เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน
ติดต่อลงโฆษณา
[email protected]
หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
Community Car Clubs
>
Japanese Car Clubs
>
Mazda 323&626 Club
>
อ่านจิ
>
ตอบกลับหัวข้อ
ชื่อ:
การตรวจสอบ:
กรุณาเปิดใช้งานจาวาสคริปต์เพื่อดำเนินการต่อ
กำลังโหลด...
ข้อความ:
<p>[QUOTE="RollriderS, post: 439744, member: 979"]ฉันเกิดในหมู่บ้านบนภูเขาที่ห่างไกลผู้คน </p><p><br /></p><p><br /></p><p><br /></p><p>แต่ละวันพ่อแม่ของฉันต้องพรวนดินในไร่ท่ามกลางแดดที่ร้อนระอุ </p><p><br /></p><p>ฉันมีน้องชายอยู่หนึ่งคน อายุน้อยกว่าฉัน 3 ปี </p><p><br /></p><p>วันหนึ่งฉันขโมยเงินของพ่อเพื่อไปซื้อผ้าเช็ดหน้าที่เพื่อนๆ </p><p><br /></p><p>ของฉันมีกัน </p><p><br /></p><p>จากนั้นพ่อก็รู้เรื่อง </p><p><br /></p><p>พ่อให้ฉันกับน้องคุกเข่าหันหน้าเข้าหากำแพง </p><p><br /></p><p>โดยที่ในมือพ่อมีก้านไม่ไผ่อยู่หนึ่งก้าน </p><p><br /></p><p>" ใครขโมยเงินไป" พ่อตวาด </p><p><br /></p><p>ฉันกลัวมาก ไม่กล้าพูดอะไรออกไป น้องชายฉันก็เช่นกัน </p><p><br /></p><p>พ่อจึงเอ่ยขึ้นว่า </p><p><br /></p><p>" ก็ได้ ในเมื่อไม่มีคนรับสารภาพก็ต้องโดนลงโทษทั้งคู่นั่นล่ะ" </p><p><br /></p><p>พ่อชูก้านไม้ไผ่ในมือขึ้น </p><p><br /></p><p>ทันใดนั้น น้องชายของฉันก็ลุกขึ้นคว้าข้อมือของพ่อไว้....แล้วพูดว่า </p><p><br /></p><p>" ผมขโมยเองครับ" </p><p><br /></p><p>ก้านไม้ไผ่ก้านนั้นได้กระหน่ำลงบนหลังของน้องของฉันอย่างต่อเนื่อง </p><p><br /></p><p>พ่อโกรธมาก พ่อตีน้องของฉันไม่หยุด </p><p><br /></p><p>จนพ่อหอบด้วยความเหนื่อย </p><p><br /></p><p>พ่อนั่งลงบนเก้าอี้ </p><p><br /></p><p>และด่าว่าน้องชายของฉัน </p><p><br /></p><p>" ของคนในบ้านแกเอง แกยังขโมยได้ต่อไปแกจะทำชั่วอะไรอีก </p><p><br /></p><p>แกน่าจะโดนตีให้ตาย ไอ้หัวขโมย" </p><p><br /></p><p>คืนนั้น ฉันกับแม่กอดน้องชายของฉันไว้ </p><p><br /></p><p>หลังของน้องมีแผลเต็มไปหมด </p><p><br /></p><p>แต่เขาไม่ได้ร้องไห้แม้แต่น้อย </p><p><br /></p><p>กลางดึกคืนนั้น ฉันนอนร้องไห้เสียงดัง และนานมาก </p><p><br /></p><p>น้องเอามือเล็กๆ ของเขามาปิดปากฉันไว้ แล้วพูดว่า </p><p><br /></p><p>" พี่ครับ ไม่ต้องร้องไห้นะมันผ่านไปแล้ว" </p><p><br /></p><p>ยังไงฉันก็อดที่จะเกลียดตัวเองไม่ได้ </p><p><br /></p><p>ที่ไม่มีความกล้าจะบอกความจริงกับพ่อ </p><p><br /></p><p><br /></p><p><br /></p><p>หลายปีผ่านไป </p><p><br /></p><p>แต่เหมือนกับว่าเหตุการณ์มันเพิ่งเกิดเมื่อวานนี้เอง </p><p><br /></p><p>ฉันไม่อาจลืมคำพูดของน้องชายตอนที่เขาปกป้องฉันได้เลย </p><p><br /></p><p>ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 8 ปี ส่วนฉันอายุ 11 ปี... </p><p><br /></p><p>เมื่อตอนที่น้องชายของฉันใกล้จบ ม.ต้น </p><p><br /></p><p>เขาได้รับการตอบรับจากโรงเรียน </p><p><br /></p><p>ม.ปลาย ว่าเขาสอบได้ ในขณะที่ฉันซึ่งใกล้จบ ม.ปลาย </p><p><br /></p><p>ก็ได้รับการตอบรับจากมหาวิทยาลัยของจังหวัดเช่นกัน </p><p><br /></p><p>คืนนั้น พ่อได้นั่งสูบบุหรี่อยู่ที่สวนหลังบ้าน </p><p><br /></p><p>ฉันแอบได้ยินพ่อพูดว่า </p><p><br /></p><p>" ลูกเราทั้งคู่เรียนดีเรียนดีมากนะ" </p><p><br /></p><p>แม่ซึ่งนั่งเช็ดน้ำตาอยู่ข้างๆ พ่อ ได้พูดว่า </p><p><br /></p><p>" แล้วเราจะส่งเสียลูกทั้งคู่ได้อย่างไรในเมื่อเราก็ไม่ค่อยมีเงิน" </p><p><br /></p><p>ทันใดนั้น น้องชายของฉันได้เดินเข้าไปหาพ่อ แล้วพูดว่า </p><p><br /></p><p>" ผมไม่ต้องการเรียนต่อผมอ่านหนังสือมามากพอแล้ว" </p><p><br /></p><p>พ่อเหวี่ยงมือตบลงที่แก้มของน้องของฉันฉาดใหญ่ </p><p><br /></p><p>" ทำไมถึงคิดโง่ๆ อย่างนี้ </p><p><br /></p><p>ต่อให้พ่อต้องไปเป็นขอทานข้างถนน </p><p><br /></p><p>พ่อก็จะส่งแกทั้งคู่เรียนจนจบให้ได้" </p><p><br /></p><p>คืนนั้นทั้งคืน พ่อได้เดินไปตามบ้านต่างๆ </p><p><br /></p><p>ทั่วทั้งหมู่บ้าน....เพื่อขอยืมเงิน </p><p><br /></p><p>ฉันค่อยๆ เอามือประคบแก้มบวมๆ </p><p><br /></p><p>ของน้องชายเบาๆ และคิดว่า </p><p><br /></p><p>" ต้องให้น้องได้เรียนต่อไม่เช่นนั้นเขาคงไม่อาจหลุดพ้นชีวิตลำบากเช่นนี้ไปได้" </p><p><br /></p><p>แต่ในขณะเดียวกัน </p><p><br /></p><p>ฉันก็ไม่อาจล้มเลิกความคิดอยากจะเรียนต่อไปได้ </p><p><br /></p><p>ใครจะรู้ได้ ....... </p><p><br /></p><p><br /></p><p>วันต่อมาในตอนเช้ามืด </p><p><br /></p><p>น้องชายของฉันได้ออกจากบ้านไปพร้อมทั้งเสื้อผ้าติดตัวเพียงไม่กี่ชิ้น </p><p><br /></p><p>และถั่วเพียงเล็กน้อยเพื่อประทังความหิว </p><p><br /></p><p>ก่อนไปเขาได้ทิ้งข้อความไว้ใต้หมอนของฉัน </p><p><br /></p><p>ขณะฉันกำลังหลับ </p><p><br /></p><p>" พี่ครับ การจะเข้ามหาวิทยาลัยได้ ไม่ใช่ง่ายๆ นะ .... </p><p><br /></p><p>ผมจะไปหางานทำ...แล้วจะส่งเงินมาให้พี่" </p><p><br /></p><p>ฉันนั่งอยู่บนเตียง </p><p><br /></p><p>อ่านข้อความของน้องชายด้วยน้ำตานองหน้า ....... </p><p><br /></p><p>ฉันร้องไห้จนเสียงแหบแห้งไป </p><p><br /></p><p>ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 17 ปี ส่วนฉันอายุ 20 ปี ..... </p><p><br /></p><p>ด้วยเงินที่พ่อยืมมาจากคนในหมู่บ้าน </p><p><br /></p><p>รวมกับเงินที่น้องชายของฉันได้รับเป็นค่าจ้างมาจากการทำงานเป็น </p><p><br /></p><p>กรรมกรแบกหามที่ไซท์ก่อสร้างท่าเรือ ....... </p><p><br /></p><p>ฉันจึงสามารถเข้าเรียนมหาวิทยาลัยได้จนถึงปี 3 </p><p><br /></p><p>วันหนึ่งขณะที่ฉันกำลังอ่านหนังสืออยู่ในห้องพัก </p><p><br /></p><p>เพื่อนร่วมห้องของฉันได้เข้ามาบอกว่า </p><p><br /></p><p>" มีชาวบ้านมาหาเธอ...อยู่ข้างนอกแน่ะ" </p><p><br /></p><p>ทำไมชาวบ้านถึงมาหาฉันล่ะ ??? </p><p><br /></p><p>ฉันเดินออกไปแล้วมองเห็นน้องชายของฉันยืนอยู่ </p><p><br /></p><p>ตัวของเขาเปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่นปูนและทรายจากงานก่อสร้าง </p><p>... </p><p><br /></p><p>ฉันถามเขาว่า </p><p><br /></p><p>" ทำไมไม่บอกเพื่อนพี่ไปว่าเป็นน้องชายพี่ล่ะ" </p><p><br /></p><p>น้องชายของฉันตอบยิ้มๆ ว่า </p><p><br /></p><p>" ก็ดูผมสิสกปรกมอมแมมออกอย่างนี้...ขืนบอกว่าเป็นน้องพี่ เพื่อนๆ </p><p><br /></p><p>ก้อได้หัวเราะเยาะพี่กันพอดี" </p><p><br /></p><p>ฉันค่อยๆ เอื้อมมืออันสั่นเทาไปปัดฝุ่นให้น้อง </p><p><br /></p><p>และพยายามพูดด้วยเสียงเครือๆในลำคอ </p><p><br /></p><p>" พี่ไม่สนใจว่าใครจะพูดยังไง </p><p><br /></p><p>เธอเป็นน้องของพี่ ไม่ว่าเธอจะดูเป็นอย่างไรก็ตาม" </p><p><br /></p><p>จากนั้น น้องของฉันได้ล้วงบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง </p><p><br /></p><p>เป็นกิ๊บหนีบผมรูปผีเสื้อ . เขาติดกิ๊บให้ฉัน </p><p><br /></p><p>แล้วพูดว่า </p><p><br /></p><p>" ผมเห็นสาวๆ ในเมืองเค้าติดกัน ผมเลยอยากให้พี่ติดบ้าง" </p><p><br /></p><p>ฉันหมดเรี่ยวแรงลงในทันใด </p><p><br /></p><p>ดึงน้องชายเข้ามาสวมกอดและร้องไห้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นเวลานาน </p><p><br /></p><p>ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 20 ปี ส่วนฉันอายุ 23 ปี . </p><p><br /></p><p>วันที่ฉันพาแฟนหนุ่มของฉันมาที่บ้านเป็นครั้งแรก </p><p><br /></p><p>ฉันสังเกตเห็นว่า </p><p><br /></p><p>หน้าต่างบ้านที่เคยแตกไป ได้ถูกซ่อมเรียบร้อยแล้ว </p><p><br /></p><p>เมื่อเข้าไปในบ้านก็เห็นว่าบ้านสะอาดขึ้นมาก </p><p><br /></p><p>หลังจากที่แฟนของฉันกลับไป ฉันพูดกับแม่ว่า </p><p><br /></p><p>" แม่ไม่ต้องเสียเงินเพื่อทำความสะอาดบ้านกับซ่อมกระจก </p><p><br /></p><p>เพียงเพราะหนูจะพาแฟนมาที่บ้านหรอกนะคะ" </p><p><br /></p><p>แม่ยิ้ม แล้วพูดว่า </p><p><br /></p><p>" แม่ไม่ได้จ้างหรอก...น้องชายลูกต่างหาก </p><p><br /></p><p>วันนี้เค้าขอเลิกงานเร็วเพื่อกลับมาทำความสะอาดบ้าน </p><p><br /></p><p>ลูกยังไม่เห็นมือน้องหรอกเหรอ </p><p><br /></p><p>น้องโดนกระจกบาดตอนกำลังเปลี่ยนกระจกบานใหม่น่ะ" </p><p><br /></p><p>ฉันรีบเข้าไปหาน้องที่ห้องนอนของเขา </p><p><br /></p><p>ฉันรู้สึกเหมือนถูกเข็มนับร้อยเล่มทิ่มลงกลางใจเมื่อได้เห็นบาดแผลบนมือ </p><p><br /></p><p>ฉันจับมือน้องเอาไว้อย่างเบามือที่สุด " เจ็บมากไหม" </p><p><br /></p><p>ฉันถาม </p><p><br /></p><p>" ไม่เจ็บสักหน่อย พี่ก็รู้นี่ผมทำงานก่อสร้างนะ วันๆ </p><p><br /></p><p>มีหินตกมาใส่เท้าผมเต็มไปหมด </p><p><br /></p><p>แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ผมคิดเลิกทำงานหรอกนะ </p><p><br /></p><p>และ..." </p><p><br /></p><p>น้องชายของฉันยังพูดไม่จบประโยค แต่ก็ต้องหยุดพูด </p><p><br /></p><p>เพราะฉันหันหน้าหนีเขา </p><p><br /></p><p>น้ำตาไหลอาบหน้าของฉันอีกครั้ง </p><p><br /></p><p>" เพราะพี่เป็นพี่สาวของผมนี่ครับ" </p><p><br /></p><p>ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 23 ปี ส่วนฉันอายุ 26 ปี... </p><p><br /></p><p>หลังจากนั้น ฉันก็ได้แต่งงานและย้ายเข้าไปอยู่ในเมือง </p><p><br /></p><p>หลายครั้งที่สามีของฉันชักชวนให้พ่อแม่ของฉันย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองด้วยกัน... </p><p><br /></p><p>แต่ท่านทั้งสองก็ปฏิเสธ </p><p><br /></p><p>ท่านบอกว่า ท่านเคยย้ายออกจากหมู่บ้านครั้งหนึ่ง </p><p><br /></p><p>แต่เมื่อออกไปแล้ว </p><p><br /></p><p>ท่านไม่รู้จะทำอะไรดี </p><p><br /></p><p>จึงได้ย้ายกลับเข้ามาใช้ชีวิตในหมู่บ้านตามเดิม </p><p><br /></p><p>น้องชายของฉันก็ไม่เห็นด้วยกับการที่จะให้เขาและพ่อแม่ย้ายออกไป ... </p><p><br /></p><p>เขาบอกกับฉันว่า </p><p><br /></p><p>" พี่คอยอยู่ดูแลพ่อและแม่ของสามีพี่ทางนั้นเถอะผมจะดูแลพ่อและแม่ทางนี้เอง" </p><p><br /></p><p>สามีฉันได้ขึ้นเป็นประธานของบริษัทของ ครอบครัว </p><p><br /></p><p>เราทั้งคู่อยากให้น้องชายของฉันเข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการบริษัท </p><p>... </p><p>แต่น้องชายของฉันก็ไม่รับตำแหน่งนี้ </p><p><br /></p><p>เขาขอเข้าทำงานในตำแหน่งพนักงานธรรมดา </p><p><br /></p><p>วันหนึ่ง น้องชายของฉันต้องปีนบันไดขึ้นไปซ่อมสายเคเบิล </p><p><br /></p><p>และตกลงมาเพราะโดนไฟดูด </p><p><br /></p><p>เขาถูกรีบหามส่งโรงพยาบาล </p><p><br /></p><p>ฉันและสามีรีบไปเยี่ยมเขาที่โรงพยาบาล </p><p><br /></p><p>น้องชายของฉันขาหักต้องเข้าเฝือกที่ขา </p><p><br /></p><p>... ฉันโกรธมาก จึงตวาดน้องไปว่า </p><p><br /></p><p>" ทำไมถึงไม่ยอมรับตำแหน่งผู้จัดการ หา!!! </p><p><br /></p><p>ถ้าเป็นผู้จัดการก็จะได้ไม่ต้องมาทำงานเสี่ยงๆอย่างนี้ </p><p><br /></p><p>ดูตัวเองซิ...เจ็บเจียนตายอยู่แล้ว ทำไมถึงไม่ยอมฟังพี่บ้าง" </p><p><br /></p><p>คำตอบจากปากน้องของฉันรวมถึงสีหน้าเคร่งเครียด </p><p><br /></p><p>ยังยืนยันความคิดเดิมของเขา </p><p><br /></p><p>" พี่ลองคิดถึงพี่เขยสิครับ พี่เขยเพิ่งจะได้เป็นประธาน </p><p><br /></p><p>ส่วนผมมันการศึกษาต่ำถ้าผมได้เป็นผู้จัดการ </p><p><br /></p><p>คงจะมีเสียงนินทาว่าร้ายเต็มไปหมด" </p><p><br /></p><p>น้ำตาปริ่มดวงตาของฉันรวมทั้งสามีของฉันด้วย ..... </p><p><br /></p><p>ฉันบอกกับน้องว่า </p><p><br /></p><p>" แต่ที่เธอไม่ได้เรียนต่อก็เพราะพี่..." </p><p><br /></p><p>" ทำไมต้องพูดถึงเรื่องที่ผ่านไปแล้วด้วยล่ะครับ" </p><p><br /></p><p>น้องชายของฉันจับมือฉันไว้ </p><p><br /></p><p>ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 26 ปี ส่วนฉันอายุ 29 ปี... </p><p><br /></p><p><br /></p><p><br /></p><p>เมื่อน้องชายของฉันอายุได้ 30 ปี </p><p><br /></p><p>เขาได้แต่งงานกับผู้หญิงในที่ทำงานที่เดียวกัน </p><p><br /></p><p>ในงานแต่งงาน ประธานในงานได้ถามน้องชายของฉันว่า </p><p><br /></p><p>" ใครคือคนที่คุณรักที่สุดในชีวิตนี้" </p><p><br /></p><p>น้องชายของฉันตอบอย่างไม่ลังเล " พี่สาวของผมครับ" ..... </p><p><br /></p><p>และเขาก็เล่าเรื่องราวที่แม้แต่ฉันยังจำไม่ได้ </p><p><br /></p><p>" ตอนผมอยู่โรงเรียนประถม โรงเรียนอยู่อีกหมู่บ้านหนึ่ง </p><p><br /></p><p>เราสองคนพี่น้องต้องใช้เวลาถึง 2 ชม. </p><p><br /></p><p>เพื่อเดินไปเรียน...และเดินกลับบ้าน </p><p><br /></p><p>วันหนึ่งในวันที่หิมะตกหนักผมทำถุงมือหายไปข้างหนึ่ง </p><p><br /></p><p>พี่สาวผมจึงได้ให้ถุงมือของเธอข้างหนึ่ง </p><p><br /></p><p>และเธอก็ใส่ถุงมือเพียงข้างเดียวเดินเป็นระยะทางไกล </p><p><br /></p><p>เมื่อเรากลับถึงบ้านมือเธอบวมแดงเพราะอากาศหนาว </p><p><br /></p><p>เธอไม่สามารถจับช้อนทานข้าวได้ด้วยซ้ำ ....... นับจากวันนั้น </p><p><br /></p><p>ผมสาบานกับตัวเอง </p><p><br /></p><p>ว่าตลอดชีวิตของผม ผมจะดูแลพี่สาวของผมให้ดี </p><p><br /></p><p>และจะทำดีกับเธอ" </p><p><br /></p><p>เสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่ว </p><p><br /></p><p>สายตาทุกคู่ของแขกเหรื่อหันมาจับจ้องที่ฉัน </p><p><br /></p><p>คำพูดจากปากฉันออกมาอย่างยากลำบาก ....... </p><p><br /></p><p>" ในโลกใบนี้คนเดียวที่ฉันรู้สึกขอบคุณที่สุด คือน้องชายของฉันค่ะ" </p><p><br /></p><p>ในวาระที่มีความสุขที่สุดเช่นนี้ </p><p><br /></p><p>น้ำตาได้รินไหลออกมาจากสองตาของฉันอีกครั้ง... </p><p><br /></p><p>จงรัก และห่วงใยคนที่คุณรักในทุกๆ </p><p><br /></p><p>วันในชีวิตของคุณและเขา </p><p><br /></p><p>คุณอาจจะคิดว่าสิ่งที่คุณทำให้ใครสักคนเป็นเพียงสิ่งเล็กๆน้อยๆ </p><p><br /></p><p>แต่สำหรับคนคนนั้นอาจจะมีความหมายมากอย่างคาดไม่ถึง </p><p><br /></p><p>.. ไม่ว่าเขาคนนั้นจะคือ </p><p><br /></p><p>พ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติ คนรัก เพื่อน </p><p><br /></p><p>หรือแม้คนที่คุณไม่รู้จัก ก็ตาม </p><p><br /></p><p><br /></p><p>จบบริบูรณ์.... </p><p><br /></p><p><br /></p><p>ปล.ปัจจุบันผู้เป็นพี่สาวอายุ 86 ปีตำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหารใหญ่บริษัทฮุนไดและในเครือกว่า 20 บริษัท </p><p><br /></p><p>น้องชายอายุ 83 ปีเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทเล็กๆ ที่มีชื่อเป็นภาษาเกาหลีว่า </p><p><br /></p><p>" ซัมซุง" </p><p><br /></p><p>และเรื่องราวของท่านทั้ง 2 คนกำลังถูกนำมาสร้างเป็นซี่รี่ย์ โดยดาราเล็กๆ คนคือ ซอง เฮ เคียว และ ลี ดอง ฮุคครับ[/QUOTE]</p><p><br /></p>
[QUOTE="RollriderS, post: 439744, member: 979"]ฉันเกิดในหมู่บ้านบนภูเขาที่ห่างไกลผู้คน แต่ละวันพ่อแม่ของฉันต้องพรวนดินในไร่ท่ามกลางแดดที่ร้อนระอุ ฉันมีน้องชายอยู่หนึ่งคน อายุน้อยกว่าฉัน 3 ปี วันหนึ่งฉันขโมยเงินของพ่อเพื่อไปซื้อผ้าเช็ดหน้าที่เพื่อนๆ ของฉันมีกัน จากนั้นพ่อก็รู้เรื่อง พ่อให้ฉันกับน้องคุกเข่าหันหน้าเข้าหากำแพง โดยที่ในมือพ่อมีก้านไม่ไผ่อยู่หนึ่งก้าน " ใครขโมยเงินไป" พ่อตวาด ฉันกลัวมาก ไม่กล้าพูดอะไรออกไป น้องชายฉันก็เช่นกัน พ่อจึงเอ่ยขึ้นว่า " ก็ได้ ในเมื่อไม่มีคนรับสารภาพก็ต้องโดนลงโทษทั้งคู่นั่นล่ะ" พ่อชูก้านไม้ไผ่ในมือขึ้น ทันใดนั้น น้องชายของฉันก็ลุกขึ้นคว้าข้อมือของพ่อไว้....แล้วพูดว่า " ผมขโมยเองครับ" ก้านไม้ไผ่ก้านนั้นได้กระหน่ำลงบนหลังของน้องของฉันอย่างต่อเนื่อง พ่อโกรธมาก พ่อตีน้องของฉันไม่หยุด จนพ่อหอบด้วยความเหนื่อย พ่อนั่งลงบนเก้าอี้ และด่าว่าน้องชายของฉัน " ของคนในบ้านแกเอง แกยังขโมยได้ต่อไปแกจะทำชั่วอะไรอีก แกน่าจะโดนตีให้ตาย ไอ้หัวขโมย" คืนนั้น ฉันกับแม่กอดน้องชายของฉันไว้ หลังของน้องมีแผลเต็มไปหมด แต่เขาไม่ได้ร้องไห้แม้แต่น้อย กลางดึกคืนนั้น ฉันนอนร้องไห้เสียงดัง และนานมาก น้องเอามือเล็กๆ ของเขามาปิดปากฉันไว้ แล้วพูดว่า " พี่ครับ ไม่ต้องร้องไห้นะมันผ่านไปแล้ว" ยังไงฉันก็อดที่จะเกลียดตัวเองไม่ได้ ที่ไม่มีความกล้าจะบอกความจริงกับพ่อ หลายปีผ่านไป แต่เหมือนกับว่าเหตุการณ์มันเพิ่งเกิดเมื่อวานนี้เอง ฉันไม่อาจลืมคำพูดของน้องชายตอนที่เขาปกป้องฉันได้เลย ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 8 ปี ส่วนฉันอายุ 11 ปี... เมื่อตอนที่น้องชายของฉันใกล้จบ ม.ต้น เขาได้รับการตอบรับจากโรงเรียน ม.ปลาย ว่าเขาสอบได้ ในขณะที่ฉันซึ่งใกล้จบ ม.ปลาย ก็ได้รับการตอบรับจากมหาวิทยาลัยของจังหวัดเช่นกัน คืนนั้น พ่อได้นั่งสูบบุหรี่อยู่ที่สวนหลังบ้าน ฉันแอบได้ยินพ่อพูดว่า " ลูกเราทั้งคู่เรียนดีเรียนดีมากนะ" แม่ซึ่งนั่งเช็ดน้ำตาอยู่ข้างๆ พ่อ ได้พูดว่า " แล้วเราจะส่งเสียลูกทั้งคู่ได้อย่างไรในเมื่อเราก็ไม่ค่อยมีเงิน" ทันใดนั้น น้องชายของฉันได้เดินเข้าไปหาพ่อ แล้วพูดว่า " ผมไม่ต้องการเรียนต่อผมอ่านหนังสือมามากพอแล้ว" พ่อเหวี่ยงมือตบลงที่แก้มของน้องของฉันฉาดใหญ่ " ทำไมถึงคิดโง่ๆ อย่างนี้ ต่อให้พ่อต้องไปเป็นขอทานข้างถนน พ่อก็จะส่งแกทั้งคู่เรียนจนจบให้ได้" คืนนั้นทั้งคืน พ่อได้เดินไปตามบ้านต่างๆ ทั่วทั้งหมู่บ้าน....เพื่อขอยืมเงิน ฉันค่อยๆ เอามือประคบแก้มบวมๆ ของน้องชายเบาๆ และคิดว่า " ต้องให้น้องได้เรียนต่อไม่เช่นนั้นเขาคงไม่อาจหลุดพ้นชีวิตลำบากเช่นนี้ไปได้" แต่ในขณะเดียวกัน ฉันก็ไม่อาจล้มเลิกความคิดอยากจะเรียนต่อไปได้ ใครจะรู้ได้ ....... วันต่อมาในตอนเช้ามืด น้องชายของฉันได้ออกจากบ้านไปพร้อมทั้งเสื้อผ้าติดตัวเพียงไม่กี่ชิ้น และถั่วเพียงเล็กน้อยเพื่อประทังความหิว ก่อนไปเขาได้ทิ้งข้อความไว้ใต้หมอนของฉัน ขณะฉันกำลังหลับ " พี่ครับ การจะเข้ามหาวิทยาลัยได้ ไม่ใช่ง่ายๆ นะ .... ผมจะไปหางานทำ...แล้วจะส่งเงินมาให้พี่" ฉันนั่งอยู่บนเตียง อ่านข้อความของน้องชายด้วยน้ำตานองหน้า ....... ฉันร้องไห้จนเสียงแหบแห้งไป ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 17 ปี ส่วนฉันอายุ 20 ปี ..... ด้วยเงินที่พ่อยืมมาจากคนในหมู่บ้าน รวมกับเงินที่น้องชายของฉันได้รับเป็นค่าจ้างมาจากการทำงานเป็น กรรมกรแบกหามที่ไซท์ก่อสร้างท่าเรือ ....... ฉันจึงสามารถเข้าเรียนมหาวิทยาลัยได้จนถึงปี 3 วันหนึ่งขณะที่ฉันกำลังอ่านหนังสืออยู่ในห้องพัก เพื่อนร่วมห้องของฉันได้เข้ามาบอกว่า " มีชาวบ้านมาหาเธอ...อยู่ข้างนอกแน่ะ" ทำไมชาวบ้านถึงมาหาฉันล่ะ ??? ฉันเดินออกไปแล้วมองเห็นน้องชายของฉันยืนอยู่ ตัวของเขาเปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่นปูนและทรายจากงานก่อสร้าง ... ฉันถามเขาว่า " ทำไมไม่บอกเพื่อนพี่ไปว่าเป็นน้องชายพี่ล่ะ" น้องชายของฉันตอบยิ้มๆ ว่า " ก็ดูผมสิสกปรกมอมแมมออกอย่างนี้...ขืนบอกว่าเป็นน้องพี่ เพื่อนๆ ก้อได้หัวเราะเยาะพี่กันพอดี" ฉันค่อยๆ เอื้อมมืออันสั่นเทาไปปัดฝุ่นให้น้อง และพยายามพูดด้วยเสียงเครือๆในลำคอ " พี่ไม่สนใจว่าใครจะพูดยังไง เธอเป็นน้องของพี่ ไม่ว่าเธอจะดูเป็นอย่างไรก็ตาม" จากนั้น น้องของฉันได้ล้วงบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง เป็นกิ๊บหนีบผมรูปผีเสื้อ . เขาติดกิ๊บให้ฉัน แล้วพูดว่า " ผมเห็นสาวๆ ในเมืองเค้าติดกัน ผมเลยอยากให้พี่ติดบ้าง" ฉันหมดเรี่ยวแรงลงในทันใด ดึงน้องชายเข้ามาสวมกอดและร้องไห้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นเวลานาน ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 20 ปี ส่วนฉันอายุ 23 ปี . วันที่ฉันพาแฟนหนุ่มของฉันมาที่บ้านเป็นครั้งแรก ฉันสังเกตเห็นว่า หน้าต่างบ้านที่เคยแตกไป ได้ถูกซ่อมเรียบร้อยแล้ว เมื่อเข้าไปในบ้านก็เห็นว่าบ้านสะอาดขึ้นมาก หลังจากที่แฟนของฉันกลับไป ฉันพูดกับแม่ว่า " แม่ไม่ต้องเสียเงินเพื่อทำความสะอาดบ้านกับซ่อมกระจก เพียงเพราะหนูจะพาแฟนมาที่บ้านหรอกนะคะ" แม่ยิ้ม แล้วพูดว่า " แม่ไม่ได้จ้างหรอก...น้องชายลูกต่างหาก วันนี้เค้าขอเลิกงานเร็วเพื่อกลับมาทำความสะอาดบ้าน ลูกยังไม่เห็นมือน้องหรอกเหรอ น้องโดนกระจกบาดตอนกำลังเปลี่ยนกระจกบานใหม่น่ะ" ฉันรีบเข้าไปหาน้องที่ห้องนอนของเขา ฉันรู้สึกเหมือนถูกเข็มนับร้อยเล่มทิ่มลงกลางใจเมื่อได้เห็นบาดแผลบนมือ ฉันจับมือน้องเอาไว้อย่างเบามือที่สุด " เจ็บมากไหม" ฉันถาม " ไม่เจ็บสักหน่อย พี่ก็รู้นี่ผมทำงานก่อสร้างนะ วันๆ มีหินตกมาใส่เท้าผมเต็มไปหมด แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ผมคิดเลิกทำงานหรอกนะ และ..." น้องชายของฉันยังพูดไม่จบประโยค แต่ก็ต้องหยุดพูด เพราะฉันหันหน้าหนีเขา น้ำตาไหลอาบหน้าของฉันอีกครั้ง " เพราะพี่เป็นพี่สาวของผมนี่ครับ" ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 23 ปี ส่วนฉันอายุ 26 ปี... หลังจากนั้น ฉันก็ได้แต่งงานและย้ายเข้าไปอยู่ในเมือง หลายครั้งที่สามีของฉันชักชวนให้พ่อแม่ของฉันย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองด้วยกัน... แต่ท่านทั้งสองก็ปฏิเสธ ท่านบอกว่า ท่านเคยย้ายออกจากหมู่บ้านครั้งหนึ่ง แต่เมื่อออกไปแล้ว ท่านไม่รู้จะทำอะไรดี จึงได้ย้ายกลับเข้ามาใช้ชีวิตในหมู่บ้านตามเดิม น้องชายของฉันก็ไม่เห็นด้วยกับการที่จะให้เขาและพ่อแม่ย้ายออกไป ... เขาบอกกับฉันว่า " พี่คอยอยู่ดูแลพ่อและแม่ของสามีพี่ทางนั้นเถอะผมจะดูแลพ่อและแม่ทางนี้เอง" สามีฉันได้ขึ้นเป็นประธานของบริษัทของ ครอบครัว เราทั้งคู่อยากให้น้องชายของฉันเข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการบริษัท ... แต่น้องชายของฉันก็ไม่รับตำแหน่งนี้ เขาขอเข้าทำงานในตำแหน่งพนักงานธรรมดา วันหนึ่ง น้องชายของฉันต้องปีนบันไดขึ้นไปซ่อมสายเคเบิล และตกลงมาเพราะโดนไฟดูด เขาถูกรีบหามส่งโรงพยาบาล ฉันและสามีรีบไปเยี่ยมเขาที่โรงพยาบาล น้องชายของฉันขาหักต้องเข้าเฝือกที่ขา ... ฉันโกรธมาก จึงตวาดน้องไปว่า " ทำไมถึงไม่ยอมรับตำแหน่งผู้จัดการ หา!!! ถ้าเป็นผู้จัดการก็จะได้ไม่ต้องมาทำงานเสี่ยงๆอย่างนี้ ดูตัวเองซิ...เจ็บเจียนตายอยู่แล้ว ทำไมถึงไม่ยอมฟังพี่บ้าง" คำตอบจากปากน้องของฉันรวมถึงสีหน้าเคร่งเครียด ยังยืนยันความคิดเดิมของเขา " พี่ลองคิดถึงพี่เขยสิครับ พี่เขยเพิ่งจะได้เป็นประธาน ส่วนผมมันการศึกษาต่ำถ้าผมได้เป็นผู้จัดการ คงจะมีเสียงนินทาว่าร้ายเต็มไปหมด" น้ำตาปริ่มดวงตาของฉันรวมทั้งสามีของฉันด้วย ..... ฉันบอกกับน้องว่า " แต่ที่เธอไม่ได้เรียนต่อก็เพราะพี่..." " ทำไมต้องพูดถึงเรื่องที่ผ่านไปแล้วด้วยล่ะครับ" น้องชายของฉันจับมือฉันไว้ ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 26 ปี ส่วนฉันอายุ 29 ปี... เมื่อน้องชายของฉันอายุได้ 30 ปี เขาได้แต่งงานกับผู้หญิงในที่ทำงานที่เดียวกัน ในงานแต่งงาน ประธานในงานได้ถามน้องชายของฉันว่า " ใครคือคนที่คุณรักที่สุดในชีวิตนี้" น้องชายของฉันตอบอย่างไม่ลังเล " พี่สาวของผมครับ" ..... และเขาก็เล่าเรื่องราวที่แม้แต่ฉันยังจำไม่ได้ " ตอนผมอยู่โรงเรียนประถม โรงเรียนอยู่อีกหมู่บ้านหนึ่ง เราสองคนพี่น้องต้องใช้เวลาถึง 2 ชม. เพื่อเดินไปเรียน...และเดินกลับบ้าน วันหนึ่งในวันที่หิมะตกหนักผมทำถุงมือหายไปข้างหนึ่ง พี่สาวผมจึงได้ให้ถุงมือของเธอข้างหนึ่ง และเธอก็ใส่ถุงมือเพียงข้างเดียวเดินเป็นระยะทางไกล เมื่อเรากลับถึงบ้านมือเธอบวมแดงเพราะอากาศหนาว เธอไม่สามารถจับช้อนทานข้าวได้ด้วยซ้ำ ....... นับจากวันนั้น ผมสาบานกับตัวเอง ว่าตลอดชีวิตของผม ผมจะดูแลพี่สาวของผมให้ดี และจะทำดีกับเธอ" เสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่ว สายตาทุกคู่ของแขกเหรื่อหันมาจับจ้องที่ฉัน คำพูดจากปากฉันออกมาอย่างยากลำบาก ....... " ในโลกใบนี้คนเดียวที่ฉันรู้สึกขอบคุณที่สุด คือน้องชายของฉันค่ะ" ในวาระที่มีความสุขที่สุดเช่นนี้ น้ำตาได้รินไหลออกมาจากสองตาของฉันอีกครั้ง... จงรัก และห่วงใยคนที่คุณรักในทุกๆ วันในชีวิตของคุณและเขา คุณอาจจะคิดว่าสิ่งที่คุณทำให้ใครสักคนเป็นเพียงสิ่งเล็กๆน้อยๆ แต่สำหรับคนคนนั้นอาจจะมีความหมายมากอย่างคาดไม่ถึง .. ไม่ว่าเขาคนนั้นจะคือ พ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติ คนรัก เพื่อน หรือแม้คนที่คุณไม่รู้จัก ก็ตาม จบบริบูรณ์.... ปล.ปัจจุบันผู้เป็นพี่สาวอายุ 86 ปีตำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหารใหญ่บริษัทฮุนไดและในเครือกว่า 20 บริษัท น้องชายอายุ 83 ปีเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทเล็กๆ ที่มีชื่อเป็นภาษาเกาหลีว่า " ซัมซุง" และเรื่องราวของท่านทั้ง 2 คนกำลังถูกนำมาสร้างเป็นซี่รี่ย์ โดยดาราเล็กๆ คนคือ ซอง เฮ เคียว และ ลี ดอง ฮุคครับ[/QUOTE]
เข้าสู่ระบบด้วย Facebook
เข้าสู่ระบบด้วย Twitter
เข้าสู่ระบบด้วย Google
ชื่อผู้ใช้งานหรือที่อยู่อีเมล์ของคุณ:
คุณมีบัญชีผู้ใช้หรือไม่?
ไม่มี, สร้างบัญชีผู้ใช้ตอนนี้
มี, รหัสผ่านของฉันคือ:
ลืมรหัสผ่านของคุณ?
อยู่ในระบบตลอดเวลา
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
Community Car Clubs
>
Japanese Car Clubs
>
Mazda 323&626 Club
>
อ่านจิ
>
X
หน้าแรก
หน้าแรก
Quick Links
โพสต์ล่าสุด
กิจกรรมล่าสุด
ผู้เขียน
ฟอรั่ม
ฟอรั่ม
Quick Links
ค้นหาฟอรั่ม
โพสต์ล่าสุด
ประกาศซื้อขาย
ประกาศซื้อขาย
Quick Links
ค้นหาประกาศซื้อขาย
กิจกรรมล่าสุด
ผู้ค้าขายคะแนนสูงสุด
สื่อ/วิดีโอ
สื่อ/วิดีโอ
Quick Links
Search Media
New Media
สมาชิก
สมาชิก
Quick Links
สมาชิกที่โดดเด่น
สมาชิกที่ลงทะเบียน
ผู้ใช้งานในขณะนี้
กิจกรรมล่าสุด
โพสต์ข้อมูลส่วนตัวใหม่
เมนู
ค้นหาเฉพาะชื่อ
โพสต์โดยสมาชิก:
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค
ใหม่กว่า:
ค้นหาเฉพาะหัวข้อนี้
ค้นหาเฉพาะฟอรั่มนี้
แสดงผลเป็นหัวข้อ
การค้นหาที่มีประโยชน์
โพสต์ล่าสุด
เพิ่มเติม...