ผมเห็นที่ปั๊ม ESSO ขายกระป๋องทอง 2,6xx กระป๋องเงิน 2,3xx ก็แสดงว่ากระป๋องทองดีกว่า เลยสงสัยว่า 1. ทั้งสองแบบต่างกันอย่างไรครับ 2. แบบใหนเหมาะกับ EVO III 2,400 cc. 4-500 HP ครับ 3. ปกติพี่ตุ๋ยใส่สีอะไรให้พวกเราครับ ผมซื้อกระป๋องเงินฝาทองแบบลิตรเติมไปแล้ว 4. มีคนมาขายให้แบบประป๋องทอง 2,100 กระป๋องเงิน 1,800 ปลอมใช่ใหมครับ พี่โอบอกว่า castrol sport ตัวใหม่ดีกว่า ราคาเท่าไรคร๊าบ มีแหล่งที่เพื่อน ๆ ซื้อราคาพิเศษใหมครับ ส่วน EVO III คันที่ไม่โมมาก ก็ใช้ TOTAL ของพี่อ๊อดดีกว่า ถูกและดีครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ
2 ตัวนี้ต่างกันที่ความหนืดอ่ะครับ MoBil 1 กระป๋องทอง 0W-40 SUPER SYN MoBil 1 กระป๋องเงิน 5W-50 SUPER SYN รถเทอร์โบน่าจะเหมาะกับป๋องเงินมากกว่า เพราะป๋องทองผมว่า มันใสไปหน่อย ถ้าราคาสองพันอัพ ผมซื้อ คาสตรอล เอด 10w-60 ดีกว่า 4+1 ลิตร ราคา 2300 เองมีของแถมอีกต่างหาก ซื้อที่ร้าน ภ.เฉลิมพงษ์ ก็ได้คับ ผมว่าถูกที่สุดแล้วมั้ง เท่าที่เคยใช้ PTT Racing 5w50 น้ำมันพร่องเร็วมาก Mobile 1 ป๋องเงิน 5w50 น้ำมันพร่องช้ากว่า PTT Racing Castrol Edge Sport 10W-60 น้ำมันพร่องช้ากว่า Mobile (แทบจะไม่พร่องเลยก็ว่าได้อ่ะ)
ความแตกต่าง ตามข้างบนเลยครับ โดยที่ลองมาทั้งสามตัว ไม่ชอบ mobil 1 กระป๋องทองเลย ผมว่าไม่เหมาะกับอีโวหรืออาจจะเหมาะ แต่ไม่เหมาระกับรถผม โดยพอใช้ไปสักพัก พอเจอความร้อนหนักๆ ผมว่าเสื่อมเร็วมาก อุณหภูมิ นมค จะสูงกว่ากระป๋องเงินชัดเจน แรงดันต่ำจัด หลังจากผ่านการใช้งานสักพัก เดินเบาอยู่ไม่ถึง 1 bar @800 RPM ใช้ทีไร เสียวกลัวพังทุกที ยิ่งเปรียบเทียบราคาที่แพงแล้ว จึงควรใช้กระป๋องเงินมากกว่าครับ ความเห็นส่วนตัว ถ้าเครื่องยังสด ไม่ได้ใช้แข่งขัน หรือใช้งานหนัก ตัวเลขหลังที่ 50 น่าจะกำลังดี ส่วน 60 ผมว่าหนืดไปหน่อยสำหรับการใช้งานทั่วไป
Mobil 1 กระป๋องทอง 0W40 กระป๋องเงิน 5W50 เหตุที่กระป๋องทองแพงกว่า เพราะ การผลิตน้ำมันเครื่องให้ตัวเลขหน้า W เป็น 0 ได้ ต้องใช้ Base Oil คุณภาพสูง ราคาก็จะสูงตามไปด้วยซึ่งมีคุณสมบัติในการปกป้องเครื่องยนต์ดีที่สุดตั้งแต่สตาร์ทเครื่อง ครับ แต่การผลิตน้ำมันเครื่องให้ตัวเลขหน้า W และหลัง W ให้ตัวเลขมากๆโดยตัวเลขหน้า W ยังคงเป็น 0 ยิ่งผลิตยากที่สุดและแพงมาก ดังนั้นเราจึงไม่ค่อยเห็นน้ำมันเครื่องเบอร์ 0W50 หรือ 0W60 เลย ถ้ามีก็คงราคาแพงมาก สำหรับ ประทีป เครื่องม้าเยอะ เน้นใช้งานหนัก 10W60 เหมาะสม ครับ
ชัดเจนและขอบคุณครับ castrol edge sport น่าจะดีสุดสำหรับคันม้าเยอะ เดี๋ยวค่อยถ่ายก่อนเราไปคลองห้าวันที่ 20 มี.ค.ครับ ส่วนคันใช้ชีวิตประจำวันก็ total ต่อไปเพื่อไม่ให้กระเป๋าแบนแฟนทิ้งครับ (เมื่อใหร่จะทิ้งไปซะที 5555)
คาสตรอล Edge 10w60 ตัวใหม่ ที่ผมเคยลองใช้ 1 ครั้ง ใช้งานดีมากครับ เพราะสีน้ำมันจะดำช้ามาก 5พันโลยังไม่ดำเลย แต่เช้าขับไปทำงาน นมค.เย็น มันหนืดๆไปหน่อย หนักๆเท้าแบบรู้สึกได้ เลยกลับมาใช้ 10W50 ของ โททาลตามเดิม TOTAL ตัว 10W50 ตอนสมัยผมวิ่งแดร๊กทุกเสาร์เกือบๆปี เครื่องวัดไดโน่ 458 แรงม้า บูสท์ บาร์แปด ก็ผ่านนะไม่พัง รื้อเครื่องประกอบใหม่หลายครั้ง สภาพทุกชิ้นส่วนที่ต้องการปกป้อง สภาพสวยงามทุกชิ้น ที่รื้อเพราะส่วนมากปะเก็นกับหวัลูกสูบมีปัญหา เพราะน้ำมันบางมากเพราะบูสท์เยอะไปหน่อย นอกนั้นมันสภาพสวยจริงๆ เลยใช้มาตลอด อู่ประทวย ProStreet ที่วิ่งกันตอนนั้น ประทวยมันตั้ง 1000 ม้า ก็ใช้ตัวนี้ ก็ไม่พังนะ ความเห็นผม ผมว่ารถประทีปที่เห็นล่าสุด ผมว่าก็ใช้10W50ได้นะ จะได้ไม่ต้องเสียเงินมาก เพราะถ้าราคาที่ประทีปซื้อได้2300 เอามาซื้อโททาลได้เกือบ 2 กระป๋อง จะได้ถ่ายได้บ่อยครั้งกว่า เพราะราคาเท่าที่ซื้อจากอ็อด ผมสามารถถ่ายทิ้งได้ทุกสนามเลย
แฮะ ๆ ฟังโอ๋แล้วเกิดอาการเปลี่ยนใจครับ สมัยก่อนตอนทำ 4g93t คันเก่า ก็ให้พี่เอ๋ prostreet ทำนี่แหละครับ พี่โจ fastrack จูนให้คันเดียวกับรถที่ประทวยขับ ยังจำได้ว่าตอนไปดูข้างสนาม รถประทวย กล้วยทองคำ (นามสกุลที่พิธีกรโก้ตั้งให้) ทุกรันเวลากลับมาต้องเทน้ำมันเครื่องที่ทะลักมายังถังดักไอ (ตอนนั้นยังใช้ขวดน้ำโพลาสิสอยู่เลย) กลับคืนห้องเครื่อง เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าใช้ total งานนี้พี่อ๊อดจัดมาอีก 2 กระลอนครับ ขอยคุณทุกคำตอบและประสบการณ์ครับ อย่างที่โอ๋ว่า ถ้าไม่แต่งรถนี่เงินเหลือบาน ...........