ขอถามข้อเสียนะครับจากที่ได้ยินมาต่อๆกันคือ 1.รถรุ่นนี้ขับแล้วร้อนหลังคนขับกับคนนั่งหรืออาจจะทั้งห้องโดยสารจริงมั้ยครับ แก้ยังไง เป็นทุกคันมั้ย ? 2.ได้ยินว่าขับไปแล้วลมเข้ามาในรถจริงมั้ยครับ แล้วจะแก้ได้ยังไง ? 3.ใช้ขับในชีวิตประจำวันได้มั้ยครับผมขับรถวันนึงเกือบ60โล ถ้ารักษาความเร็วที่100 ? 4.สเปคเครื่องของmr2กินน้ำมันกี่กิโลลิตรครับ ระหว่างมีโบกับไม่มีโบ ? ช่วยตอบทีนะครับถ้าใครรู้เพราะผมชอบรถรุ่นนี้มากแต่ยังไม่เคยไปลองตอนนี้กำลังจะหาซื้อรถครับ
ตอบตามประสบการณ์กะรถผมเองละกัน 1.ความร้อนไม่ถึงห้องโดยสารนะครับแต่จะได้ยินเสียงเครื่อง เทอร์โบ โบออฟ เวสเกต ชัดเจน ถ้าชอบก้อได้อารมณ์ไปอีกแบบ 2.ตามธรรมชาติของรถประตูกระจกเปลือยนานไปลมเข้าบ้างแน่นอน ลมนะไม่ซีเรียส แต่น้ำนี่สิกับหลังคา ทีบาร์ 3.ถ้าไม่ไปแต่งเยอะขับใช้งานสบาย...ตอนนี้ผมก้อขับทุกวัน...แต่ผมลำบาก 4.3s bo nonair กล่อง f con บูสต์1บาร์ ขับแบบไม่ติดบูสต์บ่อย ได้10-13กว่า แต่ถ้าซัดสนุกก้อ8-9 ประมาณนี้กับโซฮอล์ 95 แนะนำให้เน้นที่ตัวถังสวยๆไว้ก่อนเลยนะครับ...
ดูตัวถังสวยๆจะดูยังไงครับพอดีผมไม่ค่อยสันทัดเรื่องรถเท่าไหร่ แล้วน้ำเข้าเยอะมากมั้ยครับถ้าฝนตกหนักมีวิธีแก้มั้ยครับ
- หาช่างเชี่ยวชาญเรื่องบอดี้ไปดูตอนจะซื้อรถ ให้ดีรถไม่ควรชนหนักถึงขนาดตัวถังเบี้ยวมา(ดูยังไงอันนี้ผมก็ไม่รู้ คงต้องปรึกษาช่าง ขอโทษจริงๆครับ) - น้ำเข้าเยอะก็เปลี่ยนขอบยางทีบาร์ หาร้านที่ใส่เป็น เบิกใหม่ประมาณ 12000 มือสองไม่ค่อยแนะนำ เพราะพวกวัสดุยางมันมีอายุการใช้งานและเสื่อมสภาพได้ แต่จริงๆไม่น่าจะซีเรียสมาก เพราะมันไม่ได้รั่วตลอดเวลา มันจะสะสมจนได้ที่แล้วก็ไหลพรวดมา เหมือนเวลาเติมน้ำอุ่นในอ่างอาบน้ำจนเต็มแล้วล้นออกมา เพื่อรักษาระดับที่อ่างมันรับได้ 5555555555
1. MR2 เป็นรถที่ห้องโดยสารเย็นที่สุดในบ้านผมแล้วครับ jazz ป้ายแดง ก็สู้ไม่ได้ ผมใช้ MR2 มา 3 คัน ก็เย็นแบบนี้ทุกคัน สงสัยจริงๆ ว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวว่า MR2 ห้องโดยสารร้อน เพราะได้ยินคนถามแบบนี้เยอะมาก หรือคนที่ปล่อยข่าว ไม่เคยใช้ MR2 แต่เดา เอาเองว่าน่าจะร้อน เพราะตำแหน่งเครื่อง 2. จริงครับ ต่อให้รถตัวถังสวยแค่ไหน หรือเพิ่งเปลี่ยนยางขอบประตูมา ฟิตๆ จนประตูปิดยากๆ มันก็ยังเข้าอยู่ดี คิดว่าคงเป็น bug ของรถรุ่นนี้ เพราะ R32 ที่บ้าน กระจกประตูก็ไม่มีกรอบเหมือนกัน แต่ลมไม่เข้าซักแอะ ซัดมิดเกจ์ ยังไม่มีเสียงลมเข้าเลย มีแต่เสียงเครื่อง ถ้าเป็นคนซีเรียสเรื่องการเก็บเสียง แนะนำว่าอย่าซื้อ MR2 ครับ ข้อ 3-4 ตามพี่ข้างบนครับ
เป็นไปได้ที่คนเค้าบอกว่าห้องโดยสารไม่เย็น เพราะแอร์รถ MR2 เค้าเจ้งครับ อันนี้ไม่ว่ากัน แต่ปกติ อย่าว่าแต่ MR2 อย่างเดียวเลย โตโยต้าทุกรุ่น มีจุดแข็งเรื่องระบบแอร์ครับ เจ้งยาก จากประสบการณ์ที่ทั้งรถที่บ้าน และญาติ ที่ครอบครองรถโตโยต้ากันหลายรุ่นนะครับ (โตโยต้าใช้ระบบแอร์ยี่ห้อ Denso)
เรื่องลมไม่ค่อยซีเรียสครับแต่เรื่องน้ำซีเรียส 55 ขอฝากลิ้งรถให้พวกพี่ๆดูหน่อยนะครับผมเล็ง2คันนี้อยู่เผื่อมีใครรู้ประวัติรถ2คันนี้จะได้แนะนำว่าเป็นอย่างไรเคยชนมั้ย เคยเปนอะไรมั้ยประมาณนี้ครับ http://one2car.com/TOYOTA_MR2/L21100260 http://one2car.com/TOYOTA_MR2/B04110155
เรื่องน้ำ ไม่เยอะครับ 2-3 นาที ต่อหยด พกผ้าไว้ผืนนึงก็พอ และมันจะหยดตอนจอดติดฝนด้วย ตอนวิ่งไม่หยด เพราะลมจะพัดน้ำไหลไปข้างหลังหมด หรือถ้ารำคาญมาก ควักเงินหมื่นกว่าบาท เปลี่ยนยางขอบกระจก ปัญหาน้ำหยด ก็จะหมดไป
รถผมน้ำเข้าเหมือนกัน เข้าตรงช่องระบายลมสามเหลี่ยมข้างประตู ทั้ง 2 ข้างเลยครับ เมื่อวานล้างรถเองเจอกับตาเลย ไปซ่อมที่ไหนดีครับ อู
ถ้าตัวถังสมบูรณ์ซีลยางอยู่ครบมันจะรั่วตรงรอยต่อทีบาร์แค่นั้น..เปลี่ยนยางใหม่ก็หาย แต่เคยเจอบางคันต่อหัวมา..น้ำรั่วลงเท้าเลยลองเปิดแผงจิ้งหรีดดูโอ้!!!!
ของผมตรงนี้ก็ไม่รั่วนะครับ ของรถผมรั่วแค่ตรงขอบยางทีบาร์อย่างเดียวครับ ส่วนรั่วลงเท้ารถไม่ตัดหัวมาก็มีโอกาสได้ครับ เพราะรถผมก็เป็น เวลาจอดรถติดแล้วฝนตกหนักมากๆ มีโดนเท้า ประมาณสองสามหยดครับ (แต่รถเค้าไม่ได้ตัดหัวมานะ รื้อดูแระตอนทำสี 5555555)
ลองเอาหูไปเงี่ยฟังรอบๆ รถตัวเอง ตรงไหนมีเสียง มิ้งค์ๆๆๆๆๆๆๆๆ ออกมา ตรงนั้นแระครับแผงจิ้งหรีด ถ้าโชคดีอาจจะเจอคราบมันด้วย อิอิอิ
เรื่องน้ำเข้าหรือลมเข้านอกจากเปลี่ยนยางขอบประตูแล้ว อีกอย่างที่ต้องทำซึ่งยังไม่มีใครตอบก็คือ ต้องตั้งประตูด้วยครับ
ถ้าจะเอายางขอบกระจกทีบาร์ผมเห็นมีขายอยู่ในเว็บนอกอ่ะครับรวมส่งยังไม่ถึงหมื่นแต่เรื่องภาษีไม่ชัวร์ครับ ถ้าใครสนใจเด๋วสั่งให้ได้ครับ (ของผมทีบาร์เหมือนกันแต่ไม่รั่ว หรือรัวแบบนิดเดียว เลยยังไม่ไดสั่งมาใส่เองครับ)
คนขับ ขับทางไกลสบาย คนนั่ง นั่งสบาย ยืดขาได้แบบสะใจ เบาะปรับเอนได้นั่งสบาย แต่นอนไม่ได้ นั่งหลับได้อย่างเดียว อันนี้เบาะเดิมนะครับ ถ้าเบาะแต่ง ก็เลือกยี่ห้อที่มันไม่แข็งมากหน่อยแระกัน สรุปว่านั่งสบายไม่สบาย แนะนำลองมานั่งรถจริงเลยดีกว่าครับ จะตอบตัวเราเองได้มากกว่าให้คนอื่นมาตอบอะ สำหรับขับทางไกล ผมขับทางไกล กรุงเทพ-หาดใหญ่ ไป-กลับระยะทางประมาณ 1900 km. มา 3 รอบแระ ก็ไม่เหนื่อยอะไรมากมายครับ
ขอถามเรื่องเครื่องอีกนิดนะครับงงกับมันมากหาข้อมูลก็ไม่ค่อยเจอ เครื่อง 3sgte air-flow ต่างกับ non-air flow ยังไงแล้วมันทำงานยังไงระบบเปนยังไง เครื่อง3sgte direct coil มันต่างกับไอ2ตัวข้างบนยังไงแล้วมันทำงานยังไง ถ้าจะเล่นเครื่อง 3s turbo ควรจะเล่นเครื่องไหนดีครับกับ3ตัวเลือกข้างบน แล้วสมควรเล่นmr2ที่เป็น3sไม่มีโบมั้ยครับ กลัวไม่ใช่เครื่องเดิมแล้วจะมีปัญหา เพราะผมเคยได้ยินว่า เครื่องเดิมของรถmr2เป็น 3sที่มีเทอโบในตัว ใช่มั้ยครับ? ตอบทีครับ งงและมึนมาก กำลังจะตัดสินใจซื้อ ใครตอบได้เดี๋ยวพาไปลงอ่าง เอาปะ 55
air-flow กับ non-air ต่างกันที่เซ็นเซอร์วัดอากาศเข้าเครื่อง และระบบไฟนิดหน่อย ม้าจะเป็น 225 และ 245 ตามลำดับ ส่วน direct coil นั้น ใช้ตัววัดอากาศเหมือนตัว non-air (ใช้ map เซ้นเซอร์) แต่ต่างจาก non-air คือ ท่อร่วมไอดี ระบบไฟจุดระเบิดแบบไดเร็คคอยล์ครับ ตัวเทอร์โบคนละลูก เกียร์ต่างกันด้วยครับ ตัวนี้ 265 แรงม้า ถ้าจะเล่นแนะนำ non-air ครับ เดิมๆก็ขับมันส์ ทนทาน ไม่จุกจิก กินน้ำมันตามสมควร ส่วนตัวไม่มีเทอร์โบนั้นส่วนมากติดรถมาในบ้านเรา พวกที่เป็นหลังคาทีบาร์ (แต่ทีบาร์บางคันก็เครื่องเทอร์โบจากโรงงานเหมือนกัน) ขับชิลๆ ครับ เอามันส์ไม่ค่อยได้ ยังไงก็ขอให้ได้รถดีสมใจนะครับ ถ้าสงสัยอะไรเพื่อนๆในคลับพร้อมช่วยเหลือครับ ทุกคนนิสัยดีจริงๆ คอนเฟิร์ม
จริงครับพี่นุ ทุกวันนี้ขับรถไป จะหลับไป ........ ไม่มีความเร้าใจเอาซะเลย ป.ล. วันก่อนนู้น เจอพี่ตรงวิภาวดีแถวหลักสี่ช่วง 4-5 ทุ่มครับ รถยังสวยเหมือนเดิมเลยนะพี่