เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน
ติดต่อลงโฆษณา
[email protected]
หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
Community Team and group
>
Team and Group
>
DNA Racing Club
>
เรื่องน่ารู้สำหรับคลับเรานะครับ
>
ตอบกลับหัวข้อ
ชื่อ:
การตรวจสอบ:
กรุณาเปิดใช้งานจาวาสคริปต์เพื่อดำเนินการต่อ
กำลังโหลด...
ข้อความ:
<p>[QUOTE="TK RACING, post: 120236, member: 1693"]<b>เรคกูเรต</b></p><p><br /></p><p><font size="4">เรกกูเรเตอร์ </font></p><p><font size="4">หรือ ตัวควบคุมแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญที่สุดในระบบเชื้อเพลิง </font></p><p><font size="4">โดยมีหน้าที่ควบคุมแรงดันน้ำมันที่ดูดมาจากถังน้ำมัน ปั้มน้ำมันหรือปั้มติ๊ก แล้วถูกส่งไปยังท่อน้ำมัน </font></p><p><font size="4">แล้วผ่านระบบกรองน้ำมันหรือ กรองเบนซิล จึงไหลเข้าสู่รางหัวฉีดแล้วจึงจะไหลผ่านเจ้า เรคกูเรเตอร์ก่อนไหลกลับสู่ถังน้ำมันไหลกลับ </font></p><p><font size="4"><br /></font></p><p><font size="4">หน้าที่การทำงานด้วยสุญญากาศ </font></p><p><font size="4">เรคกูเรเตอร์ จะทำงานร่วมกับระบบสุญญากาศ โดยสังเกตุเห็นว่าบนหัวของเรคกูเรเตอร์ทุกตัว </font></p><p><font size="4">จะมีท่อสูญญากาศเล็กๆเพื่อต่อกับท่อร่วมไอดีด้านหลังลิ้นปีกผีเสื้อ ดังนั้นเมื่อเหยียบคันเร่งน้อยเเรงดูดจากเครื่องจะมากอากาศไหลผ่านลิ้นน้อย </font></p><p><font size="4">สูญญากาศก็เกิดมาก เมื่อเหยียบคันเร่งมากอากาศไหลผ่านลิ้นมากสูญญากาศก็เกิดน้อย </font></p><p><font size="4">แรงดูดตัวนี้หละที่จะคอยควบคุมให้เรกกูเรเตอร์ทำงานเพื่อควบคุมเเรงดันน้ำมันให้คงที่ </font></p><p><font size="4">ไม่ว่าจะลิ้นปีกผีเสี้อจะเปิดมากหรือเปิดน้อยก็ตามที </font></p><p><font size="4"><br /></font></p><p><font size="4">เริ่มต้นการทำงานตั้งแต่ก่อนสตาร์ทเครื่อง </font></p><p><font size="4">เมื่อเราเปิดสวิทย์กุญแจ ปั้มน้ำมันเชื้อเผลิงจะทำงาน </font></p><p><font size="4">แรงดันน้ำมันจะสูงมาก เพราะเครื่องยังไม่ติด ไม่มีแรงดูดสุญญากาศเเละเมื่อเราเริ่มสตาร์ทเครื่อง </font></p><p><font size="4">จะทำให้หัวฉีด ฉีดน้ำมันมากทำให้เครื่องยนต์ </font></p><p><font size="4">์สตาร์ทติดง่าย เมื่อเครื่องติดแล้วในรอบเดินเบา </font></p><p><font size="4">เครื่องยนต์ต้องการน้ำมันน้อย เรกกูเรเตอร์จะเปิดน้ำมัน </font></p><p><font size="4">ให้ไหลกลับสู่ถัง ไหลกลับมาก เพื่อให้ประหยัดน้ำมัน </font></p><p><font size="4"><br /></font></p><p><font size="4">เมื่อเริ่มต้นเหยียบคันเร่ง </font></p><p><font size="4">เครื่องยนต์จะต้องการปริมาณน้ำมันเเพิ่มขึ้น </font></p><p><font size="4">ตามความต้องการของเครื่องยนต์ ที่ต้องการเร่งรอบ </font></p><p><font size="4">ให้สูงขึ้นโดยรับข้อมูลมาจากเซนเซอร์ต่างเช่น </font></p><p><font size="4">airfrowmeter , totelsensor,vaccumesensor, </font></p><p><font size="4">และเซนเซอร์รอบเครื่องยนต์โดยทั้งหมด </font></p><p><font size="4">นี้จะส่งข้อมูลไปยังกล่อง ECU โดยกล่อง ECU </font></p><p><font size="4">จะไปสั่งให้หัวฉีด ฉีดน้ำมันถี่ขึ้นเพื่อเร่งรอบเครื่องยนต ์ ปริมาณการใช้น้ำมันสูงขึ้นซึ่งอาจทำให้แรงดันน้ำมัน </font></p><p><font size="4">ในรางหัวฉีดตกลง ก็เจ้าเรกกูเรเตอร์นี่แหละ </font></p><p><font size="4">ที่จะคอยควบคุม ให้แรงดันน้ำมันเพิ่มขึ้นโดย </font></p><p><font size="4">ทำการปิดน้ำมันไหลกลับสู่ถังน้ำมันไหลกลับน้อยลง </font></p><p><font size="4"><br /></font></p><p><font size="4">ทฤษฎี </font></p><p><font size="4">แรงดันน้ำมันในรางหัวฉีดจะอยู่ที่ 2.5-3.3 bar หรือ 36-48 ปอนด์ แล้วแต่ spec ของเครื่องแต่ละยี่ห้อเช่น Toyota จะกำหนดไว้ที่ 2.7 bar Mitsubishi จะกำหนดไว้ที่ </font></p><p><font size="4">3.3 bar และ Nissan,Honda จะกำหนดไว้ที่ 2.5 barเพื่อให้ส่วนผสมของอากาศ </font></p><p><font size="4">และน้ำมันในการเผาไหม้อยู่ที่ 14.7-15 : 1 คือ อากาศ 14.7-15 ต่อน้ำมัน 1 ส่วน </font></p><p><font size="4">จึงจะถือว่าการเผาไหม้สมบูรณ์ที่สุด ดั้งนั้นเรคกูเรเตอร์ต้องทำหน้าที่รักษาแรงดันน้ำมัน </font></p><p><font size="4">ให้สอดคล้องกับปริมาณการฉีดน้ำมันของหัวฉีดในแต่ระรอบความเร็ว </font></p><p><font size="4"><br /></font></p><p><font size="4">เปลี่ยนใหม่ดีหรือไม่ </font></p><p><font size="4">ในเครื่องยนต์ standard เรคกูเรเตอร์มีโอกาสเสียหายได้ เช่นแผ่นไดอะแฟรมขาด เกิดการกระทบกระเเทกรุนเเรง การอุดตันในท่อสุญญากาศ และอาการค้าง </font></p><p><font size="4">ไม่ยอมให้น้ำมันไหลกลับในเครื่องยนต์ที่ไม่ใช้งานนานๆ มีผลให้ เครื่องยนต์สตาร์ทไม่ติด </font></p><p><font size="4">สตาร์ทติดยาก ไม่มีแรง หรือทำให้กินน้ำมันมากผิดปกติ จึงควรตรวจเช็คหรือ </font></p><p><font size="4">ทำการเปลี่ยนเสียใหม่ </font></p><p><font size="4">ในเครื่องยนต์โมดิฟายในเสตปเริ่มต้น </font></p><p><font size="4">หรือเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ ติดเทอร์โบเพิ่ม เปลี่ยนเทอร์โบใหม่ หรือปรับบูชให้สูงขึ้น ส่วนใหญ่แล้วยังถือว่ายังไม่จำเป็น </font></p><p><font size="4">ต้องเปลี่ยนเรคกูเรเตอร์ เพราะเรคกูเรตอร์ที่ติดตั้งมา ให้กับเครื่องยนต์แต่ละรุ่นได้ออกแบบมา </font></p><p><font size="4">ได้เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว หรือบางรุ่นทำงานได้ดีกว่า แบบปรับตั้งได้เสียอีก ดังนั้นควรจะหันมาใส่ใจ ปั้มน้ำมันเชื้อเผลิงจะดีกว่าเพราะมีผลต่อความต้องการ </font></p><p><font size="4">ของเครื่องยนต์แท้จริง </font></p><p><font size="4">ในเครื่องยนต์ทีมีการโมดิฟายในสเตปสูง </font></p><p><font size="4">เช่นการเปลี่ยนหัวฉีดให้มีซีซีสูงขึ้น เปลี่ยนรางหัวฉีดที่มีขนาดใหญ่ เพิ่มปั้มแรงดันน้ำมันเชื้อเผลิง เปลี่ยนแอร์โฟร์ </font></p><p><font size="4">ลิ้นปีกผีเสื้อให้มีขนาดใหญ่ ขยายปริมาตรกระบอกสูบ จนเรคกูเรเตอร์เดิมไม่สามารถรองรับ </font></p><p><font size="4">การใช้งานได้ ควรเปลี่ยนเสียใหม่ ทั้งนี้ต้องติดตั้งเกจ์วัดแรงดันน้ำมัน </font></p><p><font size="4">เพื่อใช้ในการอ้างอิงในการปรับจูนอยู่เสมอ </font></p><p><font size="4"><br /></font></p><p><font size="4">การติดตั้ง </font></p><p><font size="4">ก่อนทำการติดตั้งควรหาเกจ์วัดแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิง </font></p><p><font size="4">มาตรวจวัดเสียก่อนว่าแรงดันที่ใช้อยู่ </font></p><p><font size="4">ในปัจจุบันมีค่าเท่าไร เพื่อตรวจเช็คความพร้อม </font></p><p><font size="4">ของระบบ และอ้างอิงถึงเเรงดันของเรกกูเรเตอร </font></p><p><font size="4">์ที่จะถูกเปลี่ยนเข้าไปใหม่ </font></p><p><font size="4"><br /></font></p><p><font size="4">ในบางยี่ห้อที่ทำชุดคิดมาสำหรับเเต่ละเครื่องยนต์ สามารถถอดของเดิมออกและนำของใหม่ใส่แทน </font></p><p><font size="4">ลงไปได้เลย </font></p><p><font size="4"><br /></font></p><p><font size="4">ในยี่ห้อที่ต้องติดตั้งใหม่ ควรถอดเรกกูเรเตอร์เดิมออก </font></p><p><font size="4">แล้วกลึงน็อต หรือต่อท่อไหลกลับมายังเรกกูเตอร์ใหม่ แล้วต่อท่อไหลกลับลงสู่ถังน้ำมัน และอย่าลืมต่อท่อ </font></p><p><font size="4">สุญญากาศ ที่หัวของเรกกูเรเตอร์แทนที่ของเดิม </font></p><p><font size="4">หรือหลังลิ้นปีกผีเสื้อไว้ด้วย </font></p><p><font size="4"><br /></font></p><p><font size="4">การติดตั้งควรอยู่ห่างจากความร้อนเช่นท่อไอเสีย จุดหมุนพวกสายพานต่างๆ และควรสร้างจุดยึด </font></p><p><font size="4">ให้แน่นหนา เพื่อไม่ให้แกว่งไปตามแรง </font></p><p><font size="4">เครื่องยนต์ จนท่อน้ำมันเกิดการฉีกขาดได้ </font></p><p><font size="4"><br /></font></p><p><font size="4">ควรเปลี่ยนท่อน้ำมันเชื้อเผลิง และเหล็กรัด </font></p><p><font size="4">ไปใช้ที่สามารถทนเเรงดันสูงขึ้นเพราะต้องรับภาระ </font></p><p><font size="4">แรงดันน้ำมันสูงจนเกิดการหลุดแตก </font></p><p><font size="4"><br /></font></p><p><font size="4"><br /></font></p><p><font size="4"><br /></font></p><p><font size="4"><br /></font></p><p><font size="4"><br /></font></p><p><font size="4"><br /></font></p><p><font size="4">ข้อดี </font></p><p><font size="4">สามารถเพิ่มปริมาณการฉีดน้ำมันให้สูงได้ง่ายๆ ทำให้เครื่องยนต์มีแรงขึ้นแก้ไข </font></p><p><font size="4">ในกรณีปั้มเเรงดันเชื้อเผลิง เริ่มเสื่อมประสิทธิภาพ และในการปรับจูนเครื่องยนต์ </font></p><p><font size="4">์ให้ที่ต้องการแรงดันน้ำมันสูงกว่าปกติมากๆ </font></p><p><font size="4"><br /></font></p><p><font size="4">ข้อเสีย </font></p><p><font size="4">ในเครื่องยนต์ที่เรคกูเรเตอร์เดิมสามารถทำงานได้ดีอยู่แล้ว หรือปรับแต่งไม่ถูกต้อง ทำให้เครื่องยนต์กินน้ำมัน โดยใช่เหตุ เครื่องแรงตก แรงต้นปลายไม่แรง </font></p><p><font size="4">เผาไหม้ไม่หมดเกิดมลภาวะ หรือถ้าแรงดันน้ำมัน น้อยเกินไปทำให้ส่วนผสมบางเครื่องยนต์อาจพังได้</font></p><p><font size="4"></font>[/QUOTE]</p><p><br /></p>
[QUOTE="TK RACING, post: 120236, member: 1693"][b]เรคกูเรต[/b] [SIZE="4"]เรกกูเรเตอร์ หรือ ตัวควบคุมแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญที่สุดในระบบเชื้อเพลิง โดยมีหน้าที่ควบคุมแรงดันน้ำมันที่ดูดมาจากถังน้ำมัน ปั้มน้ำมันหรือปั้มติ๊ก แล้วถูกส่งไปยังท่อน้ำมัน แล้วผ่านระบบกรองน้ำมันหรือ กรองเบนซิล จึงไหลเข้าสู่รางหัวฉีดแล้วจึงจะไหลผ่านเจ้า เรคกูเรเตอร์ก่อนไหลกลับสู่ถังน้ำมันไหลกลับ หน้าที่การทำงานด้วยสุญญากาศ เรคกูเรเตอร์ จะทำงานร่วมกับระบบสุญญากาศ โดยสังเกตุเห็นว่าบนหัวของเรคกูเรเตอร์ทุกตัว จะมีท่อสูญญากาศเล็กๆเพื่อต่อกับท่อร่วมไอดีด้านหลังลิ้นปีกผีเสื้อ ดังนั้นเมื่อเหยียบคันเร่งน้อยเเรงดูดจากเครื่องจะมากอากาศไหลผ่านลิ้นน้อย สูญญากาศก็เกิดมาก เมื่อเหยียบคันเร่งมากอากาศไหลผ่านลิ้นมากสูญญากาศก็เกิดน้อย แรงดูดตัวนี้หละที่จะคอยควบคุมให้เรกกูเรเตอร์ทำงานเพื่อควบคุมเเรงดันน้ำมันให้คงที่ ไม่ว่าจะลิ้นปีกผีเสี้อจะเปิดมากหรือเปิดน้อยก็ตามที เริ่มต้นการทำงานตั้งแต่ก่อนสตาร์ทเครื่อง เมื่อเราเปิดสวิทย์กุญแจ ปั้มน้ำมันเชื้อเผลิงจะทำงาน แรงดันน้ำมันจะสูงมาก เพราะเครื่องยังไม่ติด ไม่มีแรงดูดสุญญากาศเเละเมื่อเราเริ่มสตาร์ทเครื่อง จะทำให้หัวฉีด ฉีดน้ำมันมากทำให้เครื่องยนต์ ์สตาร์ทติดง่าย เมื่อเครื่องติดแล้วในรอบเดินเบา เครื่องยนต์ต้องการน้ำมันน้อย เรกกูเรเตอร์จะเปิดน้ำมัน ให้ไหลกลับสู่ถัง ไหลกลับมาก เพื่อให้ประหยัดน้ำมัน เมื่อเริ่มต้นเหยียบคันเร่ง เครื่องยนต์จะต้องการปริมาณน้ำมันเเพิ่มขึ้น ตามความต้องการของเครื่องยนต์ ที่ต้องการเร่งรอบ ให้สูงขึ้นโดยรับข้อมูลมาจากเซนเซอร์ต่างเช่น airfrowmeter , totelsensor,vaccumesensor, และเซนเซอร์รอบเครื่องยนต์โดยทั้งหมด นี้จะส่งข้อมูลไปยังกล่อง ECU โดยกล่อง ECU จะไปสั่งให้หัวฉีด ฉีดน้ำมันถี่ขึ้นเพื่อเร่งรอบเครื่องยนต ์ ปริมาณการใช้น้ำมันสูงขึ้นซึ่งอาจทำให้แรงดันน้ำมัน ในรางหัวฉีดตกลง ก็เจ้าเรกกูเรเตอร์นี่แหละ ที่จะคอยควบคุม ให้แรงดันน้ำมันเพิ่มขึ้นโดย ทำการปิดน้ำมันไหลกลับสู่ถังน้ำมันไหลกลับน้อยลง ทฤษฎี แรงดันน้ำมันในรางหัวฉีดจะอยู่ที่ 2.5-3.3 bar หรือ 36-48 ปอนด์ แล้วแต่ spec ของเครื่องแต่ละยี่ห้อเช่น Toyota จะกำหนดไว้ที่ 2.7 bar Mitsubishi จะกำหนดไว้ที่ 3.3 bar และ Nissan,Honda จะกำหนดไว้ที่ 2.5 barเพื่อให้ส่วนผสมของอากาศ และน้ำมันในการเผาไหม้อยู่ที่ 14.7-15 : 1 คือ อากาศ 14.7-15 ต่อน้ำมัน 1 ส่วน จึงจะถือว่าการเผาไหม้สมบูรณ์ที่สุด ดั้งนั้นเรคกูเรเตอร์ต้องทำหน้าที่รักษาแรงดันน้ำมัน ให้สอดคล้องกับปริมาณการฉีดน้ำมันของหัวฉีดในแต่ระรอบความเร็ว เปลี่ยนใหม่ดีหรือไม่ ในเครื่องยนต์ standard เรคกูเรเตอร์มีโอกาสเสียหายได้ เช่นแผ่นไดอะแฟรมขาด เกิดการกระทบกระเเทกรุนเเรง การอุดตันในท่อสุญญากาศ และอาการค้าง ไม่ยอมให้น้ำมันไหลกลับในเครื่องยนต์ที่ไม่ใช้งานนานๆ มีผลให้ เครื่องยนต์สตาร์ทไม่ติด สตาร์ทติดยาก ไม่มีแรง หรือทำให้กินน้ำมันมากผิดปกติ จึงควรตรวจเช็คหรือ ทำการเปลี่ยนเสียใหม่ ในเครื่องยนต์โมดิฟายในเสตปเริ่มต้น หรือเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ ติดเทอร์โบเพิ่ม เปลี่ยนเทอร์โบใหม่ หรือปรับบูชให้สูงขึ้น ส่วนใหญ่แล้วยังถือว่ายังไม่จำเป็น ต้องเปลี่ยนเรคกูเรเตอร์ เพราะเรคกูเรตอร์ที่ติดตั้งมา ให้กับเครื่องยนต์แต่ละรุ่นได้ออกแบบมา ได้เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว หรือบางรุ่นทำงานได้ดีกว่า แบบปรับตั้งได้เสียอีก ดังนั้นควรจะหันมาใส่ใจ ปั้มน้ำมันเชื้อเผลิงจะดีกว่าเพราะมีผลต่อความต้องการ ของเครื่องยนต์แท้จริง ในเครื่องยนต์ทีมีการโมดิฟายในสเตปสูง เช่นการเปลี่ยนหัวฉีดให้มีซีซีสูงขึ้น เปลี่ยนรางหัวฉีดที่มีขนาดใหญ่ เพิ่มปั้มแรงดันน้ำมันเชื้อเผลิง เปลี่ยนแอร์โฟร์ ลิ้นปีกผีเสื้อให้มีขนาดใหญ่ ขยายปริมาตรกระบอกสูบ จนเรคกูเรเตอร์เดิมไม่สามารถรองรับ การใช้งานได้ ควรเปลี่ยนเสียใหม่ ทั้งนี้ต้องติดตั้งเกจ์วัดแรงดันน้ำมัน เพื่อใช้ในการอ้างอิงในการปรับจูนอยู่เสมอ การติดตั้ง ก่อนทำการติดตั้งควรหาเกจ์วัดแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิง มาตรวจวัดเสียก่อนว่าแรงดันที่ใช้อยู่ ในปัจจุบันมีค่าเท่าไร เพื่อตรวจเช็คความพร้อม ของระบบ และอ้างอิงถึงเเรงดันของเรกกูเรเตอร ์ที่จะถูกเปลี่ยนเข้าไปใหม่ ในบางยี่ห้อที่ทำชุดคิดมาสำหรับเเต่ละเครื่องยนต์ สามารถถอดของเดิมออกและนำของใหม่ใส่แทน ลงไปได้เลย ในยี่ห้อที่ต้องติดตั้งใหม่ ควรถอดเรกกูเรเตอร์เดิมออก แล้วกลึงน็อต หรือต่อท่อไหลกลับมายังเรกกูเตอร์ใหม่ แล้วต่อท่อไหลกลับลงสู่ถังน้ำมัน และอย่าลืมต่อท่อ สุญญากาศ ที่หัวของเรกกูเรเตอร์แทนที่ของเดิม หรือหลังลิ้นปีกผีเสื้อไว้ด้วย การติดตั้งควรอยู่ห่างจากความร้อนเช่นท่อไอเสีย จุดหมุนพวกสายพานต่างๆ และควรสร้างจุดยึด ให้แน่นหนา เพื่อไม่ให้แกว่งไปตามแรง เครื่องยนต์ จนท่อน้ำมันเกิดการฉีกขาดได้ ควรเปลี่ยนท่อน้ำมันเชื้อเผลิง และเหล็กรัด ไปใช้ที่สามารถทนเเรงดันสูงขึ้นเพราะต้องรับภาระ แรงดันน้ำมันสูงจนเกิดการหลุดแตก ข้อดี สามารถเพิ่มปริมาณการฉีดน้ำมันให้สูงได้ง่ายๆ ทำให้เครื่องยนต์มีแรงขึ้นแก้ไข ในกรณีปั้มเเรงดันเชื้อเผลิง เริ่มเสื่อมประสิทธิภาพ และในการปรับจูนเครื่องยนต์ ์ให้ที่ต้องการแรงดันน้ำมันสูงกว่าปกติมากๆ ข้อเสีย ในเครื่องยนต์ที่เรคกูเรเตอร์เดิมสามารถทำงานได้ดีอยู่แล้ว หรือปรับแต่งไม่ถูกต้อง ทำให้เครื่องยนต์กินน้ำมัน โดยใช่เหตุ เครื่องแรงตก แรงต้นปลายไม่แรง เผาไหม้ไม่หมดเกิดมลภาวะ หรือถ้าแรงดันน้ำมัน น้อยเกินไปทำให้ส่วนผสมบางเครื่องยนต์อาจพังได้ [/SIZE][/QUOTE]
เข้าสู่ระบบด้วย Facebook
เข้าสู่ระบบด้วย Twitter
เข้าสู่ระบบด้วย Google
ชื่อผู้ใช้งานหรือที่อยู่อีเมล์ของคุณ:
คุณมีบัญชีผู้ใช้หรือไม่?
ไม่มี, สร้างบัญชีผู้ใช้ตอนนี้
มี, รหัสผ่านของฉันคือ:
ลืมรหัสผ่านของคุณ?
อยู่ในระบบตลอดเวลา
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
Community Team and group
>
Team and Group
>
DNA Racing Club
>
เรื่องน่ารู้สำหรับคลับเรานะครับ
>
X
หน้าแรก
หน้าแรก
Quick Links
โพสต์ล่าสุด
กิจกรรมล่าสุด
ผู้เขียน
ฟอรั่ม
ฟอรั่ม
Quick Links
ค้นหาฟอรั่ม
โพสต์ล่าสุด
ประกาศซื้อขาย
ประกาศซื้อขาย
Quick Links
ค้นหาประกาศซื้อขาย
กิจกรรมล่าสุด
ผู้ค้าขายคะแนนสูงสุด
สื่อ/วิดีโอ
สื่อ/วิดีโอ
Quick Links
Search Media
New Media
สมาชิก
สมาชิก
Quick Links
สมาชิกที่โดดเด่น
สมาชิกที่ลงทะเบียน
ผู้ใช้งานในขณะนี้
กิจกรรมล่าสุด
โพสต์ข้อมูลส่วนตัวใหม่
เมนู
ค้นหาเฉพาะชื่อ
โพสต์โดยสมาชิก:
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค
ใหม่กว่า:
ค้นหาเฉพาะหัวข้อนี้
ค้นหาเฉพาะฟอรั่มนี้
แสดงผลเป็นหัวข้อ
การค้นหาที่มีประโยชน์
โพสต์ล่าสุด
เพิ่มเติม...