ถึงคุณ เอ๋ สุกิจ สุวรรณเดช กับ เวลา 8.159 อันดับ 3 OVER ALL

ผมได้ดู DVD งาน Souped Up 2007 ผมรู้สึกว่า ที่คุณพูดว่า " การที่ผมเอารถมาวิ่งเนี่ยก็เพื่อสร้างสีสรรค์ให้แก่คนดู ผมคิกว่าการเก็บค่าเขาสนามเนี่ยมันไม่สมควร การที่ผมมาวิ่งเนี่ยผมก็ไม่เห็นได้อะไรกลับไปเลยนอกจากถ้วยรางวัล "ประมานนี้ ในความคิดผม งานนี้เค้าให้วิ่งฟรีไม่ใช่หรอครับ ไม่ต้องเสียค่าสมัคร จ่ายแค่ค่ามัดจำ 3,000 บาท คุณวิ่งยังไงคุณก็ได้เงินคืนอยู่แล้ว เท่ากับว่าคุณเสียเงินค่าเข้าสนาม เพื่อมาวิ่งในงานจัดอันดับรถที่เร็วที่สุดในประเทศไทย ผมคิดว่าคุณน่าจะได้อะไรมากกว่าแค่ถ้วยรางวัลใบเดียวนะครับ อย่างน้อยๆ คนในวงการ Motor sport ก็ได้รู้จักคุณมากขึ้นนะครับ

 

คนวงการMotor Sport ก็น่าจะรู้จักพี่เค้ามาตั้งนานเเล้วนะครับพี่เค้าไม่ได้วิ่งปีนี้ปีเเรกนะครับ เค้าคงไม่มาวิ่งเพราะจะสร้างชื่อเสียงหรอกครับไอ้ชื่อเสียงเนี่ยผมว่ามันเป็นผลพลอยได้มากกว่านะครับ เเต่สิ่งที่ทุกๆอู่เเละทีมอยากได้ก็คือการประสบความสำเร็จเเละสิ่งที่ตั้งเป้าไว้(เพราะบางอู่ไม่ได้ตั้งเป้าไว้ที่ ที่1ของประเทศ เเต่อาจจะทำลายสถิติของตัวเองก็พอเเล้วครับ อย่างอู่ อู่นึงมีรถ 2คัน คันที่1 ตั้งเป้าไว้ว่า ขอเเค่เห็น8ก็พอใจเเล้ว ส่วนคันที่ 2 อยากเห็น 9 ก็พอใจเหมือนกัน เเต่เเล้วก็ไม่เห็นทั้งคู่เเน่เป็นเเค่ตัวอย่างอ่ะนะครับ ) ส่วนที่พี่เค้ามาเเข่งก็น่าจะเป็นที่ใจรักมากกว่าน้า....ผมว่านะ
ส่วนเรื่องเก็บค่าเข้าผมไม่ออกความคิดเห็นดีกว่า

 

งะ ยังไม่ได้ดูเลย ต้องหามาดูซะแล้ว แต่ถ้าพูดแบบนั้นจริงก็ไม่ดีนะว่าป่าว

 

นานาจิตตัง no comment

 

ผมว่าบางทีมันก็ถูกนะครับ ทำรถมาขนาดนี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ กว่า
จะวิ่งได้ขนาดเลข 7 เลข 8 ที่พี่เค้าพูดคงไม่ได้ออกแนวขี้เหนียวหรอก
เพราะเงินแค่นี้ เทียบกับการที่เอารถมาวิ่งมันจิ๊บจ๊อยมาก แต่คงออก
แนวน้อยใจมากกว่า

วิ่งแต่ละที ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ เผลอ ๆ อาจจะเป็นหมื่น เทียบกับของ
รางวัล และเงินรางวัลที่ได้ คิดดูยังไงก็ไม่คุ้ม เรื่องแบบนี้ถ้าไม่ใช่
คนที่ใจรักจริง ๆ เอาเงินไปลงทุนอย่างอื่น ป่านนี้รวยไปแล้วครับ

 

รายการใหญ่ๆเมืองนอกเขามีเงินจัดตั้งแต่ละรุ่นมากมายเพื่อเป็นรางวัล ค่าสมัครเก็บไปเถอะมันเล็กน้อย3000เทียบกับค่าทำรถเป็นล้าน รวมเป็นเงินรางวัลรุ่นต่างๆก็ได้ บ้านเราได้เก็บค่าเข้าชม ผู้จัดได้ขายหนังสือ จริงๆแล้วมันเป็นธุรกิจการค้าในเกียรติยศของนักแข่ง ยังต้องพัฒนาต่อไปอีก ขนาดงานระดับประเทศนะเนี่ย

 

เพิ่งคุยกับพี่เอ๋มาตะกี้นี้...พี่เค้าบอกว่าหมายถึงเงินค่าเข้าสนามคนละ60บาท พี่เค้ารวมทั้งแฟนและก็ทีมช่างของพี่เค้าก็โดนเก็บไปด้วย
เงินมันก็ไม่มากมายรวมๆมันก็หลักร้อย แต่ว่าเสียความรู้สึกมากกว่า ว่า เอารถมาวิ่งทำไปเป็นล้าน เงินรางวัลก็ไม่มี ส่วนคนจัดได้เงินจากสปอนเซอร์ คนดู การขายหนังสือมากมาย แค่ค่าเข้าของคนขับกับทีมช่างยังจะเก็บตังค์อีกด้วยหรอ

 

เข้าใจใหม่ละกันครับ อิอิ
นานๆจะมีคนเเสดงความเห็นเเบบนี้ และก้อล็อคอิน
ถึงจะสมัครตะกี้เอง ............ กระทู้นี้อันเเรกเลย

 

ว่ากานไป

 

ผมก็เข้าใจแบบนี้นะ...

 

ที่จริงผมหมายถึงค่าเข้าสนาม 60 บาท นะครับ เพราะว่าเงินแค่ไม่กี่ร้อยเองไม่เห็นว่าจะต้องมีปัญหาเลย นักแข่งท่านอื่นๆ ก็เสียเหมือนกัน ไม่เห็นมีใครเค้าคิดถึงตรงนั้นเลยครับ แต่ที่พูดถึงค่าสมัครเนี่ย หมายถึงว่างานนี้เค้าวิ่งฟรีหนิครับ

 

อืม....มันก็ถูกน่ะคับ น่าเก็บไปคิด

 

ความเห็นส่วนตัวผมนะครับ ไม่เกี่ยวกับกระทู้ ผมว่าการเก็บค่าเข้าชมสำหรับคนดูทั่วไปผมเห็นด้วย แต่ขอติอย่างมากๆๆๆก็คือเรื่องของห้องนำครับ ผมไปมา 3ปีแล้วๆก็ทุกปีก็เห็นปัญหาเกี่ยวกับห้องนำ ทำไมไม่เปิดนำให้ใช้ละครับหรือมีปัญหาอย่างอื่นแต่นี่เข้าห้องนำแล้วจะเป็นลม ทั้งขรี้ทั้งเยี่ยวไม่มีนำจะราดทำความสะอาดเห็นแล้วบอกได้คำเดียวว่าทุเรศมากๆครับ เก็บค่าเข้าดูก็ตั้งหลายบาทแล้วกะอีแค่นำที่จะให้คนใช้ก็ขี้เหนียวไม่เปิดให้ใช้อีก แบบนี้ผมว่าเอาเปรียบคนดูมากไปหน่อยแล้วครับ แต่ถ้ากะทีมงานที่ไปแข่งรถที่มีบัตรก็ไม่น่าไปเก็บเค้านะครับนิดๆหน่อยๆเสียความรู้สึกเปล่าๆ

 

ผมว่านักเเข่งท่านอื่นก็อาจจะคิดก็ได้นะครับเเต่ไม่พูดเอง:sad:

 

ไม่น่ามาเก็บตังค์ ทีมงานกับช่างหรอก โห...เอารถมาวิ่งให้ถ่ายลง
หนังสือทั้งที ยังมาเก็บตังค์เค้าอีก รถคันนึงทั้งทีมงาน ทั้งช่างไม่
ใช่น้อย ๆ ต่ำ ๆ ก็เป็นสิบคน คนละ 60 ก็ 600 แล้ว ไม่ใช่ว่าไม่มี
เงินให้ แต่มันเสียความรู้สึก ถ้าเก็บคนดูอ่ะ เก็บไปเหอะ เค้าไม่บ่น
หรอกคร้าบ

 

เห็นด้วยนะเรื่องทีมช่างไม่น่าเก็บเงินหรอก คิดง่ายๆนะครับทีมไปแข่งเนี่ย ทำรถเนี่ยหมดเงินเป็นล้านแน่นอน ทีมช่างที่ไปเนี่ยไปกันหลายวันแบบนี้ค่าใช้จ่ายทีมช่างก้อต้องหลักหมื่นขึ้นไปอ่ะนะ ค่าSlide อีก

คนจัดงาน ได้สปอนเซอร์ ขายหนังสือ มีข้อมูลทำหนังสือ ค่าเข้าคนดู อย่างน้อยก้อช่วยไม่เก็บเงินหลักร้อยแบบนี้ เอาไปให้เจ้าของรถเอาเงินไปเลี้ยงข้าวลูกน้องก้อยังดีน่า

 

เพิ่งได้ดู dvd souped up เมื่อกี้เอง พอเห็นตอนคุณเอ๋ สุกิจ ให้สัมภาษณ์ ก็คิดในใจเดี๋ยวต้องเป็นกระทู้ในนี้แน่ๆ เลย และแล้วก็เป็นจริงๆ ไอ้เรื่องเก็บค่าเข้าเนี่ยนะ เมื่อก่อนก็เคยมีคนเขา comment ไปทีนึงแล้ว ว่าไปเก็บนักแข่งกับทีมงานทำไง ก็จริงนะ แต่สนามเขาก็มีการลงทุนที่สูงมากๆ ถ้าไม่มีสนาม ก็ไม่มีที่ให้เข้ามาแข่ง ในทางกลับกัน ถ้าไม่มีรถแข่งมาแข่ง ก็ไม่รู้จะมีสนามไว้ทำไม จริงๆ ทุกฝ่ายต่างได้ประโยชน์นะ สนามได้รายได้เอาไปดำเนินงาน ปรับปรุงสิ่งต่างๆ รถแข่ง ทีมแข่งได้ชื่อเสียง และมีงานเข้ามาเยอะ สปอนเซอร์ ได้ยอดขายเพิ่มขึ้น ที่สำคัญ คนดูอย่างท่านๆ ก็ได้ความสุข ความมันส์ ผมขอเสนอเป็นอย่างนี้นะ สำหรับนักแข่งหรือทีมแข่งที่จะนำรถเข้ามาแข่งในสนาม ให้ทำ member รายปี แล้วก็ควรจะให้โควต้า เขาด้วยว่าจะให้ทีมงานเข้าได้สนามละกี่คน ทำบัตรสมาชิกแล้วก็ถ่ายรูปติดบัตรให้เขาไปเลย เพราะจะได้ไม่มีใครมาแอบอ้างเข้าไปฟรีๆ เพราะทีมงานแต่ละทีมมีแฟนคลับเยอะเหมือนกัน ดีไหมครับ อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะครับ ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ ช่วยกันแก้ไข วงการจะได้รุ่งเรือง

 

เคยไปกะทีมช่าง เหมือนกัน

โดนเก็บเหมือนกัน

แต่เจ้าของอู่ ออกไห้

น้าผม ใจดี 555555

นั่งรถไปฟรี ออกค่าเข้าไห้ แถมยังเลี้ยงข้าวอีก โอย สบาย ๆๆๆ

อยากรุ้ อู่ไหน ลองดูชื่อด้านล่างครับ อิอิ

 

ยังไงไม่รู้ผมว่าผมเข้าใจที่พี่เค้าพูด

 

ก็ว่ากันไป

 

ไว้คราวหน้าไปด้วยคนนะคราบบบบ

 

เจ้าของกระทู้นิดหนึงที่คุณบอกว่า
วิ่งเวลาเท่าไรก็ได้เงินมัดจำคืน
ผมว่าไม่ไช่น่ะ กติกาเค้าจะกำหนด
ว่ารถคุณต้องวิ่งห้ามสูงกว่าเวลานี้น่ะ
ถ้าหากคุณวิ่งเเล้วเวลาสูงกว่าเวลาที่กำหนด
ทางผู้จัดเค้าจะไม่คืนเงินมัดจำที่มัดจำไว้
ไม่งั้นเค้าไม่เรียกว่าเงินมัดจำหรอกครับ
- ส่วนเรื่องเงินค่าสนามผมว่าน่ะไม่น่าเกบนักแข่ง
ทีมช่างหรอก เพราะอะไรรู้ไหม เพราะว่าทางผู้จัด
เปนคนเชิญเค้ามาวิ่ง..
-อีกเรื่องหนึ่งเรื่องความปลอดภัยของคนที่จอดรถนอกสนาม
ช่วงกลางคืนมันอันตรายน่ะครับตอนที่เดินออกจากมาเอารถ
รู้สึกว่าถนนจะมืดมากกกกต้องเสี่ยงกับการที่เดินรถชนมากกกก
อยากให้ทางผู้รับผิดชอบดูเเลเรื่องเพราะอย่างน้อยยยย
คนดูเค้าก็เสียค่าเข้าชม .....

 

ถ้าผมจำไม่ผิด เคยเกิดกระทู้หรือเหตุการณ์ แบบนี้ครั้งนึงนะครับ สัก2-3ปีได้ล่ะ เกือบจะแข่งไม่ทันเพราะเข้าสนามไม่ได้ แต่สุดท้ายน่าจะเคลียร์กันได้มั้งครับ เลยมาแข่งทัน รอผู้ทราบเหตุการณ์มาคอนเฟิมอีกทีดีกว่า ไม่รู้ว่าใช่ทีมที่ผมนึกไว้เป่า ไม่กล้าเอ่ยถึง

 

อิอิ ยินดีครับ

 

เออ...ผมก็เพิ่งรู้นะเนี้ยว่าเค้าเก็บค่าเข้า ของทีมเซอร์วิสด้วย

นึกว่าเก็บแต่คนดูซะอีก

 

นั้นสิเชิญมาวิ่ง แล้วยังจะมาเก็บทำไม

 

อ้าว กรำ เพิ่งรู้นะเนี่ย นักแข่งกับทีมช่างต้องเสียเงินค่าเข้าสนามด้วยอ่ะ อิอิ

 

อคติไปหน่อยป่าวครับ

ที่เขาพูดของพูดถึงเรื่องควรหรือไม่ควร . . . มันยุติธรรมกับผู้เข้ามาร่วมงานหรือเปล่า

ชื่อเสียงได้ไปแล้วมีอะไรครับ เขามาเพื่อพิสูจน์ตัวเอง หลักๆก็เอามันส์

มองแบบยุติธรรม งานนี้ผู้จัด รับกับรับ . . . . คือเสร็จแล้ว ขายหนังสทอเอย ค่าผ่านประตูเอย . . สรุปว่าไม่ขาดทุน . . . หนังสืออย่ามองว่าทำเพื่อนักแข่งอย่างเดียว

ปราศจากนักแข่งบ้าๆ ทุ่มทุนไม่อั้นมาลงกัน . . . . งานนี้มันจะน่าตื่นเต้นน่าติดตามไหม

ถ้ามีแต่รถ 10 วิมาวิ่ง งานมันจะน่าติดตาม จะมีคนอยากมาดูทำให้งานนี้ดูยิ่งใหญ่ไหม



ผู้จัดซึ่งเป็นผู้รับผลประโยชน์จริงๆ จึงควรจะเอื้อหรืออำนวยความสะดวกให้กับผู้มาร่วมช่วยให้งานคุณดูขลังขึ้นบ้าง

จะเก็บเล็กเก็บน้อย คนที่มาเขาคงมีปัญญาจ่ายแบบไม่ทะเสือนอะไรหรอก . . . เพียงแต่เขารู้สึกว่าควรหรือกับผู้ที่มามีส่วนร่วมผลักดันให้งานดูดีกับการที่ควักกระเป๋ากันเป็นล้านๆ โดยไม่ได้ผลตอบแทนอะไร(ที่พอจะเรียกได้ว่าคุ้ม)จากผู้จัด

เหมือนกับเสียเงินมากมายทำรถมาวิ่ง(เหมือนช่วยผู้จัดในแง่การตลาด) . . แล้วยังต้องมาเสียอะไรเล็กๆน้อยให้ผู้จัดอีก(ซึ่งผู้จัดควรจะผ่านให้สบายๆ โดยไม่เดือดร้อนอะไรเหมือนกัน)

มันเป็นความรู้สึกเซ็งๆซะมากกว่า

 

ไม่รู้สิ เชิญหรือไม่เชิญ ก็ไม่สมควรเก็บนะครับ(ทีมงาน)

เพราะว่าเอารถมาวิ่ง เสียเงินนับหมื่นอย่างที่ด้านบนบอกไว้(เฉพาะสนามนี้)

ลองนึกภาพกองถ่ายหนังนะครับ

ทีมแข่ง=ดารา

ให้เขามาแสดง ยังจะให้เขาจ่ายค่ากล้องด้วยหรอครับ

เก็บไปคิดเป็นการบ้านหน่อยก็น่าจะดีครับ

 

ค่าผ่านประตูของทุกท่านก็เพื่อนำมาพัฒนาสนามนั่นล่ะครับ ส่วนนักแข่งทีมแข่งจริงๆแล้วต้องมี V.I.P. ให้เค้าด้วยไม่ใช่เหรอครับ
ผมว่าน่าจะเกิดการเข้าใจผิดกันมากกว่านะครับ