เจอออู่สีบอกถ้าไม่พอใจก้ไปฟ้องเอา

เรื่องมีอยู่ว่า
ผมได้นำรถ eg3d ของผมไปทำสีที่อู่สี วัฒนชัยคาร์เซอร์วิช จังหวัดชัยนาท
แล้วตกลงค่าทำสีพร้อมจ่ายมัดจำ
รับรถวันที่ 19 มี.ค. - 2 พ.ค.55
ระยะเวลาในการทำ 45 วัน
วันที่ 30 เม.ย. 55
ผมได้เข้าไปดูรถที่อู่ปรากฎว่ารถอยู่ในสภาพ ปะผุไม่เสร็จ พ่นเกาะเหล็กไว้ทั้งคัน
ผมได้สอบถามทางเจ้าของอู่ว่าจะทำทันไหม
คำตอบคือ ไม่ทันและขอเวลาทำเพิ่มอีก 25 วันพร้อมค่าปะผุเพิ่มอีก 3000 บาท
ถ้าผมไม่พอใจก็ไปฟ้องร้องเอา
ผมเลยได้ไปดำเนินการแจ้ง สคบ.ชัยนาท เพื่อแจ้งความร้องทุกข์
แต่ยังไม่ได้แจ้งให้ สคบ.เชิญเจ้าของอู่มาคุยนะครับ
เพราะกลัวมันวางยารถผมอะครับ
ใครมีความคิดแบบไหนขอบ้างครับ
ขอบคุณทุกความเห็นครับ
เบียร์ ชัยนาท

 

แจ้งความ วันที่ให้ สคบ เชิญอู่มาคุยก็ไปสไลด์รถออกพร้อมตำรวจ

 

เอาใจช่วย มีงี้ด้วย ทำงานไม่เสร็จตามกำหนด ขอเงินเพิ่ม ท้าไปฟ้องอีก ทุเรศสุดๆ

 

ทำไมไม่คุยกับลูกค้าดีๆนะ "ผมทำไม่ทันจริงๆ" หรือ "มันผุเยอะกว่าที่คิด" อะไรก็ว่ากันไป
แต่พูดจาแมวๆแบบนี้ มันน่าจัดให้จริงๆ

 

มันไม่ใช่ความผิดของลูกค้า ถ้าตกลงกันก่อนทำนะคับ เห็นใจเจ้าของรถคับ รถเรายังไงก็รักกหวง และนี่รถเราก็ยังอยู่ในอู่เค้าอีก ยังไงก็ขอให้จบลงด้วยความพอใจนะคับ ผมเอาใจช่วย

 

ได้ทำสัญญาการว่าจ้าง หรือมีการลงชื่อ-เขียนเป็นลายลักษณ์ รึป่าวคับ?
ถ้ารับมาเฉพาะบิลเงินสดรับค่ามัดจำแล้วลงชื่ออย่างเดียว"ยังแข็งไม่พอ"นะคับที่จะฟ้องร้องกันอย่างจิงๆจังๆ
แต่ถ้ามีการทำสัญญาอย่างที่ว่ามา .....ชัดเจน ก็ฟ้องได้เลยเป็นไปตามกฏหมายคับ

คุยกันให้ชัดเจนก่อนคับกับเจ้าของอู่....โดยปกติแล้วเค้าจะ"รู้สึกรับผิดชอบต่องาน"ก่อนจะบอกว่า "ไปฟ้องร้องเอา"
มัดจำไปเท่าไหร่คับ? ถ้า15000 -20000 งานไม่เดินแถม
เบิก 3000 ก็ลองคุยดูว่า 3000 ที่เบิกยังไม่จ่าย? ทำตรงนี้ให้เสร็จก่อนแล้วมาจ่ายได้มั๊ย เพราะอันเก่าเอามัดจำไปยังไม่เสร็จเลย
เพราะส่วนใหญ่การเก็บมัดจำไปในทางนัยคือ การของเบิกเงินค่าของอุปกรณ์เบื้องต้น....ไม่ใช่ค่าแรง
หรือถ้าชอบทำที่นี่คุณก็ยอม..จ่าย 3000 รอบใหม่ที่เบิก
ก็ลองถามเลยว่าเบิกเท่าไหร่จ่ายได้ (ให้อยู่ในราคารวมที่ตกลงกัน)แต่ต้องเสร็จตามกำหนด จะเสร็จเมื่อไหร่ว่ามา....สมมุติว่ากำหนดมาหลังจากนี้ 20 วัน
ถ้าเกินกว่านี้คุณก็คิดค่าเสียหายทางอู่เป็นรายวันเพื่อเป็นการรับผิดชอบ วันละเท่าไหร่ก็คำนวนเอาเป็นค่าเสียเวลา เช่นเป็นค่าเดินทางไปทำงาน เพราะรถต้องใช้ มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ฯลฯ
(ตอนผมทำฟ้องอู่ที่กทม.ผมคิดวันละ 500 ค่าแท็กซี่ ค่ารถไป-กลับเวลาทำงาน).....อย่าตกใจไปเพราะเป็นแค่ราคาตั้งฟ้อง(ขู่)
สุดท้ายศาลก็จะเรียกมาประนอมหนี้กันทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งจ่ายไม่เต็มอยู่ดีคับ
(การฟ้องมันทำให้เสียเวลาบ้างอะไรบ้าง.....แต่ผมฟ้องเอามันส์ คือ จะกวนตีนอู่สีที่ทำชุ่ยๆน่ะคับ)

การฟ้องร้องไม่ยากคับแต่ต้องใช้เวลา...หลายคนที่ไม่อยากเสียเวลาเค้าก็จะไม่ค่อยอยากทำกันถ้าไม่สุดจิงๆ
หรือไม่ก็ย้ายอู่ ให้เค้าคิดราคาในสิ่งที่ทำงานไปแล้วก็หักมัดจำกันไป ย้ายรถออกมาจบง่ายกว่า
แต่ถ้าคุยกันไม่รู้เรื่อง และไม่ง่าย....คือหักค่าแรงค่าทำงานในส่วนนี้มากเกินความเป็นจริง หรือทางอู่ตุกติกถ่วงประวิงเวลา
ก็ส่งเรื่องฟ้องต่อไปอย่าลืมเรื่องของการรีบนำรถออกจากอู่ให้เร็วด้วยนะคับ เพราะการรอ สคบ.มาตรวจสอบเพิ่มเติมน่าจะนานอยู่
ปัญหาคือจะนำรถออกไม่ได้ในทันที * ลองปรึกษาทนายดูคับ อาจจะทำได้เลยก็ได้ไม่แน่

-หาอู่ใหม่
-เตรียมนำรถออกจากอู่เดิมนี้(ดีกว่า)
-*เช็คงานให้ดีและรอบคอบ อะไหล่+อุปกรณ์ควบร่วมให้ครบถ้วนถ่ายรูปไว้ขนกลับได้ขนกลับก่อนเลยเหลือแต่ชิ้นใหญ่ๆไว้
-*ถ่ายภาพให้เยอะที่สุดจะ+คลิปด้วยก็ได้ และถ้าไม่กลัวว่าเอิกเกริกก็นำร้อยเวรไปตรวจสอบร่วมเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้ก็ไม่เสียหลายคับ
*=ทางที่ดีควรทำภายในวันเดียวให้เสร็จ ถ้าขนจะต้องขนให้หมดภายในวันเดียวและก่อนที่อู่จะปิดทำการนะคับ

ที่เหลือก็ปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนชั้นศาล......บางรายอาจกินเวลาเป็นปี หรือมากกว่านั้นกว่าจะได้ตังค์คืนมาไม่แน่ตอนนั้นคุณอาจจะเปลี่ยนไปใช้รุ่นอื่นแล้วก็ได้คับ

ถ้าเรื่องมันไม่แย่เกินไปนักผมสนับสนุนให้พูดคุย-ตกลงกันให้ชัดเจน(ใหม่อีกครั้ง)ก่อนคับ
เพราะถ้าส่งฟ้องกันแล้ว แก้ไขลำบากคับไม่ใช่นึกจะถอนก็ถอนฟ้องได้เลย.....

 

:thumbs_up:

 

เอารถออก แล้วเผาอู่มันเลยคับ.......