หัวเทียน จะเลือกเบอร์ อย่างไรดีถึงจะเหมาะสม กับรถของเรา จะมีวิธีทดสอบป่ะครับ เห็นรถเพื่อนใส่ NGK เบอร์9 วิ่งปกติ ทำไมของเราใส่NGK เบอร์8 ก็วิ่งปกติ 4g63 ทั้งคู่ครับ
ส่วนตัวผมนะพี่ เบอร์เย็นจัดมันจะมีผลแค่ตอนเช้า หรือสตาร์ด รอบเดินเบา ตอนเครื่องเย็น เบอร์ร้อน มีผลตอนซัดหนักๆ ห้องเผาไหม้ร้อนๆ แต่ ตอนเย็นๆ เบอร์8 9 ผมว่าเหมือนกัน ไม่รู้สึกแตกต่าง ทั้งร้อนและเย็นเลย
เลือกตามสภาพห้องประกอบโดยรวมของห้องเผาไหม้ครับ ง่ายๆคือให้มอง สภาพอุณหภูมิสูงสุดในห้องเผาไหม้เป็นหลักครับ เพราะต้องกำหนดว่าหัวเทียนจะสามารถระบายความร้อนจากการจุดระเบิดในห้องเผาไหม้ได้ทันหรือไม่ หากหัวเทียนเย็นเกินไป เมื่อเครื่องเย็นจะจุดระเบิดได้ไม่สมบูรณ์หรือบางครั้งไม่จุดทำให้หัวเทียนบอด แต่พอห้องเผาไหม้ร้อนจะทำงานได้ดี หากหัวเทียนร้อนเกินไป เครื่องเย็นจะจุดได้ แต่เมื่อห้องเผาไหม้ร้อนจะระบายความร้อนไม่ทัน ทำให้เขี้ยวหัวเทียนละลาย หรือ เซรามิกกระเบื้องหัวเทียนแตกและหล่นใส่หัวลูกสูบ 1. กำลังอัด เมื่อเราได้กำลังอัดที่แท้จริงภายในห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ เราจะทราบได้ว่าจะเลือกใช้น้ำมันออกเทนเท่าใด 2. เมื่อเลือกน้ำมันออกเทนได้ เราก็จะเลือกได้ว่าจะทำกำลังอัดสุดท้ายตอนบูสท์เทอร์โบสูงสุดได้เท่าไร(โโยห้องเผาไหม้ไม่เสียหาย) 3. เมื่อได้ กำลังอัด+บูสท์สูงสุด+ออกเทนที่จะใช้ จูนเนอร์จะเลือกได้ว่าจะดันไฟไปอีกเท่าไร จะใช้พวกDirect Coil พวก Twin Power ดันไฟหรือไม่ หากใช้ต้องดันน้ำมันเพิ่ม หรือเพิ่มออกเทน และเลือกเบอร์หัวเทียนเย็นให้ระบายความร้อนให้ทัน สังเกตุได้ว่าพวกรถN/Aกำลังอัดสูงๆจะสตาร์ทติดยากมาก ติดได้ก็หัวเทียนบอดอีก 4. เมื่อจูนเสร็จทุกครั้ง จูนเนอร์ที่มีความรู้ จะตรวจสอบกำลังอัดและถอดตรวจเช็คสภาพเขี้ยวหัวเทียนและกระเบื้องหัวเทียน เพื่อดูความเหมาะสมในการเผาไหม้เสมอ จนกระทั้งพ้นรันอิน ส่วนจูนเนอร์ที่ไม่เป็นงาน ก็ไม่เคยตรวจสอบให้ลูกค้า มักจะจูนเสร็จก็โบกมือบายๆปล่อยรถลูกค้ากลับบ้าน ไปแซด การจุดระเบิดในลักษณะ Hot and Lean แบบนี้ รถโคตรแรงครับ แต่ไม่นานครับ อีกซักพักก็ลูกแตกกลับมาอีกครับ โดยที่จูนเนอร์ประเภทนี้มักไม่ทราบสาเหตุและโยนความผิดให้ช่างประกอบเป็นประจำครับ รถเดิมๆให้อ้างอิงจากสเป้คโรงงานเป้นหลัก +/- ไม่เกิน 2 เบอร์ครับ เช่น 4G63T เดิมๆคือเบอร์ 7 เมื่ออุณหภูมิห้องเผาไหม้สูงขึ้นพอประมาณเช่นปรับบุสท์ขึ้นให้เลือกใช้สูงขึ้นอีก 1 เบอร์ หากมีการปรับแต่งมากขึ้นให้เลือกเพิ่มขึ้นอีกเบอร์ครับ ลักษณะรถจู ผมแนะนำที่ BPR8 พอครับ
เบอร์ 8 เลยน้อง ไม่ต้องคิดมาก ส่วนที่บอกว่าใส่เบอร์ 9 ก็วิ่งปกติ คือ เวลาร้อนมันไม่ค่อยต่างกันหรอก มันต่างกันตอนเวลาเย็น ซึ่งรถรุ่นใหม่ๆ มันก็จะรู้สึกน้อยหน่อยเพราะกล่องมันฉลาด มีการชดเชยให้ครับ
very good to know....... แล้วรถที่ spec สูง ๆ ใช้หัวเทียนเย็น ๆ เอามาใช้งานประจำวันทุกวัน มันจะเป็นไรมั๊ยครับ
ขอบคุณก้องกับ พี่ๆมากครับ เถียงกับเพื่อนมา ไม่รู้ว่าจะจบที่เบอร์อะไรดี ลองเอาเบอร์ 9 มาใส่วิ่งในเมืองรู้สึกเครื่องไม่ค่อย ตอบสนองเท่าที่ควร แต่พอเหยียบ มันส์เหมือนกันแฮะ
สมัยตอนผมยังบ้าพลังคั่งแรงม้าอยู่ ใช้ NGK-G Racing หัวละ1600บาท ถอดวาวล์น้ำออก อุณหภูมิเครื่องจะต่ำกว่าปกติ เมื่อจอดติดไฟแดง ตอนฝนตกหนักๆ มันเดินแค่3สูบครับ 555.... ต้องแวะปั๊มเปลี่ยนหัวเทียนชุดใหม่ เป็นเรื่องปกติ สตาร์ทตอนเช้าฝนตกก็เดิน 3 สูบมั้ง 2 สูบมั้ง กลางร่มเปลี่ยนหัวเทียนประจำ แต่มันมีปะเด็นเกี่ยวข้องกันอีกคือตอนนั้นใช้ ลูก2Jทำกำลังอัดต่ำไว้แค่ 8.6ต่อ1 + แคม 280 + จูนน้ำมันรอบเดินเบาหนา แต่ตั้งแรงดันเรคกูเรเตอร์ตอนเดินเบาไว้แค่ 2.5 บาร์ ซึ่งมันต่ำเกินไป ทำให้หัวฉีดฉีดน้ำมันไม่เป็นฝอย มันเลยจุดยากกว่าปกติ เจออุณหภูมิเย็นๆ กำลังอัดต่ำๆ มันเลยทะเลไปกันใหญ่ แต่เวลาเครื่องร้อนแรงโคตร จึงมีสาเหตุอื่นๆที่ทำให้เครื่องเย็นแล้วน้ำมันท่วมหัวเทียนเลยจุดไม่ติดได้อีกมาก ต้องนี้รู้เยอะแล้ว อะไรที่ไม่เป็นไปตามหลักการ ก็ไล่แก้ไขไป เลยไม่ค่อยออกทะเล หลังจากศึกษา ลองผิดลองถูกอยู่เกือบ 2 ปี แล้ว คิดว่าตอนนี้ผมน่าจะมีTrouble Shooting แก้ได้ทุกปัญหาของเครื่องอีโว 3 ไม่เกิน500ม้าวิ่งถนนทุกวัน ได้จบแล้ว
ผมใช้NGK Racing เบอร์10 ทุกวันก็ไม่มีญหานะครับ แต่ใช้ได้ประมาน2ปี ก็บอดแล้วครับ ต้องเปลี่ยนหัวเทียนใหม่ แล้วก็อีกเรื่องคือตอนสตาร์ตแล้ว ต้องรอให้อุณภูมิน้ำ ถึงขีดปกติก่อนถึงจะใช้งานได้ปกติ ไม่งั้นพอขับแล้วเครื่องจะไม่ค่อยมีกำลัง ออกแนวสะดุดๆ ขับลำบากมาก ถ้าไม่ซีเรียสอะไร มีเวลาวอร์มอัพเครื่องก่อนขับ ก็ใช้ได้ปกติครับ ปล. ของผมจูนเนอร์เลือกเบอร์หัวเทียนมาให้นะครับ ไม่ได้เลือกเอง
ผมทำไม่เป็นอ่ะครับ แต่ล่ะรูปผมได้มาจากเวบevolutionm.net ถ้าสนใจยังไงลองเข้าไปหาดูนะครับ + อ้างถึง ตอบกลับ