+++ขอแฉ !!!! ความเลวและกลโกงของบ. คูเนีย ประกันภัย +++

ตอนแรกที่คิดไว้ กะจะไม่แฉแล้ว แต่พอผมเจอเหตุการณ์วันนี้ทำให้ผมตัดสินใจว่า ผมต้องออกมาพูด ไม่ให้ใครตกเป็นเหยื่อให้กับบ. "คูเหี้ย" นี่อีก (บางคำพูดอาจไม่สุภาพครับ แต่มันทำให้อารมณ์ร้อนสุดขีดเลย ขอเปลี่ยนจากบ. คูเนีย เป็น คูเหี้ย แล้วกันนะ)

ผมมีปัญหากับบริษัทนี้มาโดยตลอด ซึ่งบริษัทนี้ผมก็ไม่ได้อยากทำหรอกนะ แต่แม่ผมเขาถูกนายหน้าที่รู้จักมาขายอีกที ก็เลยจำใจต้องเอา

เรื่องที่ 1 : ผมมีปัญหาตั้งแต่เคลมครั้งแรกเลย คือว่าผมโทรไปแจ้งเคลมว่า รถผมไปชนกระสอบทรายมาให้ส่งคนมาเคลมหน่อย เขาก็ส่งคนมาดูรถผมโดยที่เข้าใจว่าเป็นคนจากบริษัทมัน แต่ที่แท้มันส่งมาเคลมรถผมเป็น Supplier มัน (ผมมารู้ตอนหลัง)

ซึ่งผมก็คิดว่าคงเหมือนๆกันแหละ ผมกะเคลมแค่รอยที่กันชนหน้าเท่านั้น แต่ผมได้พูดคุยกับพนักงานที่มาว่า ผมจะเคลมจุดอื่นได้ไหม มันก็บอกว่าได้

ผมก็เลยเคลมรอบคัน โดยบอกไปว่า โดนกรถางต้นไม้บ้าง เฉี่ยวเสาบ้าง พอผมแจ้งเคลมกับมันเสร็จ มันออกใบที่เรียกว่า "บัตรติดต่อ" ผมก็ถามว่า ไอ้ใบนี้ทำไมมันหน้าตาไม่เหมือนกับใบเคลมทั่วไปเลย

ผมสามารถเข้าไปซ่อมได้เลยไหม มันก็บอกว่า ผมต้องไปติดต่อที่บ.คูเหี้ยก่อน ถึงจะซ่อมได้ ผมก็แย้งไปว่า "เห้ย...ผมเสียค่าเบี้ยประกันแบบซ่อมห้างนะ ปกติที่อื่นพออกใบเคลมก็ไปซ่อมได้เลยนิ่ ไม่เห็นต้องติดต่ออะไรอีก"

มันก็ตอบได้ใจมากว่า "ผมไม่รู้ครับ แต่พี่ต้องติดต่อที่บ.คูเหี้ยก่อน ผมมีหน้าที่มาดูแล้วส่งเรื่องไปที่บ.เท่านั้น" ผมก็ถามต่อไปว่า "อ้าว..ปกติคนที่มาเคลมต้องมีอำนาจตัดสินใจได้บ้างสิ ผมเคลมที่อื่นไม่เห็นยุ่งยากเลย" มันก็ตอบแบบเดิมว่า "ผมไม่รู้ครับ แต่พี่ต้องติดต่อที่บ.คูเหี้ยก่อน"

ผมก็เลยเอะใจถามว่า "นี่น้องเป็นคนจากบริษัทจิงๆหรือป่าว" มันก็บอกว่า "เปล่าครับ ผมเป็น Supplier ที่เขาส่งมาอีกทีหนึ่ง แต่พี่สามารถเอาใบที่ผมออกนี่ ไปยื่นติดต่อที่บ.ได้เลยครับ"

ผมก็ไม่รู้ทำไงก็เลยช่างมันไป สักพักผมจึงโทรเข้าไปที่บ.คูเหี้ยว่า ไอ้ใบติดต่อนี่มันยังไงกันวะ มันก็บอกว่าต้องรอ Supplier มันส่งเรื่องมาให้ก่อน ผมก็ถามไปอีกว่า แล้วมันกี่วันล่ะถึงจะทราบเรื่อง มันบอกว่าประมาณ 3 วัน

ผมก็โอเค 3 วันรอก็ได้วะ พอครบ 3 วัน ผมก็โทรไปสอบถามเรื่องของผมว่าถึงไหนแล้ว มันก็บอกว่าเรื่องยังไม่เข้ามา ผมก็ย้อนไปว่า ก็ไหนคุณบอกว่า 3 วัน Supplier เอาเรื่องมาส่งไง มันบอกว่าไม่ใช่ 3 วันนะ ต้อง 5 วัน...

ผมก็คิดแล้วว่า "อ้าว...ไหงหมาตัวแรกเห่าว่า 3 วัน แล้วนี่มึงบอกว่าเป็น 5 วันแล้ว นี่ยังไงกันวะ" คราวนี้ผมไม่พลาดแล้วจึงทราบถามไอ้คนที่บอกว่า 5 วันถึงได้เรื่องนี่ไว้

จากนั้นพอครบ 5 วัน ผมก็โทรไปหาไอ้คนที่ผมถามชื่อไว้ มันก็ให้ผมรอก่อน ขอค้นเรื่องเดี๋ยวโทรกลับ ผมก็โอเค จะดรอดูสิว่าจะโทรมาไหม ตกลงว่าพอผ่านไปสักช่วงเวลาหนึ่งมันไม่โทรกลับมา ผมจึงตัดสินใจโทรกลับไป

คราวนี้ได้เรื่องสักที แต่เรื่องที่ได้มานั้นกลับทำให้อารมณ์ผม โกรธถึงที่สุด มันบอกว่า "ที่ผมเคลมไป ผมต้องจ่ายส่วนต่าง 8000 บาท" ผมก็เถียงกลับไปว่า "เห้ย...ผมเสียเงินค่าเบี้ยประกันให้คุณแบบ ซ่อมห้างนะ ทำไมผมต้องเสียเงินส่วนต่างอะไรนี่อีก"

มันก็อ้างมาว่า "ผมเคลมรอบคัน ต้องมีส่วนต่าง" ผมก็ยิ่งโกรธเข้าไปใหญ่ จึงเถียงไปอีกว่า "ผมไม่ยอมเสียส่วนต่าง คุณจะมาคิดเงินผมตรงนี้ได้ไง ในเมื่อผมเสียค่าเบี้ยฯแบบซ่อมห้าง !!!"

มันก็เลยบอกว่า งั้นเอาอย่างนี้ "ถ้าคุณจะไม่เสียส่วนต่าง ให้คุณเขียน แฟกซ์ ถึงผู้จัดการมันว่า ผมไม่ยอมเสียตรงนี้ แต่ผมจะไปซ่อมอู่ในเครือมันแทน" ผมก็ยิ่งยั้วใหญ่ รู้สึกเหมือนถูกเอาเปรียบชัดๆ

มันคิดค่าเบี้ยประกันแบบซ่อมห้าง กรมธรรณ์ก็บอกว่าซ่อมห้าง พอเราจะไปซ่อมจิงๆ ไหงเราต้องเสียส่วนต่าง ถ้าไม่เสียก็ต้องลดชั้นไปซ่อมอู่ในเครือมัน ผมจึงบอกไปว่า "เดี๋ยวผมโทรกลับ"

ผมจึงโทรไปโวยกับนายหน้าที่มาหลอกขายประกันภัยนี้ให้กับแม่ผม เขาก็เลยแนะนำว่า ให้ผมยกเลิกใบเคลมใบนั้นซะ แล้วให้เคลมทีละจุดอย่าเคลมทีเดียว ผมก็ทำตาม ซึ่งมันก็อิดออดว่า ผมจะยกเลิกใบเคลมนี้ทำไม

ผมก็บอกมันว่า "มันเป็นสิทธิ์ของผม คุณไม่ต้องมายุ่ง คุณทำตามความต้องการของผมก็พอ"



ประเด็นของเรื่องนี้ : ผมไม่เข้าใจว่า ในเมื่อผมเสียค่าเบี้ยประกันแบบซ่อมห้างแล้ว ทำไมมันจะมาเก็บส่วนต่างอีกวะ เอาเปรียบกันชัดๆ ตอนที่ผมจะต้องจ่าค่าเบี้ยให้มัน แม่งทวงอย่างกับเราไปติดเงินมันเป็นล้าน พอเราจะใช้สิทธิ์ของเรากับไม่ยอม เหนียวหนี้ซะอย่างนั้น



เรื่องที่ 2 : พอผมเคลมที่ละจุดตามคำแนะนำของนายหน้า ผมก็ได้พูดคุยปรึกษาเพื่อนๆว่า จะเปลี่ยนสีเลยดีไหม เพราะมันเป็นรอยรอบคันเลย เอาไปขัดก็คงไม่ออก เพื่อนก็เลยแนะนำว่า ไหนๆก็รอบคันแล้วเปลี่ยนสีเลยแล้วกัน ผมก็ตัดสินใจว่า เออ...เอาวะยังไงก็คงใช้คันนี้อีกนาน เปลี่ยนสีเลยดีกว่า

จึงทำให้ผมไปศึกษาสีที่อยากได้ และอู่ที่ต้องการ (ผมขอไม่เอ่ยนามอู่ที่ผมทำแล้วกัน อู่นี้ผมค่อนข้าง Happy กับเขา แต่ไม่รู้ว่า หากกล่าวถึงมันจะเป็นผลดีหรือผลเสียกันแน่)

พอเคลมครบรอบคัน ผมได้เอาใบเคลมเข้าไปที่อู่ แล้วก็จะให้อู่เขาไปจัดการเรื่องคุมราคาให้ ทางอู่ก็แนะนำว่า "หากเจ้าของเข้าไปคุมเองส่วนหนึ่ง ทางประกันก็จะให้ราคามากกว่าที่อ่ไปเคลมเองนะ" (อู่ที่ผมเลือกใช้ ไม่ได้เป็นอู่ในเครือของ คูเหี้ยนี่ แต่เป็นอู่กลาง)

ผมก็ทำตาม โดยที่มีวันหนึ่งผมได้เข้าไปที่บ.มัน ได้นำใบเคลมบางส่วนเข้าไปคุมราคา มันก็มีคนดูแลเรื่องนี้ มันได้คุมราคาให้ผมประมาณ หมื่อนกว่าบาท ซึ่งผมก็ยินยอม จากนั้นมันเขียนราคาลงในใบเคลมให้ แล้วมีผู้จัดการมันเซ็นกำกับ

แต่ก่อนที่ผมจะเอาใบเคลมที่มีราคาเขียนอยู่นั้นให้กับทางอู่ ผมได้สำเนาเอาไว้แล้ว แต่อีกส่วนหนึ่งที่ทางอู่เอาไปจัดการผมไม่ได้สำเนาไว้ จากนั้นพออู่เข้าไปคุมราคาเองบ้าง ก็เอาส่วนที่ผมไปคุมเองรวมกับที่อู่ไปคุมให้ได้มาประมาณ 26000 บาท

ผมก็ถามอู่ว่า พอรึป่าว ทางอู่ก็บอกว่าพอสำหรับการทำสีภายนอก ถ้าให้รวมภายในตรงขอบประตูต่างผมต้องออกเองนะ เพราะส่วนต่างๆด้านในประกันไม่ได้ครอบคลุม ผมก็โอเคยินดีจ่ายส่วนต่างตรงนั้น

ผมก็ให้อู่จัดการทำสีเลย พอเสร็จทางอู่ก็บอกว่า เดี๋ยวเขาจะไปวางบิลที่บ.คูเหี้ยนี่ เช็คกว่าจะได้ก็ประมาณ 1 เดือน ซึ่งตรงนี้ผมไม่มีปัญหาอยู่แล้ว พอครบ 1 เดือน ซึ่งตรงกับวันนี้ (17/10/49) เป็นวันที่ทางอู่จะเข้าไปรับเช็ค (เช็คจะออกในนามแม่ผม เพราะชื่อในกรมธรรณ์ใช้ชื่อแม่ครับ)

มันมีปัญหาครับ คือว่าทางอู่โทรมาบอกว่า "ไอ้บ.เหี้ยนี่ จะไม่ยอมจ่ายในราคา 26000 บาท ตามที่ได้คุมราคาไว้ตอนแรก มันอ้างว่า รถผมเป็น City ดูจากรูปแผลที่เกิดขึ้น ค่าสีต้องได้แค่ 17000-20000 บาทเท่านั้น"

ผมก็ตกใจ เห้ย...ไหนมึงคุมราคาไว้ตอนแรกแล้วนี่ว่า 26000 บาท พอวันรับเช็คมาขอต่ออีก ได้ไงวะ !!! ผมเลยขอสายคนที่มันต่อราคาผม มันชื่อ "ราตรี" เป็นหัวหน้าดูแลอู่ในเครือ (ผมยังงเลยว่า มันมาเสือกอะไรวะ มันดูอู่ในเครือ แต่อู่ที่กูทำมันนอกเครือมึงนะ !!!)

ผมยืนยันกับมันว่า "ยังไงผมก็ไม่ยอม ในเมื่อคุณตกลงจะจ่ายที่ 26000 บาท พอวันที่มารับเช็คจะมาต่อรองอย่างนี้ได้ยังไง ถ้าคุณจะไม่ยอมคุณต้องไม่ยอมตั้งแต่คุมราคาตอนแรกสิ" มันก็อ้างว่า "ผู้จัดการเขาไม่อนุมัติ" (ถ้ายังจำตอนที่ผมเข้าไปคุมราคาเองได้ จะมีผู้จัดการเซ็นยินยอมในใบเคลมของผมอยู่ ถ้าไม่ใช้ผู้จัดการมึงเซ็นตอนแรก แล้วหมาที่ไหนเซ็นวะ !!!)

ซึ่งหากผมยอมรับในราคาที่มันต่อ ก็เท่ากับว่า ผมต้องออกส่วนต่างเพื่อจ่ายให้กับอู่น่ะเหรอ ซึ่งอีกประมาณ 6000-8000 บาท แล้วมันใช่เรื่องของผมไหมล่ะ มันก็อ้างนะว่า เป็นเรื่องระหว่างประกันกับอู่ลูกค้าไม่เกี่ยว

ผมก็มาคิดว่า เห้ย...ไม่มีกูเกี่ยวได้ไงวะ มึงจ่ายเช็คเป็นชื่อกู แล้วกูก็ต้องเอาเช็คไปจ่ายให้อู่อีกที แม่งงงง เรื่องของกูเต็มๆเลยนะเนี้ย

หากผมไปหักคอที่อู่ว่า มันเป็นเรื่องที่อู่ต้องคุยประกันเอง แล้วผมปัดความรับผิดชอบไป อีกหน่อยผมเกิดอุบัติเหตุจะไปซ่อมสี ยังไงผมก็ต้องกลับมาอู่นี้ ไปที่อื่นมันจะซ่อมสีกูเหมือนเดิมไหมล่ะ แล้วอีกอย่างผมก็รู้จักอู่นี้นี้ ผมไม่อยากเสียเครดิตหรอก

จากนั้นผมจึงวางสายจาก e ราตรี นี่ไป สักพักที่อู่โทรมาหาผมอีกว่า "...พี่...เขาต่อเหลือ 25000 บาท" ผมก็..เห้ย...อะไรของมันวะ 1000 มึงก็จะเอาเหรอ ผมบอที่อู่ไปว่า ไม่ยอมว่ะ ที่อู่ก็บอว่า "ถ้าพี่ไม่ยอม...มันต้องทำเรื่องถึงผู้จัดการใหม่ แล้วไม่รู้ว่าจะนานแค่ไหน"

ดูไอ้บ.คูเหี้ยนี่ตอบสิ แม่งเหี้ยขนาดไหน.. ผมก็คิดสักพักเลยบอกว่า "เออ...25000 ก็ได้วะ เดี๋ยวอีก 1000 พี่จ่ายให้เอง" จากนั้นก็วางสายไป นึกว่าเรื่องคงจะจบ

ปรากฎว่า เรื่องมันยังไม่จบครับ ที่อู่โทรมาอีก (แต่คราวนี้คนที่อู่ออกมาจากบ.เหี้ยนั้นแล้ว ไปตั้งแต่เช้า บ่าย 3 แม่งยังไม่จบ ค่าจอดรถตึก Empire ถูกซะที่ไหนล่ะวะ !!!) เขาเล่าว่า ไอ้บ.เหี้ยนี่จะไม่จ่าย 25000บาท จะจ่ายแค่ 21000 บาท และไม่ยอมอีก ประมาณว่าได้แค่นี้จะเอาไหมล่ะ

เท่านั้นแหละ ผมโกรธ ถึงขนาดตัวสั่น หน้าแดง เลยขอเบอร์ e ราตรี จากที่อู่ ที่อู่ก็ให้เป็นเบอร์มือถือมา ผมจึงโทรกลับไปด่า e ราตรี ว่า "คุณจะโกงเงินผมเหรอ คุณทำแบบนี้ไม่ได้ คุณตกลงจะจ่าย 26000 บาท ผมยอมเหลือ 25000 บาท แล้วยังไปหักคอจะจ่ายให้อู่แค่ 21000 บาทได้ยังไง คุณไปเรียกผู้จัดการคุณมาเดี๋ยวนี้ !!!"

มันก็อ้างว่า ผู้จัดการมันประชุมอยู่ คงคุยด้วยไม่ได้ ผมก็บอกว่า "ผมไม่สนอะไรทั้งนั้น คุณไม่ตามผู้จัดการคุณมาคุณกับผมเดี๋ยวนี้" มันก็บอกให้ผมรอสักพัก เท่านั้นแหละ แม่งทำสายมือถือหลุด โทรกลับไปอีกทีก็ติดต่อไม่ได้แล้ว (แม่งคิดจะวางสายหนีนี่หว่า !!!)

พี่ที่ทำงานผมก็บอกให้ผมใจเย็นๆก่อน โทรไปตอนนี้ก็ไม่ได้เรื่องอะไร เดี๋ยวอีกสักพักค่อยโทรแล้วกัน พอผ่านไปประมาณ 16.30 น. ผมจึงตัดสินใจโทรเข้าบ.ของมัน เพื่อที่จะขอสาย e ราตรี แม่งให้ผมรอสายตั้ง 10 นาที

เสือกมีผู้ชายคนหนึ่งมารับ แล้วถามผมว่า ผมจะติดต่อคุณราตรี เรื่องอะไร แล้วผมเป็นใคร ผมก็บอกไปว่า "เมื่อสักครู่ผมคุณกับคุณรตรีค้างไว้ สายมันหลุด ขอคุยธุระต่อหน่อย"

มันก็ยังจะมาถามอีกว่า แล้วผมเป็นใคร ผมก็ย้อนไปว่า "แล้วคุณล่ะเป็นใคร มาถามอยู่ได้ว่าผมเป็นใคร ผมจะขอสายคุณราตรี คุณไปตามมาเถอะ" มันก็อิดออด อ้างว่า e ราตรี ติดคุยกับลูกค้าอยู่ ผมไม่สนก็เลยบอกว่า "พวกคุณคิดจะโกงเงินผม ไปตามคุณราตรีมาตกลงกับผมต่อ"

มันก็ให้ผมรอายอีกประมาณ 10 นาที จากนั้น e ราตรีจึงมาคุยกับผม ผมก็ตะคอกไปว่า "เมื่อกี้คุณวางสายผมไปทำไม ทำไมคุณไม่ตามผู้จัดการมาคุยกับผม" มันอ้างว่า แบตเตอรี่มันหมด (กูไม่เชื่อมึงหรอก มึงจงใจวางหูกู)

แต่ตอนที่กับมันครั้งนี้ ผมพยายามคุยกับมันเย็นลง มันก็ยังอ้างไอ้ผู้จัดการของมันอยู่ บอกว่าผู้จัดการสั่งมาอีกที ผมจะขอสายมันก็บอกว่า ผู้จัดการมันยุ่ง ประชุมตลอด (นี่แม่งปกป้องนายมันชัด) ผมก็ไม่ยอมยังไงก็ไม่ยอมลดไปกว่านี้แล้ว

ผมก็บอกมันว่า "ไหนว่าบ.คุณเป็นที่ 1 ใน South East Asia นี่ คุณคิดจะโกงเงินลูกค้าแบบนี้เหรอ หรือว่าคุณเป็นที่ 1 จากการโกงมาล่ะ คุณขี้โม้นี่หว่า" ผมยังบอกอีกว่า "คุณลองคิดดูนะ ผมก็ไม่ซ่อมที่ศูนย์แล้ว คุณก็รู้นี่ถ้าไปที่ศูนยฯ ที่นั้นเขาคิดค่าใช้จ่ายแพงกว่าที่คุณจ่ายอีก"

มันก็ยังอ้างคำเดิมว่า ค่าแรงมันแรงไป พอดีพึ่งได้รับเรื่องมาก็เลยพิจารณาใหม่ .... โอ้โห...ได้ยินแบบนี้ผมก็โกรธอีก ก็ต่อว่าไปว่า "แล้วทำไมพวกคุณไม่ตกลงก่อนที่จะให้มารับเช็คล่ะ แสดงว่า "มัน" ตัวแรกที่เซ็นคุมราคาไม่มีอำนาจอะไรเลย แล้วปล่อย "มัน" เซ็นมาทำไม"

มันก็อ้างผู้จัดการหมาๆของมันอยู่ มันก็เลยสรุปให้ผมว่า มันจะเอาเรื่องของผมไคุยผู้จัดการอีกว่า โดยที่อ้างว่าลูกค้าเสียค่าประกันแบบซ่อมห้าง แต่ได้ไปซ่อมที่อู่ข้างนอกอีกทีหนึ่ง ผมจึงถามไปว่า แล้วคุณก็จะยื้อเรื่องอีกเป็นเดือนเหรอ ผมไม่ยอมนะแบบนี้ มันบอกว่าเดี๋ยวมันจะไปคุยกับผู้จัดการมันเลย ผมก็ย้อนไปว่า คุณจะได้คุยเหรอ ผู้จัดการคุณยุ่งตลอดนอ่ นี่ก็ 5 โมงกว่าแล้ว เลยเวลางานแล้วนิ่

มันก็บอกว่า อย่างช้าพรุ่งนี้ (18/10/49) ก่อน 10 โมงจะทราบผล ผมก็ถามไปอีกว่า หากผู้จัดการคุณไม่ยอมแล้วผมจะทำยังไง มันตอบได้ใจมากๆว่า เป็นเรื่องที่ลูกค้าต้องตัดสินใจแล้ว อ้าว...เห้ยแปลว่าไรวะ นี่หากผู้จัดการหมาของมึงไม่ยอม กูต้องตัดสินใจจะรับเงิน 21000 นี่เหรอ ถ้ากูตัดสินใจว่าไม่ยอมมึงก็ยื้ออีกใช่ไหมเนี้ย

ประเด็นของเรื่องนี้ : ผมไม่เข้าใจว่า หากได้คุมราคาไว้ตอนแรกแล้ว ทำไมตอนจ่ายเช็คถึงจะมาต่อราคาอีก ไม่จบกันตอนที่คุมราคาตั้งแต่แรกว่า ผมก็ถามอู่นะเก็บอะไรไว้เป็นหลักฐานไหม ทางนั้นเขาก็ส่งเรื่องไปที่บ.เหี้ยนี่หมดแล้ว

มีแต่ใบนัดรับเช็คที่ระบุแค่วันที่ แต่ไม่ได้ระบุจำนวนเงินที่จะได้ แม่ง...จงใจโกงกันชัดๆ !!! ผมรู้อยู่แค่ว่า หากพรุ่งนี้ไม่ได้เรื่อง ผมคงต้องบุกไปเอาเรื่องมันให้ถึงที่สุด !!!



ความจริงผมมีปัญหากับที่นี่อีก1 - 2 เรื่อง แต่ผมเล่าเรื่องที่มันทำให้ผมไม่พอใจที่สุดดีกว่า

ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนที่อ่านเรื่องของผมจนจบ หากได้ความคืบหน้าเรื่องนี้ยังไง ผมจะมาเล่าให้ฟังต่อ

ผมคงต้องขอโทษอีกครั้ง หากผมใช้คำพูดไม่สุภาพ

ก็ขอให้เพื่อนๆที่ทำประกันภัยกับที่นี่ไว้ จงระวังอย่าตกเป็นเหยื่ออย่างผมแล้วกันครับ

 

เหอๆ เจออย่างนี้เซงเลย ช่วยอัพให้ครับจะได้ไว้ให้พื่อนๆคนอื่นๆดูกัน

 

เลวๆ จริงๆ บริษัทแบบนี้ ต้องประจาร ครับ

แล้วจะแจ้งความได้ไหมอ่ะ แบบว่า ฉ้อโกง อ่ะ

อย่าไปยอมมันครับ เอาเปรียบลูกค้าแบบนี้ได้ไง

 

ไอนายหน้าขายประกันก็เหลือเกิน ขายให้เรามาได้ บริษัท จังไรแบบนี้

คนขายประกันมันก็ต้องรู้อยู่แก่ใจว่าบริษัทไหนดี หรือไม่ดี

ยิ่งเป็นคนรู้จักขายให้ด้วยมันเหลือเกินจิงๆ

 

ยาวเกินไปอะงับ อ่านไม่จบสะที อิอิ

 

uppp

 

ใช้มาปีนึง ไอ้คูเหี้ยเนี่ย ด้วยความอยากประหยัด (ถูกกว่าสัมภัน แค่พันเดียว) เข็ดเลยครับ

ซ่อมอู่มัน รอคิว 1 เดือน เลยเอามาซ่อมอู่เราเอง 2 วันเสร็จ

ซ่อมเอง รอรับเช็ค 30 วัน พอได้เช็ค แม่งเสือกเขียนล่วงหน้าอีก15 วัน (ทำอย่างกะกูเป็นร้านค้า เครดิต45วัน )
นี่ยังไม่รวม เทียวไป เทียวมา กับรูป กับบิลของแม่งอีก

ประกันดีๆมีให้เลือกอีกเยอะครับ ตัดมันออกจากความคิดไปเลย ขอโบก

 

ผมก็ใช้ประกันอยู่นะครับ แต่เวลาซ่อมผมซ่อมอู่ในเครือมันจะไม่ค่อยยุ่งยาก
ท่าจะให้ดี ต้องไปคุยกะอู่ในเครือก่อนเลยและก็ให้ทางอู่เคลียกะคนที่เคลมปะกันให้เราอีกที
เพราะอู่กับคนเคลมก็ต้องคุ้นเคยกันดี พูดง่ายกว่าครับ ผมเพิ่งเคลมสีฝากระโปรงไปเองครับ

 

เลวได้ใจมากอ่ะ อย่าไปยอมนะคับ ไอ้พวกบริษัทเหี่ยๆแบบนี้ต้องเอาแม่งไห้ที่สุด
เลวชาติหมาจิงๆ

 

โห กรณีเดียวกับผมเลยเนี้ย แต่มันเป็นบริษัท แอดว๊าน แอดส้นตีนอะไรสักอย่างจำไม่ได้ ซึ่งพอจะเคลมทางศูนย์ฮอนด้าไม่รับเคลม ซึ่งมันบอกประมาณว่าถ้าจะซ่อมศูนย์ต้องจ่ายเงินสำรองไปก่อน แล้วไปเอาที่บริษัทมัน ซึ่งคาดว่าไอ้บริษัทส้นตีนนี่มันน่าจะติดหนี้หรือเครียร์เงินกับศูนย์ฮอนด้าไม่เสร็จหรือไม่เรียบร้อย

จากนั้นได้โทรติดต่อเซลล์ที่มันมาทำประกันมาถ่ายรูปรถ โทรว่ามันยังไง จ่ายเบี้ยไปแล้ว ประกันชั้นหนึ่งทำไมต้องจ่ายส่วนต่างหรือสำรองเงินไปก่อน โทรไปบ่อย ๆ แม่งเริ่มไม่รับโทร ฯ (สัดมาให้กูทำรีบเลยไอ้สัด) บริษัทแม่งก็อยู่ตั้งพระโขนงบ้านผมอยู่นนท์ไกลโคตร แต่พอดีเป็นที่กันชนติดเดียวเลยไม่รีบ ถ้าเป็นโดนที่เหล็กหรืออะไรเงี้ยคงต้องทำไปแล้วไม่งั้นผุ จำได้แต่ว่าเซลล์ชื่อไก่ แม่งเหี้ยทั้งบริษัท เด๋วไว้หยิบเอกสารมันมาดูชื่อแล้วจะมาโพสบอก

 

ใจเย็นๆๆเพื่อน

 

อย่างนี้ต้องให้คนรับรู้กันในความเหี้ยของคูเหี้ย
ขอยืนยันว่าทุกคำของเจ้าของกระทู้เปนความจริง
เพราะโทรคุยกันตลอด บ่นให้ฟังตลอด นี่เพื่อนๆยังดีนะครับ
อ่านทีเดียวจบ ผมนี่ดิ ทนฟังความเหี้ยของมันมานานมาก
บอกมันแล้วให้เอามาประจาน มันก็อิดออด
วันนี้ฟิวส์ขาดเลยจัดการซะ แสดดดดดดดดดดดดดดดดดด

 

ผมก็เคยใช้ครับ แต่เลิกไปแล้ว

เคยชนทีนึง แม่งไม่ยอมทำรถคู่กรณีของผมให้ ผมโดนโทรด่าเป็นเดือนเลย

รถผมที่ทำอู่มัน ก็ช้ากว่ากำหนด เปงอาทิตย์ ตาสว่างแล้วครับ ตอนนี้

 

เอาใจช่วยคับ บ.ประกันเลวๆๆๆแบบนี้ต้องเอาให้ถึงที่สุดคับ
พอดีรถผมไม่มีประกันมีแต่ พ ร บ อิ อิ

 

เปลี่ยนที่ด่วนครับ

 

ฟ้องร้อง แจ้งความฉ่อโกง ลองดูครับเรียกค่าเสียหาย + ค่าเสียเวลาเอาให้เข็ด

 

ผมเคยเคลม เซฟิโร่ รอบคัน ของ ประกันสินมันคง ได้ 26000

แต่ไม่ใช่ประกันห้างนะครับ

ปล. ขนาดรถมีผมต่อราคาพอสมควรเลยนะครับ

 

หึๆๆๆๆ พลาดเองนะเมิงไอภัค....

---------------------------------------

อ่านจบแล้ว ก็รู้สึกเหนื่อยหน่ายกับบริษัทแบบนี้นะครับ บริษัทก็ไม่ใช่เล็กๆ แต่บริการลูกค้าไม่ได้เรื่อง.

สู้ๆครับผม บริษัทแบบนี้อย่าปล่อยมันไว้

 

สงสัย จะโมโหจิง แฮะ

 

ประสบมาเหมือนๆกันครับ แต่ถ้าทำใจได้ เราก็จะมีความสุขกับมัน

ปัจจุบันผมทำประกันชั้น 1 กับ บ.วิริ.... มา 3 ปีแล้ว แคลมรอบคันมันทุกปี ไม่มีปัญหาอะไร จะเล่าให้ฟังครับ

1. เรื่องที่บ.ส่งซับพลาย ขี่มอร์ไซด์มาแคลมให้เรา เดี๋ยวนี้ บ.ก็เป็นอย่างนี้ทุก บ. ครับ เพราะเค้าจะไม่จ้างพนักงานประจำไว้ขี่มอร์ไซด์แล้ว จะจ้างพวกนี้เป็นรายวันแทน ดังนั้นพวกนี้จะไม่มีอำนาจตัดสินใจอะไรเลย นอกจากมาถ่ายรูปและสอบประวัติเราอย่างเดียว

2. "การเคลมรอบคัน เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เสียอะไรเลย (ทุก บ.)" ถ้าอยากจะไม่เสียค่าส่วนต่าง "ต้องแคลมทีละจุด ครั้งละไม่เกิน 5 ชิ้น" เช่น กันชนหน้า แก้มซ้าย แก้มขวา ฝากระโปรง หลังคา รอบแรกเอาแค่นี้ก่อน รอบที่สองค่อยมาต่อครึ่งคันหลัง แล้วบอกให้อู่สีเก็บตัวอย่างสีเดิมไว้ด้วย สีจะได้ไม่เพี้ยน

3. การเปลี่ยนสีรถ ทำไม่ได้อยู่แล้วครับ เพราะมันนอกประเด็นการซ่อมที่เกิดจากอุบัติเหตุ ต้องดูในสัญญาครับ สัญญาที่มันพิมพ์ตัวเล็กๆ เยอะๆ ไม่ค่อยมีใครอ่านกันหรอก นิสัยคนไทย เอาอะไรมาให้เซ็นต์ก็เซ็นต์ ไม่ค่อยอ่านกันละเอียดๆ เนื้อหาใจความเค้าจะบอกว่า "จะซ่อมให้เหมือนเดิม" คำว่า "ซ่อมให้เหมือนเดิม" ก็คือ ตอนที่เราทำประกัน รถเราสีอะไร ซ่อมออกมาก็ต้องเป็นสีนั้น ถ้าจะเปลี่ยนสี ก็ต้องมีค่าส่วนต่างอีกเช่นกัน

เห็นมั๊ยครับ ถ้าเรารู้หลักการของมันแล้ว มันก็จะทำให้เราใจเย็นลง ค่อยๆ หาช่องโหว่ แคลมไป อย่ากระโตกกระตาก แคลมตูมเดียวรอบคัน ถ้าคิดได้เราก็จะมีความสุข และได้ประโยชน์ทั้ง 3 ฝ่าย (เรา อู่ บ.ประกัน) ครับ

 

อ่านจบนะคับ..

 

ม่างเลวได้ใจจริงๆ สรุปแล้วมันเอาเด็กยกข้าวสารมาเป็นหัวหน้าดูแลอู่ในเครือเหรอครับ

ม่างถึงใช้ส้นตีนตอบ หรือมันถูกฝึกมาให้พูดกับลูกค้าแบบนี้ทุกตัว สาดดด ตอนขายอะไร

ก็ซ่อมได้ พอเครมม่างมีปัญหา เลวจริงๆ ทำเรื่องถึงกรมการประกันภัยดูดิครับ แต่ลองเช็ค

ดีๆก่อนว่า เราได้เปรียบกว่าแค่ไหน แต่ตอนนี้ประจานมันในpantip เลยดีกว่าครับ ทีเวปนั่น

มีคนเก่งที่ให้คำแนะนำเด็ดๆได้ เผื่อจะได้เอาไว้สู้กับมัน และยอมเสียเวลาครึ่งวันไปบริษัทม่างเลย

เข้าตอนเช้านะครับ เดี๋ยวม่างอ้างอีก ผู้จัดการพ่อตาย แม่ยายเป็นโปลิโอ ไม่อยู่ต้องนัด

อย่าลืมเอาใบคุมราคาที่คุณถ่ายเอกสารไว้ไปด้วย ดูว่ามันจะเอายังงัย

คำแนะนำ ถ้าไปที่บริษัทมันพูดเสียงดังๆเข้าไว้ แต่อย่าใช้คำหยาบ แล้วก็ถ้ามันตอบคำถาม

เราไม่ได้ทำมึน แล้วถามมันซ้ำสัก20 รอบ จนกว่าจะได้คำตอบ ผมเคยใช้แล้วได้ผล

ขอให้โชคดีครับ ให้เรื่องจบเร็ว เกลียดไอ้พวกชอบเอาเปรียบคนอื่นจริงๆ

 

เพิ่งไปทำชั้น1มาเองบริษัทนี้

 

ประจาน ให้ทั่วครับ พี่น้อง
ถ้า มันแย่ จริงๆ ประจาน ให้ เยอะๆ เลยครับ

 

ผมชอบ ที่คุณ ตอบอ่ะ สะใจดี

 

ยังไงใครจะทำประกันก็อย่าทำกับไอเหี้ยนี่นะครับ

ผมเกลียดที่สุดไอพวกบริการหลังการขายห่วยเนี่ย

ของจะขายแม่งแทบกราบ ตอนจะเครมแม่งแทบไม่รู้จัก

ไอกร๊วกเอ้ยยยยยยยยยย................

 

ใช้คู....เนี๊ยโดนเหมือนกัน ฮะ เดียวต้องจ่ายเงินส่วนต่าง 2000 อ้าวเฮ้ยตรูประกันชี่น 1 เสียที่เกือบ 2 หมื่นทำไมวะ ต้องมานั้งเคลียดกับเรื่อง ป.ญ.อ. แบบเนี๊ยฮะครับผม

 

ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจครับ

เมื่อสักครู่ ผมได้รับสายจากทางอู่ เขาเล่าให้ฟังว่า "มัน" ยังจะต่อเหลือ 23,000 บาท

แถมยังกดดันอู่จะให้เท่านี้เอง แล้วทางอู่ไปกดดันลูกค้าอีกที

ผมก็โกรธอีกสิ ว่าทำไม "มัน" ถึงต้องต่ออีกวะ เมื่อวานขอให้จบที่ 25,000 บาทแล้ว ยังจะเอาอะไรอีก

ทางอู่เลยลองให้ผมติดต่อ "มัน" ดูอีกที ถ้าจบได้ที่ 24,000 บาท เขาก็ยินดีจะช่วยเราครึ่งหนึ่ง

ผมก็เลยโทรไปหา e ราตรีเลย ก็ยังคงโวยวายเหมือนเดิม ไม่พอใจที่ ทำไมมันต้องต่ออีกวะ

ผมก็ว่าไปว่า ไอ้เงินไม่กี่พันที่คุณโกงผม มันทำให้บริษัทคุณเจริญขึ้นใช่ไหม ถึงได้ต่ออีก

มันก็อ้างอีกว่า ผู้จัดการหน้าหมาของมัน ให้แค่นี้เอง ผมก็เลยต่อรองบอกว่า "งั้น 24,000 บาท ขาดตัว ไม่ต้องต่ออีก จะได้จบเรื่องนี้สักที " มันก็บอกว่าต้องถามผู้จัดการมันอีก

มันก็ให้ผมรอสายอีกประมาณ 10 นาที มันก็มาบอกว่า นายมันประชุมอยู่ ผมก็ย้อนไปว่า

"นายคุณนี่ เขารับจ้างประชุมเหรอ ถึงได้ไม่มีเวลาทำงานอื่นเลย แล้วผมจะรู้คำตอบได้เมื่อไหร่ล่ะ"

มันก็บอกว่าก่อนเที่ยงวันนี้น่าจะทราบผล !!!

ผมก็จะคอยดูสิว่า ผมยอมขนาดนี้แล้วมันจะเอายังไงอีก

ที่แน่ๆ ถ้าเรื่องนี้มันจบกับผมเมื่อไหร่ ผมต้องเอาคืนแน่ๆ

 

ผมก็โดนครับ บ. คูเนีย นี่แหละ ผมขับรถไปในซอยแล้วมอไซค์ตัดหน้ารถผมหักหลบไปเชี่ยวกับ10ล้อ ตรงซุ้มล้อหลังซ้ายเป็นรอยบุบ กะลอยกันชนหน้าซ้ายนิดหน่อย แจ้งเครมมันมาเครมให้แล้วคิดค่าxsafe 8000 ทำสีครึ่งคันผมก็งงเลย ผมโทรไปโวยอยู่หลายครั้งจนมันยอมไม่คิดเงินผม เข็ดเลย บ.คูเนีย

 

คูเนียร์ เพิ่งเปลี่ยนผู้จัดการครับ เห็นว่าเค้าเอาคนที่ไม่มีประสบการณ์ อายุน้อย มาคุมแทนน่ะครับ แต่ถือว่าจบนอก เลยไม่ค่อยมีคนเชื่อถือสักเท่าไหร่ แต่ตัวบริษัทจริง ๆ ถือว่ารวยสุดแล้วล่ะมั๊งครับ เพราะทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท จ่ายเป็นเงินสดครับ

ผมทำของคูเนียร์มา 2 ปีแล้ว เคลมไปเกือบ ห้าหมื่น

แต่หลังจากเปลี่ยนผู้จัดการ ยังไม่เคยเคลมครับ

คงจะยากแน่เลย


น่าเห็นใจครับ

อย่าไปยอมมันนะ