เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน
ติดต่อลงโฆษณา
[email protected]
หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
Community Team and group
>
Team and Group
>
DNA Racing Club
>
เรื่องน่ารู้สำหรับคลับเรานะครับ
>
ตอบกลับหัวข้อ
ชื่อ:
การตรวจสอบ:
กรุณาเปิดใช้งานจาวาสคริปต์เพื่อดำเนินการต่อ
กำลังโหลด...
ข้อความ:
<p>[QUOTE="TK RACING, post: 120181, member: 1693"]<font face="Arial"><font size="6"><span style="color: Olive">การเลือกและใช้น้ำมันเครื่อง</span></font></font></p><p><font face="Arial"><font size="6"><span style="color: Olive"><br /></span></font></font></p><p><br /></p><p><font face="Arial"><font size="5"><span style="color: olive">คุณภาพของน้ำมันเครื่องมีความสำคัญทั้งต่อกำลังและความทนทานของเครื่องยนต์ การเลือกใช้น้ำมันเครื่องคุณภาพต่ำ หรือยืดระยะเวลาเปลี่ยนจากปกติ ไม่ควรกระทำอย่างยิ่ง เพราะน้ำมันเครื่องแต่ละชนิดมีกำหนดการใช้งานที่เหมาะสม ไม่สามารถยืดอายุหรือระยะเวลาออกไปตามสภาพเศรษฐกิจได้การเลือกใช้น้ำมันเครื่องคุณภาพต่ำ หรือยืดระยะเวลาเปลี่ยนจากปกติ อาจไม่มีผลให้ทราบในทันทีหากเครื่องยนต์ทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ เพราะกำลังมักลดลงไม่มาก และในกรณีที่อายุการใช้งานของเครื่องยนต์สั้นลงกว่าจะทราบก็อีกนาน นอกจากนั้นยังมีโอกาสน้อยมากที่เครื่องยนต์จะพังในทันทีจากการใช้น้ำมันเครื่องคุณภาพต่ำ หรือยืดระยะเวลาเปลี่ยนจากปกติ</span></font></font></p><p><font face="Arial"><font size="5"><span style="color: olive"><br /></span></font></font></p><p><font face="Arial"><font size="5"><span style="color: olive">การเลือกน้ำมันเครื่องไม่จำเป็นต้องดูยี่ห้อหรือรุ่นว่าเด่นดังหรือเปล่า เพราะคุณสมบัติที่แท้จริงของน้ำมันเครื่องมีระบุอยู่ข้างกระป๋องเสมอน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แม้ราคาแพง แต่ค่าใช้จ่ายต่อกิโลเมตรอาจประหยัดกว่าก็เป็นได้</span></font></font></p><p><font face="Arial"><font size="5"><span style="color: olive"><br /></span></font></font></p><p><font face="Arial"><font size="6"><span style="color: SandyBrown">เลือกน้ำมันเครื่องด้วย 3 คุณสมบัติ</span></font></font></p><p><font face="Arial"><font size="5"><span style="color: Yellow">ชนิด & คุณภาพ & ความหนืด</span></font></font></p><p><font face="Arial"><font size="5"><span style="color: Yellow">ต้องพิจารณาทั้ง 3 คุณสมบัติเสมอ ไม่ใช่เลือกแค่ชนิดหรือยี่ห้อ-รุ่นเท่านั้น ไม่ควรเลือกตามคำร่ำลือหรือการโฆษณา และไม่สามารถสรุปการเลือกแค่ 1-2 คุณสมบัติ เช่น เลือกเพราะเป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ โดยไม่สนใจเกรดคุณภาพหรือความหนืด หรือเลือกเพราะเกรดคุณภาพที่พึงพอใจ โดยไม่สนใจชนิดและเกรดความหนืด เพราะน้ำมันเครื่องแต่ละรุ่นมีคุณสมบัติทุกด้านแตกต่างกัน น้ำมันเครื่องสังเคราะห์บางรุ่นมีอายุการใช้งานนานกว่าก็จริง แต่อาจมีเกรดคุณภาพต่ำกว่าน้ำมันเครื่องธรรมดาก็เป็นได้</span></font></font></p><p><font face="Arial"><font size="5"><span style="color: Yellow"><br /></span></font></font></p><p><font face="Arial"><font size="5"><span style="color: Yellow">1. ชนิด - เกี่ยวข้องกับอายุการใช้งานของน้ำมันเครื่อง</span></font></font></p><p><font face="Arial"><font size="5"><span style="color: Yellow">แบ่งเป็น 3 ชนิดหลัก โดยตัดน้ำมันเครื่องสำเร็จรูปที่ผลิตจากน้ำมันหล่อลื่นขั้นพื้นฐาน ซึ่งผลิตจากไขพืช-สัตว์ เพราะคุณภาพต่ำเกินไป แต่เพิ่มชนิดที่ 3 ขึ้นมา คือ น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ ที่ได้จากการผสมน้ำมันหล่อลื่นขั้นพื้นฐานชนิดสังเคราะห์กับชนิดธรรมดา</span></font></font></p><p><font face="Arial"><font size="5"><span style="color: Yellow"><br /></span></font></font></p><p><font face="Arial"><font size="5"><span style="color: Yellow">น้ำมันเครื่องธรรมดา ผลิตจากน้ำมันหล่อลื่นขั้นพื้นฐานที่กลั่นจากน้ำมันปิโตรเลียม แพร่หลายที่สุด กระป๋องบรรจุ 4-5 ลิตร ราคาประมาณ 300-600 บาท</span></font></font></p><p><font face="Arial"><font size="5"><span style="color: Yellow"><br /></span></font></font></p><p><font face="Arial"><font size="5"><span style="color: Yellow"><br /></span></font></font></p><p><font face="Arial"><font size="5"><span style="color: Yellow">น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ ผลิตจากการผสมน้ำมันหล่อลื่นขั้นพื้นฐานชนิดธรรมดากับชนิดสังเคราะห์ในอัตราส่วนที่เหมาะสม และแตกต่างกันออกไปในแต่ละรุ่น กระป๋องบรรจุ 4-5 ลิตร ราคาประมาณ 500-800 บาท</span></font></font></p><p><font face="Arial"><font size="5"><span style="color: Yellow"><br /></span></font></font></p><p><font face="Arial"><font size="5"><span style="color: Yellow">น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ ผลิตจากน้ำมันหล่อลื่นขั้นพื้นฐานที่สังเคราะห์ขึ้นจากน้ำมันปิโตรเลียม กระป๋องบรรจุ 4-5 ลิตร ราคาประมาณ 800-2,200 บาท</span></font></font></p><p><font face="Arial"><font size="5"><span style="color: Yellow"><br /></span></font></font></p><p><font face="Arial"><font size="5"><span style="color: Yellow">ชนิดของน้ำมันเครื่องสามารถบอกได้เพียงคุณสมบัติด้านอายุการใช้งานเป็นหลัก ไล่เรียงกันลงมาจากน้อยไปหามาก และไม่ใช่บทสรุปว่าน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ต้องมีคุณภาพโดยรวมดีกว่าน้ำมันเครื่องธรรมดาเสมอไป เพราะยังต้องเกี่ยวข้องกับคุณสมบัติด้านอื่นอีก เช่น ความลื่น การชะล้าง ฯลฯ จึงต้องดูที่เกรดคุณภาพและคุณสมบัติด้านอื่นด้วย</span></font></font></p><p><font face="Arial"><font size="5"><span style="color: Yellow"><br /></span></font></font></p><p><font face="Arial"><font size="5"><span style="color: Yellow">ปัจจุบันนี้ น้ำมันเครื่องเกรดคุณภาพตาม API สูงๆ เช่น API SJ / API SL /API CH-4 / API CI-4 ทั้งชนิดธรรมดา กึ่งสังเคราะห์ หรือสังเคราะห์ สามารถใช้งานเป็นระยะทางไม่น้อยกว่า 10,000 กิโลเมตร ในสภาพการใช้งานปกติ หากการจราจรติดขัดมากจริงๆ หรือเส้นทางมีฝุ่นมาก ก็อาจจะลดลงมาเหลือ 8,000 กิโลเมตรได้</span></font></font></p><p><font face="Arial"><font size="5"><span style="color: Yellow"><br /></span></font></font></p><p><font face="Arial"><font size="5"><span style="color: Yellow">โดยระยะทางข้างต้นได้ประยุกต์ลดลงตามสภาพอากาศ ฝุ่น และสภาพการจราจรของเมืองไทย ที่ดุเดือดกว่าหลายประเทศ ซึ่งน้ำมันเครื่องทุกชนิดมีอายุการใช้งานในต่างประเทศตามที่ผู้ผลิตกำหนดไว้ยืนยาวกว่านี้อีกประมาณ 20-100 เปอร์เซ็นต์ เช่น 10,000, 14,000 และ 20,000 กิโลเมตร ตามลำดับของชนิด ดังนั้น ถ้าอยากใช้น้ำมันเครื่องเป็นระยะทางมากกว่าที่แนะนำไว้ข้างต้นบ้างก็สามารถทำได้ การเลือกใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ แม้ราคาต่อลิตรจะแพงกว่า แต่เมื่อรวมค่าน้ำมันเครื่อง ไส้กรองน้ำมันเครื่อง และค่าแรงในการเปลี่ยนถ่าย หากคำนวณเป็นระยะทางต่อกิโลเมตรแล้ว อาจถูกกว่าการใช้น้ำมันเครื่องธรรมดาก็เป็นได้</span></font></font></p><p><font face="Arial"><font size="5"><span style="color: Yellow"><br /></span></font></font></p><p><font face="Arial"><font size="6"><span style="color: Lime">น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ แท้&เทียม</span></font></font></p><p><font face="Arial"><font size="5"><span style="color: Orange">เป็นชนิดสังเคราะห์ 100% หรือมีคุณสมบัติตามที่ระบุไว้ข้างกระป๋องหรือไม่ ?การเลือกซื้อน้ำมันเครื่องต้องเชื่อมั่นในแหล่งจำหน่าย ยี่ห้อ และหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคของไทย เพราะไม่สามารถทดสอบคุณสมบัติของน้ำมันเครื่องด้วยสายตาหรือการสัมผัส แต่ต้องทำการทดสอบในห้องทดลองทางเคมีเท่านั้น</span></font></font></p><p><font face="Arial"><font size="5"><span style="color: Orange"><br /></span></font></font></p><p><font face="Arial"><font size="5"><span style="color: Orange">การระบุข้างกระป๋องว่าเป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100% ยังขาดความชัดเจนว่าน้ำมันเครื่องสำเร็จรูปทุกหยดในกระป๋องนั้นมาจากการสังเคราะห์ 100% ทั้งตัวน้ำมันหล่อลื่นขั้นพื้นฐานและสารเพิ่มคุณภาพจริงหรือไม่ ถ้าเป็นเพียงการใช้น้ำมันหล่อลื่นขั้นพื้นฐานชนิดสังเคราะห์ 100% แต่เมื่อจะผสมสารเพิ่มคุณภาพบางตัวกลับไม่สามารถละลายได้ จึงต้องละลายผสมสารเพิ่มคุณภาพกับน้ำมันหล่อลื่นขั้นพื้นฐานชนิดธรรมดาในปริมาณน้อยๆก่อน แล้วค่อยนำไปผสมกับน้ำมันหล่อลื่นขั้นพื้นฐานชนิดสังเคราะห์ น้ำมันเครื่องกระป๋องนั้นก็ไม่ถือว่าทุกหยดได้จากการสังเคราะห์</span></font></font></p><p><font face="Arial"><font size="5"><span style="color: Orange"><br /></span></font></font></p><p><font face="Arial"><font size="5"><span style="color: Orange">น้ำมันเครื่องสำเร็จรูปที่ระบุว่าเป็นชนิดสังเคราะห์ 100% ส่วนใหญ่เลือกใช้น้ำมันหล่อลื่นขั้นพื้นฐานชนิดสังเคราะห์ โพลีแอลฟาโอลีฟิน (POLYALPHAOLEFIN-PAO) ซึ่งไม่สามารถละลายสารเพิ่มคุณภาพบางตัวหรือละลายได้ไม่ดี จึงอาจมีการละลายสารเพิ่มคุณภาพด้วยน้ำมันหรือสารอื่นก่อนผู้ผลิตบางรายเน้นความประหยัด โดยนำสารเพิ่มคุณภาพไปผสมกับน้ำมันหล่อลื่นชนิดธรรมดาก่อน เมื่อนำมาผสมกับน้ำมันหล่อลื่นขั้นพื้นฐานจึงเกิดข้อกังขาว่า จะเป็นน้ำมันเครื่องสำเร็จรูปชนิดสังเคราะห์ 100% ได้อย่างไร ในเมื่อมีน้ำมันชนิดธรรมดาผสมอยู่ด้วยจากการช่วยทำละลายสารเพิ่มคุณภาพ</span></font></font></p><p><font face="Arial"><font size="5"><span style="color: Orange"><br /></span></font></font></p><p><font face="Arial"><font size="5"><span style="color: Orange">มีผู้ผลิตไม่มากนักที่ยอมลงทุนนำสารเพิ่มคุณภาพไปละลายกับน้ำมันหล่อลื่นชนิดสังเคราะห์อื่นที่มีราคาแพง ไม่เหมาะกับการใช้งานในเครื่องยนต์รถยนต์ แต่ทำละลายได้ดี เช่น น้ำมันหล่อลื่นเครื่องบินเจ็ต (DIBASICESTER) เมื่อนำไปผสมกับน้ำมันหล่อลื่นขั้นพื้นฐานชนิดสังเคราะห์ ก็จะกลายเป็นน้ำมันเครื่องสำเร็จรูปชนิดสังเคราะห์ 100% ทุกหยดจริงๆ ต่างจากกรณีแรกที่มีน้ำมันชนิดธรรมดาช่วยทำละลายสารเพิ่มคุณภาพผสมอยู่ด้วย</span></font></font></p><p><font face="Arial"><font size="5"><span style="color: Orange"><br /></span></font></font></p><p><font face="Arial"><font size="5"><span style="color: Orange">ในการควบคุมและประชาสัมพันธ์ไม่มีการกำหนดว่า การระบุว่าสังเคราะห์ต้องเป็นน้ำมันเครื่องสำเร็จรูปชนิดสังเคราะห์ 100% จริงๆ เพราะเน้นเพียงการใช้น้ำมันหล่อลื่นขั้นพื้นฐานแบบสังเคราะห์แท้ๆเป็นหลักก็เพียงพอแล้ว ส่วนกรณีที่ใช้น้ำมันหล่อลื่นชนิดธรรมดาช่วยทำละลายสารเพิ่มคุณภาพผสมอยู่บ้าง ก็ไม่น่าจะเป็นการหลอกลวง เพราะมักจะใช้ในปริมาณน้อยมาก และถือว่าเป็นเพียงตัวช่วยทำละลายสารเพิ่มคุณภาพเท่านั้น</span></font></font></p><p><font face="Arial"><font size="5"><span style="color: Orange"></span></font></font>[/QUOTE]</p><p><br /></p>
[QUOTE="TK RACING, post: 120181, member: 1693"][FONT="Arial"][SIZE="5"][COLOR="DarkOrchid"][/COLOR][/SIZE][/FONT][FONT="Arial"][SIZE="6"][COLOR="Olive"]การเลือกและใช้น้ำมันเครื่อง [/COLOR][/SIZE][/FONT] [FONT="Arial"][SIZE="5"][COLOR="olive"]คุณภาพของน้ำมันเครื่องมีความสำคัญทั้งต่อกำลังและความทนทานของเครื่องยนต์ การเลือกใช้น้ำมันเครื่องคุณภาพต่ำ หรือยืดระยะเวลาเปลี่ยนจากปกติ ไม่ควรกระทำอย่างยิ่ง เพราะน้ำมันเครื่องแต่ละชนิดมีกำหนดการใช้งานที่เหมาะสม ไม่สามารถยืดอายุหรือระยะเวลาออกไปตามสภาพเศรษฐกิจได้การเลือกใช้น้ำมันเครื่องคุณภาพต่ำ หรือยืดระยะเวลาเปลี่ยนจากปกติ อาจไม่มีผลให้ทราบในทันทีหากเครื่องยนต์ทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ เพราะกำลังมักลดลงไม่มาก และในกรณีที่อายุการใช้งานของเครื่องยนต์สั้นลงกว่าจะทราบก็อีกนาน นอกจากนั้นยังมีโอกาสน้อยมากที่เครื่องยนต์จะพังในทันทีจากการใช้น้ำมันเครื่องคุณภาพต่ำ หรือยืดระยะเวลาเปลี่ยนจากปกติ การเลือกน้ำมันเครื่องไม่จำเป็นต้องดูยี่ห้อหรือรุ่นว่าเด่นดังหรือเปล่า เพราะคุณสมบัติที่แท้จริงของน้ำมันเครื่องมีระบุอยู่ข้างกระป๋องเสมอน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แม้ราคาแพง แต่ค่าใช้จ่ายต่อกิโลเมตรอาจประหยัดกว่าก็เป็นได้ [/COLOR][/SIZE][/FONT] [FONT="Arial"][SIZE="6"][COLOR="SandyBrown"]เลือกน้ำมันเครื่องด้วย 3 คุณสมบัติ[/COLOR][/SIZE][/FONT] [FONT="Arial"][SIZE="5"][COLOR="Yellow"]ชนิด & คุณภาพ & ความหนืด ต้องพิจารณาทั้ง 3 คุณสมบัติเสมอ ไม่ใช่เลือกแค่ชนิดหรือยี่ห้อ-รุ่นเท่านั้น ไม่ควรเลือกตามคำร่ำลือหรือการโฆษณา และไม่สามารถสรุปการเลือกแค่ 1-2 คุณสมบัติ เช่น เลือกเพราะเป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ โดยไม่สนใจเกรดคุณภาพหรือความหนืด หรือเลือกเพราะเกรดคุณภาพที่พึงพอใจ โดยไม่สนใจชนิดและเกรดความหนืด เพราะน้ำมันเครื่องแต่ละรุ่นมีคุณสมบัติทุกด้านแตกต่างกัน น้ำมันเครื่องสังเคราะห์บางรุ่นมีอายุการใช้งานนานกว่าก็จริง แต่อาจมีเกรดคุณภาพต่ำกว่าน้ำมันเครื่องธรรมดาก็เป็นได้ 1. ชนิด - เกี่ยวข้องกับอายุการใช้งานของน้ำมันเครื่อง แบ่งเป็น 3 ชนิดหลัก โดยตัดน้ำมันเครื่องสำเร็จรูปที่ผลิตจากน้ำมันหล่อลื่นขั้นพื้นฐาน ซึ่งผลิตจากไขพืช-สัตว์ เพราะคุณภาพต่ำเกินไป แต่เพิ่มชนิดที่ 3 ขึ้นมา คือ น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ ที่ได้จากการผสมน้ำมันหล่อลื่นขั้นพื้นฐานชนิดสังเคราะห์กับชนิดธรรมดา น้ำมันเครื่องธรรมดา ผลิตจากน้ำมันหล่อลื่นขั้นพื้นฐานที่กลั่นจากน้ำมันปิโตรเลียม แพร่หลายที่สุด กระป๋องบรรจุ 4-5 ลิตร ราคาประมาณ 300-600 บาท น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ ผลิตจากการผสมน้ำมันหล่อลื่นขั้นพื้นฐานชนิดธรรมดากับชนิดสังเคราะห์ในอัตราส่วนที่เหมาะสม และแตกต่างกันออกไปในแต่ละรุ่น กระป๋องบรรจุ 4-5 ลิตร ราคาประมาณ 500-800 บาท น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ ผลิตจากน้ำมันหล่อลื่นขั้นพื้นฐานที่สังเคราะห์ขึ้นจากน้ำมันปิโตรเลียม กระป๋องบรรจุ 4-5 ลิตร ราคาประมาณ 800-2,200 บาท ชนิดของน้ำมันเครื่องสามารถบอกได้เพียงคุณสมบัติด้านอายุการใช้งานเป็นหลัก ไล่เรียงกันลงมาจากน้อยไปหามาก และไม่ใช่บทสรุปว่าน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ต้องมีคุณภาพโดยรวมดีกว่าน้ำมันเครื่องธรรมดาเสมอไป เพราะยังต้องเกี่ยวข้องกับคุณสมบัติด้านอื่นอีก เช่น ความลื่น การชะล้าง ฯลฯ จึงต้องดูที่เกรดคุณภาพและคุณสมบัติด้านอื่นด้วย ปัจจุบันนี้ น้ำมันเครื่องเกรดคุณภาพตาม API สูงๆ เช่น API SJ / API SL /API CH-4 / API CI-4 ทั้งชนิดธรรมดา กึ่งสังเคราะห์ หรือสังเคราะห์ สามารถใช้งานเป็นระยะทางไม่น้อยกว่า 10,000 กิโลเมตร ในสภาพการใช้งานปกติ หากการจราจรติดขัดมากจริงๆ หรือเส้นทางมีฝุ่นมาก ก็อาจจะลดลงมาเหลือ 8,000 กิโลเมตรได้ โดยระยะทางข้างต้นได้ประยุกต์ลดลงตามสภาพอากาศ ฝุ่น และสภาพการจราจรของเมืองไทย ที่ดุเดือดกว่าหลายประเทศ ซึ่งน้ำมันเครื่องทุกชนิดมีอายุการใช้งานในต่างประเทศตามที่ผู้ผลิตกำหนดไว้ยืนยาวกว่านี้อีกประมาณ 20-100 เปอร์เซ็นต์ เช่น 10,000, 14,000 และ 20,000 กิโลเมตร ตามลำดับของชนิด ดังนั้น ถ้าอยากใช้น้ำมันเครื่องเป็นระยะทางมากกว่าที่แนะนำไว้ข้างต้นบ้างก็สามารถทำได้ การเลือกใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ แม้ราคาต่อลิตรจะแพงกว่า แต่เมื่อรวมค่าน้ำมันเครื่อง ไส้กรองน้ำมันเครื่อง และค่าแรงในการเปลี่ยนถ่าย หากคำนวณเป็นระยะทางต่อกิโลเมตรแล้ว อาจถูกกว่าการใช้น้ำมันเครื่องธรรมดาก็เป็นได้ [/COLOR][/SIZE][/FONT] [FONT="Arial"][SIZE="6"][COLOR="Lime"]น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ แท้&เทียม[/COLOR][/SIZE][/FONT] [FONT="Arial"][SIZE="5"][COLOR="Orange"]เป็นชนิดสังเคราะห์ 100% หรือมีคุณสมบัติตามที่ระบุไว้ข้างกระป๋องหรือไม่ ?การเลือกซื้อน้ำมันเครื่องต้องเชื่อมั่นในแหล่งจำหน่าย ยี่ห้อ และหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคของไทย เพราะไม่สามารถทดสอบคุณสมบัติของน้ำมันเครื่องด้วยสายตาหรือการสัมผัส แต่ต้องทำการทดสอบในห้องทดลองทางเคมีเท่านั้น การระบุข้างกระป๋องว่าเป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100% ยังขาดความชัดเจนว่าน้ำมันเครื่องสำเร็จรูปทุกหยดในกระป๋องนั้นมาจากการสังเคราะห์ 100% ทั้งตัวน้ำมันหล่อลื่นขั้นพื้นฐานและสารเพิ่มคุณภาพจริงหรือไม่ ถ้าเป็นเพียงการใช้น้ำมันหล่อลื่นขั้นพื้นฐานชนิดสังเคราะห์ 100% แต่เมื่อจะผสมสารเพิ่มคุณภาพบางตัวกลับไม่สามารถละลายได้ จึงต้องละลายผสมสารเพิ่มคุณภาพกับน้ำมันหล่อลื่นขั้นพื้นฐานชนิดธรรมดาในปริมาณน้อยๆก่อน แล้วค่อยนำไปผสมกับน้ำมันหล่อลื่นขั้นพื้นฐานชนิดสังเคราะห์ น้ำมันเครื่องกระป๋องนั้นก็ไม่ถือว่าทุกหยดได้จากการสังเคราะห์ น้ำมันเครื่องสำเร็จรูปที่ระบุว่าเป็นชนิดสังเคราะห์ 100% ส่วนใหญ่เลือกใช้น้ำมันหล่อลื่นขั้นพื้นฐานชนิดสังเคราะห์ โพลีแอลฟาโอลีฟิน (POLYALPHAOLEFIN-PAO) ซึ่งไม่สามารถละลายสารเพิ่มคุณภาพบางตัวหรือละลายได้ไม่ดี จึงอาจมีการละลายสารเพิ่มคุณภาพด้วยน้ำมันหรือสารอื่นก่อนผู้ผลิตบางรายเน้นความประหยัด โดยนำสารเพิ่มคุณภาพไปผสมกับน้ำมันหล่อลื่นชนิดธรรมดาก่อน เมื่อนำมาผสมกับน้ำมันหล่อลื่นขั้นพื้นฐานจึงเกิดข้อกังขาว่า จะเป็นน้ำมันเครื่องสำเร็จรูปชนิดสังเคราะห์ 100% ได้อย่างไร ในเมื่อมีน้ำมันชนิดธรรมดาผสมอยู่ด้วยจากการช่วยทำละลายสารเพิ่มคุณภาพ มีผู้ผลิตไม่มากนักที่ยอมลงทุนนำสารเพิ่มคุณภาพไปละลายกับน้ำมันหล่อลื่นชนิดสังเคราะห์อื่นที่มีราคาแพง ไม่เหมาะกับการใช้งานในเครื่องยนต์รถยนต์ แต่ทำละลายได้ดี เช่น น้ำมันหล่อลื่นเครื่องบินเจ็ต (DIBASICESTER) เมื่อนำไปผสมกับน้ำมันหล่อลื่นขั้นพื้นฐานชนิดสังเคราะห์ ก็จะกลายเป็นน้ำมันเครื่องสำเร็จรูปชนิดสังเคราะห์ 100% ทุกหยดจริงๆ ต่างจากกรณีแรกที่มีน้ำมันชนิดธรรมดาช่วยทำละลายสารเพิ่มคุณภาพผสมอยู่ด้วย ในการควบคุมและประชาสัมพันธ์ไม่มีการกำหนดว่า การระบุว่าสังเคราะห์ต้องเป็นน้ำมันเครื่องสำเร็จรูปชนิดสังเคราะห์ 100% จริงๆ เพราะเน้นเพียงการใช้น้ำมันหล่อลื่นขั้นพื้นฐานแบบสังเคราะห์แท้ๆเป็นหลักก็เพียงพอแล้ว ส่วนกรณีที่ใช้น้ำมันหล่อลื่นชนิดธรรมดาช่วยทำละลายสารเพิ่มคุณภาพผสมอยู่บ้าง ก็ไม่น่าจะเป็นการหลอกลวง เพราะมักจะใช้ในปริมาณน้อยมาก และถือว่าเป็นเพียงตัวช่วยทำละลายสารเพิ่มคุณภาพเท่านั้น [/COLOR][/SIZE][/FONT][/QUOTE]
เข้าสู่ระบบด้วย Facebook
เข้าสู่ระบบด้วย Twitter
เข้าสู่ระบบด้วย Google
ชื่อผู้ใช้งานหรือที่อยู่อีเมล์ของคุณ:
คุณมีบัญชีผู้ใช้หรือไม่?
ไม่มี, สร้างบัญชีผู้ใช้ตอนนี้
มี, รหัสผ่านของฉันคือ:
ลืมรหัสผ่านของคุณ?
อยู่ในระบบตลอดเวลา
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
Community Team and group
>
Team and Group
>
DNA Racing Club
>
เรื่องน่ารู้สำหรับคลับเรานะครับ
>
X
หน้าแรก
หน้าแรก
Quick Links
โพสต์ล่าสุด
กิจกรรมล่าสุด
ผู้เขียน
ฟอรั่ม
ฟอรั่ม
Quick Links
ค้นหาฟอรั่ม
โพสต์ล่าสุด
ประกาศซื้อขาย
ประกาศซื้อขาย
Quick Links
ค้นหาประกาศซื้อขาย
กิจกรรมล่าสุด
ผู้ค้าขายคะแนนสูงสุด
สื่อ/วิดีโอ
สื่อ/วิดีโอ
Quick Links
Search Media
New Media
สมาชิก
สมาชิก
Quick Links
สมาชิกที่โดดเด่น
สมาชิกที่ลงทะเบียน
ผู้ใช้งานในขณะนี้
กิจกรรมล่าสุด
โพสต์ข้อมูลส่วนตัวใหม่
เมนู
ค้นหาเฉพาะชื่อ
โพสต์โดยสมาชิก:
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค
ใหม่กว่า:
ค้นหาเฉพาะหัวข้อนี้
ค้นหาเฉพาะฟอรั่มนี้
แสดงผลเป็นหัวข้อ
การค้นหาที่มีประโยชน์
โพสต์ล่าสุด
เพิ่มเติม...