แนะนำวิธีอุ่นกล่อง ECU (ภาค 2 )

การสนทนาใน 'Rover Club' เริ่มโดย โย่ง199, 9 มีนาคม 2011

< Previous Thread | Next Thread >
  1. โย่ง199

    โย่ง199 Guest

    0
    0
    0
    เมื่ออาทิตย์ก่อนรถเพื่อนพี่ ใช้ Range Rover 4.6 HSE จอดทิ้งไว้ที่อู่แถวบ้าน( อยู่แถวปทุมธานี )เนื่องจากรถรุ่นนี้กินน้ำมันมาก
    จึงไม่ค่อยได้ขับพอจะขับแบตหมด ช่างที่อู่แทนที่จะถอดแบตไปชาร์จแต่ขี้เกียจกลับเอาเครื่องชาร์จแบตมาต่อตรงที่รถ ผลปรากฎว่า
    Air Flow ระเบิดทันทีและกล่อง ECU ชอร์ตข้างในเนื่องจากเกิดการลัดวงจร ต้องลากเข้าศูนย์ยังไม่รู้จะเสียเท่าไหร่ ( น่าจะเป็น
    เลขหกหลัก ) เหตุที่เกิดขึ้นเพราะความขี้เกียจและความไม่รู้เรื่องเทคนิคของระบบไฟฟ้ารถยนต์สมัยใหม่ รถเราจึงพัง
    กรณีนี้เคยเกิดขึ้นแล้วกับรถ BENZ E220 ของคนรู้จักที่แบตหมดแล้วช่างที่อู่ต่อสายตรงเพื่อสตาร์ทเครื่องเครื่องยนต์ ปรากฎว่า
    สายไฟไหม้ทั้งคัน ต้องเปลื่ยนใหม่ทั้งชุด ประมาณ 70,000 บาท แล้วช่างที่อู่ก็ไม่มีปัญญาจ่าย เจ้าของรถต้องจ่ายเองได้แต่ยืน
    ด่ามันเท่านั้น ขอให้ชาว Rover พึงสังหรณ์ไว้เลยว่าเวลาจะเอารถไปให้ใครทำต้องแน่ใจว่าช่างรู้จริงและเก่งพอที่จะทำรถ
    ของเราได้ เพราะช่างบางอู่ใช้วิธีเดาเอาเป็นหลักไม่ได้มีความรู้เรื่องวิศวกรรมยานยนต์และระบบไฟฟ้ารถยนต์ที่แท้จริง
    แล้วยิ่งพวกที่เปลื่ยนเครื่องอย่างพวก VOLVO 740 ,940 ที่ชอบเปลื่ยนเครื่อง 1J ,2J ลงแล้วปัญหาที่ตามมาเยอะมาก
    เช่นรถจะเสียศูนย์เนื่องจากจุดศุนย์ถ่วงของรถเปลื่ยนไป น้ำหนักเครื่องเก่าและเครื่องใหม่ไม่เท่ากัน ขับทางตรงได้แต่เวลาเลี้ยว
    เร็ว ๆจะเป๋ออกข้าง , เฟืองท้ายจะพังเนื่องอัตราทดเฟืองท้ายของ VOLVO เป็นแบบหยาบเพราะเน้นกำลังตอนออกตัวเป็นหลัก
    แต่เฟืองท้ายของ 1J,2J เป็นแบบละเ อียดเพราะเน้นความเร็วเป็นหลัก ผลสุดท้ายเฟืองท้ายเดิมกลับบ้านเก่าหมด และสุดท้าย
    ระบบไฟของเครื่อง J ซึ่งไม่เหมือน VOLVO แน่นอนต้องใช้ช่างไฟที่เก่งมีคู่มือ Wireling Diagram ซึ่งจะต่อสายไฟได้
    ครบถูกต้องตาม Specจะทำให้เครื่องเดินดีเรียบและไม่กินน้ำมันครับ แต่โดยมากจะต่อสายไฟไม่ครบแค่เอาให้สตาร์ทติดก็พอ
    ซึ่งจะทำให้รถมีปัญหาไม่รู้จบ วันนี้เอาแค่นี้พอครับ
     
  2. S'

    S' New Member Member

    217
    1
    0
    ขอบคุณครับ :D
     
  3. TG Rover

    TG Rover New Member Moderator

    936
    2
    0
    เป็นฟามรู้ครับ แต่งวดนี้ไม่ได้อุ่นกล่องนิครับ

    ไม่ทราบว่าพี่โย่งทำอู่หรือป่าวครับ เผื่อจะเอารถไปซ่อมรถด้วย
     
  4. Original

    Original New Member Member

    322
    0
    0
    ขอบคุณครับ
     
  5. backing

    backing New Member Member

    47
    0
    0
    ระบบไฟฟ้ารถยนต์ทำงานที่แรงดันไฟฟ้าสูงสุดไม่เกิน 13.8 volt นะครับ แต่เครื่องชาร์ตแบตเตอรี่จะสร้างแรงดันให้สูงกว่าถึง 20 volt (ศักย์ไฟฟ้าสูงกว่า ไม่งั้นไฟเข้าแบตไม่ได้) การคีบไฟจากเครื่องชาร์ตเข้าแบตโดยตรงขณะติดตั้งอยู่ในรถจึงเท่ากับเป็นการ"เผา"อุปกรณ์อีเลคโทรนิคส์ขนาดเล็กทึกชิ้นในรถ ไม่เพียงแค่กล่องประมวลผล แต่ยังลามไปถึงหน้าปัทม์และระบบอีเลคโทรนิคส์อื่นๆทุกชิ้นทั้งคัน ไม่เหมือนรถคาร์บิวตอนเราเด็กๆนะครับ พ่วงไฟ 24 volt จากรถสองแถวมาสตาร์ทติดชึ่งกลับบ้านได้สบาย
    อีกประการหรึ่ง การถอดใส่แบตเตอรี่นั้น สำคัญมากๆ ต้องถอดหรือใส่ขั้วลบก่อนเสมอ ห้ามถอดหรือใส่ขั้วบวกก่อนเด็ดขาด เพราะไฟฟ้าสถิตย์ที่ค้างอยู่ในตัวรถไม่สามารถถ่ายลงกราวน์ได้(ซึ่งคือขั้วลบ) มันจะกระโดดกลับเข้าไป"เผา"ชิพในกล่องทันที ไฟฟ้าสถิตย์นั้นมีแรงดันถึงแสนโวลท์ แต่ไม่เป็นอันตรายกับร่างกายเพราะกระแสต่ำมาก แค่สะดุ้งน่ะครั่บ
     
  6. Original

    Original New Member Member

    322
    0
    0
    แหม มีเขี้ยวเล็บ เหมือนกันนะเนี่ย
    ไม่เบาเลยนะนายโท.............
     
< Previous Thread | Next Thread >

แบ่งปันหน้านี้