เป็นเกจ์วัดแรงดันน้ำมันเครื่องกับวัดอุณหภูมิน้ำ/น้ำมันครับ ผมทราบแค่ว่าเกจ์แบบแมคคานิคดีตรงที่ค่อนข้างจะเที่ยงตรง ทนทานกว่าพวกเกจ์ระบบไฟฟ้า ไม่ค่อยรวน แต่ข้อเสียคือสายทองแดงที่วัดอุณหภูมิ ถ้าสายทองแดงมันหักก็พัง และที่กลัวที่สุดคือเรื่องสายถักแรงดันน้ำมันเครื่องแตกครับ ถ้าแตกทีคงได้รื้อภายในทั้งคันแหงๆ ผมลองปรึกษาบางคนเค้าก็บอกว่าถ้าทำดีๆมันก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอก...แต่ผมก็ไม่รู้ว่าไอ้คำว่าทำดีๆมันหมายถึงยังไง เพราะสายถักจู่ๆมันก็แตกขึ้นมาได้ใช่มั้ยครับ? หรือสาเหตุจริงๆมันคืออะไร? แต่คิดอีกอย่างนึง อย่างสายถักเบรกซิ่ง เค้าก็บอกกันว่ามันดี ทนทานกว่าสายเบรกเดิมๆของรถ ไม่แตกง่าย แต่ทำไมสายถักเกจ์วัดแรงดันน้ำมันเครื่องถึงยังได้ยินเรื่องแตกบ่อยๆล่ะครับ? ทั้งๆที่มันก็เป็นสายถักสเตนเลสเหมือนกันกับสายถักเบรก เกจ์รุ่นที่อยากได้มันก็หาแบบไฟฟ้ายากเหลือเกินนน รบกวนขอคำปรึกษาด้วยครับ ขอบคุณมากๆครับ
ผมใช่อยู่ครับ แบบแเมคคานิค แรงดันเบนซิล+วัดบูส ไม่มีปัญหาอะไรนะครับ แต่ติดตรงที่ดูพีคไม่ได้อ่ะครับ ส่วนแรงดันเบนซิลผมใช้เป็นสายถักแบบสแตนเลสมันก็ไม่เห็นแตกเลยครับ แรงดัน3บาร์กว่า
hks db จะมี ปัญหา บ้างนะ เท่าที่ผมเคยเจอมา บูส ปกติดี temp ปกติดี แต่ถ้า เวลาช่างประกอบ บิดสาบไม่ดี สาย มักจะหัก press อันนี้ไม่รู้เป็นเหมือนกันป่าว เรื่อสายเหมือง temp แต่เวลาจอดรถถ้าจอด ร้อนๆๆๆ เข็มมันจะร้อน แล้วเวลา สตาร์ท ทำให้ เข็ม มันรูด แล้ว ขึ้นเพี้ยนไปเลย ต้อง แกะหน้ากาก มาใส่ เข็มเอาใหม่
ผมก็ใช้แบบแมคคานิคอยู่ครับ ออโต้มิเตอร์ บูส กับ ฟูลเพรส ฟูลเพรสผมก็อยู่แถวๆ 40-50 ปอนด์นะครับ ไม่เป็นไรนะ ตรงดีแล้วก็ทนมากกก ตกทอดมาจากพี่อีกทีเป็น 10 ปีละมั้ง ยังไม่พังไม่รวนเลย เกจ์ไฟฟ้าสวยไฮโซ แต่เซ็นเซอร์พังทีซ่อมแพงงงงครับ
เกจMECHANIC พวกTEMPอาจต้องระวังตอนติดตั้ง เพราะตรงSENSORมันจะมีปรอท ใส่แรงๆ "แตก" ก่อนเลยครับ แตกก่อนไม่ดี... ใช้ไม่ได้...
แนะนำแบบนี้คับ Gab ตัวไหนที่วัด Temp ให้ใช้เป็นไฟฟ้าคับ เพราะตัวปรอทที่วัดมีปัญหาบ่อย แล้วก็โบราณมากแล้วสำหรับการวัดระบบนี้คับ ส่วนตัวอื่นๆที่เหลือ mechanic ได้เลยคับ ผมเองก็ชอบ mechanic และก็ใช้ mechanic มาตลอด รถแข่งที่วิ่งสนามโดยมากก็ mechanic เพราะค่าที่ได้เที่ยงตรงแล้วเรื่องความคงทนของเกจ์ก็ดีกว่าไฟฟ้ามากคับ และที่สำคัญราคาสวยกว่า ส่วนเรื่องสายถักที่แตก ถ้าเลือกสายของดี มันก็ไม่แตกหรอกคับ ผมยังไม่เคยเจอปัญหาแตกเลยคับ ไม่ทราบว่าที่บอกว่าแตกใช้สายของอาราย วัสดุเหมือนกันแต่การผลิตและความทนทานมันต่างกันเยอะนะคับระหว่างของมียี่ห้อกับของธรรมดา ยกตัวอย่างพวกหัว Aeroquip กับหัวที่ทำจีน หรืองานไต้หวัน ลองไปใช้ดูคับจะรู้ว่ามันก็หัวสายเหมือนกัน แต่อายุการใช้งานในการขันเข้าออกต่างกันมากคับ สำหรับผมเกจ์ mechanic ยังน่าเล่นอยู่ตลอดคับ
ให้ HKS DB อยู่สี่ตัว ผมว่าดีเลยนะแมคคานิค ทนมากๆ ไม่พัง ไม่รวน เรื่องสายถักแตกยังไม่เคยเจอนะ แต่ถ้าไม่ถัก เจอแตกบ่อยเละทั้งคัน... แต่เสียอย่าง มันดู พีค ไม่ได้ แค่นั้นเอง...ต้องตาไวไว อ่ะ ราคาไม่โหดมากด้วยเบิกใหม่ตัวนึง 4500 เอง
ผมก็ชอบ ใช้ แมคคานิค นะ มัน ถูก ทน ดีอ่ะ ที่สำคัญ มันตรงกะคอมตอนจูนด้วยดิ เรื่องสายที่แตก ผมว่า คดไปคดมา สายแตกใน ไม่ก็ ซื้อสายถักมาร้านอาจจะเอาของเก่า ราคาถูกมาให้ก็เป็นได้
หลักการทำงานของเกจ์ แมคานิก เป็นหลักการง่ายๆไม่ซับซ้อนที่ใช้มานานนนนมากแล้ว ไฟฟ้าจริงๆแล้วมันควรจะทนกว่า เพราะ moving part น้อยกว่า แต่ไหงไม่ทน อาจจะเป็นเพราะเรื่องของต้นทุนในการผลิตด้วย ของพวกที่ใช้ในอุตสาหกรรม แบบไฟฟ้าก็ทนกว่ามากครับ เพี๊ยนน้อยกว่ามากๆ แต่อย่างว่า มันเป็นงานคนละประเภทกัน วัด temp อย่างที่ท่าข้างบนบอก ควรจะเป็นไฟฟ้าน่าจะดีกว่า เพราะปรอทมันมีพิษครับแตกขึ้นมาไม่รู้เราดมไปเท่าไหร่ ส่วนพวก pressue ถ้าใช้ แมคานิก ใช้สายที่ดีๆครับ เพราะมันลากเข้ามาในรถ แตกขึ้นมาอุณหภูมิมันไม่ใช่ 30 40 องศาครับ มีพิษด้วย
อ้อ พวกปรอท ยังไงก็น่าจะแม่นยำกว่าไฟฟ้า เพราะหลักการมันคือการขยายตัวของปรอท ถ้าปรอทที่ใส่คุณสมบัติไม่เปลี่ยน มันก็ขยายตัวเหมือนเดิม ปล.ถ้าผิดพลาดก็ขออภัยด้วยนะคร้าบ
ใช้ HKS DB มา 4-5 ปีละ(รวมเวลาที่เจ้าของเดิมใช้มาด้วย) ไม่มีปัญหาอะไรนะคับ ปัญหามีอย่างเดียวเข้ม watertemp เคยค้างครั้งนึงคับ ลงไม่สุด เลยรื้อมาขยับเข็มเอง นอกนั้นก้อใช้ดีไม่มีปัญหา สวยด้วย
อันนี้HKS DB MECHANIC กับ DB RS ที่เป็นไฟฟ้า [video=youtube;a7x8h3yZKV4]http://www.youtube.com/watch?v=a7x8h3yZKV4[/video]