เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน
ติดต่อลงโฆษณา
[email protected]
หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
Community Team and group
>
Team and Group
>
DNA Racing Club
>
เรื่องน่ารู้สำหรับคลับเรานะครับ
>
ตอบกลับหัวข้อ
ชื่อ:
การตรวจสอบ:
กรุณาเปิดใช้งานจาวาสคริปต์เพื่อดำเนินการต่อ
กำลังโหลด...
ข้อความ:
<p>[QUOTE="TK RACING, post: 120205, member: 1693"]<font size="5"><span style="color: Purple">สุดยอดเทคโนโลยีในขณะนี้สำหรับระบบขับเคลื่อนหรือว่าระบบเกียร์อัตโนมัติแล้วนั้นก็ต้องยกให้กับระบบเกียร์แบบ CVT (Continuosly Variable Transmission) ซึ่งหลายค่ายรถยนต์ต่างๆ ก็หันมาใช้ระบบเกียร์ CVT นี้กันมากมายแล้ว นับเป็นการปฏิวัติระบบถ่ายทอดกำลังแบบใหม่ ฉีกอารมณ์ความรู้สึกแบบเดิมๆ เริ่มสัมผัสใหม่ที่แตกต่าง เพื่อสุนทรียภาพแห่งการขับขี่ที่นุ่มนวลและช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเ พลิงลงได้มากกว่าเดิม </span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple">นวัตกรรมของเกียร์อัตโนมัติแบบใหม่ CVT ที่ได้รับการพัฒนาทางเทคโนโลยีให้เหนือกว่าระบบเกียร์อัตโนมัติทั่วไปในปัจจ ุบันที่ใช้อยู่ ผู้ขับขี่จะได้รับคามสะดวกสบายในการใช้งานพร้อมความนุ่มนวลในการขับขี่ การประสบปัญหาบางอย่างในระบบเกียร์อัตโนมัติไม่วาจะเป็นอาการกระตุกหรือการส ั่นสะบัดขณะเกียร์เปลี่ยน เสียงรบกวนจากรอบเครื่องยนต์ที่เพิ่มสงขึ้นอย่างทันที ขณะที่เกียร์เปลี่ยนต่ำลง จังหวะเปลี่ยนเกียร์ที่ล่าเนื่องจากระยะเวลาการจับของแผ่นคลัทช์ภายในเกียร์ การสูญเสียกำลังของเครื่องยนต์ที่เกิดจากช่วงการจับคลัทช์ และรอบเครื่องยนต์ตกลงอย่างทันทีในขณะที่เกียร์เปลี่ยนสูงขึ้น </span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple"><br /></span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple">ดังนั้น ทีมวิศวกรหลายๆ ค่ายรถยนต์จึงได้พยายามที่จะพัฒนาคิดค้นและออกแบบระบบเกียร์อัตโนมัติแบบใหม ่เพื่อที่จะขจัดปัญหาดังกล่าวที่ว่ามาตอนต้น และในที่สุดความพยายามจุดนี้ก็ประสบความสำเร็จ เมื่อทีมวิศวกรสามารถคิดค้นระบบเกียร์อัตโนมัติแบบใหม่ได้สำเร็จและนี่ก็คือ จุดเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของเทคโนโลยีมิติใหม่ระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT (Continously Variable Transmission) หรือว่า ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบแปรผันอัตราทดต่อเนื่องที่ปฏิวัติระบบการถ่ายทอดกำลั งใหม่ โดยใช้สายพานโลหะ ( Steel Belt) ทำหน้าที่ส่งถ่ายทอดกำลังขับระหว่าง พูลเลย์ ( Pulley) เพื่อทำหน้าที่ในการเปลี่ยนอัตราทดเกียร์และส่งแรงขับเคลื่อนแทนการใช้ระบบเ ฟืองเกียร์แบบเก่า ซึ่งทำให้อัตราทดเกียร์สามารถเปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เริ่มออกตัวไปจนถึงช่วงความเร็วสูงด้วยความนุ่นนวล ซึ่งผู้ขับขี่สามารถเลือกตำแหน่งรอบเครื่องยนต์ที่ดีที่สุดได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งรอบเครื่องยนต์ที่ให้ความประหยัดสูงสุด แรงบิดสูงสุดหรือให้แรงม้าสูงสุด </span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple"><br /></span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple"><br /></span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple">ส่วนประกอบของเกียร์ CVT </span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple"><br /></span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple">ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT จะประกอบไปด้วย </span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple"><br /></span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple">1. ชุดทอร์ทคอนเวอร์เตอร์และดรัมเปอร์คลัม ที่จะทำหน้าที่รับกำลังมาจากเครื่องยนต์ </span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple"><br /></span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple">2. ชุดคลัทช์ ซึ่งรับกำลังขับมาจากชุดทอร์ทคอนเวอร์เตอร์ ทำหน้าที่เปลี่ยนการขับสำหรับการขับเคลื่อนเดินหน้าหรือถอยหลังเท่านั้น โดยภายในประกอบด้วยชุดแผ่นคลัทช์ 2 ชุด คือ Forward Clutch สำหรับการเดินหน้าและ Reverse Brake สำหรับการถอยหลัง </span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple"><br /></span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple">3. ชุดพูลเลย์และสายพานเหล็ก ซึ่งรับกำลังขับมาจากชุดคลัทช์ ทำหน้าที่ปรับเปลี่ยนอัตราทดของเกียร์ให้เหมาะสมตามรอบเครื่องยนต์และความเร ็วรถยนต์ต่างๆ โดยประกอบด้วยพูลเลย์ Primary (Drive Pulley) พูลเลย์ (Secondary (Driven Pulley) และสายพานเหล็ก </span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple">3.1 พูลเบย์ Primary (Drive Pulley) และพูลเลย์ (Secondary (Driven Pulley) สามารถปรับเปลี่ยนขนาดร่องพูลเลย์ได้ ทำให้เส้นผ่านศูนย์กลางของพูลเลย์เปลี่ยนได้โดยชุดห้องไฮดรอลิก ซึ่งอยู่ด้านข้างของพูลเลย์ทั้ง 2 ซึ่งจะปรับเปลี่ยนโดยแรงดันน้ำมันในการทำให้ขนาดของร่องพูลเลย์เปลี่ยนไป </span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple">3.2 สายพานเหล็ก (Steel Belt) ทำหน้าที่รับแรงขับจากพูลเลย์ Primary (Drive Pulley) และส่งผ่านมายังพูลเลย์ Secondary (Driven Pulley) </span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple"><br /></span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple">4. ชุดเฟืองท้าย ซึ่งรับแรงขับจากพูลเลย์ Secondary (Driven Pulley) โดยผ่านเฟืองสะพานและส่งแรงขับไปยังเพลาขับเคลื่อนและล้อต่อไป </span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple"><br /></span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple">5. ชุดปั๊มน้ำมันแรงดัน ทำหน้าที่สร้างแรงดัน น้ำมันเกียร์และจ่ายเข้าสู่ระบบในการควบคุมการทำงานต่างๆ ภายในเกียร์ </span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple"><br /></span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple"><br /></span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple"><br /></span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple">การทำงานของระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT </span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple"><br /></span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple">ให้การเปลี่ยนเกียร์ด้วยความนุ่มนวลที่สุด เพราะการทำงานที่ปราศจากการสะดุดในช่วงรอบเครื่องยนต์ในขณะที่มีการเปลี่ยนเ กียร์โดยไม่เกิดอาการรอบเครื่องยนต์เปลี่ยนแปลงขึ้น-ลง การเปลี่ยนเกียร์จึงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ไร้อาการกระตุกในทุกเกียร์การทำงานของเกียร์ CVT จะใช้คลัทช์เป็นตัวส่งกำลังจากเครื่องยนต์เพียงสองชุด คือ ชุดขับเดินหน้าและถอยหลังเท่านั้น และคลัทช์นี้จะต่อตรงเข้ากับพูลเลย์ (Pulley) ตัวที่หนึ่งเรียกว่า Drive Pulley ทำหน้าที่ในการเปลี่ยนอัตราทดเกียร์และถ่ายทอดกำลังขับเคลื่อนไปยังพูลเลย์ (Pulley) ตัวที่สองเรียกว่า Driven Pulley จะแปรผันกำลังขับเคลื่อนตามพูลเลย์ตัวแรกและส่งกำลังทั้งหมดไปยังชุดเฟืองท้ าย การส่งผ่านกำลังระหว่างพูลเลย์ตัวที่หนึ่งกับตัวที่สองจะใช้สายพานโลหะ (Steel Belt) เป็นตัวเชื่อม สายพานโลหะนี้จะประกอบไปด้วยข้อต่อโลหะที่มีความหนาขนาด 1.5 มม. จำนวนประมาณ 450 ข้อต่อเรียงกัน ทำหน้าที่คล้ายๆ กระดูกสันหลังเป็นแกนอยู่ตรงกลาง บริเวณทั้ง 2 ด้านของข้อต่อประกอบไปด้วยสายพานโลหะที่มีความหนาประมาณ 0.2 มม. อัดซ้อนกันจำนวน 9 - 12 ชั้น (จำนวนชั้นจะขึ้นอยู่กับขนาดเครื่องยนต์ด้วย) เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของสายพานโลหะให้มีความแข็งแรงทนทานความร้อนสูงพร้อ มยังสามารถยืดหยุ่นได้ (Durable Steel Belt) ประกอบกับการส่งกำลังที่ต่อเนื่อง ไม่มีอาการกระตุกกระชากในการหมุนทำให้สามารถใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้นไป </span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple"><br /></span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple">พูลเลย์ (Pulley) ทั้งสองตัวนี้จะมีคุณสมบัติพิเศษ สามารถจะปรับขนาดความโตของเส้นผ่านศูนย์กลางพูลเลย์ให้เล็กหรือใหญ่ได้ตลอดเ วลาด้วยแรงดันน้ำมันภายใน ทำให้อัตราทดเกียร์นั้นเปลี่ยนแปลงไปได้ตลอด จึงเป็นการลดการสูญเสียในช่วงการเปลี่ยนเกียร์ได้ดีกว่าของเฟืองเกียร์ในแบบ เก่า และยังสามารถรักษาขนาดของพูลเลย์ให้คงที่ ตามอัตราทดของแต่ละเกียร์ได้เมื่อใช้เกียร์แบบ Sportonic เมื่อผู้ขับขี่ต้องการที่จะควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ด้วยตนเอง การเปลี่ยนแปลงขนาดความโตของพูลเลย์นี้ จะใช้ลูกสูบไฮดรอลิกเป็นตัวบังคับขนาดให้เคลื่อนที่ด้วยแรงดันของน้ำมัน ทำให้การปรับขนาดของพูลเลย์เป็นไปอย่างต่อเนื่องและนุ่มนวล ไม่ว่าจะขับด้วยความเร็วเท่าใดและการกำหนดแรงดันน้ำมันจะควบคุมด้วยโซลินอยด ์วาลว์ พร้อมทั้งมีคอมพิวเตอร์ควบคุมการทำงานของระบบทั้งหมดให้สัมพันธ์กัน โดยคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่จะเป็นกล่องคอมพิวเตอร์กล่องเดียวที่ควบคุมการทำงานข องเครื่องยนต์และการทำงานของเกียร์ที่มีขนาด 32 บิท (Bit) แบบ RISC (Reduce Instruction Set Computer) ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ระบบ Short Cut ที่สามารถส่งถ่ายสัญญาณข้อมูลด้วยความเร็วสูง ทำให้การถ่ายทอดข้อมูล ระหว่างชุดเซ็นเซอร์ (Sensor) ต่างๆ ของเครื่องยนต์และเกียร์มีความรวดเร็วและละเอียดแม่นยำ ระบบจึงสามารถควบคุมการเปลี่ยนแปลงขนาดของพูลเลย์ทั้งสองตัวให้มีความสัมพัน ธ์กับการเลี่ยนอัตราทดเกียร์ในแต่ละครั้งได้ราบรื่นและรวดเร็วกว่า </span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple"><br /></span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple">ให้ความประหยัดจากการที่เกียร์อัตโนมัติ CVT สามารถปรับเปลี่ยนกำลังขับหรือปรับเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างต่อเนื่อง โดยรอบเครื่องยนต์และเกียร์จะไม่ตกลงไปตามจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ในแต่ละครั ้ง ทำให้ไม่สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงในการที่จะเร่งรอบเครื่องยนต์ขึ้นไปอยู่ ในรอบที่ดีที่สุด </span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple"><br /></span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple">การทำงานของชุดขับเคลื่อนในการเปลี่ยนอัตราทด CVT </span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple"><br /></span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple">ประกอบไปด้วยพูลเลย์ Primary (Drive Pulley) และพูลเลย์ (Secondary (Driven Pulley) โดยที่เกียร์ต่ำหรือในขณะผู้ขับขี่เริ่มเคลื่อนรถ (เกียร์ 1) ชุดขับสายพานหรือพูลเลย์ส่งกำลังจะมีความกว้างของร่องพูลเลย์ Drive Pulley ที่กว้าง (เส้นผ่านศูนย์กลางเล็ก) ทำให้สายพานขับจะไหลลงไปอยู่กับแกนหมุน ในขณะเดียวกันชุดขับสายพานหรือพูลเลย์รับแรงขับ Driven Pulley ก็จะมีความห่างร่องพูลเลย์น้อย สายพานขับที่พาดผ่านจะถูกบีบให้อยู่ห่างจากแกนหมุน ทำให้เส้นผ่านศูนย์กลางของการหมุนกว้าง ในลักษณะนี้จะเป็นการส่งกำลังในอัตราทดเกียร์สูง </span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple"><br /></span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple">เมื่อรถยนต์เคลื่อนตัวด้วยความเร็วเพิ่มขึ้น คอมพิวเตอร์ที่ควบคุมการทำงานของเกียร์ จะสั่งการให้ปั๊มน้ำมันแรงดันสูงจ่ายน้ำมันไปที่ห้องไฮดรอลิกข้างชุดพูลเลย์ ปรับเปลี่ยนขนาดของร่องพูลเลย์ โดยปรับให้ร่องของพูลเลย์ส่งกำลังขับ Drive Pulley เริ่มบีบแคบเข้าเพื่อดันสายพานขับให้เคลื่อนที่ห่างจากแกนหมุนเป็นการเพิ่มค วามกว้างของเส้นผ่านศูนย์กลางของพูลเลย์ส่งกำลังขับ และในขณะเดียวกันจะลดแรงดันน้ำมันในห้องไฮดรอลิกข้างชุดพูลเลย์ปรับเปลี่ยนข นาดของรองพูลเลย์รับกำลังขับ Driven Pulley ให้กว้างขึ้น (จากของพูลเลย์ 2 ข้างห่างออกจากกัน) ทำให้สายพานที่พาดผ่านก็จะเคลื่อนตัวลงเข้าใกล้แกนหมุนมากขึ้น เป็นการลดขนาดของเส้นผ่านศูนย์กลางการหมุนให้เล็กลง ซึ่งเป็นการลดอัตราทดในการขับเคลื่อนให้ลดลง แต่จะเพิ่มความเร็วของรถยนต์เช่นเดียวกับการเปลี่ยนการขับของเฟืองเกียร์ในร ะบบเกียร์อัตโนมัติทั่วๆ ไป </span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple"><br /></span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple"><br /></span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple">ความเสียหายและการสึกหรอของระบบเกียร์อัตโนมัติทั่วๆ ไป </span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple"><br /></span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple"><br /></span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple"><br /></span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple">ซึ่งโดยทั่วไปแล้วนั้นการใช้งานของระบบเกียร์อัตโนมัติทั่วๆ ไป มักที่จะมีการสึกหรอกหรือเสียหายอันเนื่องมาจากสาเหตุหลักๆ ดังเช่น </span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple">1. ชุดคลัทช์ ที่มีอยู่หลายชุด ซึ่งก็มักจะก่อให้เกิดการสึกหรอกได้ จึงทำงานได้ไม่เต็มระบบ </span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple"><br /></span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple">2. ชุดคลัทช์ไหม้ เกิดจากการเสียดสีที่รุนแรง เนื่องจากการเร่งรอบเครื่องยนต์สูงๆ แล้วเข้าเกียร์ทันทีทันใด จากตำแหน่ง N มายัง D ทำให้เกิดการเสียดสีที่รุนแรงระหว่างแผ่นคลัทช์ </span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple"><br /></span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple">3. ชุดเฟืองเกียร์เปลี่ยนอัตราทด (Planetary) เกิดความเสียหาย เนื่องจากการใช้น้ำมันผิดประเภท หรือมีเศษโลหะเข้าไปผสมอยู่ด้วย </span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple"><br /></span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple">4. เฟืองเกียร์สึกหรอหรือแตกหัก </span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple"><br /></span></font></p><p><font size="5"><span style="color: Purple">5. คอมพิวเตอร์ควบคุมการทำงานของเกียร์เสียหายหรือทำงานผิดปกติ ด้วยเหตุเหล่านี้ จึงมีการมุ่งมั่นและพัฒนาเทคโนโลยีเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่ไม่ได้ใช้การส่งกำลังโดยคลัทช์ และไม่ใช้เฟืองเกียร์ ดังนั้นโอกาสในการเสียหายของเกียร์ก็น้อยลงตามไปด้วย สำหรับชุดคอมพิวเตอร์ที่ควบคุมการทำงานของเกียร์ อาจจะมีโอกาสเสียหายหรือทำงานผิดปกติเช่นเดียวกันกับคอมพิวเตอร์ของเกียร์อั ตโนมัติทั่วๆ ไป หลักการทำงานของเกียร์อัตโนมัติ CVT จึงเป็นการใช้เทคโนโลยีและการพัฒนาที่สูง แต่ในขณะเดียวกันนั้นก็มีกลไกการทำงานที่ไม่ได้ซับซ้อนและมีจำนวนชิ้นส่วนที ่เคลื่อนไหวน้อยคือ มีเพียงพูลเลย์ 2 ชุด สายพาน 1 เส้น เพียงเท่านั้นที่เป็นส่วนในการเปลี่ยนอัตราทดเกียร์จึงทำให้เกิดการสึกหรอแล ะเสียหายน้อยกว่าเกียร์อัตโนมัติทั่วไปถึง 3 เท่า และนี่คืออีกหนึ่งการพัฒนาเทคโนโลยีของระบบส่งกำลังขับเคลื่อนแบบใหม่ของยาน ยนต์</span></font>[/QUOTE]</p><p><br /></p>
[QUOTE="TK RACING, post: 120205, member: 1693"][SIZE="5"][COLOR="Purple"]สุดยอดเทคโนโลยีในขณะนี้สำหรับระบบขับเคลื่อนหรือว่าระบบเกียร์อัตโนมัติแล้วนั้นก็ต้องยกให้กับระบบเกียร์แบบ CVT (Continuosly Variable Transmission) ซึ่งหลายค่ายรถยนต์ต่างๆ ก็หันมาใช้ระบบเกียร์ CVT นี้กันมากมายแล้ว นับเป็นการปฏิวัติระบบถ่ายทอดกำลังแบบใหม่ ฉีกอารมณ์ความรู้สึกแบบเดิมๆ เริ่มสัมผัสใหม่ที่แตกต่าง เพื่อสุนทรียภาพแห่งการขับขี่ที่นุ่มนวลและช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเ พลิงลงได้มากกว่าเดิม นวัตกรรมของเกียร์อัตโนมัติแบบใหม่ CVT ที่ได้รับการพัฒนาทางเทคโนโลยีให้เหนือกว่าระบบเกียร์อัตโนมัติทั่วไปในปัจจ ุบันที่ใช้อยู่ ผู้ขับขี่จะได้รับคามสะดวกสบายในการใช้งานพร้อมความนุ่มนวลในการขับขี่ การประสบปัญหาบางอย่างในระบบเกียร์อัตโนมัติไม่วาจะเป็นอาการกระตุกหรือการส ั่นสะบัดขณะเกียร์เปลี่ยน เสียงรบกวนจากรอบเครื่องยนต์ที่เพิ่มสงขึ้นอย่างทันที ขณะที่เกียร์เปลี่ยนต่ำลง จังหวะเปลี่ยนเกียร์ที่ล่าเนื่องจากระยะเวลาการจับของแผ่นคลัทช์ภายในเกียร์ การสูญเสียกำลังของเครื่องยนต์ที่เกิดจากช่วงการจับคลัทช์ และรอบเครื่องยนต์ตกลงอย่างทันทีในขณะที่เกียร์เปลี่ยนสูงขึ้น ดังนั้น ทีมวิศวกรหลายๆ ค่ายรถยนต์จึงได้พยายามที่จะพัฒนาคิดค้นและออกแบบระบบเกียร์อัตโนมัติแบบใหม ่เพื่อที่จะขจัดปัญหาดังกล่าวที่ว่ามาตอนต้น และในที่สุดความพยายามจุดนี้ก็ประสบความสำเร็จ เมื่อทีมวิศวกรสามารถคิดค้นระบบเกียร์อัตโนมัติแบบใหม่ได้สำเร็จและนี่ก็คือ จุดเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของเทคโนโลยีมิติใหม่ระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT (Continously Variable Transmission) หรือว่า ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบแปรผันอัตราทดต่อเนื่องที่ปฏิวัติระบบการถ่ายทอดกำลั งใหม่ โดยใช้สายพานโลหะ ( Steel Belt) ทำหน้าที่ส่งถ่ายทอดกำลังขับระหว่าง พูลเลย์ ( Pulley) เพื่อทำหน้าที่ในการเปลี่ยนอัตราทดเกียร์และส่งแรงขับเคลื่อนแทนการใช้ระบบเ ฟืองเกียร์แบบเก่า ซึ่งทำให้อัตราทดเกียร์สามารถเปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เริ่มออกตัวไปจนถึงช่วงความเร็วสูงด้วยความนุ่นนวล ซึ่งผู้ขับขี่สามารถเลือกตำแหน่งรอบเครื่องยนต์ที่ดีที่สุดได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งรอบเครื่องยนต์ที่ให้ความประหยัดสูงสุด แรงบิดสูงสุดหรือให้แรงม้าสูงสุด ส่วนประกอบของเกียร์ CVT ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT จะประกอบไปด้วย 1. ชุดทอร์ทคอนเวอร์เตอร์และดรัมเปอร์คลัม ที่จะทำหน้าที่รับกำลังมาจากเครื่องยนต์ 2. ชุดคลัทช์ ซึ่งรับกำลังขับมาจากชุดทอร์ทคอนเวอร์เตอร์ ทำหน้าที่เปลี่ยนการขับสำหรับการขับเคลื่อนเดินหน้าหรือถอยหลังเท่านั้น โดยภายในประกอบด้วยชุดแผ่นคลัทช์ 2 ชุด คือ Forward Clutch สำหรับการเดินหน้าและ Reverse Brake สำหรับการถอยหลัง 3. ชุดพูลเลย์และสายพานเหล็ก ซึ่งรับกำลังขับมาจากชุดคลัทช์ ทำหน้าที่ปรับเปลี่ยนอัตราทดของเกียร์ให้เหมาะสมตามรอบเครื่องยนต์และความเร ็วรถยนต์ต่างๆ โดยประกอบด้วยพูลเลย์ Primary (Drive Pulley) พูลเลย์ (Secondary (Driven Pulley) และสายพานเหล็ก 3.1 พูลเบย์ Primary (Drive Pulley) และพูลเลย์ (Secondary (Driven Pulley) สามารถปรับเปลี่ยนขนาดร่องพูลเลย์ได้ ทำให้เส้นผ่านศูนย์กลางของพูลเลย์เปลี่ยนได้โดยชุดห้องไฮดรอลิก ซึ่งอยู่ด้านข้างของพูลเลย์ทั้ง 2 ซึ่งจะปรับเปลี่ยนโดยแรงดันน้ำมันในการทำให้ขนาดของร่องพูลเลย์เปลี่ยนไป 3.2 สายพานเหล็ก (Steel Belt) ทำหน้าที่รับแรงขับจากพูลเลย์ Primary (Drive Pulley) และส่งผ่านมายังพูลเลย์ Secondary (Driven Pulley) 4. ชุดเฟืองท้าย ซึ่งรับแรงขับจากพูลเลย์ Secondary (Driven Pulley) โดยผ่านเฟืองสะพานและส่งแรงขับไปยังเพลาขับเคลื่อนและล้อต่อไป 5. ชุดปั๊มน้ำมันแรงดัน ทำหน้าที่สร้างแรงดัน น้ำมันเกียร์และจ่ายเข้าสู่ระบบในการควบคุมการทำงานต่างๆ ภายในเกียร์ การทำงานของระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ให้การเปลี่ยนเกียร์ด้วยความนุ่มนวลที่สุด เพราะการทำงานที่ปราศจากการสะดุดในช่วงรอบเครื่องยนต์ในขณะที่มีการเปลี่ยนเ กียร์โดยไม่เกิดอาการรอบเครื่องยนต์เปลี่ยนแปลงขึ้น-ลง การเปลี่ยนเกียร์จึงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ไร้อาการกระตุกในทุกเกียร์การทำงานของเกียร์ CVT จะใช้คลัทช์เป็นตัวส่งกำลังจากเครื่องยนต์เพียงสองชุด คือ ชุดขับเดินหน้าและถอยหลังเท่านั้น และคลัทช์นี้จะต่อตรงเข้ากับพูลเลย์ (Pulley) ตัวที่หนึ่งเรียกว่า Drive Pulley ทำหน้าที่ในการเปลี่ยนอัตราทดเกียร์และถ่ายทอดกำลังขับเคลื่อนไปยังพูลเลย์ (Pulley) ตัวที่สองเรียกว่า Driven Pulley จะแปรผันกำลังขับเคลื่อนตามพูลเลย์ตัวแรกและส่งกำลังทั้งหมดไปยังชุดเฟืองท้ าย การส่งผ่านกำลังระหว่างพูลเลย์ตัวที่หนึ่งกับตัวที่สองจะใช้สายพานโลหะ (Steel Belt) เป็นตัวเชื่อม สายพานโลหะนี้จะประกอบไปด้วยข้อต่อโลหะที่มีความหนาขนาด 1.5 มม. จำนวนประมาณ 450 ข้อต่อเรียงกัน ทำหน้าที่คล้ายๆ กระดูกสันหลังเป็นแกนอยู่ตรงกลาง บริเวณทั้ง 2 ด้านของข้อต่อประกอบไปด้วยสายพานโลหะที่มีความหนาประมาณ 0.2 มม. อัดซ้อนกันจำนวน 9 - 12 ชั้น (จำนวนชั้นจะขึ้นอยู่กับขนาดเครื่องยนต์ด้วย) เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของสายพานโลหะให้มีความแข็งแรงทนทานความร้อนสูงพร้อ มยังสามารถยืดหยุ่นได้ (Durable Steel Belt) ประกอบกับการส่งกำลังที่ต่อเนื่อง ไม่มีอาการกระตุกกระชากในการหมุนทำให้สามารถใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้นไป พูลเลย์ (Pulley) ทั้งสองตัวนี้จะมีคุณสมบัติพิเศษ สามารถจะปรับขนาดความโตของเส้นผ่านศูนย์กลางพูลเลย์ให้เล็กหรือใหญ่ได้ตลอดเ วลาด้วยแรงดันน้ำมันภายใน ทำให้อัตราทดเกียร์นั้นเปลี่ยนแปลงไปได้ตลอด จึงเป็นการลดการสูญเสียในช่วงการเปลี่ยนเกียร์ได้ดีกว่าของเฟืองเกียร์ในแบบ เก่า และยังสามารถรักษาขนาดของพูลเลย์ให้คงที่ ตามอัตราทดของแต่ละเกียร์ได้เมื่อใช้เกียร์แบบ Sportonic เมื่อผู้ขับขี่ต้องการที่จะควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ด้วยตนเอง การเปลี่ยนแปลงขนาดความโตของพูลเลย์นี้ จะใช้ลูกสูบไฮดรอลิกเป็นตัวบังคับขนาดให้เคลื่อนที่ด้วยแรงดันของน้ำมัน ทำให้การปรับขนาดของพูลเลย์เป็นไปอย่างต่อเนื่องและนุ่มนวล ไม่ว่าจะขับด้วยความเร็วเท่าใดและการกำหนดแรงดันน้ำมันจะควบคุมด้วยโซลินอยด ์วาลว์ พร้อมทั้งมีคอมพิวเตอร์ควบคุมการทำงานของระบบทั้งหมดให้สัมพันธ์กัน โดยคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่จะเป็นกล่องคอมพิวเตอร์กล่องเดียวที่ควบคุมการทำงานข องเครื่องยนต์และการทำงานของเกียร์ที่มีขนาด 32 บิท (Bit) แบบ RISC (Reduce Instruction Set Computer) ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ระบบ Short Cut ที่สามารถส่งถ่ายสัญญาณข้อมูลด้วยความเร็วสูง ทำให้การถ่ายทอดข้อมูล ระหว่างชุดเซ็นเซอร์ (Sensor) ต่างๆ ของเครื่องยนต์และเกียร์มีความรวดเร็วและละเอียดแม่นยำ ระบบจึงสามารถควบคุมการเปลี่ยนแปลงขนาดของพูลเลย์ทั้งสองตัวให้มีความสัมพัน ธ์กับการเลี่ยนอัตราทดเกียร์ในแต่ละครั้งได้ราบรื่นและรวดเร็วกว่า ให้ความประหยัดจากการที่เกียร์อัตโนมัติ CVT สามารถปรับเปลี่ยนกำลังขับหรือปรับเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างต่อเนื่อง โดยรอบเครื่องยนต์และเกียร์จะไม่ตกลงไปตามจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ในแต่ละครั ้ง ทำให้ไม่สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงในการที่จะเร่งรอบเครื่องยนต์ขึ้นไปอยู่ ในรอบที่ดีที่สุด การทำงานของชุดขับเคลื่อนในการเปลี่ยนอัตราทด CVT ประกอบไปด้วยพูลเลย์ Primary (Drive Pulley) และพูลเลย์ (Secondary (Driven Pulley) โดยที่เกียร์ต่ำหรือในขณะผู้ขับขี่เริ่มเคลื่อนรถ (เกียร์ 1) ชุดขับสายพานหรือพูลเลย์ส่งกำลังจะมีความกว้างของร่องพูลเลย์ Drive Pulley ที่กว้าง (เส้นผ่านศูนย์กลางเล็ก) ทำให้สายพานขับจะไหลลงไปอยู่กับแกนหมุน ในขณะเดียวกันชุดขับสายพานหรือพูลเลย์รับแรงขับ Driven Pulley ก็จะมีความห่างร่องพูลเลย์น้อย สายพานขับที่พาดผ่านจะถูกบีบให้อยู่ห่างจากแกนหมุน ทำให้เส้นผ่านศูนย์กลางของการหมุนกว้าง ในลักษณะนี้จะเป็นการส่งกำลังในอัตราทดเกียร์สูง เมื่อรถยนต์เคลื่อนตัวด้วยความเร็วเพิ่มขึ้น คอมพิวเตอร์ที่ควบคุมการทำงานของเกียร์ จะสั่งการให้ปั๊มน้ำมันแรงดันสูงจ่ายน้ำมันไปที่ห้องไฮดรอลิกข้างชุดพูลเลย์ ปรับเปลี่ยนขนาดของร่องพูลเลย์ โดยปรับให้ร่องของพูลเลย์ส่งกำลังขับ Drive Pulley เริ่มบีบแคบเข้าเพื่อดันสายพานขับให้เคลื่อนที่ห่างจากแกนหมุนเป็นการเพิ่มค วามกว้างของเส้นผ่านศูนย์กลางของพูลเลย์ส่งกำลังขับ และในขณะเดียวกันจะลดแรงดันน้ำมันในห้องไฮดรอลิกข้างชุดพูลเลย์ปรับเปลี่ยนข นาดของรองพูลเลย์รับกำลังขับ Driven Pulley ให้กว้างขึ้น (จากของพูลเลย์ 2 ข้างห่างออกจากกัน) ทำให้สายพานที่พาดผ่านก็จะเคลื่อนตัวลงเข้าใกล้แกนหมุนมากขึ้น เป็นการลดขนาดของเส้นผ่านศูนย์กลางการหมุนให้เล็กลง ซึ่งเป็นการลดอัตราทดในการขับเคลื่อนให้ลดลง แต่จะเพิ่มความเร็วของรถยนต์เช่นเดียวกับการเปลี่ยนการขับของเฟืองเกียร์ในร ะบบเกียร์อัตโนมัติทั่วๆ ไป ความเสียหายและการสึกหรอของระบบเกียร์อัตโนมัติทั่วๆ ไป ซึ่งโดยทั่วไปแล้วนั้นการใช้งานของระบบเกียร์อัตโนมัติทั่วๆ ไป มักที่จะมีการสึกหรอกหรือเสียหายอันเนื่องมาจากสาเหตุหลักๆ ดังเช่น 1. ชุดคลัทช์ ที่มีอยู่หลายชุด ซึ่งก็มักจะก่อให้เกิดการสึกหรอกได้ จึงทำงานได้ไม่เต็มระบบ 2. ชุดคลัทช์ไหม้ เกิดจากการเสียดสีที่รุนแรง เนื่องจากการเร่งรอบเครื่องยนต์สูงๆ แล้วเข้าเกียร์ทันทีทันใด จากตำแหน่ง N มายัง D ทำให้เกิดการเสียดสีที่รุนแรงระหว่างแผ่นคลัทช์ 3. ชุดเฟืองเกียร์เปลี่ยนอัตราทด (Planetary) เกิดความเสียหาย เนื่องจากการใช้น้ำมันผิดประเภท หรือมีเศษโลหะเข้าไปผสมอยู่ด้วย 4. เฟืองเกียร์สึกหรอหรือแตกหัก 5. คอมพิวเตอร์ควบคุมการทำงานของเกียร์เสียหายหรือทำงานผิดปกติ ด้วยเหตุเหล่านี้ จึงมีการมุ่งมั่นและพัฒนาเทคโนโลยีเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่ไม่ได้ใช้การส่งกำลังโดยคลัทช์ และไม่ใช้เฟืองเกียร์ ดังนั้นโอกาสในการเสียหายของเกียร์ก็น้อยลงตามไปด้วย สำหรับชุดคอมพิวเตอร์ที่ควบคุมการทำงานของเกียร์ อาจจะมีโอกาสเสียหายหรือทำงานผิดปกติเช่นเดียวกันกับคอมพิวเตอร์ของเกียร์อั ตโนมัติทั่วๆ ไป หลักการทำงานของเกียร์อัตโนมัติ CVT จึงเป็นการใช้เทคโนโลยีและการพัฒนาที่สูง แต่ในขณะเดียวกันนั้นก็มีกลไกการทำงานที่ไม่ได้ซับซ้อนและมีจำนวนชิ้นส่วนที ่เคลื่อนไหวน้อยคือ มีเพียงพูลเลย์ 2 ชุด สายพาน 1 เส้น เพียงเท่านั้นที่เป็นส่วนในการเปลี่ยนอัตราทดเกียร์จึงทำให้เกิดการสึกหรอแล ะเสียหายน้อยกว่าเกียร์อัตโนมัติทั่วไปถึง 3 เท่า และนี่คืออีกหนึ่งการพัฒนาเทคโนโลยีของระบบส่งกำลังขับเคลื่อนแบบใหม่ของยาน ยนต์[/COLOR][/SIZE][/QUOTE]
เข้าสู่ระบบด้วย Facebook
เข้าสู่ระบบด้วย Twitter
เข้าสู่ระบบด้วย Google
ชื่อผู้ใช้งานหรือที่อยู่อีเมล์ของคุณ:
คุณมีบัญชีผู้ใช้หรือไม่?
ไม่มี, สร้างบัญชีผู้ใช้ตอนนี้
มี, รหัสผ่านของฉันคือ:
ลืมรหัสผ่านของคุณ?
อยู่ในระบบตลอดเวลา
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
Community Team and group
>
Team and Group
>
DNA Racing Club
>
เรื่องน่ารู้สำหรับคลับเรานะครับ
>
X
หน้าแรก
หน้าแรก
Quick Links
โพสต์ล่าสุด
กิจกรรมล่าสุด
ผู้เขียน
ฟอรั่ม
ฟอรั่ม
Quick Links
ค้นหาฟอรั่ม
โพสต์ล่าสุด
ประกาศซื้อขาย
ประกาศซื้อขาย
Quick Links
ค้นหาประกาศซื้อขาย
กิจกรรมล่าสุด
ผู้ค้าขายคะแนนสูงสุด
สื่อ/วิดีโอ
สื่อ/วิดีโอ
Quick Links
Search Media
New Media
สมาชิก
สมาชิก
Quick Links
สมาชิกที่โดดเด่น
สมาชิกที่ลงทะเบียน
ผู้ใช้งานในขณะนี้
กิจกรรมล่าสุด
โพสต์ข้อมูลส่วนตัวใหม่
เมนู
ค้นหาเฉพาะชื่อ
โพสต์โดยสมาชิก:
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค
ใหม่กว่า:
ค้นหาเฉพาะหัวข้อนี้
ค้นหาเฉพาะฟอรั่มนี้
แสดงผลเป็นหัวข้อ
การค้นหาที่มีประโยชน์
โพสต์ล่าสุด
เพิ่มเติม...