 หรือ ขอบ 17 ยางอาจจะแตก แม๊กดุ้งได้เหมือนกัน ...อิอิ ลอกเขามา เครดิตโดย http://www.folktravel.com
ขอบคุณทุกท่านครับ มีอะไรเพิ่มเติมแนะนำกันได้เลยครับ จะได้เป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ท่านอื่นที่ยังไม่ทราบ
ขาขึ้น ออโต้ไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไรดูความร้อนอย่างเดียว อย่าใจร้อน ค่อยๆ ไล่รอบไปเรื่อยๆ ขาลงเนี่ยสำคัญ ส่วนตัวผม จะค่อยไล่เกียร์ลงมาเรื่อยๆ จาก D ปกติ มา ปิด over drive ก่อน และเบรคช่วยเป็นจังหวะ พยายามอย่าแช่เบรคนาน แต่ถ้ายังไม่อยู่ ค่อยเปลี่ยนจาก D ลงมาเป็น 2 แล้วใช้เบรคช่วยเหมือนเดิม ถ้าไม่อยู่จริงๆ ค่อยลงมาอีก แต่เท่าที่ขับมาก็ยังไม่เคยลงไปถึง L นะถ้าไม่ชันจริง แต่หลักๆ ผมว่าต้องใจเย็นไม่ประมาท ไม่ต้องรีบ ถนนบ้านเราส่วนใหญ่ออกแบบ เปอร์เซ็นลาด ค่อนข้างมาตรฐาน แต่ที่เกิอุบัตเหตุ เป็นเพราะว่าเหยียบส่งตอนลง เพราะคิดว่าไม่น่าจะมีอารัย แต่พอตอนฉุกเฉิน เอาไม่อยู่ดิ ยังไงก็โชคดีนะครับ
ขาขึ้น ออโต้ไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไรดูความร้อนอย่างเดียว อย่าใจร้อน ค่อยๆ ไล่รอบไปเรื่อยๆ ขาลงเนี่ยสำคัญ ส่วนตัวผม จะค่อยไล่เกียร์ลงมาเรื่อยๆ จาก D ปกติ มา ปิด over drive ก่อน และเบรคช่วยเป็นจังหวะ พยายามอย่าแช่เบรคนาน แต่ถ้ายังไม่อยู่ ค่อยเปลี่ยนจาก D ลงมาเป็น 2 แล้วใช้เบรคช่วยเหมือนเดิม ถ้าไม่อยู่จริงๆ ค่อยลงมาอีก แต่เท่าที่ขับมาก็ยังไม่เคยลงไปถึง L นะถ้าไม่ชันจริง แต่หลักๆ ผมว่าต้องใจเย็นไม่ประมาท ไม่ต้องรีบ ถนนบ้านเราส่วนใหญ่ออกแบบ เปอร์เซ็นลาด ค่อนข้างมาตรฐาน แต่ที่เกิอุบัตเหตุ เป็นเพราะว่าเหยียบส่งตอนลง เพราะคิดว่าไม่น่าจะมีอารัย แต่พอตอนฉุกเฉิน เอาไม่อยู่ดิ ยังไงก็โชคดีนะครับ
ใช้เอ็นจิ้นเบรคให้เหมาะกับความเร็วและความชัน ใช้เบรคให้น้อยที่สุด ถ้าจำเป็นให้เบรคย้ำๆ ไม่เบรคแช่ยาวๆ เวลาเข้าโค้งให้มองที่ทางออกโค้งด้วยนะครับ ตีวงกว้างๆจะได้ไม่ต้องหมุนมาลัยมากๆ เวลาเข้าโค้ง ลง-ขึ้นเนิน ไม่ชัวอย่าแซงครับ นี่ครับวิธีของกระโพ้มมมมมมมมม
การขับรถขึ้นเขา พื้นที่ทั่วไปบนเขาค้อ เป็นพื้นที่ราบบนภูเขา สูงกว่าระดับน้ำทะเล 800-1000 เมตร ซึ่งอาจใช้รถยนต์ที่มีกำลังเครื่องยนต์มากกว่า 1500 ซีซี ขึ้นไปก็เพียงพอสำหรับการท่องเที่ยวอย่างสบายๆ แต่สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญบางแห่งที่มีความสูงมากขึ้น โดยเฉพาะ 3 จุดหลัก คือ 1. อนุสรณ์สถานผู้เสียสละเขาค้อ 2.พระตำหนักเขาค้อ และ 3. ภูทับเบิก อาจต้องใช้กำลังของเครื่องยนต์มากขึ้น และต้องการผู้ขับขี่ที่มีความชำนาญพอสมควร จึงควรศึกษาหลักการคร่าวๆ สำหรับการขับรถขึ้น-ลง พื้นที่ลาดชัน เพื่อป้องกันความผิดพลาด และเพื่อเป็นการบำรุงรักษาเครื่องยนต์ของรถท่านเอง หลักการขับรถขึ้นเขาคร่าวๆ ซึ่งเป็นการแนะนำมาจาก คุณ alex_09 พอสรุปได้ดังนี้ครับ * ควรใช้เกียร์ต่ำ ปรับเปลี่ยนเกียร์เมื่อรถเสียกำลังอย่าลากเกียร์จนหมดแรงส่ง ถ้าเป็นเกียร์อัตโนมัติ ให้ใช้เกียร์ 2 ในการขับขึ้นเขาลงเขา และเปลี่ยนไปใช้เกียร์ D บ้าง เมื่อรถอยู่ในทางราบ การขับให้ใช้เกียร์ช่วยตลอดทางเกียร์อัตโนมัติไม่พังง่ายๆ * เมื่อขับลงเขาที่ลาดชันมากและยาวไกล ก่อนเข้าโค้งให้เปลี่ยนเกียร์จากตำแหน่ง D มา 2 ถ้า 2 ยังเอาไม่อยู่ให้เปลี่ยนมา L แต่อย่าเปลี่ยนเกียร์ขณะฝนตกทางลื่นรถจะเสียการทรงตัว การใช้เกียร์แต่ละเกียร์ควรดูสภาพทางเป็นหลักในการพิจารณา ส่วนเกียร์ธรรมดาการทำงานจะง่ายกว่า มีเกียร์ให้เล่น 5 ตำแหน่ง และมีคลัทช์ช่วยในการส่งกำลังไปยังล้อตามที่เราต้องการได้ทุกขณะ แต่เกียร์อัตโนมัติบางรุ่นจะทำงานไม่ได้อย่างที่เราต้องการ เพราะฉะนั้นควรประเมินสภาพทางก่อนใช้เกียร์ดีที่สุด * การขับเข้าโค้งธรรมดาหรือบนภูเขา ควรมองให้ไกลให้ลึกและให้คนนั่งข้างช่วยดูสภาพทางด้วย เมื่อแน่ใจว่าไม่มีรถสวนมาให้ใช้วิธีตัดโค้งวิธีนี้จะช่วยให้รถทรงตัวดี, เข้าโค้งได้เร็ว, รถไม่ใช้กำลังมาก ลูกปืนล้อมไม่ทำงานหนัก, ยางก็ไม่ล้มตัวมาก หน้ายางจะสัมผัสผิวถนนได้มากตามไปด้วย แต่ต้องแน่ใจว่าไม่มีรถสวนมา สมมุติจะเข้าโค้งขวาก่อนเข้าโค้งให้ถอนคันเร่งลง หัดพวงมาลัยไปทางซ้ายนิดหนึ่ง แล้วหักพวงมาลัยมาทางขวาเพื่อทำโค้งให้กว้างขึ้น ใช้พื้นที่ถนนทุกตารางนิ้ว ถ้ารถจะเลี้ยวซ้ายก็ให้เลี้ยวทางขวานิดหนึ่งแล้วเลี้ยวซ้าย การฝึกใหม่จะรู้สึกฝืนความรู้สึกบ้าง ถ้าขับชำนาญแล้วก็จะชินไปเอง * การขับรถโค้งต่อเนื่องรูปตัว S มองให้ไกล มองให้ลึก เมื่อแน่ใจว่าทางว่าง ไม่มีรถสวนมาให้ถอนคันเร่งลง แล้วเสียบตัดโค้งในแนวการขับเป็นเส้นตรงที่สุด ง่ายไหม? ...ครับ แต่การขับรถลักษณะนี้ถ้าไม่แน่ใจเส้นทางข้างหน้าหรือทัศนวิสัยไม่ดีควรขับเข้าทางโค้งธรรมดา อยู่ในทางของเราเอง * การขับรถเข้าโค้งหักศอกขึ้นเขารูปฟันปลา การขับแบบนี้ต้องให้ผู้ช่วยดูรถด้านซ้ายด้วยโดยมองถนนด้านบนก่อนว่าไม่มีรถสวนลงมา กดแตรรถก่อนจะขับขึ้นไป หลักการขับก็เหมือนเข้าโค้งธรรมดา จะเลี้ยวซ้ายก็หักพวงมาลัยไปทางขวาก่อนแล้วหักพวงมาลัยไปทางซ้ายเข้าโค้งเมื่อรถเข้าโค้งล้อหน้าจะเกิดแรงต้าน รถต้องใช้กำลังมาก ทำให้รถรถขับขึ้นได้ช้า ควรคืนพวงมาลัยกลับมาบ้าง และเร่งเครื่อง ทำแบบนี้เป็นจังหวะไปมาจนพ้นโค้ง การขับลงโค้งแบบนี้อย่าใช้ความเร็ว ควรลงช้าๆ ใช้เบรกช่วยชะลอความเร็วแต่อย่าเหยียบแรง ท้ายรถจะปัด ยิ่งหน้าฝนท้ารถจะปัดได้ง่าย ถ้าท้ายรถปัดรถจะเสียการทรงตัว ให้หักพวงมาลัยไปทิศทางท้ายรถ เช่น เลี้ยวซ้ายท้ายรถปัดไปทางขวาก็ให้หักพวงมาลัยไปทางขวา เมื่อรถทรงตัวได้แล้วบังคับให้บังคับรถไปในทิศทางที่ต้องการ ถ้าเอาไม่อยู่ให้เลือกทางภูเขาไว้ก่อน อย่าเลือกทางหน้าผาก็แล้วกัน * การเพิ่มระยะทางการเบรก การเบรกรถกะทันหัน รถเราอาจไปชนรถข้างหน้า ควรเลี้ยวรถดึงพวงมาลัยไปทางไหล่ทาง หรือมีพื้นที่เพื่อเพิ่มระยะทางการเบรก * การขับรถบนภูเขาที่มีทางคดเคี้ยวไปมาเป็นเวลานานๆ เมื่อถึงทางตรงลงเขายาวไกล อย่าขับเร็วเด็ดขาด คนขับส่วนมากจะขับเร็วรถมาก อันตรายมากนะครับทางแบบนี้ น้ำหนักรถ ความเร็ว ระยะทางถ้ามีอะไรเกิดขึ้น เช่น มีรถ, คน, ฯลฯ ขึ้นจากข้างทางหักหลบไม่พ้นแน่ ถึงจะหักหลบได้แต่รถต้องเกิดอะไรแน่นอน ไม่พลิกคว่ำ แหกข้างทางเข้าป่า หรือไม่ก็ชนรถที่วิ่งสวนมา * การขับในทัศนวิสัยไม่ดี ทางโค้งแคบที่มีสันเขาบังสายตา ควรเข้าโค้งแบบธรรมดา ต้องบีบแตรส่งสัญญาณทุกครั้งก่อนจะเข้าโค้งเพื่อป้องกันรถที่วิ่งสวนมา เนื่องจากคนที่ขับรถเจ้าถิ่นบนภูเขาเป็นประจำจะขับรถตัดโค้ง * ทางลูกรังหรือทางที่มีหินลอย ทางแบบนี้ถือได้ว่าเป็นทาง 'ปราบเซียน' กลิ้งกันมาหลายคันครับ การที่ล้อรถลอยตัวขณะวิ่งเข้าโค้งเราไม่สามารถบังคับได้อย่างที่ต้องการ และการที่เราไม่คุ้นเคยกับเส้นทางมาก่อนก็ไม่ควรขับรถด้วยความเร็ว .................................... ข้อควรระวัง * 1.ขณะขับรถขึ้นทางชันหรือขึ้นเขา ควรเร่งความเร็วให้สม่ำเสมอ เพิ่มกำลังเครื่องยนต์อย่างนุ่มนวล แต่อย่าเบิ้ลอย่างรุนแรงนะครับ เพราะนอกจากความเร็วจะไม่เพิ่มขึ้นแล้ว ยังทำให้สิ้นเปลืองน้ำมัน ไปโดยเปล่าประโยชน์ อีกด้วย 2. อย่าใช้เกียร์ว่างในขณะลงเนินชัน หรือลงเขาโดยเด็ดขาด!! เพราะจะทำให้รถไหลลงด้วยความเร็วสูง โดยไม่มีแรงหน่วงของเครื่องยนต์ อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงขึ้นได้ ดังนั้นจึงควรใช้เกียร์ต่ำ และค่อยๆปล่อยรถให้ไหลลงเนินตามรอบเครื่องยนต์ และอย่าลืมควบคุมความเร็วของรถให้สัมพันธ์กับเกียร์ ด้วยนะครับ 3. ควรใช้เกียร์ 1 หรือ เกียร์ 2 ในขณะขับรถขึ้นเขา เพราะถ้าใช้เกียร์ที่สูง อย่างเช่นเกียร์ 3, 4 หรือ 5 จะทำให้เครื่องยนต์ไม่มีกำลังและแรงฉุดมากพอที่จะเคลื่อนที่ขึ้นเนินเขา นอกจากนี้ยังเป็นการผลาญน้ำมันโดยไม่จำเป็นอีกด้วย .................................... www.kaokoe.com
เมื่อก่อนไม่รู้ ลงจากดอยสุเทพ ปล่อยไหลอย่างเดียวเลยตรู มิน่าเกียร์พัง ตอนนี้ก็เลยใช้เกียมัวอยู่เหรอเล็ก555 ---------- Post added at 22:37:25 ---------- Previous post was at 22:37:08 ---------- เมื่อก่อนไม่รู้ ลงจากดอยสุเทพ ปล่อยไหลอย่างเดียวเลยตรู มิน่าเกียร์พัง ตอนนี้ก็เลยใช้เกียมัวอยู่เหรอเล็ก555