เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน
ติดต่อลงโฆษณา
[email protected]
หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
RacingWeb Community
>
Lady Forum
>
- Bermuda Triangle -
>
ตอบกลับหัวข้อ
ชื่อ:
การตรวจสอบ:
กรุณาเปิดใช้งานจาวาสคริปต์เพื่อดำเนินการต่อ
กำลังโหลด...
ข้อความ:
<p>[QUOTE="~nun_y, post: 428144, member: 8431"]<font size="5"><span style="color: pink">สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ( Bermuda Triangle )</span></font></p><p><br /></p><p><span style="color: LightBlue"><font size="4">ชื่อนี้เป็นที่รู้จักกันดีกันในปัจจุบัน เพราะมันเป็นบริเวณอาถรรพณ์อันเป็นที่ล่ำลือ กันว่าเต็มไปด้วยเรื่องลี้ลับ เรือเดินทะเล เครื่องบิน รวมถึงชีวิตของผู้โดยสารต่างหายสาบสูญไป ณ บริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้านี้ </font></span></p><p><span style="color: LightBlue"><font size="4">ดินแดนอาถรรพณ์สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้านี้ โดยแท้จริงแล้ว เป็นอาณาบริเวณกว้างใหญ่มาก เป็นส่วนหนึ่งของมหาสมุทรแอตแลนติก ภาคตะวันตก พื้นที่ทั้งหมดปกคลุมพื้นที่ทะเลตั้งแต่ตอนเหนือของหมู่เกาะเบอร์มิวด้าไปทางตอนใต้ของรัฐฟลอริดา ตีวงออกไปจนถึงหมู่ เกาะบาฮามัส เลยไปอีกจนถึงอ่าวเม็กซิโก ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 380,000 ตารางไมล์ทะเล ชื่อเสียงของมันได้ถูกขนานนามขึ้นมาในราว ปี ค.ศ. 1960 ด้วยเหตุที่ว่า ในบริเวณทะเลดังกล่าวมักเกิดแต่เรื่องร้ายๆขึ้นบ่อยๆ จนเป็นที่เลื่องลือกันไปทั่วถึงอันตรายของการหายสาบ สูญอย่างไม่มีวันได้กลับคืนมา </font></span></p><p><br /></p><p><span style="color: Plum"><font size="4">สิ่งที่ทำให้ย่านทะเลแห่งนี้กลายเป็นดินแดนมรณะ ซึ่งทำให้นักบินหรือนักเดินเรือต่างพยายามหลีกเลี่ยง ถ้าไม่จำเป็นก็จะไม่ยอมผ่าน เข้าไปในบริเวณนี้อย่างเด็ดขาด เหตุการณ์ประหลาดๆ อย่างที่ไม่น่าเชื่อ มักจะเกิดขึ้นกับเรือหรือเครื่องบินที่ผ่านเข้าไปในบริเวณนั้นนับตั้ง แต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยตั้งแต่ปี ค.ศ.1800 - 1976 มีเรือและเครื่องบินหายสาบสูญไปในบริเวณนี้จำนวน 143 ราย สถิติการสูญหายมี มากที่สุดในปี ค.ศ. 1975 คือ 11 ราย น่าแปลกที่ว่าเรือหรือเครื่องบินที่สูญหายไปนี้ ไม่มีการส่งสัญญาณ SOS หรือส่งวิทยุขอความช่วย เหลือ และเรือและเครื่งบินเหล่านี้ต่างก็มีอุปกรณ์เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ช่วยในการนำทางที่ทันสมัย </font></span></p><p><br /></p><p><span style="color: Wheat"><font size="4">ข้อมูลเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับการสูญหายในบริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ซึ่งได้จากบรรดาผู้บังเอิญรอดตายหรือจากบันทึกการติด ต่อครั้งสุดท้ายโดยการวิทยุติดต่อ สามารถนำมาประมวลเป็นคุณลักษณะที่น่าสนใจได้คือ</font></span></p><p><br /></p><p><span style="color: LightBlue"><font size="4">1. รายงานที่พบเป็นประจำ เริ่มแรกผู้ประสบอุบัติเหตุจะรายงานว่า มีการขัดข้องเกิดขึ้นกับเครื่องมือนำร่อง เช่น เข็มทิศ, เครื่อง วัดความสูง, เครื่องวัดความเร็ว และเครื่องมือสื่อสาร โดยเครื่องมือเหล่านี้จะทำงานผิดปกติ เหมือนมีพลังอำนาจบางอย่างซึ่งมักจะเกี่ยว ข้องกับอุปกรณ์แม่เหล็กไฟฟ้าโดยเฉพาะเข็มทิศที่มักจะหมุนติ้วจนไม่สามารถจับทิศทางได้ </font></span></p><p><span style="color: LightBlue"><font size="4"><br /></font></span></p><p><span style="color: LightBlue"><font size="4">2. เกิดความสับสนขึ้นกับประสาทรับรู้ความรู้สึกทั้ง 5 ของผู้ที่หลุดเข้าไปในดินแดนอาถรรพณ์นี้ ทำให้ผู้นั้นรู้สึกงุนงง สับสนต่อ เหตุการณ์ และจะสูญเสียความรู้สึกในเรื่องของเวลาและการทรงตัว </font></span></p><p><span style="color: LightBlue"><font size="4"><br /></font></span></p><p><span style="color: LightBlue"><font size="4">3. มีการรบกวนทางระบบไฟฟ้า และการติดต่อสื่อสารทางวิทยุจะถูกตัดขาด ข้อมูลนี้เป็นอีกข้อมูลหนึ่งที่มักจะพบเสมอจากราย งานครั้งสุดท้ายของผู้ที่หายสาบสูญ </font></span></p><p><span style="color: LightBlue"><font size="4"><br /></font></span></p><p><span style="color: LightBlue"><font size="4">4. มีปรากฏการณ์หมอกสีขาว หรือแสงสีขาว ซึ่งทราบจากรายงานครั้งสุดท้ายก่อนการหายสาบสูญเช่นกัน</font></span> </p><p><br /></p><p><span style="color: Plum"><font size="4">ความแปลกประหลาดของสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้ามีผู้ที่พยายามจะค้นคว้าหาคำตอบกันมากมาย ซึ่งก็มีข้อสันนิษฐานแตกต่างกันไป ดังนี้ </font></span></p><p><br /></p><p><span style="color: Wheat"><font size="4">1. การหายสาบสูญของเรือในบริเวณสามเหลี่มเบอร์มิวด้า อาจเกิดจากการที่เรือแล่นไปชนทุ่นระเบิด ซึ่งทุ่นระเบิดเหล่านี้หลง เหลือมาจากสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง แต่แนวคิดนี้ดูจะเป็นไปได้น้อยมากเพราะมันไม่สามารถอธิบายเหตุการณืประหลาดอย่างอื่นๆ ได้ เช่น ในกรณีที่เรือเดินทะเลบางลำลอยเข้าหาฝั่ง โดยที่ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่บนเรือนั้นเลยแม้แต่คนเดียว ข้าวของและของมีค่าอื่นๆยังอยู่ ครบบนเรือ คนบนเรือหายตัวไปโดยไม่ทราบสาเหตุ </font></span></p><p><span style="color: Wheat"><font size="4"><br /></font></span></p><p><span style="color: Wheat"><font size="4">2. การหายสาบสูญของเรือ อาจเกิดจากพายุในทะเลที่ก่อตัวขึ้นอย่างฉับพลันทันที นี่ก็เป็นข้อเสนออีกข้อหนึ่งที่มีทางเป็นไปได้ แต่ น้อยมาก เพราะโดยหลักการแล้ว ทะเลในย่านนี้ ถ้าจะมีพายุขนาดใหญ่ชนิดที่จะสามารถทำให้เรือเดินทะเลอับปางทันทีทันใดนั้น จะต้องเป็น พายุที่ใหญ่และรู้ล่วงหน้าก่อนเสมอ และเรือเดินทะเลขนาดใหญ่ก็จะมีเครื่องมือตรวจพายุอยู่ด้วย อย่างน้อยก็ต้องมีการส่งข่าว รายงานเข้าสู่ฝั่ง หรือวิทยุขอความช่วยเหลือมาบ้างถ้าเจอเข้ากับพายุใหญ่ขนาดที่จะจมเรือเดินสมุทรได้ </font></span></p><p><span style="color: Wheat"><font size="4"><br /></font></span></p><p><span style="color: Wheat"><font size="4">3. เป็นเรื่องราวของความเชื่อ อันเกิดมาจากเหตุบังเอิญ ซึ่งข้อสรุปนี้เป็นคำประกาศเป็นทางการของกองเรือยามฝั่งที่เจ็ด ของนาวี สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทำงานรับผิดชอบอยู่ในเขตน่านน้ำบริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ประกาศว่า "ความอาถรรพณ์นั้นไม่มีจริง เป็นเพียงเรื่องล่ำลือ เชื่อกันไปเอง การหายไปของเรือไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ที่ไหนๆก็มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้เช่นกัน เพียงแต่ว่าบริเวณ สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า เป็นบริเวณที่มีการสัญจรทางเรือ และทางอากาศหนาแน่นมากกว่าบริเวณอื่นๆเท่านั้น เปอร์เซนต์อุบัติเหตุต่างๆจึงมี มากกว่าที่อื่นๆ และด้วยเหตุพ้องจองที่ว่า แถบเมอร์บิวด้า มีภาวะแวดล้อมที่ผิดแผกไปจากบริเวณเส้นทางอื่นเดินเรืออื่นๆเท่านั้น จึงทำให้ เกิดความผิดพลาดและเกิดอุบัติเหตุทางเรือได้ง่าย เป็นเหตุให้เรืออับปาง และเครื่องบินตกได้ง่ายกว่าที่อื่น..." ทฤษฎีนี้ฟังดูเข้าทีที่สุด เพราะมันประกอบด้วยข้อมูลสถิติและหลักสามัญสำนึกธรรมดา แต่มีปัญหาหนึ่งที่ทฤษฎีนี้พยายามปิดบังไม่กล่าวถึง นั้นคือเรื่องของการอับปางของเรือและเครื่องบินที่ไม่พบร่องรอยหรือซากอับปางให้เห็นบ้างเลย</font></span> </p><p><span style="color: PaleGreen"><font size="4">4. ทฤษฎีการบ่ายเบนของสภาพเวลาอวกาศ โดย ดร.แซนเดอร์สัน ไอแวน ( Dr. Sanderson Ivan ) เป็นผู้เสนอทฤษฎีนี้ มีใจความโดยสรุปว่า บริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า อาจเป็นบริเวณที่มี "สาเหตุไม่ปกติ"ทางธรรมชาติเกิดขึ้นเนื่องมาจากเป็นบริเวณที่มีการเปลี่ยนแปลงของสนามแม่เหล็กโลกและสนามไฟฟ้าของโลกมากที่สุดเมื่อมีกระแสน้ำอุ่นจากตอนเส้นศูนย์สูตรไหลขึ้นไปทางเหนือของมหาสมุทร แอตแลนติกปะทะกับกระแสน้ำเย็นที่ไหลลงสู่ทางใต้ของขั้วโลกเหนือการปะทะกันของกระแสน้ำทั้งสองชนิดนี้ทำให้เกิดการแบ่งตัวกันของ ระดับน้ำเป็นชั้นๆ ชั้นบนจากผิวน้ำลงไปสู่ความลึกประมาณ 500 - 1,000 ฟุต จะเป็นชั้นของกระแสน้ำอุ่นลึกลงไปจากนี้ก็จะเป็นชั้นของ กระแสน้ำเย็น ทั้งสองชั้นนี้มีทิศทางการไหลของน้ำสวนทางกัน ซึ่งอยู่ในระดับความลึก 500 - 1,000 ฟุต </font></span></p><p><span style="color: PaleGreen"><font size="4"><br /></font></span></p><p><span style="color: PaleGreen"><font size="4">จะเกิดการอัดแน่นของกระแสน้ำ มีการขัดถูกัน และมีการถ่ายเทอุณหภูมิกันอย่างมากมาย เกิดการถ่ายเทขัดสีกันของประจุไฟฟ้าสถิตย์ขึ้นอย่างมากมาย เป็นจำนวนมหาศาล หลายพันล้านโวลท์เกิดการเหนี่ยวนำของสนามไฟฟ้าเป็นผลกระทบตามมาประกอบกับการผันแปรของสนามแม่เหล็กโลกซึ่งมีเกิดขึ้นบ่อย ครั้งในบริเวณนี้การผันแปรของสนามแม่เหล็กโลกและสนามไฟฟ้าอาจมีการแปรผันสัมพันธ์กันนำไปสู่ภาวะการพิเศษที่เกิดขึ้นชั่วคราวกระ ทบกระเทือนกับสนามแรงโน้มถ่วงของโลกในบริเวณนั้น และนี่คือผลที่ทำให้เกิดการบ่ายเบนของสภาพเวลา-อวกาศ เมื่อสาเหตุไม่ปกตินี้เกิด ขึ้นก็จะทำให้เรือหรือเครื่องบินที่บังเอิญอยู่ตรงบริเวณนั้น</font></span></p><p><span style="color: PaleGreen"><font size="4"><br /></font></span></p><p><span style="color: PaleGreen"><font size="4">ในขณะนั้น แล่นหรือบินออกจากจุดแห่งความแตกต่างของห้วงกาลเวลา หรืออีก นัยหนึ่งอาจกล่าวได้ว่าบริเวณนั้น มีการเปลี่ยนแปลงของมิติที่ 4 เกิดขึ้น เรือหรือเครื่องบินอาจหลุดหรือผ่านเข้าสู่อีกมิติหนึ่งหรืออีกกาลเวลา หนึ่งก็ได้จุดแปรผันของกาลเวลานี้อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของมิติขึ้นและอาจทำให้เรือเดินทะเลขนาดใหญ่หรือเครื่องบินทั้งฝูงหลุด เข้าไปสู่อีกห้วงหนึ่งของกาลเวลาที่ไม่ใช่ปัจจุบันแล้วติดอยู่ในนั้น ไม่สามารถกลับออกมาสู่มิติเดิมได้ ทฤษฎีนี้เป็นทฤษฎีที่มีตัวเลขยืนยันคำ นวณกันแต่บนกระดาษแต่ในความเป็นจริงก็ยังไม่มีใครกล้าทดลอง</font></span></p><p><span style="color: PaleGreen"><font size="4"><br /></font></span></p><p><span style="color: PaleGreen"><font size="4">5. บริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า อาจเป็นที่ตั้งของฐานทัพลับใต้มหาสมุทรของชนชาติลึกลับหรือมนุษย์ต่างดาวซึ่งการหายไปของเรือ และเครื่องบินอาจเกิดจากการจงใจขโมยเรือหรือเครื่องบินรวมทั้งลักพาคนไปศึกษาแนวความคิดนี้ก็มีความเป็นไปได้เหมือนกันเพราะแถบ หมู่เกาะเมอร์บิวด้านี้มีรายงานการปรากฏตัวของ UFO บ่อยครั้ง แต่ทฤษฎีนี้ยังไม่มีหลักฐานอย่างอื่นที่พอจะนำมาอ้างหรือสนับสนุนได้ว่า UFO มีอะไรเกี่ยวข้องกับการสูญหายไปของเรือและเครื่องบิน </font></span></p><p><span style="color: PaleGreen"><font size="4"><br /></font></span></p><p><span style="color: PaleGreen"><font size="4">อย่างไรก็ตาม แนวโน้มที่คาดว่าจะเป็นไปได้มากที่สุดคือ บริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้าเป็นบริเวณที่มีสภาวะผิดปกติทางสภาพเวลา - อวกาศ และ UFO ที่มาปรากฏตัวในบริเวณนี้มากนั้นอาจเนื่องมาจากว่า UFO ใช้บริเวณนี้เป็นเส้นทางผ่านเข้าออกระหว่างมิติภพหรือจะพูด ง่ายๆคือ บริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า อาจเป็นบริเวณที่มีการเปิดปิดของประตูแห่งกาลเวลา หรือประตูแห่งมิติ โดยธรรมชาติก็ได้</font></span>[/QUOTE]</p><p><br /></p>
[QUOTE="~nun_y, post: 428144, member: 8431"][SIZE="5"][COLOR="pink"]สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ( Bermuda Triangle )[/COLOR][/SIZE] [COLOR="LightBlue"][SIZE="4"]ชื่อนี้เป็นที่รู้จักกันดีกันในปัจจุบัน เพราะมันเป็นบริเวณอาถรรพณ์อันเป็นที่ล่ำลือ กันว่าเต็มไปด้วยเรื่องลี้ลับ เรือเดินทะเล เครื่องบิน รวมถึงชีวิตของผู้โดยสารต่างหายสาบสูญไป ณ บริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้านี้ ดินแดนอาถรรพณ์สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้านี้ โดยแท้จริงแล้ว เป็นอาณาบริเวณกว้างใหญ่มาก เป็นส่วนหนึ่งของมหาสมุทรแอตแลนติก ภาคตะวันตก พื้นที่ทั้งหมดปกคลุมพื้นที่ทะเลตั้งแต่ตอนเหนือของหมู่เกาะเบอร์มิวด้าไปทางตอนใต้ของรัฐฟลอริดา ตีวงออกไปจนถึงหมู่ เกาะบาฮามัส เลยไปอีกจนถึงอ่าวเม็กซิโก ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 380,000 ตารางไมล์ทะเล ชื่อเสียงของมันได้ถูกขนานนามขึ้นมาในราว ปี ค.ศ. 1960 ด้วยเหตุที่ว่า ในบริเวณทะเลดังกล่าวมักเกิดแต่เรื่องร้ายๆขึ้นบ่อยๆ จนเป็นที่เลื่องลือกันไปทั่วถึงอันตรายของการหายสาบ สูญอย่างไม่มีวันได้กลับคืนมา [/SIZE][/COLOR] [COLOR="Plum"][SIZE="4"]สิ่งที่ทำให้ย่านทะเลแห่งนี้กลายเป็นดินแดนมรณะ ซึ่งทำให้นักบินหรือนักเดินเรือต่างพยายามหลีกเลี่ยง ถ้าไม่จำเป็นก็จะไม่ยอมผ่าน เข้าไปในบริเวณนี้อย่างเด็ดขาด เหตุการณ์ประหลาดๆ อย่างที่ไม่น่าเชื่อ มักจะเกิดขึ้นกับเรือหรือเครื่องบินที่ผ่านเข้าไปในบริเวณนั้นนับตั้ง แต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยตั้งแต่ปี ค.ศ.1800 - 1976 มีเรือและเครื่องบินหายสาบสูญไปในบริเวณนี้จำนวน 143 ราย สถิติการสูญหายมี มากที่สุดในปี ค.ศ. 1975 คือ 11 ราย น่าแปลกที่ว่าเรือหรือเครื่องบินที่สูญหายไปนี้ ไม่มีการส่งสัญญาณ SOS หรือส่งวิทยุขอความช่วย เหลือ และเรือและเครื่งบินเหล่านี้ต่างก็มีอุปกรณ์เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ช่วยในการนำทางที่ทันสมัย [/SIZE][/COLOR] [COLOR="Wheat"][SIZE="4"]ข้อมูลเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับการสูญหายในบริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ซึ่งได้จากบรรดาผู้บังเอิญรอดตายหรือจากบันทึกการติด ต่อครั้งสุดท้ายโดยการวิทยุติดต่อ สามารถนำมาประมวลเป็นคุณลักษณะที่น่าสนใจได้คือ[/SIZE][/COLOR] [COLOR="LightBlue"][SIZE="4"]1. รายงานที่พบเป็นประจำ เริ่มแรกผู้ประสบอุบัติเหตุจะรายงานว่า มีการขัดข้องเกิดขึ้นกับเครื่องมือนำร่อง เช่น เข็มทิศ, เครื่อง วัดความสูง, เครื่องวัดความเร็ว และเครื่องมือสื่อสาร โดยเครื่องมือเหล่านี้จะทำงานผิดปกติ เหมือนมีพลังอำนาจบางอย่างซึ่งมักจะเกี่ยว ข้องกับอุปกรณ์แม่เหล็กไฟฟ้าโดยเฉพาะเข็มทิศที่มักจะหมุนติ้วจนไม่สามารถจับทิศทางได้ 2. เกิดความสับสนขึ้นกับประสาทรับรู้ความรู้สึกทั้ง 5 ของผู้ที่หลุดเข้าไปในดินแดนอาถรรพณ์นี้ ทำให้ผู้นั้นรู้สึกงุนงง สับสนต่อ เหตุการณ์ และจะสูญเสียความรู้สึกในเรื่องของเวลาและการทรงตัว 3. มีการรบกวนทางระบบไฟฟ้า และการติดต่อสื่อสารทางวิทยุจะถูกตัดขาด ข้อมูลนี้เป็นอีกข้อมูลหนึ่งที่มักจะพบเสมอจากราย งานครั้งสุดท้ายของผู้ที่หายสาบสูญ 4. มีปรากฏการณ์หมอกสีขาว หรือแสงสีขาว ซึ่งทราบจากรายงานครั้งสุดท้ายก่อนการหายสาบสูญเช่นกัน[/SIZE][/COLOR] [COLOR="Plum"][SIZE="4"]ความแปลกประหลาดของสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้ามีผู้ที่พยายามจะค้นคว้าหาคำตอบกันมากมาย ซึ่งก็มีข้อสันนิษฐานแตกต่างกันไป ดังนี้ [/SIZE][/COLOR] [COLOR="Wheat"][SIZE="4"]1. การหายสาบสูญของเรือในบริเวณสามเหลี่มเบอร์มิวด้า อาจเกิดจากการที่เรือแล่นไปชนทุ่นระเบิด ซึ่งทุ่นระเบิดเหล่านี้หลง เหลือมาจากสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง แต่แนวคิดนี้ดูจะเป็นไปได้น้อยมากเพราะมันไม่สามารถอธิบายเหตุการณืประหลาดอย่างอื่นๆ ได้ เช่น ในกรณีที่เรือเดินทะเลบางลำลอยเข้าหาฝั่ง โดยที่ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่บนเรือนั้นเลยแม้แต่คนเดียว ข้าวของและของมีค่าอื่นๆยังอยู่ ครบบนเรือ คนบนเรือหายตัวไปโดยไม่ทราบสาเหตุ 2. การหายสาบสูญของเรือ อาจเกิดจากพายุในทะเลที่ก่อตัวขึ้นอย่างฉับพลันทันที นี่ก็เป็นข้อเสนออีกข้อหนึ่งที่มีทางเป็นไปได้ แต่ น้อยมาก เพราะโดยหลักการแล้ว ทะเลในย่านนี้ ถ้าจะมีพายุขนาดใหญ่ชนิดที่จะสามารถทำให้เรือเดินทะเลอับปางทันทีทันใดนั้น จะต้องเป็น พายุที่ใหญ่และรู้ล่วงหน้าก่อนเสมอ และเรือเดินทะเลขนาดใหญ่ก็จะมีเครื่องมือตรวจพายุอยู่ด้วย อย่างน้อยก็ต้องมีการส่งข่าว รายงานเข้าสู่ฝั่ง หรือวิทยุขอความช่วยเหลือมาบ้างถ้าเจอเข้ากับพายุใหญ่ขนาดที่จะจมเรือเดินสมุทรได้ 3. เป็นเรื่องราวของความเชื่อ อันเกิดมาจากเหตุบังเอิญ ซึ่งข้อสรุปนี้เป็นคำประกาศเป็นทางการของกองเรือยามฝั่งที่เจ็ด ของนาวี สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทำงานรับผิดชอบอยู่ในเขตน่านน้ำบริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ประกาศว่า "ความอาถรรพณ์นั้นไม่มีจริง เป็นเพียงเรื่องล่ำลือ เชื่อกันไปเอง การหายไปของเรือไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ที่ไหนๆก็มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้เช่นกัน เพียงแต่ว่าบริเวณ สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า เป็นบริเวณที่มีการสัญจรทางเรือ และทางอากาศหนาแน่นมากกว่าบริเวณอื่นๆเท่านั้น เปอร์เซนต์อุบัติเหตุต่างๆจึงมี มากกว่าที่อื่นๆ และด้วยเหตุพ้องจองที่ว่า แถบเมอร์บิวด้า มีภาวะแวดล้อมที่ผิดแผกไปจากบริเวณเส้นทางอื่นเดินเรืออื่นๆเท่านั้น จึงทำให้ เกิดความผิดพลาดและเกิดอุบัติเหตุทางเรือได้ง่าย เป็นเหตุให้เรืออับปาง และเครื่องบินตกได้ง่ายกว่าที่อื่น..." ทฤษฎีนี้ฟังดูเข้าทีที่สุด เพราะมันประกอบด้วยข้อมูลสถิติและหลักสามัญสำนึกธรรมดา แต่มีปัญหาหนึ่งที่ทฤษฎีนี้พยายามปิดบังไม่กล่าวถึง นั้นคือเรื่องของการอับปางของเรือและเครื่องบินที่ไม่พบร่องรอยหรือซากอับปางให้เห็นบ้างเลย[/SIZE][/COLOR] [COLOR="PaleGreen"][SIZE="4"]4. ทฤษฎีการบ่ายเบนของสภาพเวลาอวกาศ โดย ดร.แซนเดอร์สัน ไอแวน ( Dr. Sanderson Ivan ) เป็นผู้เสนอทฤษฎีนี้ มีใจความโดยสรุปว่า บริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า อาจเป็นบริเวณที่มี "สาเหตุไม่ปกติ"ทางธรรมชาติเกิดขึ้นเนื่องมาจากเป็นบริเวณที่มีการเปลี่ยนแปลงของสนามแม่เหล็กโลกและสนามไฟฟ้าของโลกมากที่สุดเมื่อมีกระแสน้ำอุ่นจากตอนเส้นศูนย์สูตรไหลขึ้นไปทางเหนือของมหาสมุทร แอตแลนติกปะทะกับกระแสน้ำเย็นที่ไหลลงสู่ทางใต้ของขั้วโลกเหนือการปะทะกันของกระแสน้ำทั้งสองชนิดนี้ทำให้เกิดการแบ่งตัวกันของ ระดับน้ำเป็นชั้นๆ ชั้นบนจากผิวน้ำลงไปสู่ความลึกประมาณ 500 - 1,000 ฟุต จะเป็นชั้นของกระแสน้ำอุ่นลึกลงไปจากนี้ก็จะเป็นชั้นของ กระแสน้ำเย็น ทั้งสองชั้นนี้มีทิศทางการไหลของน้ำสวนทางกัน ซึ่งอยู่ในระดับความลึก 500 - 1,000 ฟุต จะเกิดการอัดแน่นของกระแสน้ำ มีการขัดถูกัน และมีการถ่ายเทอุณหภูมิกันอย่างมากมาย เกิดการถ่ายเทขัดสีกันของประจุไฟฟ้าสถิตย์ขึ้นอย่างมากมาย เป็นจำนวนมหาศาล หลายพันล้านโวลท์เกิดการเหนี่ยวนำของสนามไฟฟ้าเป็นผลกระทบตามมาประกอบกับการผันแปรของสนามแม่เหล็กโลกซึ่งมีเกิดขึ้นบ่อย ครั้งในบริเวณนี้การผันแปรของสนามแม่เหล็กโลกและสนามไฟฟ้าอาจมีการแปรผันสัมพันธ์กันนำไปสู่ภาวะการพิเศษที่เกิดขึ้นชั่วคราวกระ ทบกระเทือนกับสนามแรงโน้มถ่วงของโลกในบริเวณนั้น และนี่คือผลที่ทำให้เกิดการบ่ายเบนของสภาพเวลา-อวกาศ เมื่อสาเหตุไม่ปกตินี้เกิด ขึ้นก็จะทำให้เรือหรือเครื่องบินที่บังเอิญอยู่ตรงบริเวณนั้น ในขณะนั้น แล่นหรือบินออกจากจุดแห่งความแตกต่างของห้วงกาลเวลา หรืออีก นัยหนึ่งอาจกล่าวได้ว่าบริเวณนั้น มีการเปลี่ยนแปลงของมิติที่ 4 เกิดขึ้น เรือหรือเครื่องบินอาจหลุดหรือผ่านเข้าสู่อีกมิติหนึ่งหรืออีกกาลเวลา หนึ่งก็ได้จุดแปรผันของกาลเวลานี้อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของมิติขึ้นและอาจทำให้เรือเดินทะเลขนาดใหญ่หรือเครื่องบินทั้งฝูงหลุด เข้าไปสู่อีกห้วงหนึ่งของกาลเวลาที่ไม่ใช่ปัจจุบันแล้วติดอยู่ในนั้น ไม่สามารถกลับออกมาสู่มิติเดิมได้ ทฤษฎีนี้เป็นทฤษฎีที่มีตัวเลขยืนยันคำ นวณกันแต่บนกระดาษแต่ในความเป็นจริงก็ยังไม่มีใครกล้าทดลอง 5. บริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า อาจเป็นที่ตั้งของฐานทัพลับใต้มหาสมุทรของชนชาติลึกลับหรือมนุษย์ต่างดาวซึ่งการหายไปของเรือ และเครื่องบินอาจเกิดจากการจงใจขโมยเรือหรือเครื่องบินรวมทั้งลักพาคนไปศึกษาแนวความคิดนี้ก็มีความเป็นไปได้เหมือนกันเพราะแถบ หมู่เกาะเมอร์บิวด้านี้มีรายงานการปรากฏตัวของ UFO บ่อยครั้ง แต่ทฤษฎีนี้ยังไม่มีหลักฐานอย่างอื่นที่พอจะนำมาอ้างหรือสนับสนุนได้ว่า UFO มีอะไรเกี่ยวข้องกับการสูญหายไปของเรือและเครื่องบิน อย่างไรก็ตาม แนวโน้มที่คาดว่าจะเป็นไปได้มากที่สุดคือ บริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้าเป็นบริเวณที่มีสภาวะผิดปกติทางสภาพเวลา - อวกาศ และ UFO ที่มาปรากฏตัวในบริเวณนี้มากนั้นอาจเนื่องมาจากว่า UFO ใช้บริเวณนี้เป็นเส้นทางผ่านเข้าออกระหว่างมิติภพหรือจะพูด ง่ายๆคือ บริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า อาจเป็นบริเวณที่มีการเปิดปิดของประตูแห่งกาลเวลา หรือประตูแห่งมิติ โดยธรรมชาติก็ได้[/SIZE][/COLOR][/QUOTE]
เข้าสู่ระบบด้วย Facebook
เข้าสู่ระบบด้วย Twitter
เข้าสู่ระบบด้วย Google
ชื่อผู้ใช้งานหรือที่อยู่อีเมล์ของคุณ:
คุณมีบัญชีผู้ใช้หรือไม่?
ไม่มี, สร้างบัญชีผู้ใช้ตอนนี้
มี, รหัสผ่านของฉันคือ:
ลืมรหัสผ่านของคุณ?
อยู่ในระบบตลอดเวลา
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
RacingWeb Community
>
Lady Forum
>
- Bermuda Triangle -
>
X
หน้าแรก
หน้าแรก
Quick Links
โพสต์ล่าสุด
กิจกรรมล่าสุด
ผู้เขียน
ฟอรั่ม
ฟอรั่ม
Quick Links
ค้นหาฟอรั่ม
โพสต์ล่าสุด
ประกาศซื้อขาย
ประกาศซื้อขาย
Quick Links
ค้นหาประกาศซื้อขาย
กิจกรรมล่าสุด
ผู้ค้าขายคะแนนสูงสุด
สื่อ/วิดีโอ
สื่อ/วิดีโอ
Quick Links
Search Media
New Media
สมาชิก
สมาชิก
Quick Links
สมาชิกที่โดดเด่น
สมาชิกที่ลงทะเบียน
ผู้ใช้งานในขณะนี้
กิจกรรมล่าสุด
โพสต์ข้อมูลส่วนตัวใหม่
เมนู
ค้นหาเฉพาะชื่อ
โพสต์โดยสมาชิก:
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค
ใหม่กว่า:
ค้นหาเฉพาะหัวข้อนี้
ค้นหาเฉพาะฟอรั่มนี้
แสดงผลเป็นหัวข้อ
การค้นหาที่มีประโยชน์
โพสต์ล่าสุด
เพิ่มเติม...