สำหรับคนที่กำลังเลือกซื้อรถมือสอง แล้วเกิดได้รุ่นที่ถูกใจแล้วละก็ ขั้นตอนถัดไปคือการนัดไปดูสภาพรถจริง ซึ่งในขั้นตอนนี้ถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะว่ามันเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการซื้อรถของคุณ ดังนั้นในบทความนี้ trusteecar.com จะมาบอกถึง 3 สิ่งสำคัญที่คุณจะต้องรู้เมื่อไปเลือกซื้อรถมือสอง ว่ามีเคล็ดลับอย่างไรที่จะช่วยให้การเลือกซื้อรถมือสองของคุณไม่ยากอย่างที่คิด

โดยส่วนใหญ่แล้วรถมือสองที่ประกาศซื้อ-ขาย อยู่ในหน้าเว็บ จะมี 2 ประเภทคือ รถบ้าน และผู้ประกอบธุรกิจซื้อ-ขายรถมือสอง โชว์รูมรถ หรือที่เรียกว่า รถเต้นท์นั่นเอง ซึ่งรถมือสองที่ซื้อจากผู้ขายทั้งสองประเภทนี้จะมีรายละเอียดของสิ่งที่ต้องสังเกตุแตกต่างกันนิดหน่อย ประกอบด้วย

​

1. สอบถามรายละเอียดให้ชัดเจน
อันดับแรกก่อนการนัดหมายเพื่อเข้าไปดูรถสภาพจริง คุณควรที่จะต้องโทรไปสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่เกี่ยวกับรถคันนั้นให้ทราบอย่างแน่ชัดตามเบอร์ที่ระบุไว้ ซึ่งควรที่จะสอบถามข้อมูลที่นอกเหนือที่ประกาศไว้ในเว็บไซต์ อาทิ รถผ่านการใช้งานมาแล้วกี่ปี? รถติดไฟแนนซ์หรือไหม? หรือแม้กระทั่งรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่าง การนัดเวลา และสถานที่สำหรับเข้าไปดูรถ เพราะถ้าหากคุณซื้อรถบ้าน สถานที่อาจจะไม่แน่นอน หรือว่าแล้วแต่การตกลงของผู้ซื้อ-ขาย แต่ถ้าหากเป็นรถเต้นท์ ส่วนใหญ่จะมีที่อยู่แน่นอน
เคล็ดลับ: สิ่งที่ผู้ซื้อควรที่จะต้องถาม ถ้าหากอยากจะขอกู้ไฟแนนซ์ ว่ารถคันที่คุณจะซื้อจะสามารถมีการจัดไฟแนนซ์ได้ที่ราคาเท่าไหร่ เนื่องจากรถแต่ละคันจะมีราคาแตกต่างกัน ซึ่งถ้าหากคุณมีข้อมูลเกี่ยวกับการจัดไฟแนนซ์ มันก็จะทำให้คุณรู้งบประมาณการซื้อรถของตนเอง

2.ตรวจสอบสภาพรถ และเอกสารให้ดี
หลังจากที่คุณได้ทำการนัดเพื่อเข้าไปดูสภาพรถแล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการตรวจวอบสภาพรถทั้งหมด และการตรวจสอบเอกสารให้รอบคอบ ซึ่งในส่วนของขั้นตอนนี้ ถือว่าสำคัญมาก โดยในส่วนของการตรวจสอบสภาพรถ จะแบ่งเป็น 2 ข้อด้วยกันคือ
- ฉลากรถมือสอง: ถ้าหากคุณได้ซื้อรถจากโชว์รูมรถ หรือรถเต้นท์ แนะนำว่าให้ลองมองหา 'ฉลากรถ' เพราะทางคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคจะมีการบังคับการแสดงข้อมูลเกี่ยวกับรถมือสอง หรือก็คือฉลากรถนั่นเอง ซื้อในนั้นจะมีระบุข้อมูลของรถมือสองคันนั้น อาทิ ชื่อผู้ขายหรือชื่อเต้นท์ เลขไมล์ เครื่องยนต์ เลขปีที่ออกรถ เป็นต้น
- การตรวจสภาพรถ: ในส่วนของขั้นตอนนี้ ผู้ซื้อควรที่จะเลือกดูทั้งภายนอก และภายในรถอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพราะการตรวจสอบสภาพรถสำคัญมาก เพราะถ้าหากคุณตรวจสอบไม่ดี อาจจะมองไม่เห็นจุดบกพร่องของรถคันนั้น หรือถ้าหากคุณมีข้อสงสัยอะไร แนะนำว่าให้ถามผู้ขายไปโดยตรง เพราะถ้าหากรถคันนั้นมีสภาพไม่ดีจริง คุณจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจภายหลัง
ในส่วนของการตรวจสอบเอกสาร นั้นคุณจะต้องมั่นใจได้ว่าเอกสารทั้งหมดนั้นสามารถตรวจสอบได้จริง รวมถึงชื่อผู้ขายในเอกสารจะต้องตรงกันทั้งหมด และเอกสารที่คุณจะได้รับมานั้นจะต้องครบถ้วนจริงๆ ที่สำคัญคือถ้าหากผู้ขายไม่ได้ไปทำการโอนกรรมสิทธิ์รถด้วยตัวเอง คุณจะต้องขอหนังสือมอบอำนาจพร้อมลายเซ็นของผู้ขายในช่องผู้มอบอำนาจ รวมถึงสอบถามให้แน่ใจว่ามีเล่มทะเบียนรถหรือไม่
เคล็ดลับ: ถ้าหากการซื้อ-ขาย รถมือสองของคุณเป็นการโอนลอย จะต้องทำการตรวจสอบหนังสือมอบอำนาจให้ดี และในใบคำขอโอนและรับโอน จะต้องไม่ระบุวันที่ รวมถึงชื่อ-นามสกุล ของเจ้าของรถจะต้องตรงกันกับเอกสารทั้งหมด

​

3. เจรจาต่อรอง
หลังจากที่คุณได้ตัดสินใจที่จะเลือกซื้อรถคันนั้นแล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการต่อรองเรื่องราคา ซึ่งจะมีการจ่ายเงินสองแบบ
- เงินสด: เพราะว่าบางทีถ้าหากคุณได้ทำการซื้อรถด้วยเงินสด จะสามารถต่อรองลดราคาได้ ซึ่งนั้นก็คือข้อดี! ซึ่งเคล็ดลับของการซื้อเงินสด คือให้คุณลองต่อรองราคาดู เพราะบางทีมีโปรโมชั่นว่าถ้าหากซื้อเงินสด ทางผู้ขายจะทำการลดราคาให้ ซึ่งจะทำให้คุณประหยัดเงินไปได้อีกหลายบาทเลยคะ
- ไฟแนนซ์: ถ้าหากใครจะทำการจัดไฟแนนซ์ การซื้อรถเต้นท์ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี เพราะเต้นท์รถจะมีบริการไฟแนนซ์หลากหลายรูปแบบ และมีโปรโมชั่นให้เลือกเยอะ ทั้งการฟรีดาวน์ หรือดาวน์ต่ำ แม้แต่กระทั่งการช่วยให้คุณขอไฟแนนซ์ได้ง่ายขึ้น ซึ่งถ้าหากใครสนใจอยากจัดไฟแนนช์ก็สามารถปรึกษาเต้นท์รถนั้นๆ ได้เลย

ขอขอบคุณข้อมูลจาก www.trusteecar.com/news