ปีเก่าอันแสนหดหู่กำลังจะจากไป แล้วปีใหม่ที่จะดีหรือเปล่าไม่รู้ กำลังจะเข้ามา ที่ผมเรียกปีเก่าว่า ปีอันแสนหดหู่ เพราะมีเรื่องร้าย ๆ หลายเรื่องเกิดขึ้นกับผมในปีที่กำลังจะพ้นผ่าน เงินเดือนไม่ขึ้น โบนัสไม่ได้ ไม่ได้เลื่อนตำแหน่ง ซ่อมรถไปเกือบแสน และคุณยายที่ผมรักก็มาจากผมไป ผมไม่คิดมาก่อนว่าปีนี้ จะมีเรื่องอะไรให้ได้เขียนบทความมาให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกัน จนกระทั่งวันนี้ บ่ายแก่ ๆ ของวันที่ 23/12/2009 ผมได้รับของจากไปรษณีย์ไทย 1 ชิ้น หน้าซองมีตรา Bangkok Airways ติดอยู่ ผมรับของจากพี่ที่ทำงาน แล้วพูดแบบงง ๆ ว่า “อะไรวะพี่” ซึ่งด้วยรูปทรงมัน พอเดาได้ว่า เป็นกระดาษบอกเวลาที่ อพาร์ทเมนต์คุณป้าไม่เคยต้องการ ซึ่งผมไม่เคยเก็บไว้ให้รกโต๊ะทำงานอยู่แล้ว นอกจากปฏิทินเหล่านั้นจะมีรูปสาว ๆ (เอิ๊ก ๆ) แต่ความตะหงิดใจยังคงอยู่ “แกะซะหน่อยวะ” คิดเองว่างั้นนะ แล้วก็เริ่มฉีกห่อด้านนอกมันออก แกะออกมาแล้ว ก็ปฏิทินตั้งโต๊ะธรรมดา ที่มีรูปสาว ๆ + สถานที่ท่องเที่ยว พร้อมเส้นทางการบิน ซึ่งไม่ได้สะกิดต่อมอยากเอามันไว้บนโต๊ะเท่าไหร่ เลยโยนมันลงกล่องขายของเก่าไป (โยนจริง ๆ) แต่โยนไม่เข้ากล่อง (ถ้าอย่างอื่นละเข้าพรวด ๆ) เลยต้องเดินไปหยิบมันขึ้นมาใหม่ แต่สิ่งที่ผมเพิ่งได้เห็น ณ หน้าปกมุมล่างขวาของมันคือ นามบัตรครับ บนนามบัตรใบนั้นระบุชื่อบุคคลท่านนึง ซึ่งผมและเค้า เคยพบกัน 1 ครั้งในคืนที่การจารจรติดขัด เล่าย้อนหลังให้ฟังว่า เย็นวันนึงในปีที่ผ่านมา (นานแล้วล่ะ จำไม่ได้ด้วยว่าเดือนไหน) ผมขับรถไปส่งแฟนที่บ้าน ซ.พร้อมพงษ์ ซึ่งรถเลนซ้ายติดมาก ๆ แบบที่ไม่ควรเป็น ในใจผมคิดว่า ต้องมีอะไรแน่ ๆ เลยตามสันดานครับ ออกขวาไป 555 ระหว่างทางเลนขวา มีรถทยอยหักออกมาจากเลนซ้ายเป็นระยะ ตามความอดทนของแต่ละคน จนมาถึงต้นเหตุ (อิอิ) เป็น BMW รุ่นแรก ๆ คันนึง สีดำ คันเล็ก ๆ 2 ประตู ซึ่งผมไม่รู้รุ่น จอดเสียอยู่ เลยหันไปถามแฟนว่า จอดไปช่วยมั้ย (โชว์แมน) แฟนไม่ได้ตอบ แต่บอกว่า ระวังด้วยนะ (ซึ้งกันอยู่พักใหญ่) แล้วก็จอดรถและถอยเข้าไปหารถ BMW คันนั้น เมื่อผมลงรถ ชายร่างสูง ภูมิฐานท่านนึงมุดออกมาจากข้าง ๆ รถ ซึ่งผมถามไปว่า “ผมลากให้มั้ยครับ ข้างหน้ามีปั้ม” ซึ่งเค้าเองก็ยินดี เลยได้ลากรถคันนั้นไปไว้ที่ปั้มกลางซอย ซึ่งผิดสังเกตุตอนที่จอดรถ ปลดสายลากเล็กน้อยว่า ทำไมมีคนขับรถอีกคัน รีบวิ่งเข้ามาหา บุคคลที่ผมช่วย แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร เค้าพูดกับผมเพียงว่า “แลกนามบัตรกันไว้ได้มั้ยครับ ผมซึ้งน้ำใจมาก” แล้วผมกับบุคคลท่านนั้นก็แลกนามบัตรกัน ผมยื่นนามบัตรให้แฟนอ่านชื่อ และที่ทำงานให้ฟัง เพราะผมไม่ได้สนใจเท่าไหร่ แต่ได้รู้ชื่อและตำแหน่ง ผมถึงกับอึ้งไปเล็กน้อย ผมไม่ได้อวดอ้างสรรพคุณข้างขวดของผมนะครับ ถ้าเพื่อนท่านใดได้อ่านเรื่องของผมก่อนหน้า ผมเคยลากแท๊กซี่มาแล้ว และอีกหลาย ๆ คัน จนมาวันนี้ ผมได้รับของมา 1 ชิ้น ซึ่งผมดีใจมาก ผมไม่ได้ดีใจที่ได้รับสิ่งของ แต่ผมดีใจที่ บ้านเมืองของเรา ยังมีคนดี ๆ ที่คิดถึงน้ำใจ และการช่วยเหลือเล็ก ๆ น้อย ๆ จากเพื่อนร่วมทางคนนึงในสังคม โดยไม่ได้มองที่ยศถา อายุ หรือตำแหน่งหน้าที่เหมือนที่ปัจจุบันควรจะเป็น ผมนั่งมองปฏิทินธรรมดาอย่างมีความสุข และคิดว่า อย่างน้อย ปีที่เลวร้ายของผม มันก็ไม่ได้แย่ไปซะทุกเรื่องหรอก หากเราช่วยกันทำให้บ้านเมืองของพวกเราน่าอยู่ และมีน้ำใจให้กันครับ
อ่านแล้วรู้สึกดีครับ... ถ้ามีคนดีๆมีน้ำใจแบบนี้เยอะๆ ก็จะทำให้สังคมน่าอยู่ยิ่งขึ้น รู้สึกดี มีความสุข ชีวิตยืนยาว.. ปล. คนดีๆ มักจะมีแฟนกันหมดแล้ว..ฮ่าๆๆๆ
ของผมเคยเจอแต่พวกชะลอๆๆ มองๆ หัวเราะ แล้วมันก็ไป นอกจากไม่ช่วย มันยังหัวเราะแล้วก็ ทำให้รถข้างหลังติดมากขึ้น
อ่านแล้วรู้สึกยินดีด้วยนะครับ ถ้าคนเรารักกันแบบนี้ในโลก จะมีแต่ความสงบสุข ขอนับถือครับ จิงๆแร้ว ถ้าเราช่วยกันคนละไม้คนละมือ ทุกคนก็จะรักกันครับ )