"ระบบโทเค่น" คืออะไร? แฟนเอฟวันอยากรู้ต้องอ่าน

​

แฟนๆ รถสูตรหนึ่งปัจจุบันนี้เคยสงสัยไหมครับ ทำไมรถสูตรหนึ่งสมัยนี้ถึงได้มีการพัฒนาระหว่างฤดูกาลช้าแตกต่างจากสมัยก่อนๆ บางทีมทำผลงานได้ไม่ดีตอนต้นฤดูกาล แต่สามารถพลิกสถานการณ์ขึ้นมาต่อสู้กับหัวแถวได้เมื่อฤดูกาลได้ล่วงเลยผ่านไป เหตุผลก็คือ FIA นั้นได้ออกกฎล็อกการพัฒนาตัวรถบางส่วนขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้ทีมแข่งใช้งบประมาณเกินตัวจนทำให้ทีมล่มสลายไป วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจระบบโทเค่น ระบบที่ FIA กำหนดขึ้นมาเพื่อล็อกการพัฒนาเครื่องยนต์ไม่ให้พัฒนาเร็วเกินไปครับ

สำหรับงบในส่วนการพัฒนาตัวรถนั้น 50% จะหมดไปกับการพัฒนาเครื่องยนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องยนต์เอฟวันสมัยใหม่ V6 เทอร์โบ ซึ่งมีความซับซ้อนเป็นอย่างยิ่ง นั่นหมายความว่าหาก FIA ต้องการจะจำกัดงบประมาณไม่ให้เลยเถิด การควบคุมการใช้เงินพัฒนาเครื่องยนต์จึงมีส่วนช่วยในเรื่องนี้ได้มาก ระบบโทเค่นจึงได้เกิดขึ้นมาเพื่อการนี้

ภาพแสดงการไหลเวียนของระบบ Token ในเครื่องยนต์เอฟวันจากค่ายต่างๆ (Photo Credit : f1i.com)​

ในเครื่องยนต์บล็อกหนึ่งนั้น จะประกอบไปด้วยชิ้นส่วนหลายชิ้นซึ่ง FIA จะแยกชิ้นส่วนออกมาได้ทั้งหมด 66 โทเค่น ในช่วงรอยต่อระหว่างฤดูกาลนั้น FIA จะอนุญาตให้ค่ายผู้ผลิตเครื่องยนต์สามารถอัพเกรดเครื่องยนต์ของตัวเองได้ด้วยปริมาณโทเค่นหนึ่ง โดยก่อนหน้านี้ FIA ตั้งใจว่าจะอนุญาตให้ผู้ผลิตเครื่องยนต์สามารถอัพเกรดเครื่องยนต์ขึ้นมาเป็นเวอร์ชัน 2016 ด้วยปริมาณโทเค่น 25 โทเค่น หรือ 38% ของชิ้นส่วนเครื่องยนต์ทั้งหมด

แต่จากปัญหาความแตกต่างในประสิทธิภาพเครื่องยนต์แต่ละค่ายที่มีมากเกินไป FIA จึงได้แก้ไขกฎใหม่ โดยยังคงอนุญาตให้ค่ายผู้ผลิตเครื่องยนต์สามารถอัพเกรดเครื่องยนต์ด้วยจำนวนโทเค่น 32 โทเค่น เท่ากับปีแรก นั่นช่วยเปิดโอกาสกว้างขึ้นให้กับฮอนด้าและเรโนลด์ ที่ยังตามหลังเมอร์เซเดสและเฟอร์รารีอยู่มาก นอกจากนั้นจากตอนแรกที่ค่ายผู้ผลิตเครื่องยนต์จำเป็นจะต้องอัพเกรดเครื่องยนต์และส่งแบบเครื่องยนต์ทั้งหมดให้กับ FIA เพื่อล็อกสเป็คก่อนวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ของทุกปีนั้น FIA ได้ผ่อนปรนให้แต่ละค่ายสามารถอัพเกรดเครื่องยนต์ระหว่างฤดูกาลได้ แต่จะถูกควบคุมด้วยจำนวนโทเค่นที่ FIA กำหนด

สำหรับในปีถัดๆ ไปนั้น FIA ตั้งเป้าว่าจะลดปริมาณโทเค่นอัพเกรดลงเพื่อควบคุมงบประมาณให้นิ่งยิ่งขึ้น โดยโทเค่นที่อัพเกรดเครื่องยนต์จะลดลงในปี 2017 เหลือ 25 โทเค่น 2018 เหลือ 20 โทเค่น และ 2019 เหลือ 15 โทเค่น และสำหรับค่ายผู้ผลิตเครื่องยนต์หน้าใหม่ที่เข้าวงการมาจะได้รับอนุญาตให้อัพเกรดเครื่องยนต์ได้ 15 โทเค่น ในปีแรก

เรียบเรียง: Mr.GP
ที่มา: www.autosport.com