ช่วยด้วย ช่างบอกว่า ต้องยกเครื่องใหม่ ตามเข้ามาช่วยผมดูทีคับ

การสนทนาใน 'NV Club' เริ่มโดย pattago, 13 มีนาคม 2010

< Previous Thread | Next Thread >
  1. pattago

    pattago New Member Member

    78
    0
    0
    ผมขอเล่าประวัติรถผมก่อนละกันครับ

    NV VAN เครื่องคาร์บู 1600 (เปลี่ยนเครื่องใหม่เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว) เกียร์ธรรมดา พวงมาลัยธรรมดา
    ก่อนที่จะเอาไปทำตามรายการด้านล่างนี้ เครื่องอยู่ในสภาพที่ดีครับ ไม่เคยมีปัญหาใดๆ

    รายการดังต่อไปนี้ คือรายการที่น่าจะเกิดปัญหาครับ

    1. เมื่อเดือน ธันวาคม 52 ผมนำรถไปติดตั้งแก๊ส LPG ที่อู่แถวบ้าน (มีป้ายรับรองมาตรฐาน)
    เสร็จแล้วก้อใช้งานได้ปกติดีครับ วิ่งดีซะด้วย

    2. หลังจากติดตั้งแก๊สเสร็จแล้ว ผ่านไปประมาณ 1 อาทิตย์ ผมเปิดกรอง ออกมาเป่าทำความสะอาด เสร็จแล้วก้อประกอบเข้าไปที่เดิม พอขับออกจากบ้านมา มีอาการคันเร่งค้าง
    คือ เมื่อเหยียบไปถึงประมาณ 2 พัน - 3 พันรอบ แล้วปล่อยคันเร่งเพื่อจะเปลี่ยนเกียร์ แต่เครื่องไปผ่อนตามลงมา คือมันค้างที่ 3 พันรอบ และเร่งขึ้นไปเรื่อยๆจนต้องดับเครื่องและ
    สตาร์ทใหม่ ก้อเลยประคองขับไปที่ร้านเดิมที่ติดแก๊ส เขาก้อปรับจูนให้ ก้อไม่หาย ช่างบอกว่า "ต้องล้างคาร์บูนะพี่ อาการแบบนี้ล้างคาร์บูก้อหาย" ผมก้อบอกไปว่า งั้นก้อจัดการซะ
    วันนั้นหมดไป 800 บาท เสร็จแล้วก้อยังพบอาการค้างอีกนิดหน่อย ช่างก้อปรับจูนอีกหลายครั้ง จนอาการหายไป แล้ว ก้อขับต่อไปได้ปกติดี ไม่มีปัญหาใดๆ

    3. ขับต่อไปได้ประมาณ เดือนกว่า ถึงช่วงกลางเดือนมกราคม 53 ได้ยินเสียงดังแปลกๆที่ห้องเครื่อง (ดังเหมือนเสียงโซ่มอร์เตอร์ไซด์ เวลาโซ่หย่อน หรือสเตอร์สึก)
    ตอนแรกดังแล้ว มันก้อหายไปเอง แต่พอผ่านไปสักอาทิตย์ ก้อดังขึ้นเรื่อยๆ แล้วไม่หาย ก้อเลยกลับเข้าไปให้ร้านเดิมดูให้ เขาก้อบอกว่า "โซ่ราวลิ้น หมดอายุแล้วพี่ เปลี่ยนโซ่ราวลิ้นเถอะ" ผมก้อไม่ค่อยรู้เรื่องรถ
    สักเท่าไหร่ ช่างว่าไงก้อว่าตาม วันนั้น ก้อทำไปหลายอย่างและตัดสินใจถ่ายน้ำมันเครื่องซะด้วยเลย ตามรายการดังนี้คับ

    1. โซ่ราวลิ้น = 1780
    2. ซิลคอหน้า = 450
    3. กาวแดง 2 หลอด = 400
    4. ตัวตั้ง(ไม่รู้พิมพ์ถูกป่าว) = 1100
    5. ยางดัน = 980
    6. ค่าแรง = 700
    7. กรองเครื่อง = 220
    8. น้ำมันเครื่อง = 780
    ก้อรวมทั้งหมด 6410 บาท

    4. หลังจากขับออกมาก้อพบว่า ความร้อนขึ้นผิดปกติ ขับไปเรื่อยๆ ยิ่งขึ้นจนถึงขีดแดง และก้อจอด มองดูใต้ท้องรถ เห็นน้ำเจิ่งนองเลยคับ ก้อเดาว่า หม้อน้ำรั่วแน่ๆเลย
    ก้อเลยแวะหาร้านหม้อน้ำแถวๆเสรีไทย เขาก้อเช็คเจอว่า รั่วไป 2 จุด เป็นรอยรั่วเล็กๆ ก้อซ่อมไปเรียบร้อย ขับออกมาจากร้านหม้อน้ำ กะว่าจะกลับบ้าน วิ่งเข้ามอร์เตอร์เวย์
    ความร้อนขึ้นอีกแว้ว ก้อเลยจอดดูใต้ท้องรถ ก้อไม่มีน้ำรั่ว จึงรอความร้อนลดลง และก้อค่อยๆคลานไปที่ร้านเดิม (ที่ติดแก๊ส) ช่างก้อเช็คดู จนพบว่า สายไฟ มันช๊อต เขาก้อจัดการเดินสายไฟให้ใหม่
    อาการความร้อนขึ้นก้อหายไป หลังจากนั้นก้อขับมาได้ปกติดี ไม่มีปัญหาใดๆเลยคับพี่น้อง

    5. ผ่านมาจนถึงช่วงต้นเดือน มีนาคม (เว้นระยะมาได้เดือนกว่าๆ) เริ่มรู้สึกว่า เร่งไปค่อยขึ้นและ เหยียบ แล้วไม่ค่อยพุ่งเหมือนเดิม ความเร็วก้อไม่ดีเหมือนเคย ตอนนั้นก้อคิด
    ไว้ว่า น่าจะเอาไปเป่ากรองที่ร้านสักที แล้วให้เขาจูนเครื่อง จูนแก๊สให้ใหม่ วันที่ 12 มีนาคม 53 ก้อเลยเอาเข้าไปให้เขาทำ -
    5.1 ไปถึงตอน 10 โมง ก้อบอกช่างว่า "เป่ากรองและจูนเครื่องให้ผมที รู้สึกมันเร่งไม่ค่อยขึ้นนะ" เขาก้อจัดการให้อย่างว่องไว พอขับออกมาปุ๊บ ก้อเจอปัญหาเดิมคับ
    คือ คันเร่งค้าง ขับแบบลากเกียร์ไปให้ถึง 3000 รอบ มันก้อจะค้าง คือปล่อยคันเร่งแล้วเครื่องไม่ผ่อนตาม และแถมยังเร่งต่อไปเองอีกตะหาก" ก้อเลยนึกถีงเมื่อครั้งก่อนที่เจออาการเดียวกัน
    เลยวกกลับไปให้ช่างเขาดู (แต่บังเอิญว่าช่างคนเดิมที่เคยทำให้ ไม่ว่าง เป็นช่างอีกคนมาทำแทน) เขาก้อปรับ จูน ไปเรื่อย และก้อบอกว่า " เรียบร้อย เสร็จแล้ว ไปทดสอบด้วยกันเลยปะ" ผมก้อออกไปทดสอบกะช่าง โดยให้ช่าง
    ขับ ออกจากอู่ได้ ก้อลากเกียร์สอง ให้รอบขึ้นถึง 3 พัน มันก้อค้างเหมือนเดิม ช่างเริ่มหน้าเสีย และก้อบ่น "มันทำไมยังค้างอีกฟะ" สงสัยเป็นที่สปริง ตรงคาร์บู
    5.2 ก้อกลับมาที่อู่เปลี่ยนสปริงไป 1 อัน เขาคิดผม 100 บาท ผมก็ขับออกไป test คนเดียว คราวนี้ ช่างออกปากก่อนเลยว่า "ถ้าไม่หาย ก้อต้องเปลี่ยนสาย
    คันเร่งแล้วล่ะ ผมออกไปยังไม่ถึง 200 เมตรจากหน้าอู่ ก้อลองลากเกียร์สอง ให้ขึ้นถึง 3000 รอบ มันก้อค้างเหมือนเดิม ก้อเลยกลับไปอู่
    5.3 ผมก้อบอกช่างว่า "เมื่อกี๊บอกว่า ถ้าไม่หายก้อเปลี่ยนสายคันเร่งใช่ไหม มันไม่หายนะ ถ้าเปลี่ยนแล้วหายชัวร์ไหม" ช่างตอบอย่างมั่นใจว่า "ชัวร์เลย"
    ผมก้อบอกช่างว่า "ok เปลี่ยนซะ" ก้อจัดไปอีก 550 บาท เสร็จแล้วผมก้อบอกช่างว่า "ออกไปเทสด้วยกันเลยนะ" ก้อให้ช่างขับและผมนั่งไปด้วย ปรากฏว่า มันก้อยังค้างอยู่
    แต่ไม่มากเหมือนครั้งก่อน คือ ผ่อนคันเร่งแล้ว มันจะค้างต่อสัก 2 วินาที แล้วมันถึงจะผ่อนเครื่องลง ช่างก้อเริ่มหน้าเสียอีกตามเคย เขาก้อจอดข้างทาง ทำท่าจะลงไปดูเพื่อจะปรับจูน
    แต่สิ่งที่พบหลังจากเปิดฝากระโปรงคือ น้ำมันเครื่องกระจายเต็มเลยครับ เขาบอกว่า "ซิลคอหน้า รั่ว" ผมก้องงล่ะคับ มันคืออาไรผมก้อไม่รู้จัก แต่ภาพที่เห็นคือ น้ำมันเครื่องเจิ่งนอง
    เต็มพื้นถนน เขาก้อค่อยๆประคองกลับไปที่อู่ ซึ่งห่างจากจุดที่จอดประมาณ 3 กิโล โดยขับไปสักนิด ก้อดับเครื่องเพื่อพัก และก้อขับไปอีกนิด และก้อดับเครื่องเพื่อพัก อย่างนี้จนถึงอู่
    5.4 ช่างก้อจัดการ ส่องดู และก้อบอกว่า ต้องเปลี่ยน "ซิลคอหน้า" ผมก้อถามเท่าไหร่ล่ะ เขาบอกว่า 350 ผมก้อคิดว่า ยังไงมันก้อต้องเปลีย่นมั้ง ก้อเลยให้เขา
    เปลี่ย่นไป และช่างยังมาบอกผมอีกว่า "ผมรู้และว่าทำไมค้าง เด๋วผมจัดการให้ หายชัวร์" แต่ผมเริ่มไม่ชัวร์กะคำพูดช่างอีกและ ก้อนั่งรอ พร้อมกะทำใจ ว่ารถกรูจะรอดไหมเนี่ย
    พอทำเสร็จ 2 อย่างคือ เปลี่ยนซิลคอหน้าและ ทำให้มันไม่ค้างอย่างที่ช่างบอก (แต่ว่าเขาทำอะไร ผมฟังไม่ค่อยถนัด ฟังไม่รู้เรื่อง) แล้วช่างเขาก้อบอกว่า "เรียบร้อย" ผมก้อบอกว่า
    "ไม่ค้างแล้วนะ" ช่างบอกต่อว่า "ไม่ค้าง แต่ถ้าค้าง ก้อเอากลับมา เด๋วผมดูและให้" (ชักเริ่มไม่มั่นใจในคำพูดตัวเอง) แต่ยังไม่ทันได้ออกจากอู่ ผมลองเบิ้ลเครื่องอยู่กะที่ จนถึง 4 พันรอบ
    และก้อปล่อยคันเร่ง เครื่องมันดันไม่ผ่อนตามลงมา มันเร่งต่อจะไปถึง 6 พัน ผมก้อรีบดับเครื่องทันที ช่างหันหน้ากลับมา บอกว่า "ทิ้งรถไว้ไหม เด๋วผมทำต่อให้ หรือว่าถ้าจะขับไป
    ก่อน ก้อขับได้นะ อย่าขับรอบสูงละกัน" ผมก้อตัดสินใจ ขับไป่กอน เพราะต้องออกไปรับแม่ ในระหว่างขับออกไปนั้น มีความรู้สึกว่า คันเร่งมันหนักๆ กดไม่ค่อยลง และก้อเร่งไม่ค่อย
    ขึ้นด้วย พอไปถึงที่จะรับแม่ ก้อจอดรถ รอแม่ มองดูใต้ท้องรถ เห็นมีน้ำมันหยด ลงมาด้วย ก้อเริ่มรู้สึกไม่ดีและ เลยประคองรถกลับไปที่ร้าน พร้อมกับแม่ด้วย
    ในระหว่างทาง มีรถติดบ้าง เครื่องก้อดับ ผมก้อสตาร์ทใหม่ มันก้อติด เป็นอย่างนี้ ระหว่างทาง 2 รอบ และก้อไปดับอีกที ตรง หน้าทางเข้าอู่พอดี(โชคดีอาไรปานนี้)
    และสิ่งที่ผิดปกติอย่างแรงคือ มีลูกยางตัวนึง ตกลงมาที่เท้าผม ผมก้อหยิบไปให้ช่างคนเดิมดู เขาบอกว่า "อ๋อ สายคันเร่งหลุด" เขาก้อให้ช่างอีกคน ไปเข็นรถเข้ามาในอู่ และก้อจัดการ
    กับลูกยางที่หลุดออกมา ผมก้อรู้สึกยังไม่ค่อยมันใจ เลยเดินไปบอก ช่างคนที่เคยทำให้ผมเมื่อครั้งแรก (คนที่ทำให้ในข้อ 2-3) ว่า "ฝากดูให้ที ผมจะทิ้งไว้ และพรุ่งนี้มาเอา
    คุณน่าจะรู้อาการรถผมมากกว่าช่างคนอื่น" ช่างก้อรับปากว่า "ได้คับ เด๋วผมดูแลให้ พอดีวันนี้ผมติดงานซ่อมให้อีกคันนึงอยู่ เลยไม่มีเวลาดูให้เลย แต่ว่า พรุ่งนี้ พี่มารับรถได้เลย
    เด๋วผมจัดการให้คับ" ผมก้อกลับบ้านอย่างไม่ค่อยพึงพอใจสักเท่าไหร่

    6. เวลา 9.30 น.ของวันที่ 13 มีนาคม 53 ผมก้ออกไปที่อู่เพื่อจะดูรถของผม พอไปถึง เห็นหน้าช่างแต่ละคน เขาก้อมองหน้าผมแบบหน้าเจื่อนๆ และก้อบอกว่า "งานเข้าแล้วล่ะพี่
    รถพี่คงต้องยกเครื่องใหม่แล้วล่ะ เพราะว่า ช๊าป ละลาย" ผมก้อฟังไม่ค่อยรู้เรื่องหลอกว่า ช๊าปละลายคืออะไร เลยย้อนถามว่า "ช๊าปมันคือสิ่งที่อยู่ในเครื่องใช่ไหม" ช่างบอกว่า "ใช่ มัน
    เกิดจาก น้ำมันเครื่องแห้ง จนช๊าปละลาย ถ้าจะซ่อม ก้อหลายพัน แต่แนะนำให้ยกเครื่องดีกว่า ใส่เครื่องหัวฉีดไปเลย" ผมก้อมึนและคับ อึ้งไปสักพัก และถามเขาไปว่า "น้ำมันเครื่อง
    แห้งได้ไง เมื่อวาน ก่อนออกไปรับแม่ ก้อเปลี่ยนซิลคอหน้าไปแล้ว และก้อเติมน้ำมันเครื่องให้แล้ว ตอนขากลับมาที่อู่ เห็นมีน้ำมันเครื่องหยดก็จริง แต่ไม่น่าแห้งนะ" ช่างก้อบอกว่า
    "มันน่าจะหยดและแห้ง ระหว่างทางที่ขับมา" ผมก้อทำหน้างงๆ ช่างก้อบอกต่ออีกว่า "เป็นที่มู่เล่ มันเหวี่ยงจนทำให้น้ำมันเครื่องรั่วออกมา" ผมก้อเลยลองให้เขาเช็คราคาเครื่องหัวฉีดพร้อมค่าแรงให้ เขาบอกว่า 25,500 บาท

    7. ผ่านไป 2 ชั่วโมง พ่อผมก้อเดินทางไปถึงที่ร้าน พร้อมกับโทรให้ผม หากล้องมาถ่ายรูป และก้อเดินไปหาช่างพร้อมกะผม พ่อผมถามไปว่า "เกิดไรขึ้น" ช่างก้อพูดเหมือนเดิมว่า "ช๊าปละลาย เกิดจาก มู่เล่เหวี่ยง จนทำให้มันรั่วออกมา" พ่อผมก้อไม่พูดอะไร เดินกลับไปที่รถเขาที่จอดอยู่หน้าร้าน และก้อเอากล้องมาถ่ายรูปหน้าร้าน และถ่ายรูปรถผมที่อยู่ในร้าน และก้อกลับบ้าน มานั่งคิดกันว่า จะเอาไงกันดี

    มีข้อสังเกตอย่างนี้คับ
    1. ซิลคอหน้า เพิ่งเปลี่ยนไปเมื่อตอนเปลี่ยนโซ่ราวลิ้น(ข้อ3) แล้วทำไมมาคราวนี้ มันถึงรั่วได้
    2. ที่ช่างบอกว่า เป็นที่มู่เล่ เหวี่ยง อยู่ดีๆมันจะเหวี่ยงได้อย่างไร ซึ่งก่อนหน้านี้ ไม่เป็น ก่อนจะเอาเข้ามาที่ร้านก้อไม่เป็น และไอ้
    มู่เล่ ที่เขาบอก เมื่อตอนที่เขาเปลี่ยนซิลคอหน้าให้ เขาก้อต้องถอดมู่เล่ นี้ออกมาด้วย และใส่เข้าไปใหม่ ที่ว่ามู่เล่เหวี่ยงจะทำให้ซิลรั่วนั้น เกิดจากการที่ช่างประกอบเข้าไปแล้ว ทำไม่เรียบร้อยหรือเปล่า


    จากที่เล่ามายืดยาว พี่น้องช่วยวิเคราะห์ทีครับ ว่าทำไมมันเป็นเช่นนี้ได้ ผมจะทำไงต่อดี แบบนี้ เป็นความผิดของช่างที่ร้านหรือไม่ ร้านต้องรับผิดชอบหรือไม่ เพราะเครื่องนี้ ตั้งแต่
    ติดแก๊สมา ก้อมีแต่ช่างร้านนี้เท่านั้น ที่ซ่อมเครื่อง ทำเครื่อง จูนเครื่องให้ หรือแม้กระทั่ง ถ่ายน้ำมันเครื่อง ก้อเป็นร้านนนี้ที่ถ่ายให้ แล้วมาวันนี้ บอกว่า น้ำมันเครื่องแห้ง ช๊าปละลาย มู่เล่เหวี่ยง
    ผมจะทำไงดีครับ เครียดมากมายเลยคับท่าน ช่วยที


    ขอบคุณมากคับ
     
  2. pop-ja

    pop-ja New Member VIP

    2,068
    235
    0
    อยู่แถวไหนครับ ผมว่าช่างมันหลอกฟันแล้วละครับแล้วอีกอย่างผมว่าช่างอย่างนี้เริ่มมาจากการเป็นช่างซ่อมรองเท้าครับ
     
  3. virus_x

    virus_x New Member Member

    483
    3
    0
    ผมว่าลองไปปรึกษาตำรวจดู แล้วเอาเงินให้ตำรวจซะหน่อย บอกว่าช่วยผมทีครับ อะไรๆจะได้ง่ายขึ้น เอารูปมาดูหน่อยครับ และเอารูปอู่มันมาประจานซะ
     
    แก้ไขล่าสุดโดยผู้ดูแล: 13 มีนาคม 2010
  4. nv1020

    nv1020 Well-Known Member Member

    3,195
    302
    83
    มันมั่วละ
     
  5. pattago

    pattago New Member Member

    78
    0
    0
    วันนี้ได้คุยกะ เฮียเจ้าของร้านครับ เฮียก้ออึ้งๆไป พูดอาไรไม่ค่อยออก เหมือนพูดพยายามหาสาเหตุ แต่ผมก้อยืนยันชัดเจนไปว่า "ก่อนเอาเข้าอู่ ไม่ได้เป็นอะไรเลย แค่จะเอามาเป่ากรอง และจูนเครื่อง น้ำมันเครื่องก้อไม่เคยหยด ความร้อนก้อไม่ขึ้น"
    เฮียก้อบอกมาว่า "งั้นผมคงต้องผ่าเครื่องดูก่อน เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง ว่าเกิดจากอะไร แล้วพรุ่งนี้ (14 มี.ค. 53) ผมจะจัดการให้นะ"

    ผมก้อเลยปรึกษาพ่อ ว่าเอาไงดี ตอนนี้สิ่งที่ต้องทำคือ ไม่อยากปล่อยให้มันผ่าเครื่องเองตามลำพัง อยากหาช่างที่รู้เรื่อง ไปดูด้วย
    ผมเองก้อไม่รู้เรื่องการซ่อมเครื่อง เด๋วมันจะมั่วให้อีก

    เอาไงกันดีล่ะทีนี้ ผมอยู่แถว คลองหลวง มีใครรู้จักช่างที่ดูเครื่องเป็น และมีเวลาให้ไหมครับ เด๋วผมให้ค่าเสียเวลา
    ผมไม่อยากโดนหลอกอีก ยังไงก้อติดต่อมานะครับ 0815650743 วุฒิครับ

    ขอบคุณมากครับผม
     
  6. เคยเจอคล้ายๆกัน ตัวเจ้าของร้านไม่เท่าไหร่ มันมาพลาดจากลูกน้อง มือไม่ถึง เลยทำให้เกิดความเสียหายตามมา ไม่รู้ว่าร้านนี้เป็นร้านประจำหรือเปล่า แต่เท่าที่ดูราคาการทำ ชุดโซ่ราวลิ้น ผมทำที่อู่ประจำ ถ้าจำไม่ผิดค่าของ+ค่าแรงอยู่ที่ 3 พันกว่าบาท ดูๆแล้วน่าจะลองเปลี่ยนร้านนะคับ ให้ใครมาลากไปอู่อื่นก็ได้ แค่ราคาวางเครื่องหัวฉีดที่ว่ามา ก็ไม่ธรรมดาแล้ว เครื่อง GA15DE ราคาเครื่องครบชุดประมาณ 15000- ค่าวาง+วายสาย น่าจะไม่เกิน 8000- ก้อน่าจะอยู่ประมาณนี้นะครับ แต่ชารปละลาย จิงๆก็ซ่อมได้นะ ค่าใช้จ่ายน่าจะหลายพันอยู่ เคยทำอยู่แต่นานแล้ว ถ้าพอมีก้อวางเครื่องน่าจะดีกว่าคับ เพราะดูท่าทางเครื่องตัวนี้คงใช้งานมามากพอควรแล้ว อาการหลายๆอย่างเริ่มมาเรื่อยๆ แล้วเราจะซ่อมจนท้อเลย (เคยผ่านมาแล้ว เฮ้อ)
     
  7. singcoohteam

    singcoohteam New Member Member

    5,303
    108
    0
    ป๊อบเอ๊ย ดูๆให้น้องเค้าหน่อยอู่น่ะ ยังไงก็สงสารน้องเค้าหน่อย ก็มีแต่ป๊อบคนเดียวที่ปรึกษาได้
    ถือว่าทำบุญละกันน้องเอ้ย
     
  8. ton van

    ton van New Member Member

    202
    1
    0
    ใช่ครับหาช่างไปดูตอนมันผ่าเครื่องด้วยเดี๋ยวมันมั่วอีก
    ต้องให้อู่มันรับผิดชอบครับก็ทำรถอยู่กับมัน

    ---------- เพิ่มกระทู้ เมื่อ 21:56:30 ---------- กระทู้ก่อนหน้านี้ เมื่อ 21:56:09 ----------

    ใช่ครับหาช่างไปดูตอนมันผ่าเครื่องด้วยเดี๋ยวมันมั่วอีก
    ต้องให้อู่มันรับผิดชอบครับก็ทำรถอยู่กับมัน
     
  9. singcoohteam

    singcoohteam New Member Member

    5,303
    108
    0
    แค้นแทนครับ
     
  10. pattago

    pattago New Member Member

    78
    0
    0
    ขอบคุณพี่ๆทุกท่านคับ พรุ่งนี้ ผมหาคนไปช่วยดูได้แล้วคับ

    ผลเป็นอย่างไร เด๋วจะมาเล่าให้ฟังคับ
     
  11. buem

    buem New Member Member

    2,764
    75
    0
    ผมว่ามั่วเหมือนกันครับ
    ผมยังอยากรู้ว่าผ่าเครื่องแล้ว เค้าจะเอางัยต่อ ซ่อมเครื่องเดิมรึ ผมว่า หาเครื่องใหม่ลงน่าจะจบกว่านะ ตา pop จัดทีให้คำปรึกษาด้วย
    รอฟังนะครับ
     
  12. zamuraii

    zamuraii New Member Member

    14
    0
    0
    อย่าไปยอมครับ สู้ๆ เป็นกำลังใจครับ
     
  13. pop-ja

    pop-ja New Member VIP

    2,068
    235
    0
    ช่วงนี้อยากจะออกตัวว่า ไอ้กระผมไม่ได้ไปไหนเลยครับ และคาดว่าน้องเค้าโดนฟันหัวมาแล้วครับแนะนำให้หาเครื่องมาวางใหม่ก็ได้ครับ GA 15 สวยๆๆผมเห็นบานตะไทเลยนะ รู้สึกว่าแท่นไม่ต้องแก้ละมั้ง
     
  14. singcoohteam

    singcoohteam New Member Member

    5,303
    108
    0
    ตามป๊อบก็ได้ครับ
     
  15. jaturong03

    jaturong03 Well-Known Member Member

    2,084
    91
    48
    เอาใจช่วยครับผม
     
  16. pattago

    pattago New Member Member

    78
    0
    0
    วันนี้ได้ไปคุยกะเฮียเจ้าของร้านแล้วครับ

    เฮียก้อบอกว่า มันเป็นเหตุสุดวิสัย ที่เขาก้อไม่อยากให้เกิดขึ้น เขาก้อจะช่วยโดย

    1.เปลี่ยนเครื่องใส่หัวฉีด 1.5CC เดิมเขาคิดค่าเปลีย่นเครื่องที่ 25,500 แต่เฮียบอกว่า "ผมคิดแค่ค่าเครื่องละกัน 18000 บาท ส่วนที่เหลือ รวมทั้งระบบแก๊สบางส่วนที่ต้องเปลี่ยน ผมไม่คิด"
    หรือ
    2. ซ่อมเครื่องเดิม เปลี่ยนอะไหล่ชิ้นส่วนที่ต้องเปลี่ยน เอาให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิม เฮียบอกว่า "ผมคิดตามราคาทุนที่ซื้อมาจากเชียงกง ส่วนราคาค่าแรง ผมไม่คิด และถ้าเงินไม่พอ ไม่เป็นไร จ่ายเท่าที่มีก่อน ที่เหลือ ก้อทยอยจ่ายก้อได้" ผมก้อย้อนถามว่า "ประมาณราคาไว้เท่าไหร่ ถ้าซ่อมเนี่ย" เฮียก้อบอกว่า "ราคาอะไหล่รวมๆก้อน่าจะ ประมาณ 6000 บาท"



    พี่ๆคิดว่าอย่างไรบ้างคับ
     
  17. virus_x

    virus_x New Member Member

    483
    3
    0
    ผมว่าถ้าซ่อม เด๋วบานปลายแน่ เด๋วเพิ่มนั่นเพิ่มนี่ เปลี่ยนเครื่องเลยดีกว่า ลองต่อลองดู (จริงๆเราไม่ควรต้องจ่ายเลย)
     
  18. ton van

    ton van New Member Member

    202
    1
    0
    ถ้าพอมีก็เปลี่ยนเครื่องดีกว่าครับซ่อมผมว่าใช้ได้ไม่นานก็อาการเดิมกลับมาแน่นอน
    ราคาเครื่องก็ประมาณนั้น

    (จริงมันน่าจะรับผิดทั้งหมดอ้างเหตุสุวิสัยก็ทางเขาทำมันเลยเกิดเหตุไม่ได้เกิดจากใช้งานของเราซะหน่อย)
     
  19. jaturong03

    jaturong03 Well-Known Member Member

    2,084
    91
    48
    เปลี่ยนดีกว่าครับผม ราคาน่าจะถูกกว่านี้ไม่ใช่ความผิดของเรา
     
  20. nv1020

    nv1020 Well-Known Member Member

    3,195
    302
    83
    GA 15 DE ขอนแก่นพร้อมเกียร์ Auto ยัง 15000 เองครับราคากรุงเทพฯน่าจะถูกกว่านี้
    แล้วถ้าให้เลือกซ่อมกะเปลี่ยน.....เปลี่ยนเครื่องเลยดีกว่าครับจะได้จบ....เครื่องที่เคยมีปัญหาเรื่องความร้อน
    มันซ่อมไม่ค่อยขึ้นหรอกครับ..เครื่องมันช้ำหมดแล้ว ซ่อมแล้วมันก็จะลามเสียไปเรื่อย
     
  21. singcoohteam

    singcoohteam New Member Member

    5,303
    108
    0
    คุณวุฒิครับ เอารถออกมาจากอู่นั้นเหอะ หนีไปให้ไกลๆเลยครับ อยู่แถวๆคลองหลวง ลองรอผู้ใจบุญที่อยู่แถวๆนั้นก่อนครับ เค้าจะแนะนำอู่ให้ ถ้าเหลือบ่ากว่าแรงก็ ga15 หัวฉีด ไม่เกินหมื่นห้าค่าแรงอีกห้าพันก็จบครับ
     
  22. parn_nv

    parn_nv New Member Member

    30
    0
    0
    หาอู่ใหม่ครับ GA 15 ก็ประหยัดดี เบ็ดเสร็จราคาไม่แพงเท่ามอไซด์ เวฟ 100 ครับ
     
  23. green nv #032

    green nv #032 New Member VIP

    2,789
    89
    0
    เกาไม่ถูกที่คัน นอกจากไม่หายคันแล้วมันยังทำให้ตรงที่โดนเกาถลอกอีกต่างหาก

    เอาใจช่วยครับ เปลี่ยนเครื่อง แล้วเปลี่ยนอู่เซอร์วิสครับ...:)
     
  24. mangginoon

    mangginoon New Member Member

    88
    1
    0
    เข้ามาเห็นใจครับ

    ช่างมั่วมากๆ

    ผมว่าคงเอารถไปลองแล้วพังแน่เลย

    ยังไงก็ขอให้ซ่อมเสร็จไวไวนะครับ
     
  25. singcoohteam

    singcoohteam New Member Member

    5,303
    108
    0
    ตกลงเป็นยังไงมั่งครับผม
     
  26. ถ้าเป็นผม คงไม่ซ่อมครับ เพิ่มเงินเปลี่ยนเครื่องดีกว่า เครื่องเก่าสภาพน่าจะแย่มากแล้ว ต้องถามตัวเองดูครับว่าไหวไหม๊ กับงบอีกประมาณ 2 หมื่น แต่ดูเจ้าของเค้าก็พอจะมีความรับผิดชอบอยุ่บ้าง แต่ยังไม่ดีที่สุด แต่จิงๆ ราคาที่อู่บอก 18000 ถ้าเบ็ดเสร็จเลย (ต่อได้อีกหน่อยก็ดี)
    ก้อพอรับได้นะคับ แต่เครื่องเราต้องหามาเองดีกว่า เพราะค่าเครื่องครบชุด อยู่ประมาณ 15000 ค่าวาง+วาย +จุกจิก อีกสัก 5-8 พัน เพราะถ้าลากออกไปหาอู่ใหม่ คงไม่ได้ราคานี้แน่นอนครับ
     
  27. pop-ja

    pop-ja New Member VIP

    2,068
    235
    0
    เชื่อพี่เค้าเถอะครับพี่เค้าเจ็บมาเยอะ เดี้ยวพรุ้งนี้ผมจะไปหาความรู้ด้วยคนนะครับที่เรดซีดดดดด:D
     
  28. sakunpannawors

    sakunpannawors New Member Member

    206
    0
    0
    เอาใจช่วยนะครับ
    ขอให้เสร็จไวไวนะครับ
    รอชมครับ
     
  29. ae 80

    ae 80 New Member Member

    75
    1
    0
    เป็นกำลังใจให้อีกคนคับ
     
  30. akkakit

    akkakit New Member Member

    210
    1
    0
    น่าเห็นใจมากๆครับ อู่ที่ผมติดแก๊สก็มาแนวๆนี้เลยครับมีปัญหาแต่ละทีแก้ไม่เคยจบ ทุกวันนี้เปลี่ยนอู่เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ สู้ๆครับ
     
< Previous Thread | Next Thread >

แบ่งปันหน้านี้